Skip to main content

โศกนาฏกรรมสองฝั่งน้ำ


มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสายน้ำเรื่องหนึ่งที่ผู้เฒ่าปกากะญอ มักเล่าให้ลูกหลานฟังอยู่เสมอ เรื่องเล่าเรื่องนี้มีอยู่ว่า


นานมาแล้วมีเจ้าเมืององค์หนึ่งจะตึกแค-กั้นน้ำ เพื่อจับปลาในแม่น้ำสาละวิน ให้ลูกที่อยากกิน ปลาตัวนี้ใหญ่มาก ส่วนหัวของปลาอยู่โจโหละกุย-วังน้ำใหญ่อยู่ในเขตสาละวินตอนกลาง ลำตัวของปลายาวลงไปตามลำน้ำ ส่วนหางอยู่ที่แจแปนทีลอซู แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ชาวบ้านชาวเมืองตกอกตกใจ เพราะหากว่าเลือดหรือน้ำมันจากปลาตัวนี้ไหลลงพื้นดินเมื่อใด แผ่นดินก็จะลุกเป็นไฟ


เมื่อชาวบ้านทราบข่าวก็เกิดความกังวลว่า เมื่อน้ำท่วมบ้านแล้วไม่รู้ว่าจะหนีไปอยู่ที่ไหน หลังจากความเป็นห่วงของชาวบ้านแพร่ออกไปจากปากสู่ปาก มารชื่อมะกอลี ก็ทราบเรื่อง จึงขออาสามาขัดขวางการตึกแคของเจ้าเมือง โดยครั้งแรกมารมะกอลีไปบอกท่านเจ้าเมืองว่า ลูกตาย ช่วยไปทำศพให้หน่อย เจ้าเมืองซึ่งกำลังจะกั้นน้ำอยู่ก็ตอบกลับมาว่า ลูกตายไปก็มีลูกใหม่ได้


เมื่อพูดจบเจ้าเมือง ก็เริ่มทำงานของตนต่อไปไม่สนใจเจ้ามารมะกอลี หลังจากเห็นว่าเจ้าเมืองไม่สนใจ มารมะกอลีก็จากไป แต่จากไปไม่นานก็กลับมาใหม่แล้วบอกกับเจ้าเมืองว่า เมียตายช่วยไปทำศพให้หน่อยเถิด เจ้าเมืองก็ตอบกลับมาว่า เมียตายก็หาเมียใหม่ได้ แล้วเจ้าเมืองก็กั้นน้ำต่อไป


เมื่อบอกกับเจ้าเมืองถึง ๒ ครั้งไม่สำเร็จ ในครั้งที่สามมะกอลีก็มาบอกกับเจ้าเมืองว่า แม่ตายช่วยไปทำศพให้หน่อยเถิด เจ้าเมืองไม่รู้จะตอบไปอย่างไร จึงต้องเลิกกั้นน้ำ และตามเจ้ามะกอลี กลับไปยังเมือง พอกลับไปถึงเมืองก็พบว่า ทุกคนยังอยู่ครบ ดังนั้นเจ้าเมืองจึงไม่ได้กั้นน้ำสาละวิน ตามที่ใจปรารถนา และชาวบ้านก็ได้อยู่กันอย่างปรกติสุขเรื่อยมา


จากเรื่องเล่าที่ยกมา ปัจจุบันเรื่องเล่าเรื่องนี้กลายเป็นข้อปฏิบัติสำหรับชาวปกากะญอที่ยึดถือกันเสมอมา ข้อปฏิบัติที่ว่าคือ เมื่อมีการกั้นน้ำเอาหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ตึกแค ภายหลังเอาปลาเสร็จแล้ว คนที่กั้นน้ำจะต้องปล่อยน้ำให้ไหลเป็นอิสระ เพราะถ้าไม่ปล่อยน้ำ ในปีต่อไปก็จะไม่มีปลากินอีก ด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า คำสอนผ่านเรื่องเล่าเรื่องนี้จึงเป็นคำสอนที่ลูกหลานแห่งเผ่าพันธุ์ยึดมั่นถือมั่นมาจนถึงปัจจุบัน การกั้นไม่ให้น้ำไหลเป็นอิสระจึงถือเป็นข้อห้ามสำหรับชนเผ่าปกาปะญอ


ตั้งแต่ผมเกิดมา ก็เห็นสาละวิน ถูกทำลายมาหลายครั้งแล้ว สมัยก่อนก็สัมปทานป่า นายทุนเข้ามาตัดป่ากันจนเกือบจะหมด พอป่าใกล้หมดก็มาโทษชาวบ้านว่าเป็นคนทำ ตอนนี้ชาวบ้านไปเผาไร่ก็โดนจับ ทำไร่ไม่ได้ แล้วจะให้พวกเราทำอะไรกิน ตอนนี้ก็ได้ข่าวว่าจะมาสร้างเขื่อนอีก ผมเคยไปดูเขื่อนที่ตากมา พอมีเขื่อนน้ำท่วม ปลาก็น้อย คนก็ถูกย้าย ต่อไปถ้ามีเขื่อน แม่น้ำสาละวิน ก็จะไม่มีอะไรหลงเหลือไปถึงลูกหลานพวกเรา

