dCode112
แผนชิงประชาธิปไตย คืนสู่มือประชาชน
ตอนที่ 3/112
----------------------
“การรวมตัวของประชาชนในมิติใหม่ ไร้พรมแดนตลอด 24 ชม.อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน“
จากอดีตถึงปัจจุบัน มีกลุ่มคน 2 กลุ่ม ที่หากินกับความเป็นอยู่ของประชาชน คือ กลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มการเมือง เพื่อตักตวงผลประโยชน์มหาศาลจากประชาชน อย่างแยบยลบ้างแบบต่ำทรามบ้าง แต่มวลประชาชนก็ไม่สามารถจะมีปากเสียงใดได้ นอกจากทำตามที่ทั้งสองฝ่ายสร้างกฎเกณฑ์อำพรางเอาไว้ให้ เป็นที่สังเกตได้ว่าทั้งสองฝ่ายดังกล่าวไม่ปรารถนาให้มีการรวมตัวกันได้อย่างเข้มแข็งของเหล่าประชาชน จึงทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านอยู่เนืองๆ ไม่มีวันสิ้นสุด ยังผลให้ประชาชนทั้งหลายเหนื่อยหน่าย เบื่อ ท้อ จนกระทั่งแก่เฒ่าและตายไปหลายรุ่นคน รุ่นแล้วรุ่นเล่า
บางคราวอาจดูเหมือนบ้านเมืองจะสงบเป็นระยะยาวบ้างสั้นบ้าง ก็ด้วยเหตุที่ทั้งสองกลุ่มสามารถตกลงจัดสรรผลประโยชน์เหนือประชาชนได้อย่างลงตัวเท่านั้น เมื่อใดที่ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกัน ต่างก็ลุกขึ้นมาฟาดฟันกัน โดยอ้างประโยชน์ของประชาชนทั้งคู่ พยายามมามอมเมาประชาชนให้เห็นด้วยกับฝ่ายตน นำพาประชาชน ให้เดินไปสู่ความเสียหาย บาดเจ็บ ล้มตายเพื่อประโยชน์ในฝ่ายตนเอง ครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างเลือดเย็น และไม่สำนึกแม้แต่น้อย
จึงถึงเวลาแล้วที่พวกเราเหล่ามวลมหาประชาชนเจ้าของประเทศ จักต้องเรียนรู้การรวมตัวกันที่เข้มแข็ง ยั่งยืน ยังประโยชน์ต่อพวกเรากันเอง เพื่อคานอำนาจกับกลุ่มคนทั้งสอง ซึ่งยังคงต้องอยู่กับระบอบประชาธิปไตยไปพร้อมกับพวกเราด้วยกัน
การรวมตัวของประชาชนมีข้อจำกัดพอสมควร ภายใต้กฎเกณฑ์ที่ทั้งสองกลุ่มได้วางไว้ ไม่สามารถไปทำอะไรเกินเลยเหมือนที่ทั้งสองฝ่ายทำแก่ประชาชนได้ ดังนั้นเราจึงต้องมีหลักเกณฑ์การรวมตัวให้ชัดเจน (เป็นหลักเกณฑ์นำร่อง) ดังนี้
1.ปกป้องระบอบประชาธิปไตย ของประชาชน ให้เป็นของประชาชน ตลอดไป
2.ไม่ทำผิดกฎหมาย และอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองในแต่ละยุคสมัย
3.เปิดเผย ตรวจสอบได้ ไม่มีอะไรแอบแฝงหรือซ่อนเร้น
4.ไม่สะสมกองกำลังคนหรืออาวุธเพื่อล้มล้างกลุ่มอื่นใด
5.จัดทำกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อคงความเป็นกลุ่มประชาชนไว้อย่างสม่ำเสมอ
6.ไม่ทำการใดเพื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ประชาชน
7.ไม่ตั้งพรรคการเมืองไปแข่งกับกลุ่มการเมือง
8.สนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อบุคคลหรือองค์กรที่ทำประโยชน์ต่อสังคมอย่างชัดเจน
9.ต้องมีความปลอดภัยแก่สมาชิกที่มารวมตัว ไม่เสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของใคร
10.ไม่ปล่อยให้ใครมาช่วงชิงการนำกลุ่มประชาชนไปในทางใดทางหนึ่งโดยสมาชิกส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
11.ต้องให้สมาชิกทุกคนมีสิทธิ์ออกความเห็นทั้งค้านและเห็นด้วยตามช่องทางที่เปิดไว้ให้อย่างเปิดเผยชัดเจนล่วงหน้า
12.มีระบบการรับและดูแลความคิดของสมาชิกทุกคนอย่างเป็นขั้นตอนและเท่าเทียมกัน
13.การติดต่อกันของประชาชนจะต้องสามารถทำได้ตลอดเวลา 24 ชม.อย่างไร้พรมแดน ไม่ว่าใครจะอยู่ที่ไหน ต้องมีสิทธิ์และเสรีภาพเท่าเทียมกัน
14.กิจกรรมต่างๆ จะเป็นกิจกรรมตามสมัครใจ ในเวลาที่ตนเองสะดวก จะต้องไม่บังคับให้ใครต้องทำตามใครตามใจชอบ แต่จะตัดสินกันด้วยเสียงข้างมาก ที่ต่างมีเวลามากพอจะเข้าใจประเด็นที่จะต้องตัดสินใจร่วมกัน
15.เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสนำเสนอความคิดของตนอย่างเท่าเทียมกัน
16.เปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถอาสาได้ทำงานก่อน
17.สมาชิกต้องมีจำนวนมากพอที่จะสลับผลัดเปลี่ยนคงความเป็นกลุ่มไว้ได้โดยไม่ให้เสียหายต่อการทำมาหากินของแต่ละคน
18.นำความสามารถและชำนาญการของแต่ละคนมาใช้เพื่อส่วนรวม
19.มีระบบกลั่นกรองบุคคลให้ได้แสดงความสามารถได้อย่างเป็นธรรมและชัดเจน
หลายคนคงเป็นห่วงว่าจะทำอย่างไรที่จะรวบรวมประชาชนจำนวนมหาศาลทั่วประเทศให้มารวมกันได้ตามกรอบกติกาดังที่ได้นำเสนอมา ทั้ง 19 ข้อได้อย่างมีวินัย โดยไม่ต้องลงทุนให้สิ้นเปลือง
ทุกอย่างจะเป็นจริงได้ ขอเรียนว่าจะเกิดจากตัวท่านเองที่จะเริ่มต้นพร้อมๆ กัน ดังจะได้นำเสนอในตอนต่อไป
สุชาติ นาคบางไทร
21.16 น.พุธที่ 4 กันยายน 2556