Skip to main content
แด่ พ่อแม่พี่น้องและเพื่อนที่เสนอให้ Respect your Tax
 
ขอพูดง่ายๆ นะครับ
 
สาเหตุที่ต้องเอาการเมืองเรื่องสิทธิการเลือกตั้ง 1 คน 1 เสียง มาใช้ ก็เพื่อมาแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ เพราะ  ต้นทุนในชีวิตของแต่ละคนในการเริ่มต้นมันไม่เท่ากัน
 
หลายคนที่รวยเพราะ รับมรดกมา ความมั่งคั่งเกิดจากการเอากำไรจากผู้บริโภคในสังคม กับ ขูดรีดแรงงาน  (แม้จะดูเหมือนคนทั้งสังคมจะลืมๆไปว่า มีกินมีใช้อยู่ได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่รู้สึกลึกๆในใจนะครับ)
 
คนรวยและคนมีเหลือกินทั้งหลายจึงต้องคืนด้วยภาษี  ไม่งั้น คนงานกับ ผู้บริโภค เดือดดาลเพราะความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ จนบุกปล้น แย่งชิง เผาร้าน ก่อสงครามกลางเมือง ก็พังพาบกันไปหมด ดังปรากฏหลักฐานเสมอมาในประวัติศาสตร์
 
ดังนั้น หลักสิทธิทางการเมือง 1 คน 1 เสียงในการร่วมกำหนดอนาคตสังคม จึงมีเอาไว้ป้องกันการก่อสงครามชนชั้น (ที่ครุกรุ่นจนแทบระเบิดอยู่แล้ว)
 
ความเสมอภาคทางการเมืองจึงเป็นสิ่งที่พัฒนาขึ้นในสังคมที่เคยผ่านสงครามกลางเมือง หรือสงครามชนชั้นมาแล้วนับไม่ถ้วน   กฎหมายมหาชนทางเศรษฐกิจจึงได้กำหนดให้สิทธิในการเลือกตั้งอยู่คู่กับสิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณะยังไงล่ะ  เพราะประเทศต่างๆ ในฝั่งยุโรป ได้หลั่งเลือดเพื่อพิสูจน์กันมานักต่อนัก   
 
คนรวยกลุ่มเดียวที่มีชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า จนเหยียบย่ำหัวใจแรงงานและคนอื่นๆ ในสังคมที่หาเช้ากินค่ำทำงานสายตัวแทบขาดแต่ยังไม่พอกินพอใช้ เจ็บไข้ก็ไม่มีใครดูแลรักษา พอตกงานมากลับต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน จนสุดท้ายความอดทนของเขาหมดลงต้องลุกขึ้นสู้
 
คนในสังคมอื่นๆที่เป็นทุนนิยมเข้มข้นมาก่อนผ่านสถานการณ์ความขัดแย้งเหล่านี้มาเยอะ คนที่เคยเป็นเศรษฐีกลับต้องถูกโค่นมาเป็นคนหมดตัว ขุนนางต้องกลายเป็นไพร่ กลับไปกลับมาจนประวัติศาสตร์เลือดอยู่ในความทรงจำ  จนทั้งสังคมตระหนักได้ว่าผ่านมาเยอะแล้ว
 
คนในสังคมเหล่านั้นย่อมเกิดปัญญาร่วมกันว่า ถ้าปล่อยให้ความเหลื่อมล้ำมีมากเกินไป จนเกิดความไม่เป็นธรรม ก็จะเกิดสงครามและอาจจะเสียหายกันทั้งสังคม จึงต้องยอมกันบ้าง โดยหากติกาในการอยู่ร่วมกัน คือ เอาคะแนนเสียงของพลเมืองมากำหนดทิศทางการเมืองให้เจือจานดูแลคนที่ลำบากบ้าง ก่อนที่จะสายเกินไป 
 
เอาล่ะถ้ายังนึกตามไม่ออก ก็ดูประวัติศาสตร์ทุนนิยมจีนและการเกิดสงครามเปลี่ยนสลับขั้วชนชั้นไปมาดูครับ
 
