Skip to main content

picture
ภาพจาก: forum.serithai.net/index.php?topic=17348.msg2

 

เสียงปืนดัง ปังปัง ฝั่งตะวันตก
กองทัพนก พิราบเหลือง เลือดแดงฉาน
เสียงโยโส ภควา... ดังกังวาน
เผด็จการ ผู้ขลาดกลัว ก็รัวปืน


หลายเดือนก่อน รัฐเขลาขึ้น น้ำมันก๊าซ
พร้อมประกาศ ทุกชนเผ่า ห้ามฝ่าฝืน
แต่ความทุกข์ ข่นแค้น ยากกล้ำกลืน
กองทัพธรรม จึงหยัดยืน กลางผองชน


คือทัพธรรม แห่งกัลยาณมิตร
ทุกชีวิต งดงาม ท่ามแดดฝน
มีอาวุธ ภาวนา เสียงสวดมนต์
สันติ ก็บันดล ท่วมม่านบุรี*


“กองทัพธรรม...ปลุกตื่น เถิดพี่น้อง
โลกทั้งผอง ร่วมพลังใจ ในทุกที่
เมื่อเสียงปืน ปังเปรี้ยง เพลานี้
ประชาที่ ถูกกดขี่ พร้อมต่อกร


ผองเพื่อน พี่น้อง ทั่วโลกลุกขึ้นสู้
เป็นพลัง ก้องกู่ สู้ สั่งสอน
ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ทุกขั้นตอน”**
บทเพลง แห่งภราดร แซ่ซ้องชัย



เป็นบทเพลง สันติภาพของชาวโลก
เพื่อขับกล่อม ทุกข์โศกคลาย ได้ผ่องใส
จากสิบสี่ ตุลาคม บนโดมไทย
สันติก็ไสว กลางใจพม่า


ประวัติศาสตร์ การต่อสู้สองมือเปล่า
รัฐทหาร เขลาขลาด พิฆาตฆ่า
แต่ “ตายสิบ จะเกิดแสน”*** ในไม่ช้า
เผด็จการ หม่องพม่า ต้องปราชัย


เสียงปืนดัง ปังปัง ฝั่งตะวันตก
กองทัพนก ทั่วโลก กางปีกกล้า
เพื่อปกป้อง ผองชนของศาสดา
สดุดี สิบสี่ตุลา ประชาจงเจริญ

 

ม่านบุรี* คือ ชื่อเรียกชาวพม่า
ในเครื่องหมาย “...”**  เป็นกวีร่วมเขียนของอ้ายแสงดาว ศรัทธามั่น
“ตายสิบ จะเกิดแสน”***  เป็นวรรคทองของน้าหงา คาราวาน

ร่วมรำลึกวีรกรรมอันอาจหาญงดงามของทุกวีรชนเพื่อสันติภาพทั่วโลก
ภราดร-ติภาพ

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
    พฤศจิกาห่าถล่ม เมืองก็จมใต้บาดาล หรือคนมันสามานย์ ที่สั่งฟ้าถล่มเมือง  
กวีประชาไท
    ท้องทุ่งระบัดเขียวขึ้นในบัดดล หลังเม็ดฝนทะลุรอยเมฆรั่วลงมาได้ เด็กน้อยติดปีกถลาลิ่วออกสู่ลาน สวนทางกับฝูงนก… ที่ร่อนคว้างสู่ชายคาดั่งนักรบแตกพ่าย ไม่ใช่สายฝนทำร้ายเจ้าใช่ไหม? เปล่าเลย..สายฝนฉ่ำเย็นอยู่เช่นนั้น กระสุนสังหารต่างหากซุ่มยิงเราหมายครองฟ้า  
กวีประชาไท
  *หัวใจแม่ แหลกสลาย ในวันนั้น วันลูกฉัน ถูกเข่นฆ่า ล่าสังหาร ภาพที่เห็น เป็นที่รู้ กู่ประจาน เมื่อมีการ ยิงสลาย ฝ่ายชุมนุม
กวีประชาไท
ลมผ่าวพัดบ่ายแล้ง            เคลื่อนไหวไม้พุ่มดอกบางใบ              ร่วงแล้วลมแล้งเคลื่อนรอยไหน      เผยผ่านไม้มิ่งฝุ่นเมืองแก้ว             ไม่รู้อยู่ไหน  ฯลฯ
กวีประชาไท
   
กวีประชาไท
โลกทัศน์ของข้ามืดบอดอยู่ในปากท้องและศักดิ์ศรีเหมือนว่าหนักอึ้งในทุก ๆ วลีที่จะเอื้อนเอ่ยถึง...ลมรำเพยก็เคลื่อนห่าง..ไกลออกไปแต่ข้างในนี้สิ – มีรอยรุ่มร้าวลึกก่ายทับซับซ้อน
กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
คลี่กระดาษประเทศนี้              เป็นไฉน คนแต่ละคนไย                      ซ่านซ้อน เหมือนล้อเล่นซ่อนไย             จับจ่อ จรดฤๅ โครง เก่า กร่อน ผุ ย้อน          ยิ่งล้ำหยั่งเหลือ ฯลฯ
กวีประชาไท
เธอตายในเดือนกุมภาเวลาตะแบกบานเต็มต้นลมหวนระรานกลีบบางร้าวรนที่สุดร่วงหล่นบนวิถีเดินทาง
กวีประชาไท
แด่...ทรัพย์สินเจ็ดหมื่นหกพันล้านของพณฯ ท่าน