Skip to main content

จากข่าวที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์กำลังจะยกเลิกการใช้เงินกระดาษทุกแบบไปสู่การใช้เงินดิจิตัล หรือการประกาศใช้ระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ และการระงับข้อพิพาทออนไลน์ ในหลายประเทศ มาจนถึงการผลักดันโครงการดิจิตัลอีโคโนมี่ในประเทศไทย ทำให้เห็นแนวโน้มว่าถนนทุกสายมุ่งสู่โลกไซเบอร์

ต่างจากอดีตที่เคยคิดกันว่าโลกออนไลน์เป็นเพียงโลกสมมติ แยกกับ โลกแห่งความเป็นจริง อะไรที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ไม่เกี่ยวข้องกับโลกภายนอก   แต่เมื่อคนจำนวนมากขึ้นเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและใช้อุปกรณ์สื่อสารเกือบตลอดเวลา   ย่อมทำให้ปริมาณข้อมูลและการเสพสื่อผ่านอุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มตามไปด้วย   โลกไซเบอร์จึงกลายเป็นพื้นที่สำคัญทางธุรกิจจนแม้แต่รัฐยังต้องให้ความสนใจ

การมองว่าโลกออนไลน์เป็นที่เล่นสนุกสนาน เต็มไปด้วย กิจกรรมผ่อนคลายสนุกสนาน เป็นเพียงงานอดิเรก กิจกรรมยามว่าง หรือเรื่องผ่อนคลาย จึงไม่ถูกไปเสียหมดอีกแล้ว เพราะคนใช้อินเตอร์เน็ตด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลายและมีผลกระทบต่อโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมากที่ถูกเช็คอินคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ ไม่ใช่แค่ไทยแต่ชาวต่างชาติด้วย

ปัจจุบันความคิดเห็นและอารมณ์ของ “ชาวเน็ต” หรือ “กระแสโซเชียล”  กลายเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายของธุรกิจจำนวนมาก หากเจอกระทู้ด่า สเตตัสประจาน งานจะเข้าเอาหากแชร์กันไปหลายร้อย   แม้แต่สื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลมาก่อนยังต้องปรับตัวเข้าตอบสนองผู้อ่านที่จ้องหน้าจอมากขึ้นเรื่อยๆ

รัฐต้องปรับตัวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีลักษณะ “ข้ามชาติ” โดยพยายามเว็บไซต์และเนื้อหาของสินค้า บริการ วัฒนธรรมไทยไปเตะตาคนที่นั่งรีวิวข้อมูลสินค้าและบริการในอีกซีกโลก   รวมไปถึงการสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรม และระงับข้อพิพาทเมื่อเกิดความขัดแย้ง   หากต้องการให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเบียดแทรกเข้าไปแข่งขันได้ 

แต่ดูเหมือนว่ารัฐไทยจะกังวลกับกิจกรรมทางการเมืองเกรงว่า “คนนอกประเทศ” จะส่งข้อมูลข่าวสารข้ามแดนมาปลุกระดมประชาชนในประเทศ หรือพูดเรื่องอ่อนไหว แล้วรัฐจะคุมไม่ได้            ซึ่งแน่นอนว่ารัฐต้องการเข้ามาควบคุมกิจกรรมออนไลน์ เช่นเดียวกับสถาบันการเงินที่ต้องการทราบข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชน

แก่นของการปกครองและการบริหารธุรกิจ อยู่ที่ “ข้อมูลข่าวสาร” การทำกิจกรรมทั้งหลายของประชาชน   ซึ่งขุมทรัพย์นั้นคือการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและกิจกรรมของประชาชนเข้าไปรวมอยู่ในฐานข้อมูลของรัฐและบรรษัท นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นจึงต้องรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นให้คนกล้าใช้เน็ตมากขึ้น กับ การไม่ออกนโยบายล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว จนประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้อินเตอร์เน็ต จนปริมาณข้อมูลลดฮวบ

แนวโน้มในโลกปัจจุบันรัฐได้จากการยึดพื้นที่ในโลกแห่งความจริง ควบคุมการปิดถนน เดินขบวน ล้อมสถานที่สำคัญได้ราบคาบ ประชาชนจึงย้ายไปเคลื่อนไหวเรื่องความยุติธรรมทางสังคมไปสู่พื้นที่ไซเบอร์หากไม่ต้องการลงเดินสู่ท้องถนน   ความเป็นไปได้ในการทำกิจกรรมรณรงค์ต่างๆในโลกออนไลน์จึงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคือ “ด้านสว่าง”

