Skip to main content

ป้าคนหนึ่งเข้ามาปรึกษาว่าไปโรงพยาบาลรัฐแถวบ้านซึ่งตนมีชื่อเป็นคนใช้สิทธิบัตรทองอยู่ที่นั่น แต่ด้วยความที่ป้าได้รับบัตรมานานมากแล้ว และเมื่อสองปีก่อนได้มีการก่อสร้างและซ่อมบ้านทำให้ต้องโยกย้ายข้าวของออกจากบ้านก่อนจะกลับเข้าไปอยู่อีกครั้งเมื่อซ่อมแซมเสร็จ ทำให้บัตรที่เก็บไว้สูญหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้   ด้วยอาการวิงเวียนและเหมือนจะเป็นลมหน้ามืด แน่นหน้าอก ทำให้ป้าตัดสินใจไปโรงพยาบาลโดยขอเข้ารับการรักษาโดยใช้สิทธิบัตรทอง   ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งให้คุณป้าทราบว่า ถ้าไม่มีบัตรทองมายืนยันการเป็นเจ้าของสิทธิทางโรงพยาบาลจะไม่ดำเนินการใดๆ และคุณป้าจะไม่สามารถใช้สิทธิรักษาฟรีได้   คุณป้ารู้สึกว่าจะเดินไปไหนต่อก็ไม่ไหว ลูกหลานก็ไม่มีมาด้วย จึงขอกับเจ้าหน้าที่ว่าจะเข้ารับการรักษาก่อนได้ไหม เพราะถ้าจะต้องกลับบ้านไปหาบัตรก็ต้องเดินทางกลับออกไปนอกตัวเมือง และใช้เวลาเดินทางมาก อาจเป็นลมเป็นแล้งไปแล้วจะไม่มีใครช่วย   ถ้ายังไงขอเจอหมอเพื่อให้รู้โรครู้อาการ ให้หมอรักษาให้ดีก่อน แล้ววันหลังจะไปหาบัตรมาให้เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินคารักษา เพราะนอกจากเงินช่วยเหลือคนชราเดือนละ 500 บาทแล้ว ป้าก็ไม่ได้มีรายได้อื่นๆ นอกจากเงินเก็บที่มีแต่จะร่อยหรอลงเรื่อยๆ 

ด้วยอาการเหนื่อยล้า และดูท่าจะไม่ดีถ้าต้องมีการยืนถกเถียงกันต่อไป ทางพยาบาลจึงให้คุณป้าเข้าคิวรอรักษาโดยรอคิวรักษาแบบผู้ป่วยนอกที่จะต้องมีการสำรองจ่ายเงินเองก่อน ไม่ให้เข้าไปช่องทางของการรักษาด้วยสิทธิบัตรทองจนกว่าจะมีบัตรทองมาพิสูจน์สิทธิได้จึงจะอนุญาตให้ใช้สิทธิฟรีตามที่รับรู้กันทั่วไป   หลังจากเข้าตรวจกับหมอแล้วพบว่าคุณป้ามีอาการประจำของคนวัยชราที่มีรูปร่างท้วม นั่นคือ เบาหวาน ความดันสูง และหลอดเลือดตีบ ผสมกันจนต้องได้รับยาชุดใหญ่เพื่อรักษาอาการให้บรรเทาลง และจะต้องนัดกับหมอเพื่อมารักษาและควบคุมอาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของคุณป้าทันที เนื่องจากที่ได้เล่าไว้ก่อนหน้าแล้วนั่นคือ  

บ้านป้าอยู่ห่างไปจากโรงพยาบาล และงานการประจำอะไรคุณป้าก็ไม่ได้มี เหลือเพียงที่ดินกับบ้านเล็กๆไว้อยู่อาศัย เนื่องจากป้าไม่มีลูกเป็นโสดและหลานคนไหนก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อ ต้องดูแลตัวเองมาตลอด หลังจากเลิกทำงานเป็นลูกจ้างร้านรับซักรีดเสื้อผ้าในเมืองเพราะเริ่มจะนั่งรถเข้าไปทำงานไกลๆไม่ได้ ก็มิได้มีรายได้อะไรเป็นหลักเป็นแหล่ง   หากจะต้องใช้จ่ายในการรักษาดูแลตัวเองทั้งค่ายา ค่าเดินทาง ที่ต้องเอาเงินเก็บตลอดชีวิตออกมาใช้ ไหนจะต้องกังวลว่ายาหรือการรักษาบางอย่างจะอยู่ในขอบเขตยาและการรักษาของการประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือไม่อีก   เรื่องที่เกิดในครั้งนี้ป้าถึงกับบอกว่า เป็นเคราะห์หนักที่สุดในชีวิตแล้ว เพราะไม่เคยไปมีเรื่องอะไรกับใคร อุบัติเหตุใดๆก็ไม่เคยเกิด ใช้ชีวิตเรียบๆง่ายๆ พอเพียงมาตลอดชีวิต   แต่ใครจะคิดว่าในที่สุดเคราะห์ภัยด้านสุขภาพก็มาถามหาในวัยชราที่ไม่สามารถใช้กำลังต่อสู้ฟันฝ่าหาเงินมารักษาตัวเองได้เหมือนแต่ก่อน

