Skip to main content

20080408
ที่มาภาพ : www.oknation.net

1
เหตุการณ์ตะวันออกไม่เปลี่ยนแปลง        แดดแรง – คนล้า – เมษาฯ ร้อน
น้ำมูนเหลืองขอดเหลือตะกอน        แต้มอีสานไม่อาทรต่อใดใด
นกกระจาบบินเร็วรีบหลบแดด        แสงแผดปีกเจ้าทุกเช้าไหน
ต่อกลางวันสลดเศร้าเรื่องราวใคร        ร้อนแล้งทุรนทุรายแห่งสายน้ำ

...สายน้ำมูน มูนมัง ความหวังสิ้น        แผ่นดินนี้ของใคร ใยลึกล้ำ
รับรู้สึกแทนผองชนผู้โดนกระทำ        ก่อเกิดเป็นลำนำ คนน้ำมูน
เธอมิใช่คนน้ำมูน คนนู้น หรือคนที่ไหน?    ใยห่วงหาอาทรใด ให้ว้าวุ่น
เกิดเป็นรอยโรคร้ายไม่สมดุล        กระนั้นยังหยัดเทิดทูน ยุติธรรม์

ยุติธรรม์เพื่อใคร และไม่ใช่เพื่อใคร...    โลกใบใหม่ในจิตเกินปิดกั้น
จึงหลอมรวมให้ตัวตนโดนลงทัณฑ์        เพื่อจำนรรจ์ ทายท้าโลกบ้าใบ้
บ้าใบ้เหมือนถูกปิด ถูกบิดเบือน        แสงหนึ่งหยั่งสะเทือนสะท้อนไหว
วูบต่อการชำระ...หมดภาระใจ        จึ่งฉายโชนประทีปไป ปลดระวาง

2
เหตุการณ์ตะวันออกบอกเราว่า        แดดยิ่งแรง คนยิ่งกล้า ไม่ลาร้าง
น้ำมูน น้ำแม่เหมือนน้ำนมนาง        หลอมคนให้ชิมลาง แล้วถางทิศ
เดินไปสู่หนทางทุกบางใคร            ขณะทุกห้วงหัวใจคล้ายลิขิต –
จากสายน้ำ สายไหนให้หยุดคิด        จึงหลอมรวมทุกชีวิตสู่ทิศไทฯ

3
สายน้ำตะวันออก เพียงบอกข่าว        เรื่องราวเล็กเล็กแต่ยิ่งใหญ่
วูบของดาวทิ้งดวงดับลับฟ้าไกล        ขณะหนึ่งแสงสุดท้ายได้ฉายแรง
เพียงเสี้ยวดาวร่วงหล่นดวงดับ        ก่อนลับขอบหล้าลาลำแสง –
กระพริบจ้ากล้าจรัสจรุงแจง         คล้ายบอกกล่าวไม่เสแสร้งในแสงสุดท้าย...


แด่...เธอผู้นั้น

ไหมฟ้า
ชายขอบเมืองดอกบัว



 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