ตรงกันข้าม “สายมืด” ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในโลก คือ คนตัวเล็กตัวน้อยได้ใช้ศักยภาพทางเทคโนโลยี แฮค ล้วงข้อมูล ไปจนถึงขั้นทำลายระบบปฏิบัติการ หรือทำให้ระบบอืดช้า ชะงักงัน   ผู้กระทำไม่น้อยอยู่นอกเขตอำนาจรัฐเป้าหมาย ซึ่งยากต่อการติดตามดำเนินคดีทางกฎหมาย

สิ่งที่มีร่วมกันของสายมืดและด้านสว่าง ก็คือ มีแรงจูงใจบางอย่างที่ถูกกระตุ้นโดยความรู้สึกอยุติธรรมต่ออะไรบางอย่าง เช่น นโยบายของรัฐที่เบียดขับพวกตน เข้ามายุ่งวุ่นวายชีวิตส่วนตัว หรือขัดขวางการติดต่อสื่อสารของตนกับคนอื่นในโลกเสมือน   นำไปสู่การตอบโต้ด้วยความรุนแรงในแบบที่ตนถนัดข้างต้น

ทางแยกของการวางแผนทางธุรกิจและการปกครอง คือ หากต้องการสร้างรัฐและระบบเศรษฐกิจที่อิงกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ ก็ต้องวางระบบรักษาความมั่นคงและปกป้องข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในฐานด้วย

การป้องกันระบบด้วยมาตรการเฝ้าระวังอาชญากร ผู้ก่อการร้าย โดยเหวี่ยงแหตั้งระบบสอดส่องประชาชนไปทั่ว นั้นมีประสิทธิภาพต่ำทั้งในแง่ข้อจำกัดเชิงทรัพยากร และยังทำให้ปริมาณข้อมูลท่วมทับยากเกินจับตาเพราะสิ้นเปลืองเวลา กำลังคน งบประมาณ มาก   ไม่ว่าจะให้มีการจดทะเบียนหรือลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างไรก็มิอาจสกัดการโจมตีได้หมด เป็นเพียงการเพิ่มความสามารถในการติดตามหลังเกิดปัญหาแล้วเท่านั้น

แถมใช้ไม่ได้กับ อาชญากร ผู้ก่อการร้าย “ข้ามชาติ”

ดังนั้นวิธีการป้องกันการโจมตีล่วงหน้าจึงอยู่ที่การลดแรงจูงใจของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมิให้ปรารถนาโจมตีระบบ หรือกระตุ้นให้ต้องการพิทักษ์รักษาระบบต่างหาก เพราะมักมีเซียนขั้นเทพซ่อนตัวอยู่นอกการควบคุมของรัฐและบรรษัทเสมอ อยู่ที่ว่าจะทำให้เขาต้องการใช้ศักยภาพไปในทิศทางใด 

อินเตอร์เน็ตคือเทคโนโลยีที่ฝ่ายความมั่นคงออกแบบสร้างมาเพื่อกระจายความเสี่ยง กล่าวคือ การกระจายข้อมูลชุดตั้งต้นให้กระจายไปอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ต่างสถานที่ หากมีการโจมตีจากใครก็ตามข้อมูลที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์บางเครื่องอาจหายไปพร้อมกับระบบที่ถูกถล่ม แต่ก็ยังคงมีข้อมูลชุดอื่นที่กระจายไปในอีกหลายเซิร์ฟเวอร์

การรักษาความมั่นคง จึงต้องอยู่บนกระจายความเสี่ยง ทั้งการออกแบบระบบให้มีเส้นทางไหลเวียนข้อมูล “มากกว่าหนึ่ง” และเลี่ยงนโยบายที่เรียกแขกจากทั่วทุกมุมโลกมาโจมตี

การแหย่รังแตนที่ไม่เห็นตัว และไม่มีเครื่องมือในการจับ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อรัฐเอง และยังสร้างผลสะเทือนไปสู่ประชาชนทั่วไปด้วย

 

