Skip to main content

เสียงไก่ขันสลับกับเสียงกลองจากวัดบนภูเขาดังกระชันถี่ขึ้น เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่ายามเช้าใกล้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ในรอบหนึ่งเดือน เสียงกลองยามเช้าจากวัดจะดังอยู่ ๘ ครั้งต่อเดือน เพื่อเป็นสัญญาณบอกให้ชาวบ้านรู้ว่า ‘วันนี้วันพระ’


เมื่อลองมาไล่เรียงตัวเลขบนปฏิทินก็รู้ว่า วันนี้เป็นวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ในทางพุทธศาสนาแล้ว วันนี้ถือเป็นวันก่อเกิดสิ่งมหัศจรรย์ ๓ อย่างพร้อมกัน คือวันนี้เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นปฐมบทแห่งศาสนาพุทธ


ไก่ขันครั้งสุดท้ายล่วงเข้ามา หลายบ้านเริ่มตื่นขึ้นมาก่อไฟหนึ่งข้าว และทำอาหารเช้า พอพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าได้ไม่นาน ทิวแถวของผู้คนในหมู่บ้านก็เดินตามกันขึ้นไปตามทางเดินอันไปสู่ลานวัด ในมือของแต่ละคนมีกระติ๊บข้าวเหนียว และอาหาร บางคนมีดอกไม้ และน้ำสำหรับนำไปกรวด เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปหาเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย บนบ่าของแต่ละคนจะมีผ้าสไบขนาดกว้างประมาณ ๒ คืบพาดเฉียงเอาไว้ทั้งชายหญิง ใบหน้าของแต่ละคนอิ่มเอิบ ในทิวแถวของชาวบ้านที่เดินขึ้นไปบนวัด ใช่ว่าจะมีแต่คนในหมู่บ้านเท่านั้น ยังมีชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่นๆ อยู่ในกลุ่มของชาวบ้านทั้งหมดด้วย


ในความเป็นจริงแล้ว วัดแห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว แต่วันนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ พระในวัดจึงเพิ่มขึ้นมาอีก ๕ รูป ความพิเศษของวันนี้จะมีขึ้นหลังพระฉันภัตตาหารเช้าเสร็จสิ้น เพราะในตอนสายของวันนี้ ชาวบ้านจะได้ร่วมกันจัดงาน ‘บวชน้ำ สร้างวังสงวน’


บวชน้ำ’ เมื่อได้ฟังคำนี้ครั้งแรกความฉงนสนเท่ห์ก็ตามมา เพราะไม่เคยได้ยินมาสักครั้งเลยว่าแม่น้ำทั้งสายสามารถบวชได้เช่นเดียวกับคน แต่ความฉงนสนเท่ห์อยู่ได้ไม่นาน คำเฉลยเพื่อคลายความสงสัยก็เกิดขึ้น เมื่อแนวโฮมของหมู่บ้าน และนายบ้านได้นั่งถกเถียงกันเรื่องนี้


อาจารย์อยู่วัดเพิ่นเว้าว่า ท่าเฮาจะบวชน้ำนี่ เฮาต้องยกสิม (อุโสถ) ลงไปไว้ในน้ำ พระก็ต้องมี ๑๒ ตนขึ้นไป ท่าจั่งซั่นมันสิบวชบ่ได้” แนวโฮม (ผู้อาวุโสและเป็นที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้าน) ออกความเห็นพร้อมกับเล่าเรื่องที่พระอาจารย์ที่วัดฝากมาถามนายบ้าน

มันบ่มันบวชแนวนั้นหนา คือเอาเพิ่นมาสูดเจริญพระพุทธมนต์ เพราะท่าเฮาสิบวชแท้มันกะบ่ได้ แต่นี่เฮาเอาเพิ่นมาสูด และกะให้ศีลให้พร ท่าเอาอาจราย์มาสูดแล้วคนมันกะสิย้าน บ่กล้ามาเฮ็ดหยังกับบ่อนที่เฮาบวช” นายบ้าน (ผู้ใหญ่บ้าน) อธิบาย