เมื่อเกิดความเหลื่อมล้ำมากๆ มีเศรษฐีจำนวนน้อยกับคนจนจำนวนมาก เศรษฐีก็ใช้เงินซื้อลูกสาว น้องสาว เมียคนอื่นมาสนองตัณหาตน  พอเจอสงครามกลางเมืองเข้าไป โดนปล้นฆ่า เผาบ้าน เผาร้านรวง ที่เก็บสินค้าและอาหาร ตกอับต้องหนีตายหรืออพยพไป 
สุดท้ายเศรษฐีตกอับต้องขายลูกเมียตัวเองให้คนอื่นไปเพื่อความอยู่รอด หรือโหดร้ายกว่านั้น คือ เมียหรือลูกสาวของตนขอให้ขายตัวไปเพื่อหนีการอดตาย หรือหนีการไล่ล่าล้างแค้น
 
คงพอเข้าใจบ้างแล้วนะว่าทำไม ความเสมอภาคทางการเมืองแบบ "หนึ่งคนหนึ่งเสียง" จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนในสังคมต้องให้ความเคารพเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเลือกตั้งเป็นวิถีทางการเมืองในการจัดการงบประมาณให้ย้อมกลับไปยกระดับคุณภาพชีวิตคนทั้งชาติ ตราบเท่าที่ยังไม่มีวิธีการใด เลวน้อย กว่าการเลือกตั้ง 

กลับกัน การเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาคอรัปชั่น โกงกิน โดยวิธีการเรียก "อัศวินขี่ม้าขาว" มาช่วย กลับไม่อาจตรวจสอบได้ว่า อัศวินเข้ามาทำเพื่อใครกันแน่

