Skip to main content



" กองทุนเพื่อประชาชน ในระบอบประชาธิปไตย "

ก่อนจะกล่าวถึงกองทุนเพื่อประชาชน ในระบอบประชาธิปไตย ผมขออนุญาตนำบทความของ คุณรุ่งโรจน์ "อริน" วรรณศูทร จากเว็บ http://newsstory55.blogspot.com/2013/07/blog-post_7.html มาให้ท่านได้อ่าน ดังนี้

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

เศษเสี้ยวความในใจของ "คนเบี้ย" ของ รุ่งโรจน์ วรรณศูทร ความเหมือนที่คล้ายกับแกนนำ กวป.

 
โดย รุ่งโรจน์ วรรณศูทร (บันทึก) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2013 เวลา 16:09 น.


  


กำลังพิจาณา "ยุติ" กิจกรรมทั้งหมด ปิดเว็บ ปิดบล็อก ยุติการแสดงความเห็นในเฟซบุ๊ค หลังจากทำมาหลายปี ชีวิตมีแต่ "ติบลบ" ลงไปทุกที มิตรสหายตีจาก ผู้คนร่วมสมัยตั้งกำแพงกีดกัน งานเขียนที่ไม่มีประโยชน์ต่อขบวนการถูกปิดกั้น

คง ไม่ตอบคำถามลูกเมีัยแล้ว ว่า "ทำไปทำไม ไม่เห็นมีใครสนใจ ไม่มีคนจ้างงาน มีแต่คนเบือนหน้าหนี ตกอยู่ในสภาพเกือบช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งครอบครัว ลูกเมียไม่ได้พบความความสุขสบาย แล้วยังมีหน้าไปคิดเรื่องส่วนรวมอีก"

ผมต้องกล้ำกลืนก้อนเลือด และเสียน้ำตาให้กับลูกสาวที่เธอต้องลาออกจากงานหลังจาก "คิดฆ่าตัวตาย" หลายตรั้ง สมัยที่ทำงานแถวศาลาแดงในปี 2553 และ "ไม่บริจาคเงินซื้อน้ำให้ทหารที่ล้อมมวลชนเสื้อแดง และไม่ร่วมลงไปร้องเพลงชาติข้างถนน" เนื่องเพราะบริษัทนั้น (เช่นเดียวกับองค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ของประเทศ) "เหลืองเป็นขี้" เธอ "ถูกกดดันตลอดวันทำงาน" เพราะถุกตราหน้าว่ามี "พ่อเป็นเสื้อแดง" หรืออย่างน้อย "ยืนอยู่ฝ่ายเสื้อแดง" จนเดี๋ยวนี้ลูกสาวต้อง unfriend พ่อใน facebook ไม่อย่างนั้นเธอจะเป็นอีกคนที่หมดอนาคตในอาชีพการงานความเป้นนักเขียนคอลัมน์

ผลจากการการพักผ่อนน้อยมาตลอด 32 ปีหลังถูกจับฉีดยารักษาคนบ้างและเนรเทศออกจากกองกำลังอาุธของพคท. ในปี 2524 ด้วยข้อหา "มุ่งมั่นปฏิวัติประเทศทุกลมหายใจเข้าออก" ผมกลับมาทำงานหนังสือทั้งทางด้านสังคมศาสตร์และงานวรรณกรรม แม้จะไม่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี และตจ่อมาหลังการรัฐประหารอัปนศ 19 กันยายน 2549 ทุ่่มเทใช้ความคิดทั้งวันทั้งคืน ค้นคว้าที่มาที่ไปทา่งประวัติสาสตร์ ศึกษาทบทวนเส้นทางการสถาปนาระบอบประชาธิปไตย พยายามตกผลึกประสบการณ์และความคิด อย่าง "เสียเปล่า" ชนิดที่ "คนชั้นนำ" ในขบวนเคลื่อนไหวและกระแสความคิดล้วน "ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง"

เพื่อน เก่าแก่ทั้งหมด ปฏิเสธเสื้อแดง นั่นคือ ปฏิเสธผมโดยสิ้นเชิง ที่เคยจ่างงานก็จบไปหลังรัฐประหาร 2549 ที่เคยอุดหนุนการผลิตเดือนหนึ่ง 2-3 หมื่น ก็จบลงเด็ดขาด / เว้นแต่ช่วงมีเงินเดือนหนังสือพิมพ์ จา่กตุลาคม 2550 ถึง พฤษภาคม 2552 กลับมาเหลือรายได้เขียนหนังสือสัปดาห์ละ 1,000 บาท จนถึงเดือนมกราคา 2555 และต่อรองเป็น 1,600 บาท จากเดือนกุมภาพันธ์ 2555 จนถึงปัจจุบัน คือข้อเท็จจริงที่งานควาคิด งานค้นคว้า มีค่าน้อกกว่า "ค่าแรงขันต่ำ" ของแรงงานไร้ฝีมือในประเทศนี้เสียอีก