ท่าจั่งซั่นกะฮู้แล้ว เดียวสิได้ขึ้นไปบอกพระอาจารย์เพิ่น”

23_7_01


จากคำตอบที่ได้รับมาการ ‘บวชน้ำ’ ในความหมายของชาวบ้านแตกต่างจากการบวชเป็นพระในพุทธศาสนา เพราะการบวชน้ำไม่ต้องมีการเสพงัน ไม่มีการไปอยู่วัด เพื่อเป็นนาค ไม่มีไตรจีวร การบวชน้ำในความหมายของชาวบ้านคือ การร่วมกันอุปโลกน์พื้นที่แห่งใดแห่งหนึ่งในแม่น้ำให้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ และพื้นที่แห่งความเคารพนับถือ ความเชื่อของคนทั้งหมู่บ้าน


ทำไมต้องบวชน้ำ?” ใครบางคนเอ่ยถามนายบ้าน หลังร่วมกันกินข้าวสามัคคีในตอนเย็นแล้วเสร็จ

เฮาต้องบวช พอบวชน้ำแล้ว ซาวบ้านเพิ่นสิเคารพนับถือ มันคือกับเฮาบวชคนให้เป็นพระ พอบวชเป็นพระแล้ว คนกะให้ความเคารพนับถือ”


23_7_02


บางทีการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ก็ก้าวไปสู่กฏเกณฑ์ใหญ่ๆ เช่นกันพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้เมื่อมีการบวชแล้ว และชาวบ้านให้ความเคารพก็จะไม่มีผู้ใดจะเข้าไปทำอะไรไม่ดีในพื้นที่แห่งนั้น เพราะหากใครทำก็จะเป็นบาปติดตัวไป


หลังชาวบ้านกลับลงมาจากวัด คนหนุ่มสาวของหมู่บ้านได้พากันมาขนของขึ้นใส่รถ ทั้งเก้าอี้ โต๊ะ ถ้วย จาน ชาม และหม้อแกง รถไถนาเดินตามดัดแปลงแบบนั่งขับส่งเสียงคำรามก้อง ก่อนที่คนขับจะหักพวงมาลัยพารถเลี้ยวออกสู่ถนนไปสู่บริเวณจัดงาน


ก่อนที่คนหนุ่มสาวจะมาช่วยกันขนของ คนเฒ่า แนวโฮม เฒ่าจ้ำได้เดินทางออกไปบริเวณจัดงานล่วงหน้าแล้ว เพื่อบอกกล่าวให้เจ้าที่รับรู้ว่า วันนี้ชาวบ้านจะได้จัดงานขึ้นที่บริเวณแห่งนี้ เมื่อเฒ่าจ้ำจุดเทียนบอกกล่าวเจ้าที่เสร็จ เหล้าขาว หมากพูลก็ถูกนำมาวางไว้ข้างกัน


ตะวันสายโด่งขึ้นมาแล้ว เสียงประกาศเชิญชวนให้ชาวบ้านออกเดินทางไปยังบริเวณพิธีดังแว่วมา สิ้นเสียงประกาศได้ไม่นาน ชาวบ้านก็ทยอยกันไปสู่บริเวณงาน หลายคนในหมู่บ้านได้รับมอบหมายหน้าที่แตกต่างกันออกไป กลุ่มสาวหนุ่มได้รับหน้าที่ดูแลแขกที่มาร่วมงาน กลุ่มปกส.บ้านมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ในมือปกส.บ้านจึงมีอาวุธอยู่ในมือดูน่าเกรงขาม ส่วนเฒ่าแก่ แนวโฮมได้รับหน้าที่ให้ดูแลพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนรองนายบ้านคนที่ ๑ ได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการตลอดงาน ดูเหมือนว่างานนี้จะเป็นงานแรกของรองนายบ้าน เพราะเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา แกเพิ่งเสร็จจากการอบรมวิธีการพูด และการเป็นพิธีกร


