Skip to main content
อ่านบทกวีชิ้นนี้ทำให้มองเห็นภาพสังคมการเมือง ที่แปรผันอยู่เบื้องหน้าอยู่ลิบๆ หรือว่าสังคมคือความสับสน หรือว่าการเมืองคือความเลวร้าย โดยมีประชาชนเป็นเดิมพัน และทำให้นึกถึงถ้อยคำของเมล็ดพันธุ์เถื่อนนาม ‘ไวล์ดซี๊ด’ ที่บอกเล่าว่า...ทุกวันนี้ เรากำลังล้างไฟด้วยไฟ ไม่ได้ยอมรับความคิดต่าง มองฝ่ายตรงข้ามคือศัตรู

 

 

ฉันอ่อนโยนให้เธอเสมอว่า...
แม้นการฆ่ามาดหมายว่ากลายผัน
ใครจะเห็นใจใครไม่สำคัญ
แต่ทุกวันโลกร้ายเกินหมายการณ์

ด้วยเหตุผลกลใดไม่อาจรู้
เราต่อสู้กับใครไม่อาจหาญ
มีแตกต่างเรื่องราวอันยาวนาน
เรารอนรานแตกยับกับอะไร

อาจบางทีมีทางอันสร้างสม
ในสังคมสืบสานกาลสมัย
อาจเป็นฉันและเธอเสมอไป
ที่จุดไฟขึ้นก่อต่อต่อกัน

หากเป็นน้ำน้ำจะฉ่ำดั่งลำน้ำ
ใครปลาบปลื้มดื่มด่ำทุกคำสรร
น้ำจะทำลายล้างต่างต่างกัน
ลมจะผันดินจะไหวใครจะเป็น

ไม่อาจรู้รู้แต่ว่าสายตาบอก
ทุกระลอกความรู้สึกที่นึกเห็น
เห็นแต่ความยอกย้อนซ่อนประเด็น
ซ่านกระเซ็นรอบรายอยู่คล้ายคลึง

อาจเป็นเราคือโลก โลกคือเรา
โลกแผ่วเบา เบาแผ่วแล้วอีกหนึ่ง
โลกสะเทือนเลื่อนลั่นหวั่นคะนึง
กระทบถึงกระเทือนเท่าและเราเอง

จู พเนจร

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
บทกวีจาก กวีราษฎร และกวีรากหญ้า ถึง สมัคร สุนทรเวช
กวีประชาไท
14 พย 52 ถึงพี่สาวผู้จากไปไกลลับหล้า มีนามว่าเจ้ขกชกหมัดตรง พี่ยืนหยัดซัดเจ๊กลิ้มยิ้มอย่างทะนง พี่ช่างองอาจหาญกล้าสง่างาม
กวีประชาไท
    เจ้านกขวัญแก้ว ดึกดื่นแล้วยังหลงไพร เจ้าเกิดเติบโตอย่างไร หัวใจจึงถูกขังกรง  
กวีประชาไท
เคยย้อนถามตัวเองบ้างหรือเปล่า                 ที่ผ่านมาใครเล่าทำฉิบหาย ผืนแผ่นดินร้าวร้อนลุกเป็นไฟ                     ฝีมือใครวายวอดทุกวี่วัน
กวีประชาไท
    ในนามของความจน                    กูคือ ผู้ทุกข์ทนแห่งยุคสมัย เลือดและเนื้อหลั่งรินไป               กองกระดูกน้ำตาใครมหึมา
กวีประชาไท
ในบรรดาทุกข์ทั้งมวลที่ฉันมีอยู่ ให้ประตูทุกบานได้ขานแย้ม ในห้วงอับอารมณ์อันขื่นแซม ให้เติมแต้มตื่นหวังครั้งชีวิต ฯ
กวีประชาไท
สักวันจะลองเป็นบ้าละความปรารถนาฝันใฝ่เดิน เดิน ฉันจะเดินไปถึงไหนก็ให้รู้กัน
กวีประชาไท
* จุดดาวแดงแต่งกองทัพประชาไท ในความมืดขับทะมึนขึ้นไขแสง กาฬปักษ์ดักดานใกล้เปลี่ยนแปลง แจ้งกระจ่างโดยตีนราษฎรเดิน
กวีประชาไท
โดยน้ำค้างเดื่อนฟ้า               ผลัดละอองเกาะนิ่งแวววาวรอง                ฉ่ำแล้งตามพื้นพุ่มพฤกษ์ผอง            ผืนแผ่นลุกตื่นย่ำเยื้องแย้ง                อย่างเช้าชื่นทวน ฯลฯ
กวีประชาไท
ขอเธอเป็นเช่นดวงดาวที่พราวแสง                   เด่นสีแดงพร่างฟ้าเวหาหนสาดแสงส่องทำลายล้างความมืดมน                เพื่อผองชนคนทุกข์ยากฝากชีวี
กวีประชาไท
สีคนรวมก่อขึ้น                 เป็นมา เล่าแลด้วยเชื่อถือศรัทธา             แกร่งกล้าบริสุทธิ์ดุจมหา -               กษัตริย์ พิศพึงกระทั่งทุกข์ทายท้า            ต่อนี้หน้าหลัง ฯลฯ เสียงสีที่มีไซร้                  ที่ขานไข ที่ใฝ่หวังจาก…