หลังจากปรึกษากับหมอว่าจะต้องดูแลตัวเองอย่างไรแล้วรู้ว่าจะต้องมาหาหมออีก และค่ายารักษาในแต่ละครั้งก็ไม่ใช่น้อยๆ รวมถึงค่ายาในครั้งแรกนี้ที่ต้องสำรองจ่ายออกไปก่อน   ป้าจึงคิดว่ายังไงก็ต้องใช้สิทธิรักษาฟรีให้ได้   ไม่งั้นคงล้มละลายหรือต้องขายบ้านและที่ดินแล้วไม่รู้ไปอยู่ไหนในวัยแก่เป็นแน่   ป้าจึงออกไปคุยกับเจ้าหน้าที่ว่ายาที่สั่งวันนี้ขอมารับวันพรุ่งเพื่อจะกลับไปหาบัตรทองมาก่อน   พอเดินทางกลับไปหาที่บ้านก็ไม่พบบัตรทองที่โรงพยาบาลต้องการ แต่อาการเหมือนจะหนักขึ้นทุกที พอจะใช้วิธีที่หมอแนะนำมาเอาตัวรอดได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีชีวิตรอดไหวไปอีกเมื่อไหร่ ถ้าเป็นลมไปในบ้านคนเดียวคงต้องตายเป็นแน่เพราะไม่มีใครดูแล   ป้าจึงกัดฟันไปโรงพยาบาลอีกครั้งโดยเอาบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านไปด้วย   แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเพราะพยายามอธิบายเท่าไหร่ทางโรงพยาบาลก็ปฏิเสธไม่ยอมให้ป้าใช้สิทธิทั้งที่เลขประชาชนในบัตรประจำตัวและทะเบียนบ้านก็มีอยู่   ด้วยความสิ้นหวังไม่รู้จะทำยังไงจึงกลับมาปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านที่รู้จักเห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เห็นว่าเรื่องนี้น่าจะติดต่อเข้ามายังคลินิกกฎหมายซึ่งมีป้ายประชาสัมพันธ์มาติดที่ฝาที่ทำการผู้ใหญ่บ้านพอดี   เรื่องนี้จึงเข้ามาถึงคลินิก

วิเคราะห์ปัญหา

1. การเจ็บป่วยของประชาชนอยู่ในการดูแลของรัฐไทยหรือไม่ ประชาชนมีสิทธิได้รับสวัสดิการด้านสาธารณสุขหรือไม่

2. ประชาชนที่มีอายุมากเกินกว่าจะทำงานได้มีสวัสดิการอื่นใดของรัฐเพิ่มเติมเพื่อเข้ามาเป็นหลักประกันในชีวิตหรือไม่

3. การใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลของประชาชนจะต้องใช้บัตรทองประจำตนเป็นหลักฐานในการรับสิทธิโดยไม่มีข้อยกเว้นหรือไม่   หากบัตรหายแต่ยังมีเอกสารอื่นยืนยันตัวบุคคลจะขอรับสิทธิได้หรือไม่ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน เลขที่ประจำตัวประชาชน

4. ในกรณีฉุกเฉินบุคลากรด้านสาธารณสุขของรัฐปฏิเสธการรักษาประชาชนได้หรือไม่ หากไม่ใช่โรงพยาบาลที่เป็นสถานพยาบาลที่ระบุสิทธิไว้ในหลักประกันถ้วนหน้าของประชาชนคนนั้น

5. หากบัตรหายไป ประชาชนต้องการรับสิทธิรักษาพยาบาลจะมีวิธีการเรียกร้องสิทธิอย่างไรบ้าง