สถานที่บวชน้ำห่างออกมาจากหมู่บ้านประมาณ ๓๐๐ เมตร ชาวบ้านเรียกว่า ‘วังคกห้วยก่อง –คก หมายถึง บริเวณที่เว้าเข้าไปในริมฝั่งแม่น้ำมีขนาดลึก และเป็นที่วางไข่ของปลา คกเป็นหนึ่งในระบบนิเวศของแม่น้ำโขง’ ที่มาที่ไปของชื่อคกแห่งนี้ นายบ้านบอกว่า ถามผู้เฒ่าผู้แก่ก็ไม่ค่อยรู้ แต่หลายคนบอกว่าเรียกตามที่คนไทยมาตั้งไว้ เพราะบริเวณแถบนี้เคยมีคนไทเลยมาอาศัยอยู่ก่อน


พูดถึงการอพยพเคลื่อนย้ายเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้ ใช่ว่าจะมีแต่คนไทยที่เข้ามาอยู่ก่อน หลังคนไทยกลุ่มแรกที่มาตั้งถิ่นฐานเคลื่อนย้ายกลับข้ามไปยังฝั่งขวาแม่น้ำโขงแล้ว ชาวบ้านปากส่วนจากบ้านปากเซือม แขวงหลวงพระบางก็อพยพเคลื่อนย้ายหนีภัยสงครามฝรั่งมาอยู่เป็นกลุ่มถัดมา ในช่วงเริ่มแรกของการตั้งหมู่บ้าน คนไม่มากมีบ้านเพียง ๖ หลัง ตั้งกระจายไปตามลำห้วยหาง จากนั้นก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จนกลายมาเป็นหมู่บ้านที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการว่า บ้านห้วยหาง อยู่ในเขตปรกครองของเมืองสังข์ทอง แขวงนครหลวงเวียงจัน หลังขึ้นตรงกับเขตการปกครองเมืองสังข์ทอง บ้านห้วยหางก็กลายเป็นหมู่บ้านสุดท้ายในเขตปกครองของเมืองสังข์ทองที่เชื่อมต่อกับเขตปกครองของเมืองสานคามไปโดยปริยาย ปัจจุบันบ้านห้วยหางมี ๘๘ หลังคาเรือนมีประชากร ๒๑๕ คน มีโรงเรียนที่สอนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ๑ แห่ง มีวัด ๑ แห่ง และในวัดมีพระจำพรรษา ๑ รูป บ้านห้วยหางอยู่ตรงข้ามกับบ้านห้วยเหียม บ้านปากครอบ และบ้านคกเว้า ตำบลหาดคำภีร์ อำเภอปากชม จังหวัดเลยในทางฝั่งไทย


เมื่อต่างหน้า (ตัวแทน) ของทางเจ้าเมือง (นายอำเภอ) เดินทางมาถึง พิธีการบวชน้ำจึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เสียงพระสงฆ์สวดมนต์ดังขึ้นมาจากตลิ่งริมแม่น้ำสิ้นสุดลงเอาเมื่อพิธีเริ่มดำเนินไปได้ร่วม ๒ ชั่วโมง หลังเสร็จพิธี พระสงฆ์ ๑ รูป และเฒ่าแก่แนวโฮมอีก ๔-๕ คนก็เดินนำหน้าพระไปยังริมแม่น้ำ เพื่อปล่อยปลาดุกลงสู่แม่น้ำ เพื่อเป็นหมุดหมายแรกว่า การบวชน้ำ และสร้างวังสงวนได้ผ่านพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จสิ้นแล้ว


