กลางปี 2555 สหายประชา ขึ้นไปเยี่ยมยามเขตงานเก่า ลุงพินิจ ได้ฝากคำเชิญให้สหายเหล่ายาและสหายเหล่าเล่ง ขึ้นไปร่วมงานบุญใหญ่ฤาษี ที่ม่งควะ ในเดือนมีนาคม 2556 แกกำชับมาว่า บรรดาสหายรุ่นบุกเบิกที่ยังเหลืออยู่ก็อายุมากๆกันทั้งนั้น ดังนั้น การพบกันครั้งนี้ อาจเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย
ผมได้ติดตามขึ้นไปด้วย ในฐานะที่เคยเป็นผู้ปฏิบัติงานที่นี่มาก่อน ผมทราบดีว่า ที่เขตงานนี้ มีภูมิประเทศที่สวยงามจำนวนมาก แต่หากครั้งนี้มาด้วยเรื่อง "คน " จึงเก็บภาพ "คน " เป็นหลัก ได้มีโอกาสเก็บภาพอดีตสหายรุ่นบุกเบิกเขตงานจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ดีใจมาก
ได้มีโอกาสพบสหายเหล่าเล่งซึ่งเป็นผู้บุกเดี่ยวมาพบกับลุงพินิจซึ่งเป็นตัวแทนขบวนการฤาษีเพื่อชี้แจงนโยบายพรรคฯจนนำไปสู่การสร้างฐานที่มั่นเขตใต้(ม่งควะ-แม่จันทะ) ได้เห็นงานบุญฤาษีซึ่งลุงพินิจนำกลับมาตีความใหม่ แวะไปรับสหายเหล่าเลาที่เพิ่งไปลอกต้อกระจกมาได้ไม่กี่วัน ครับ ใส่แว่นดำเสียโก้เลย ที่ไปจากกรุงเทพฯก็มีสหายเหล่ายาและผู้กองนิยม ส่วนอดีตผู้ปฏิบัติงานรุ่นนักศึกษาก็มีสหายประชากับผม
แวะที่มอทะอุ้มเอาสหายพะตี้ขึ้นรถไปด้วยทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดอยู่กับบ้าน ในขบวนสหายรุ่นอาวุโสนี้ ผมสนิทกับแกมากกว่าคนอื่น แกร่วมกับสหายผล นำขบวนนักศึกษาที่เข้าป่า รุ่น 30 คน เดินจากเขตแม่สอดลงมายังเขตอุ้มผาง เมื่อจบ รร.การเมืองการทหารแล้ว ผมมีโอกาสได้ร่วมปฏิบัติงานกับแกอีกสองสามครั้ง ในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่แกจะย้ายไปประจำหน่วย 621 ซึ่งอยู่ทางเขตเหนือ มาเจอกันครั้งนี้ตอนจับมือกันสังเกตุว่ามือแกสั่นแบบควบคุมไม่ได้
เมื่อตอนที่เดินทางลงมายังเขตใต้ครั้งแรก เมื่อผ่านบ้านป่าคามา เราลุยข้ามห้วยเล็กๆห้วยนึง สหายพะตี้บอกกับผมว่า เราจะเดินไปจนห้วยเล็กๆนี่กลายมาเป็นแม่น้ำใหญ่ที่ต้องใช้แพข้ามกันเลย ครั้งนั้น พวกเราใช้เวลาเดินทั้งหมด 14 วัน
ครับ ห้วยสายนั้นเรียกห้วยแม่ก่อง เมื่อไหลมาถึงเขตแม่จันทะ มันก็ขยายใหญ่มาเป็นแม่น้ำแม่กลอง เวลาจะไปทุ่งนาน้อยหรือเขตงาน ต.17 ก็ต้องใช้แพข้ามทุกครั้ง
เมื่อ 18เมษายน ได้ทราบข่าวมรณกรรมของสหายพะตี้ จึงตัดสินใจเผยแพร่รูปถ่ายครั้งนั้น นัยหนึ่ง เพื่อรำลึกถึง การพบกันที่กลายมาเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย
ดูรูปทั้งหมดได้ที่นี่ครับ
https://www.minds.com/api/v1/archive/701436066439110671/play