การนำกฎหมายมาแก้ไข

1.  รัฐธรรมนูญรับรองสิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุขของประชาชนทุกคน ป้าเป็นประชาชนที่มีสัญชาติไทยแม้ไม่มีหลักประกันอื่นๆ เช่น ประกันสังคม  แต่อย่างน้อยที่สุดจะอยู่ในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า (รักษาฟรี)

2.  รัฐธรรมนูญรับรองสิทธิของคนชราว่าจะต้องได้รับการประกันสิทธิซึ่งรัฐมีกฎหมายให้เงินอุดหนุนเดือนละ 500 บาท  นอกจากนี้ยังมีการ ยกร่าง พระราชบัญญัติสวัสดิการของผู้ยากไร้ฯ เพิ่มเติมออกมา ซึ่งจะต้องดูว่าเข้าเกณฑ์รับสิทธิหรือไม่ หากเข้าเกณฑ์ก็จะมีสวัสดิการรองรับ

3.  สิทธิด้านสาธารณสุขซึ่งรับรองให้ประชาชนชาวไทยมีสิทธิรักษาพยาบาลนั้น เป็นสิทธิติดตัวของประชาชน บัตรทองเป็นเพียงเอกสารยืนยันสิทธิเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการ   มิใช่สาระสำคัญของสิทธิ   หากมีหลักฐานยืนยันตัวบุคคลได้ เช่น บัตรประชาชน ย่อมมีสิทธิเข้าสู่บริการสาธารณสุข   เจ้าพนักงานไม่มีอำนาจปฏิเสธสิทธิด้วยเหตุแห่งการไม่มีบัตรทอง

4.  หากประชาชนอยู่ในภาวะเจ็บป่วยร้ายแรงต้องได้รับการรักษาฉุกเฉิน แม้ไม่ได้ใช้สิทธิในสถานพยาบาลที่ระบุไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะเสียสิทธิทันที   เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขมีหน้าที่ตามธรรมดาในการป้องกันไม่ประชาชนได้รับอันตราย หากเจตนาปัดภาระไม่ปฏิบัติหน้าที่จนเกิดความเสียหาย จะนำมาซึ่งความรับผิดทางกฎหมาย

ช่องทางเรียกร้องสิทธิ

1.  หากสถานพยาบาลปฏิเสธการรักษา ประชาชนสามารถร้องเรียนหัวหน้าสถานพยาบาลได้

2.  หากไม่เป็นผลให้ร้องไปยังสาธารณสุขระดับพื้นที่เรื่อยไปถึงองค์กรอุทธรณ์ภายในกระทรวงสาธารณสุข

3.  และมาตรการขั้นเด็ดขาด คือ ฟ้องไปยังศาลปกครองเพื่อให้มีคำวินิจฉัย บังคับให้สถานพยาบาลประกันสิทธิรักษาพยาบาลให้กับประชาชน

สรุปแนวทางแก้ไข

                ประชาชนชาวไทยมีสิทธิในการรับบริการสาธารณสุขตามรัฐธรรมนูญ และยังอาจรับสวัสดิการอื่นๆเพิ่มเติมหากเข้าเกณฑ์ของบุคคลผู้ด้อยสิทธิเป็นพิเศษ เช่น คนชรา ผู้พิการ   การเข้ารับสิทธินั้นกระทำได้ยังสถานพยาบาลที่ตนมีรายชื่ออยู่ หากเป็นกรณีฉุกเฉินอาจเข้ารับรักษาที่ใดเพื่อป้องกันอันตรายได้   การขาดไร้บัตรทองไม่ได้ตัดสิทธิในการเข้ารักษาพยาบาล เพราะบัตรทองมิใช่สาระสำคัญแห่งสิทธิ หากมีเอกสารอื่นยืนยันตัวบุคคลได้โรงพยาบาลก็ต้องให้สิทธิรักษาพยาบาล   หากมีข้อขัดแย้งสามารถร้องเรียนไปยังหัวหน้าหน่วยงานและกระทรวงสาธารณสุข   รวมถึงการฟ้องบังคับตามสิทธิในศาลปกครอง

 

 