ข้อเท็จจริงที่เจ็บปวดสำหรับ "คนชั้นล่าง" ในสังคมนี้ คือ การ "ไม่มีวุฒิการศึกษาอย่างน้อยปริญญาตรี" "การไม่มีวุฒิการศึกษาระดับดอกเตอร์" "การไม่มีตำแหน่งทางวิชาการเป็นศาสตราจารย์ หรือรอง หรือผู้ช่วย" ที่ทำให้ "มีรายได้ที่แน่นอน" (จะน้อยจะมากก็แล้วแต่ แต่มากกว่า "ไม่มี")

หลายครั้ง (และในระยะหนึ่งปีเศษมานี้ ทำเป็นประจำทุกเดือน จนเกิดความ "ละอาย" เลขาฯ ของเพื่อน) ที่ "เข้าตาจน" จนต้อง "หักห้ามความอาย ตากหน้า" ขอเงินมิตรสหาย 2-3 คน คราวละ 1,000 บาท ที่จะไม่มีวันลืม "สภาวะขอทาน" อย่า่งนี้ไปชั่วชีวิต คงจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว ให้เป็นที่รำคัญใจของเพื่อนๆ ที่เป็นนายทุนกิจการหลายสิบล้านหลายจนถึงระดับร้อยล้าน

ผมเที่ยว "ของาน" อดีตมิตรสหายที่คิดว่าจะมีงานหยิบยื่นมาให้ เพื่อที่ผมจะสามารถพึ่งตนเองได้อย่างมีศักดิ์ตรีในความเป็นมนุษย์ แต่ที่ตอบกลับมา คือ "ความเงียบ" แม้แต่จาก "อดีตคนเดือนตุลาฯ" ที่เป็นเจ้าของวิสาหกิจนับสิบนับร้อยล้านบาท ทั้งนี้ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนเก่แก่ทั้งหลายที่"ปฏิเสธทักษิณ" ซึ่ง "ปิดประตูใส่หน้าผม" ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ - ผมแค่ของานทำ เพื่อจะ้ลี้ยงตัวเ้องได้ แต่คำตอบคือ "ไปข้างหน้าก่อน"

ผมควรจะยุติเรื่องพวกนี้เสียที... กับวิถีทางและเส้นทางที่ไม่เป็นที่ต้อนรับ อีกต่อไป.

ด้วยภราดรภาพ
รุ่งโรจน์ "อริน" วรรณศูทร
หลังหมดฤทธิ์ยานอนหลับ 2 ขนาน

15:36 น. 6 กรกฎาคม 2556


ป.ล. : "คนเบี้ย" ต้องถูก "กำจัด" ไปจาก "กระดานหมากรุกชีวิต" วันยังค่ำ อยู่ที่ช้าหรือเร็วเท่านั้น

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

 

พอผมอ่านบทความของท่านจบ ผมรู้ว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างที่ต้องช่วยท่านและบุคคลคล้ายๆ ท่าน ที่ยังคงอยู่ในสังคมนี้ ผมจะไม่พรรณาความจำเป็นใดๆ ที่จะโน้มน้าวให้ท่านผู้อ่านต้องมาเห็นด้วยกับผม การตั้งกองทุนก็เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะช่วยท่านได้ ไม่มากก็น้อย และจะไม่รบกวนคนที่ไม่ต้องการช่วยเหลือ หรือไม่เห็นประโยชน์ของกองทุนนี้ 


วัตถุประสงค์ของกองทุน

เพื่อระดมทุนให้แก่ประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประเทศนี้ ที่ได้รับความลำบากทั้งด้านครอบครัว อาชีพการงาน และสุขภาพ โดยร่วมกองทุน กองละ 112 บาท ต่อเดือน จะเป็นเงินที่เอาไปสนับสนุนประชาชนที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

เป้าหมายระยะสั้น คือต้องการเงินประมาณ 10,000 บาท เพื่อมอบให้แก่ คุณรุ่งโรจน์ "อริน" วรรณสูทร เป็นประจำทุกเดือน
หากมีเงินมากกว่านั้นจะพิจารณามอบให้แก่บุคคลอื่นๆ ต่อไป