ภายหลังเมื่อพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จสิ้นลง รองนายบ้านก็ได้กล่าวแนะนำแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งส่วนมากมาจากกลุ่มท้อนเงิน (กลุ่มออมทรัพย์) ภายใต้การนำพาของโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้หญิง สหพันธ์แม่ญิงลาวของหลายหมู่บ้านในเมืองสังข์ทอง รวมทั้งต่างหน้า (ตัวแทน) ของท่านเจ้าเมืองสังข์ทอง


ผ้าแพรสีแดงคลุมป้ายขนาดใหญ่ค่อยๆ เลื่อนออกจากกัน เสียงลูกโป่งแตกดังขึ้น นิมิตรหมายแห่งพิธีการทางฆาราวาสก็ได้เริ่มขึ้นเช่นกัน บนป้ายไม้ดู่ขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่หลังผ้าแพรสีแดง มีข้อความเขียนเอาไว้ว่า กฏระเบียบเขตวังสงวนคกห้วยก่อง


วังสวงน’ หมายถึงเขตอนุรักษ์พันธ์ปลาที่ชาวบ้านร่วมกันจัดตั้งขึ้น

พีธีการต่างๆ ได้สิ้นสุดลงเมื่อเวลาล่วงเข้าไปเกือบเที่ยง ในที่สุดเวลาที่หลายคนรอคอยก็มาถึง เมื่อพาบายศรีถูกยกออกมาวาง และการบายศรีสู่ขัวญก็เริ่มขึ้น เมื่อการบายศรีสู่ขัวญจบลงวงข้าวสามัคคีจึงถูกจัดขึ้นพร้อมกับเสียงขับทุ่มหลวงพระบาง ด้วยสำเนียงคนหลวงพระบางดั้งเดิมที่คลอไปกับเสียงระนาด เสียงกลอง และเสียงซ้อ


ต่อไปมื้อหน้าแต่ละบ้านฮิมน้ำของอยู่เมืองสังข์ทองนี่ต้องมีวังสงวนทั้งเหมิด บ่ซั่นมื้อหน้าลูกหลานสิบ่มีปลากิน”


เอื้อยจากกลุ่มท้อนเงินบางคนเอ่ยออกมา ขณะการเดินทางจากกันเพื่อไปสู่เป้าหมายต่อไปของแต่ละคนได้เริ่มต้นขึ้นในตอนบ่ายคล้อย...

 

 

บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
 แม่น้ำโขงจากหลังคาโลกสู่ทะแลจีนใต้แม่น้ำโขงได้รับการจัดอันดับว่าเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ ๑๐ ของโลกครอบคลุมพื้นที่ ๖ ประเทศคือ จีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม มีผู้คนมากกว่า ๖๐ ล้านคนได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้ในด้านต่างๆ ทั้งทำการประมง ทำการเกษตร การขนส่ง และการคมนาคม แม่น้ำโขงตอนบนมีลักษณะลาดชันไหลผ่านช่องเขาที่แคบเป็นแนวยาว แม่น้ำโขงตอนบนได้รับน้ำจากการละหายของหิมะเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่แม่น้ำโขงตอนบนอยู่ในเขตปกครองตนเองของทิเบต และจีนแม่น้ำโขงในส่วนตอนกลางมีลักษณะเป็นแก่ง และมีหน้าผาสูงอยู่ในแม่น้ำและตามริมฝั่ง ระดับน้ำในฤดูน้ำหลากและฤดูแล้งจะมีความแตกต่างกันถึง ๒๐ เมตร…
สุมาตร ภูลายยาว
การเรียกชื่อของสถานที่ใดสถานที่หนึ่งในแม่น้ำสายใดสายหนึ่งล้วนแตกต่างกันออกไปตามแต่ภาษาของคนท้องถิ่นนั้นๆ แต่ชื่อหลักที่ผู้คนทั่วไปรู้จักคงไม่ผิดแปลกกันนัก แม้ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของแม่น้ำจะแตกต่างกันไปตามภาษาถิ่น และความเชื่อของคนท้องถิ่น ในแม่น้ำโขงเองก็เช่นกัน มีสถานที่หลายแห่งที่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงบนพรมแดนไทย-ลาวได้เรียกชื่อของสถานที่เหล่านั้นทั้งเหมือนกัน และแตกต่างกัน คอนผีหลงก็เช่นกัน คณะผู้สำรวจจากประเทศจีนอ้างอิงเอาตามคำเรียกชื่อของแก่งนี้ตามคนลาวท้องถิ่นในบริเวณนั้นว่า ‘คอนผีหลวง’ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนลาวเรียกว่า ‘คอนผีหลงไม่ใช่คอนผีหลวง’ คำว่า ‘คอน’ ในพจนานุกรม…
สุมาตร ภูลายยาว
ไม่ว่าจะในแม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง หรือท้องทะเล ทุกหนแห่งที่กล่าวมาล้วนมีคนกลุ่มหนึ่งอาศัยพึ่งพามาตลอด เรียกได้ว่าเมื่อนึกถึงแม่น้ำ เราก็จะนึกถึงคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกๆ นอกจากนึกถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ... เรากำลังกล่าวถึงคนกลุ่มหนึ่งที่ผู้คนทั่วไปรู้จักพวกเขาในนาม ‘คนหาปลา’ เมื่อกล่าวถึงคนกลุ่มนี้คงไม่ต้องอธิบายมากว่า พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการทำอาชีพอะไร แต่เมื่อเพ่งพิศลงไปในอาชีพ และวิถีทางแห่งการดำรงอยู่ของพวกเขา เราจะพบว่า การดำรงตนด้วยการหาปลานั้นเป็นสิ่งยากยิ่ง แน่ละ มันมีหลายเหตุผลที่จะกล่าวเช่นนี้ เหตุผลอย่างที่หนึ่ง เมื่อเราจะออกสู่แม่น้ำ ลำคลอง…
สุมาตร ภูลายยาว
คนทำเรือแห่งแม่น้ำมูนหากเปรียบ ปู ปลาคือผลผลิตจากนาน้ำของคนไม่มีนาโคก เรือก็คงไม่ต่างอะไรจากรถไถนา ‘เรือ’ คำสั้นๆ แต่ดูเปี่ยมด้วยความหมายยิ่งใหญ่สำหรับผู้คนริมฝั่งน้ำ นอกจากจะใช้เป็นพาหนะในการเดินทางแล้ว ยังใช้ในการหาปลาอีกด้วย เรือในแม่น้ำย่อมมีขนาดแตกต่างกันออกไป แม่น้ำใหญ่เรือก็ใหญ่ แม่น้ำเล็กเรือก็ลำเล็ก นอกจากขนาดของเรือในแต่ละแม่น้ำจะแตกต่างกันออกไปแล้ว ท้องเรือที่จมอยู่ในแม่น้ำยังแตกต่างกันออกไปด้วย เรือในแม่น้ำสาละวินท้องเรือมีลักษณะแบน แต่เรือในแม่น้ำโขงท้องเรือมีลักษณะเรียวแหลมคล้ายสิ่วเจาะไม้