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
ก่อนหน้านี้สัก 4-5 ปี มีการพูดถึงการพัฒนาประเทศโดยใช้เรื่อง “ความสุขมวลรวมประชาชาติ” (Gross National Happiness - GNH)  มาแทนเป้าหมายด้านการเพิ่ม “ผลผลิตมวลรวมประชาชาติ” (Gross National Product - GNP) โดยมีการหยิบยกกรณี ภูฐาน มาพูดกัน   แต่หลังจากที่มีรายงานข่าวสถานการณ์ความเปลี่ยนแ
ทศพล ทรรศนพรรณ
การท่องเที่ยวถือเป็นกิจกรรมที่ทุกประเทศสนใจและให้ความสำคัญมาก จนมีบรรษัทข้อมูลอย่าง Statista และองค์การท่องเที่ยวระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ ออกรายงานสรุปข้อมูลเป็นประจำทุกปี โดยสามารถถ้าสรุปง่ายๆ คือ 
ทศพล ทรรศนพรรณ
เหตุวินาศกรรมในเมืองหลวงโดยเฉพาะย่านธุรกิจที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของระบบทุนนิยมถือเป็นสิ่งที่รัฐทั้งหลายไม่ปรารถนามากที่สุด เนื่องจากความเสียหายสูงเพราะมีร้านค้าและผู้คนแออัดหนาแน่น แต่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าคือ สภาพจิตใจของผู้คนที่จับจ่ายใช้สอยและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเคยชินในบริเวณนั้น
ทศพล ทรรศนพรรณ
ตั้งแต่มาประกอบวิชาชีพนี้ สิ่งที่เห็น คือ ความเหนื่อยของคนรุ่นใหม่ต้องขยันตั้งใจเรียน ทำโน่นทำนี่ กระตือรือล้น ทะเยอทะยาน ให้ได้อย่างที่ คนรุ่นก่อนคาดหวังพอทำพังก็อยู่ในสภาพใกล้ตาย เพราะถูกเลี้ยงมาแบบ "พลาดไม่ได้"
ทศพล ทรรศนพรรณ
ประเด็นมาแรงของยุคนี้เห็นจะไม่พ้นสตาร์ทอัพนะครับ (Start-Up Business) เนื่องจากเป็นแนวทางที่ใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมทุนนิยมที่รัฐต้องการจะผลักดันประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง หรือการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพาการผลิตสินค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นเพื่อส่งออก มาเป็นการพัฒนาธุรกิจที่มีนวัตกร
ทศพล ทรรศนพรรณ
คนจบมหาวิทยาลัย ทำงานออฟฟิศ คือ กรรมกร?ไร้ตัวตน กว่า พวกเซเล็ปแถมรายได้ต่ำ กว่า คนหาเช้ากินค่ำ หาบเร่แผงลอย รับจ้างอิสระ วิเคราะห์ความคิด สศจ. บทสนทนากับ นิธิ เกษียร ชัดเจน
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนผู้เสียภาษีไม่น้อย คือ ทำไมกองทัพไทยจึงต้องจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” ตอนนี้ และซื้อของ “จีน” ด้วยเหตุใด
ทศพล ทรรศนพรรณ
การศึกษาสายสังคมศาสตร์มนุษย์ศาสตร์ ณ ต่างประเทศของนักศึกษาไทยในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่สังคมไทยต้องตั้งคำถามให้มากว่า เรียนไปเพื่ออะไร เรียนแล้วได้อะไร ความรู้หรือทักษะที่ได้จะเป็นประโยชน์อะไรกับสังคม หรือครอบครัว   เนื่องจากนักเรียนแทบทั้งหมดใช้เงินทุนจากภาษีของรัฐ หรือทุนของครอบครัว&nbs
ทศพล ทรรศนพรรณ
กระแสการนึกย้อนคืนวันแห่งความหลังเมื่อครั้งยังเยาว์วัยในช่วงปี ค.ศ.1990-1999 หรือ ปี พ.ศ.2533-2543 ของผู้คนร่วมสมัยในตอนนี้สะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง
ทศพล ทรรศนพรรณ
รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปีนี้มอบให้แด่ ศาสตราจารย์ชอง ติโรล (Jean Tirole) แห่งมหาวิทยาลัยตูลูส ประเทศฝรั่งเศส    องค์กรให้เหตุผลอย่างชัดเจว่าเป็นผลจาก การวิเคราะห์อำนาจเหนือตลาดของผู้เล่นน้อยรายที่มักจะมีอำนาจเหนือตลาด ประสิทธิภาพของกลไกตลาดจึงเสียหาย และมีข้อเสนอในงานวิจัยของเขา