Skip to main content

เมื่อตะวันลาลับไปกับฟ้า           ในโลกหล้าเลื่อนลับคนหลับใหล

เหล่าซากผีตีเกราะเสนาะใจ       มันมุ่งไปสูบเลือดจนเดือดดิน

ผีโขมดโหดห่าพาผีปอบ            ผีเปรตชอบแลบเลียระริกลิ้น

มีผีห่าผีโหดโคตรทมิฬ             ไม่สูญสิ้นอัปรีย์ผีนรก


คันไถหักปักคันนาบ่าใส่แอก      ฝนเม็ดแรกร่วงหล่นก่นในอก

รอยตีนเลียบเหยียบคันไถใจช้ำฟก ผีนรกรุมตะหวัดแย่งกัดกิน

หาบกระด้งคอนตะกร้าบนบ่าช้ำ   กระดูกตำสันหลังหายมลายสิ้น

เหลือเศษซากชำรุดสุดอาจิณ     มันก็กินกัดแทะคอยและเล็ม


วัวควายหายต้นไม้ตายไม่มีซาก  มันพาลากเปรตปากเท่ารูเข็ม

ไส้ก็แห้งแรงก็ไร้ไม่เติมเต็ม       เคียวหนึ่งเล่มด้ามหักปักกลางนา

เลือดเกรอะกรังซังหญ้าหนูนาแล่น เป็นหมื่นแสนเสพสุขเห็นสุขา

เหล่าซากผีฉุดลากกระชากมา    อนิจจาชาวนาหมดสิ้นลม


เสียงลิเกออกแขกแต่แรกเริ่ม    หมู่ผีห่าหน้าเดิมเห็นสู่สม

เปลี่ยนคณะปะฉากเที่ยวเชิญชม อภิรมย์เสพสมพวกมันเอง


พระสงฆ์สวดสาบส่งวิญญาณผี   ธรณีเลื่อนลั่นสนั่นไหว

ทิวธงธรรมนำพามาแต่ไกล        คือธงไทล้างชาติชาวนา...


                                                                                   รัชนี รัตติกาล

 

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
บทกวีจาก กวีราษฎร และกวีรากหญ้า ถึง สมัคร สุนทรเวช
กวีประชาไท
14 พย 52 ถึงพี่สาวผู้จากไปไกลลับหล้า มีนามว่าเจ้ขกชกหมัดตรง พี่ยืนหยัดซัดเจ๊กลิ้มยิ้มอย่างทะนง พี่ช่างองอาจหาญกล้าสง่างาม
กวีประชาไท
    เจ้านกขวัญแก้ว ดึกดื่นแล้วยังหลงไพร เจ้าเกิดเติบโตอย่างไร หัวใจจึงถูกขังกรง  
กวีประชาไท
เคยย้อนถามตัวเองบ้างหรือเปล่า                 ที่ผ่านมาใครเล่าทำฉิบหาย ผืนแผ่นดินร้าวร้อนลุกเป็นไฟ                     ฝีมือใครวายวอดทุกวี่วัน
กวีประชาไท
    ในนามของความจน                    กูคือ ผู้ทุกข์ทนแห่งยุคสมัย เลือดและเนื้อหลั่งรินไป               กองกระดูกน้ำตาใครมหึมา
กวีประชาไท
ในบรรดาทุกข์ทั้งมวลที่ฉันมีอยู่ ให้ประตูทุกบานได้ขานแย้ม ในห้วงอับอารมณ์อันขื่นแซม ให้เติมแต้มตื่นหวังครั้งชีวิต ฯ
กวีประชาไท
สักวันจะลองเป็นบ้าละความปรารถนาฝันใฝ่เดิน เดิน ฉันจะเดินไปถึงไหนก็ให้รู้กัน
กวีประชาไท
* จุดดาวแดงแต่งกองทัพประชาไท ในความมืดขับทะมึนขึ้นไขแสง กาฬปักษ์ดักดานใกล้เปลี่ยนแปลง แจ้งกระจ่างโดยตีนราษฎรเดิน
กวีประชาไท
โดยน้ำค้างเดื่อนฟ้า               ผลัดละอองเกาะนิ่งแวววาวรอง                ฉ่ำแล้งตามพื้นพุ่มพฤกษ์ผอง            ผืนแผ่นลุกตื่นย่ำเยื้องแย้ง                อย่างเช้าชื่นทวน ฯลฯ
กวีประชาไท
ขอเธอเป็นเช่นดวงดาวที่พราวแสง                   เด่นสีแดงพร่างฟ้าเวหาหนสาดแสงส่องทำลายล้างความมืดมน                เพื่อผองชนคนทุกข์ยากฝากชีวี
กวีประชาไท
สีคนรวมก่อขึ้น                 เป็นมา เล่าแลด้วยเชื่อถือศรัทธา             แกร่งกล้าบริสุทธิ์ดุจมหา -               กษัตริย์ พิศพึงกระทั่งทุกข์ทายท้า            ต่อนี้หน้าหลัง ฯลฯ เสียงสีที่มีไซร้                  ที่ขานไข ที่ใฝ่หวังจาก…