วิธีการร่วมกองทุน 

เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่บล็อคแห่งนี้ จึงขอเชิญชวนท่านที่มีความตั้งใจร่วมกองทุนได้ไปหารายละเอียดบัญชีธนาคารที่ผมลงไว้ในเฟสบุค 
https://www.facebook.com/suchart112/posts/228291603989788

 

ที่ต้องมาเปิดบล็อคเรื่องกองทุน เพราะบุคคลคนนี้ครับ คุณ รุ่งโรจน์ "อริน" วรรณศูทร ท่านเป็นบุคคลที่ผมควรรีบไปพบ ท่านเป็นต้นทุนทางประชาธิปไตยที่น่าคบหา และต้องรีบหาทางช่วยเหลือคนแบบท่าน ผมจะไม่ยอมปล่อยให้คนรักประชาธิปไตยต้องอยู่อย่างหม่นหมองใจ ต้องทำให้ท่านและคนที่คิดอย่างท่านมีความสุขให้ได้

 

สุชาติ นาคบางไทร

12.01 น. 
พุธที่ 28 สิงหาคม 2556




 

บล็อกของ Suchart Narkbangsai

Suchart Narkbangsai
เรื่องอยากเล่า...แด่ผู้ลี้ภัย ด้วยความเคารพและศรัทธาทุกท่าน . ปี 2551 หลังจากที่ผมใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 เดือน เพื่อสำรวจว่าจะพักอาศัยประเทศไหนรอบๆ ไทย เพื่อทำมาหากินจนกว่าจะเข้าประเทศได้ . สุดท้ายก็มาเลือกเวียงจันทร์เป็นที่หมาย ผมเริ่มหาทางทำมาหากินทันที แต่พบอุปสรรคมากมาย ไม่ทันกับเงินที่มีอยู่จำกัด หากอยู่ต่อไปก็คงได้ แต่สุขภาพกายและใจคงทรุดหนัก เพราะการอยู่แบบหัวเดียวกระเทียมลีบ มันไม่สนุก และไม่มีความหวังอะไรเลย . ด้วยเป็นคนใจร้อนและเกรงใจคนที่ช่วยเหลือ ผมตัดสินใจหนีกลับเข้าประเทศไทย ไปตายเอาดาบหน้า . เริ่มค้นหาผู้ช่วยท้องถิ่นในเวียงจันทร์ ผมโชคดีที่ใช้เน็ตได้ดี
Suchart Narkbangsai
dCode112แผนชิงประชาธิปไตย คืนสู่มือประชาชนตอนที่ 4/112----------------------“ 2 โชคดีของประชาชนไทย ในปี 2556 “
Suchart Narkbangsai
dCode112แผนชิงประชาธิปไตย คืนสู่มือประชาชนตอนที่ 3/112----------------------“การรวมตัวของประชาชนในมิติใหม่ ไร้พรมแดนตลอด 24 ชม.อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน“
Suchart Narkbangsai
dCode112แผนชิงประชาธิปไตย คืนสู่มือประชาชนตอนที่ 2/112----------------------“ทำไมประชาชนถึงต่อสู้กับความชั่วร้ายของประเทศนี้ไม่ได้ ? “
Suchart Narkbangsai
dCode112แผนชิงประชาธิปไตย คืนสู่มือประชาชนตอนที่ 1/112----------------------
Suchart Narkbangsai
Rx112 กินให้ผอม (Slim with Eating) ตอนที่ 2
Suchart Narkbangsai
" กองทุนเพื่อประชาชน ในระบอบประชาธิปไตย "
Suchart Narkbangsai
พรรคประชาธิปัตย์ชาตะ 6 เมษายน 2489มรณะ 20 สิงหาคม 2556สิริอายุรวม 67 ปี
Suchart Narkbangsai
ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ผมมีน้ำหนักตัวประมาณ 86 กก.ที่ความสูง 178 ซม.หลังจากได้รับเกียรติให้เข้าไปอยู่บ้านเลขที่ 33/2 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ประมาณ 3 เดือนแรก น้ำหนักผมหายไป 14 กก.เหลือ 72 กก.
Suchart Narkbangsai
ผมได้พบบล็อคของบุคคลผู้นับถือกัน มาปรากฏอยู่ใน blogazine.in.th แห่งนี้ด้วยความบังเอิญ จึงนึกสนุกที่จะได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นประสบการณ์บ้าง เป็นความคิดความเข้าใจส่วนตัวบ้าง เนื่องจากผมได้เคยอ่านบทความดีๆ จากบล็อคแห่งหนึ่ง แล้วรู้สึกชอบทั้งเนื้อหา และวิ