สุมาตร ภูลายยาว
ในสมัยก่อนคนพื้นถิ่นแถบแม่น้ำของ หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันว่าน้ำโขง มีการใช้เรือในแม่น้ำของเพื่อการคมนาคมและขนส่งสินค้า ซึ่งสินค้าของคนพื้นถิ่นแถบอำเภอเชียงของและเวียงแก่นก็จะมีทั้ง เกลือ ข้าว และสินค้าอื่นๆ เพื่อค้าขายและเปลี่ยนกับฝั่งลาวและคนต่างถิ่น การค้าทางน้ำในแม่น้ำของนั้นมีมานานหลายชั่วคน นอกจากประโยชน์ในการบรรทุกสินค้าแล้ว คนท้องถิ่นยังใช้เรือในการหาปลา ซึ่งก่อนที่คนหาปลาจะหันมาใช้เรืออย่างทุกวันนี้ คนหาปลารุ่น ๗๐ ปีขึ้นไปที่หาปลาในแม่น้ำของในอดีตใช้แพไม้ไผ่เพื่อหาปลา พ่ออุ้ยผุย บุปผา อายุ ๗๖ ปี ชาวบ้านปากอิงใต้เล่าว่า “แต่ก่อนตอนพ่อเป็นหนุ่ม…
สุมาตร ภูลายยาว
ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคนไทยจำนวนไม่น้อยคงได้ดีใจกับเหรียญทองเหรียญแรกในกีฬาโอลิมปิก แต่ในความดีใจนั้นก็มีความเศร้าใจปะปนมาด้วย และความเศร้าใจก็เดินทางมาพร้อมกับความสูญเสียจำนวนมหาศาลที่คิดเป็นมูลค่าของเงินแล้วไม่ตำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ความเศร้าใจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์น้ำโขงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน และที่สวนไร่นาจำนวนมหาศาล ที่บอกว่าเหตุการณ์อันกำลังเกิดขึ้นเป็นความเศร้าใจนั้น เพราะพืชผลทางการเกษตรจำนวนไม่น้อยกำลังอยู่ในช่วงรอการเก็บเกี่ยวผลิต บ้างก็กำลังเริ่มให้ผลผลิต ในจำนวนผู้คนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ดูเหมือนว่าในส่วนของประเทศไทย…
สุมาตร ภูลายยาว
๑.แม่น้ำสาละวินและระบบนิเวศแม่น้ำ -บทพูด- -มีคนบรรยายเกิ่นนำเรื่องแม่น้ำสาละวิน แม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำนานาชาติสายหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำเนิดจากการละลายของหิมะในธิเบตแล้วไหลผ่านประเทศจีน,ไหลเข้าเขตรัฐฉาน,รัฐคะยาห์ และไหลเรื่อยมาเป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-พม่ารวมระยะทาง ๑๑๘ กิโลเมตร ก่อนจะสิ้นสุดพรมแดนไทย-พม่าที่บ้านสบเมย หลังจากนั้นแม่น้ำสาละวินก็จะไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดียที่อ่าวเมาะตะมะบริเวณเมืองเมาะลำเลิงหรือมะละแหม่งของรัฐมอญ รวมระยะทางทั้งสิ้น ๒,๘๐๐ กิโลเมตร แม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับที่ ๒๖ ของโลก สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว…
สุมาตร ภูลายยาว
 ๑.ภาพเปิดก่อนนำเข้าสู่เรื่องราวทั้งหมด            -ภาพของเด็กๆ กำลังเล่นน้ำ            -ภาพของคนกำลังหาปลา            -ภาพของงานวัฒนธรรม            -ภาพของเรือจีน            -ภาพเรือหาปลาในลาว / ภาพเรือรับจ้างขนของ / เรือโดยสาร            -…
สุมาตร ภูลายยาว