บล็อกของ ยาจกเร่ร่อน

ยาจกเร่ร่อน
ท่านผู้อ่านจำนวนไม่น้อยคงเคยบนบานศาลกล่าวหรือขอพรจากสิ่งศักดิ์ในยามคับขัน หรือประสงค์ในสิ่งที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่ตัวเองจะกำหนดผลกันมาบ้าง ไม่มากก็น้อย   ยังมินับรวมกระแสความนิยมการใช้ศาสตร์ทางโหราและความรู้ที่สืบทอดกันมานับพันปีอย่างฮวงจุ้ย โหงวเฮ้งในทางธุรกิจที่ทราบกันดีว่ามีอยู่ในกระ
ยาจกเร่ร่อน
หากสิทธิสตรีและเสรีภาพระหว่างเพศ มีอุปสรรคขัดขวางคือ "สังคมชายเป็นใหญ่" มีชายครองอำนาจการเมืองกุมการปกครอง ควบคุมเทคโนโลยี เป็นใหญ่ในครอบครัวบังคับให้คนในบ้านรับบทบาทโน่นนี่   หรือมีความบริสุทธิ์กว่าตามความเชื่อของศาสนา  
ยาจกเร่ร่อน
หาก “เวลา” คือ สิ่งสำคัญอย่างแท้จริงในชีวิต มนุษย์จะเลือกเติมอะไรลงไปในเวลาที่ตนมีอย่างจำกัด
ยาจกเร่ร่อน
เราซึมเศร้า เพราะเราเข้าใจและใส่ใจเพื่อนมนุษย์ผู้หงอยเหงา (Sympathy)เราเห็นใจคนเศร้า เพราะเราก็สิ้นหวังในวันที่พ่ายแพ้เราลุกขึ้นจากความพ่ายแพ้ เพราะเห็นทางแก้อยู่ตรงหน้าเราจะไปให้ถึงขอบฟ้า เพราะรู้ว่ามีคนรุ่นใหม่มุ่งหน้าไปเช่นกัน
ยาจกเร่ร่อน
ในคืนอันเฉอะแฉะของปลายฤดูร้อน มีคนเข้ามาคืนความสุขให้คนไทยพักผ่อนกันถ้วนหน้า หลังจากล้าเพราะสงครามมากึ่งปีแต่ทว่าความสุขที่ได้มาพร้อมเงื่อนไข ไม่เปิดโอกาสให้แสดงออกเต็มที่หลบไปแสวงหาความสุขด้วยมหกรรมกีฬาระดับโลกแล้วก็หายไป ต้องกลับมาอยู่กับวันใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม
ยาจกเร่ร่อน
คนไทยกับคนอิตาลี มีลักษณะร่วมกันหลายอย่าง คือ เกิด เติบโต และอาศัยอยู่ในดินแดนที่อากาศดี อาหารอร่อย มีทรัพยากรให้ใช้สอยมากมาย ทั้งเกษตร และท่องเที่ยว เรียกว่าไม่ต้องออกไปนอกประเทศเลยก็มีความสุขได้   แต่ก็กลายเป็นดาบสองคมเพราะมันคือสังคมที่คนอาจคิดไปว่า “เราคือศูนย์กลางจักรวาล”
ยาจกเร่ร่อน
หลังจากความล้มเหลวของทีมชาติเปน ทำให้เกิดคำถามอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวไทยว่าเกิดอะไรขึ้น   แต่ความถดถอยนี้มีเค้าลางมาตั้งแต่ศึกฟีฟ่าคอนเฟดเดอเรชั่นคัฟ   เมื่อปี 2013   ซึ่งเป็นปีที่โลกรับรู้ว่า สถานะทางเศรษฐกิจของสเปนอยู่ในภาวะล้มละลาย   คนในยุโรปทราบดีว่าสิ
ยาจกเร่ร่อน
จากผลการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดแรกของทีมขวัญใจมหาชนอย่าง อังกฤษ คงสร้างความหงุดหงิดและคลางแคลงใจให้กับคนจำนวนไม่น้อย  เหมือนทุกครั้งที่แฟนบอลชาวไทยต้องช้ำใจเพราะอังกฤษ  ทำไม คนไทยจำนวนมากถึงส่งแรงใจเชียร์อังกฤษ ?
ยาจกเร่ร่อน
เถียงกันไป เถียงกันมา เรามัวแต่ทำงานจนลืมเวลา พอหันกลับมาก็รัฐประหารเสียแล้วแรงงานในประเทศไทยหลายสิบล้านคนทั้งที่เป็นคนไทย และที่ขยับขยายมาจากต่างชาติ ก็คงสงสัยไม่ต่างกันว่า เปลี่ยนแล้วชีวิตเราดีขึ้นไหม
ยาจกเร่ร่อน
ทำไมคนต้องทำงาน?  ยังมีคนถามเรื่องนี้อยู่อีกหรือไม่?แต่คำตอบที่ได้ ย่อมสะท้อนตัวตน ชนชั้น และความจำเป็นในชีวิตแต่ละคนอย่างแน่นอนคนมีมรดกตกทอด อาจไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากินมากนัก แต่มีกินมีใช้จากดอกเบี้ย และค่าเช่าที่ได้จากทรัพย์สิน ซึ่งบรรพบุรุษส่งมอบไว้ให้
ยาจกเร่ร่อน
วันแรงงาน จัดขึ้นเพื่อ ให้แรงงานหยุดงานมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องสิทธิต่อนายจ้าง และรัฐแต่สิ่งที่เห็น คือ มีคนต้องทำงานในวันนี้เต็มไปหมดคนที่ไม่ได้ทำงาน ก็ถือเอาเวลานี้ไปโรงพยาบาลเพื่อซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอจากการทำงาน หรือพาครอบครัว/ตัวเองไปพักผ่อน
ยาจกเร่ร่อน
มีเสียงบ่นเข้ามาหนาหู จากเหล่าครูบาอาจารย์ และนักวิจัยในมหาวิทยาลัย ที่ควรเป็นชนชั้นนำทางปัญญา ใช้สติปัญญาและเวลามาแก้ปัญหาสังคม ว่า เขากำลังอยู่ในภาวะเตี้ยอุ้มค่อม หากต้องออกมาช่วยเหลือสังคมหรือเคลื่อนไหวทางการเมือง   เพราะการจ้างงานของตนในมหาวิทยาลัย เข้าสู่ยุคมหาวิทยาลัยนอกระบบที่จะต