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
หากสังคมไทยมีแนวโน้มจะเป็น สังคมทุนนิยม องค์กร สถาบัน จารีต ต่างๆ เสื่อมลง คนสัมพันธ์ผ่านระบบตลาด แคร์คนอื่นน้อยลง ขาดสำนึกร่วมในความอยุติธรรมทางสังคม หรือ มีสำนึกเชิง “ปัจเจก” มากขึ้นเรื่อยๆ
ทศพล ทรรศนพรรณ
อาจจะดูแปลกประหลาดไปสักหน่อยสำหรับบางท่านเมื่อพูดว่ากฎหมายได้รับรอง “สิทธิที่จะพักผ่อน” ไว้เป็นสิทธิมนุษยชนประการหนึ่ง เพราะคนไทยถือว่าการขยันตั้งใจทำมาหากินหามรุ่งหามค่ำเป็นศีลธรรมอันดีงามประเภทหนึ่งที่ต้องยึดถือปฏิบัติ หรือต้องแสดงออกให้สังคมเห็นเป็นประจักษ์ และสังคมก็ยกย่องบุคคลสำคัญโดยพิจารณา
ทศพล ทรรศนพรรณ
การลดช่องว่าง ด้วยการใช้อำนาจทางการเมืองมาจัดการเศรษฐกิจรัฐสวัสดิการ สร้างความมั่นคงขจัดความขัดแย้งด้วยแนวทางเจือจานบนพื้นฐานของภราดรภาพป้องกันการลุกฮือของมวลชน 
ทศพล ทรรศนพรรณ
มหกรรมฟุตบอลโลกจบลงไปแล้วด้วยชัยชนะของกองเชียร์ฝ่ายสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะกลุ่มสนับสนุนสิทธิของผู้อพยพ เนื่องทีมแชมป์โลกเป็นการรวมตัวของนักฟุตบอลที่มิได้มีพื้นเพเป็นคนฝรั่งเศส (พูดอย่างถึงที่สุด คือ มิได้มีบุพการีที่เกิดในดินแดนฝรั่งเศส)
ทศพล ทรรศนพรรณ
พอมาอยู่ที่ยุโรป ถึงได้รู้ว่า อิตาลี กับ สเปน มันไม่แคร์เรื่อง ขาดดุลตัวเลขเลย เพราะมันเอาไปลงทุนไว้กับคน รอถอนทุนคืน
ทศพล ทรรศนพรรณ
การเลือกตั้งท้องถิ่นในแคว้นคาตาลุนญ่า ราชอาณาจักรสเปน จะเกิดขึ้นในวันที่ 27 กันยายน 2015 ก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศสเปนประมาณ 2 เดือน ความตื่นตัวของประชาชนสูงเพราะอยู่ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบกันไปทั่ว
ทศพล ทรรศนพรรณ
เกษตรพันธสัญญาที่ดี มีการสร้างความร่ำรวยให้กับเกษตรกรจำนวนมาก ลดความไม่แน่นอนในการผลิตและประกันว่ามีตลาดขายสินค้าแน่นอน หากมีปัญหาระหว่างการเพาะปลูก/เลี้ยงสัตว์จะมีการแบ่งรับความเสียหายกับบรรษัท นั้นมีจริง
ทศพล ทรรศนพรรณ
ผลิตบนหลักการอย่างหนึ่ง เช่น ทำกำไรจากกิจการอะไรที่ให้เงินเยอะ ไม่คำนึงถึงชีวิตเพื่อนมนุษย์หรือสิ่งแวดล้อมบริโภคบนหลักการอีกอย่างหนึ่ง เช่น การอุดหนุนสินค้าที่โฆษณาว่าห่วงใยสังคม หรือแสดงออกว่าเสพกิจกรรมการกุศลอาการ พร่องความดี
ทศพล ทรรศนพรรณ
การพัฒนาชนบทถือเป็นภารกิจของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ยุคต้านภัยคอมมิวนิสต์ที่ต้องการขจัดภัยคุกคาม ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่กันดารให้มี น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก เพื่อขับไล่พวกที่ปลุกระดมโดยอาศัยความแร้นแค้นเป็นข้ออ้างให้ฝ่อไปเพราะเชื่อว่าเมื่อ “การพัฒนา” มาถึง คอมมิวนิสต์ก็จะแทรกซึมไม่ได้
ทศพล ทรรศนพรรณ
กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ ผมได้ตกเป็นเหยื่อ "ความมักง่าย" เข้าแล้วครับท่านผู้อ่าน
ทศพล ทรรศนพรรณ
            ความสัตย์ซื่อและยึดถือกฎหมายด้วยศรัทธาอย่างแรงกล้า            มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสำนักกฎหมายบ้านเมือง ว่า คำสั่งทั้งหลายของรัฐาธิปัตย์ถือเป็นกฎหมายอย่างเด็ดขาด