เสียงไก่ขันสลับกับเสียงกลองจากวัดบนภูเขาดังกระชันถี่ขึ้น เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่ายามเช้าใกล้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ในรอบหนึ่งเดือน เสียงกลองยามเช้าจากวัดจะดังอยู่ ๘ ครั้งต่อเดือน เพื่อเป็นสัญญาณบอกให้ชาวบ้านรู้ว่า ‘วันนี้วันพระ’ เมื่อลองมาไล่เรียงตัวเลขบนปฏิทินก็รู้ว่า วันนี้เป็นวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ในทางพุทธศาสนาแล้ว วันนี้ถือเป็นวันก่อเกิดสิ่งมหัศจรรย์ ๓ อย่างพร้อมกัน คือวันนี้เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นปฐมบทแห่งศาสนาพุทธ ไก่ขันครั้งสุดท้ายล่วงเข้ามา หลายบ้านเริ่มตื่นขึ้นมาก่อไฟหนึ่งข้าว และทำอาหารเช้า พอพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าได้ไม่นาน…
สุมาตร ภูลายยาว
สุมาตร ภูลายยาว เฆมฝนสีดำทะมึนฉาบไปทั่วทิศทาง เรือหาปลาลำเล็กหนึ่งลำ และเรือลำใหญ่สองลำค่อยๆ เคลื่อนออกจากฝั่งริมแม่น้ำ เพื่อลอยลำไปยังเบื้องหน้าแท่งคอนกรีตอันเป็นสัญลักษ์ของความชั่วร้ายในนามการพัฒนามาหลายปี เมื่อเรือไปถึงกลางแม่น้ำ คนบนเรือค่อยๆ คลี่ผ้าขาวที่ห่อหุ้มถ่านเถ้าเบื้องหลังความตายแล้วปล่อยถ่านเถ้านั้นไหลลอยไปกับสายน้ำริมฝั่งดอกไม้ทั้งดอกจำปา ดอกเข็มแดง ดอกดาวเรือง ต่างเข้าแถวเรียงรายกันไหลไปตามแม่น้ำ หลังจากมันถูกปล่อยออกจากกรวยใบตองในมือคนริมฝั่ง ถัดออกไปจากริมฝั่งพ่อทองเจริญกับพ่อดำ ได้พาชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปขอขมาแม่น้ำ…
สุมาตร ภูลายยาว
สำเนียงภาษาอีสานจากหนังเรื่อง ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ฉุดให้ผมคิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับหนังขึ้นมาอีกครั้ง ผมตั้งใจเอาไว้หลายครั้งแล้วว่า อยากจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ซ่อนอยู่ในเนื้อในหนังอันเป็นเรื่องราวที่ผู้กำกับหนังคนนั้นๆ ต้องการอยากให้เราเห็น ฉากทุกฉากที่ปรากฏอยู่ในหนังแทบทุกเรื่อง ล้วนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือความจงใจที่ผู้กำกับต้องการอยากให้เราเห็นในสิ่งที่เขาเห็น เขาจึงได้ใส่มันเข้าไปในหนัง หลังจากดู ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ จบ ผมก็มานั่งนึกว่าตัวเองได้ดูหนังอะไรบ้างที่พูดถึงแม่น้ำโขง หรือมีชาวโขงเข้าไปโลดเล่นอยู่บนจอสีขาวในโรงหนัง…
สุมาตร ภูลายยาว
‘นายน้ำ’ เป็นคำเรียกคนขับเรือที่คนลาวใช้เรียกกัน กี่ชั่วอายุคนมาแล้วก่อนที่เราจะมีถนนใช้ แม่น้ำคือถนนชนิดหนึ่งในระหว่างทางที่เรือล่องขึ้น-ลงในแม่น้ำ ยากจะคาดเดาได้ว่า บรรพบุรุษของนายน้ำคนแรกเป็นใคร บนนาวาชีวิตที่ล่องไปบนสายน้ำกว้างใหญ่ และไหลเชี่ยว ชีวิตของพวกเขาล้วนฝากไว้กับบางสิ่งบางอยางที่บางคนเรียกมันว่าชะตากรรมบ่อยครั้งที่ล่องเรือไปบนสายน้ำ เราล้วนแต่ต้องค้อมคารวะหัวใจอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา เมื่อเดินทางสู่ฝั่ง หากมองทะลุลงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ อะไรคือหมุดหมายที่ฉุดรั้งพวกเขาให้มุ่งหน้าสู่เส้นทางที่มองทางไม่เห็นทางเช่นนี้ในบรรดานายน้ำที่มีอยู่มากมาย พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นนายของน้ำ…