วิชัย อำพรนภา ชาวบ้านโพซอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน


ในเขตพม่า แม่น้ำสาละวิน ไหลผ่านรัฐฉาน เข้ารัฐคะยา รัฐกะเหรี่ยง และรัฐมอญ หลายเขตที่กล่าวมายังคงมีการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยผู้เป็นเจ้าของพื้นที่กับทหารพม่า โดยเฉพาะในรัฐฉาน และรัฐกะเหรี่ยง เป็นเขตที่มีการรายงานถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยทหารพม่าในรูปแบบต่างๆ มากที่สุด ตั้งแต่ข่มขืนผู้หญิง บังคับใช้แรงงานทาส บังคับให้อพยพ จากรายงานขององค์กรมนุษยธรรมชายแดนพม่าหรือทีบีบีซี ได้สรุปจำนวนผู้อพยพในแต่ละพื้นที่ในปี ๒๕๔๗ เอาไว้ว่ามีจำนวนมากถึง ๕๒๖,๐๐๐ คน


และในปี ๒๕๓๙ มีหมู่บ้านนับพันถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ ‘เขตยิงอิสระ’


เมื่อถูกขับไล่ออกนอกพื้นที่ ชาวบ้านไม่สามารถกลับมาเอาข้าวของของได้อีก เพราะถ้ากลับเข้าไปในพื้นที่จะถูกยิง บ่อยครั้งเช่นกันที่พื้นที่ในเขตการสู้รบ ชาวบ้านจะถูกทหารพม่ายิงทิ้งอย่างไร้ความปราณี โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณการสร้างโรงไฟฟ้าลอปิต๊ะ จากหนังสือการสร้างเขื่อนภายใต้รัฐบาลทหารพม่า ซึ่งเป็นรายงานของกลุ่มวิจัยด้านการพัฒนาคะเรนนี ได้นำเสนอรายงานเอาไว้ว่า เมื่อมีการสร้างเขื่อนโมเบีย เพื่อผันน้ำให้กับโรงไฟฟ้าลอปิต๊ะ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมกินบริเวณกว้างถึง ๒๐๗ ตารางกิโลเมตร และจากการสร้างเขื่อนในครั้งนั้นทำให้มีผู้เดือนร้อนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมต้องอพยพถึง ๘,๐๐๐ คน ที่สำคัญคือในช่วงฤดูฝน เขื่อนจะปล่อยน้ำทำลายพืชผลทางการเกษตรซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการเริ่มต้นของฤดูการทำเกษตร


นอกจาก ทหารพม่าจะบังคับให้ชาวบ้านโยกย้ายออกจากพื้นที่แล้ว ในที่ที่มีการสู้รบ ชาวบ้านจำนวนมากมายต้องอาศัยหลบซ่อนภัยอยู่ในอาศัยอยู่ในป่าสาละวิน เพื่อเอาชีวิตรอดไปวันๆ และในที่สุดคนจำนวนมากเหล่านั้นก็กลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศของตนเอง (Internally Displaced Persons-IDPs) ซึ่งคงไม่ต้องบอกกล่าวว่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับผู้คนที่กลายเป็นคนพลัดถิ่นบนแผ่นดินเกิดของตัวเองจะมีมากมายเพียงใด


นโยบายการพัฒนาต่างๆ ของรัฐบาลทหารพม่า เราคงกล่าวได้เต็มปากว่า พวกเขาไม่เคยสนใจ คนพื้นถิ่นผู้เป็นเจ้าของแผ่นดิน เพราะหลายโครงการที่เกิดขึ้น ทั้งโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า การวางท่อก๊าซ การสร้างเขื่อน รัฐบาลทหารพม่าก็ไม่เคยสนใจว่า จะเกิดสิ่งใดขึ้นกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของโครงการ


คงไม่ต้องกล่าวซ้ำว่า เมื่อมีการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำสาละวิน น้ำจะท่วมเข้าไปในฝั่งพม่า หรือมีทหารพม่าเข้ามา ‘คุ้มกัน’ พื้นที่มากขึ้น เมื่อทหารเข้ามาในพื้นที่มาก คนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ก็จะถูกให้บังคับโยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ในเมื่อบ้านอยู่ไม่ได้แล้วจะให้คนเหล่านี้หลบหนีไปไหน นอกจากหนีมาพึ่งแผ่นดินไทย


และในอนาคตเมื่อมีโครงการสร้างเขื่อนในแม่น้ำสาละวินมากขึ้น แผ่นดินไทยคงเต็มไปด้วยระลอกคลื่นผู้ลี้ภัยมหาศาลจากพม่า มิต้องกล่าวถึงผู้ลี้ภัยร่วมแสนคนที่อาศัยอยู่ตามค่ายผู้ลี้ภัยต่างๆ แถบชายแดนไทย-พม่าในทุกวันนี้


หากมีโอกาสได้ถามผู้ลี้ภัยคนหนึ่งคนใด คำตอบที่ชัดเจนจากพวกเขาคงเป็นคำตอบที่ว่า พวกเรารอคอยวันที่พม่าเกิดสันติสุข และพวกเราก็จะได้หวนคืนสู่มาตุภูมิ


แน่ละเมื่อมีการสร้างเขื่อน แผ่นดินที่ผู้ลี้ภัยส่วนหนึ่งหวังว่าจะได้เดินทางกลับไปต้องจมอยู่ใต้น้ำหลังการสร้างเขื่อน แล้วในอนาคตผู้ลี้ภัยเหล่านี้จะเป็นเช่นใด พวกเขาจะเป็นผู้ลี้ภัยถาวรที่ไม่มีแม้กระทั่งบ้านให้กลับอีกต่อไปกระนั้นหรือ


หากมีการสร้างเขื่อนชีวิตของประชาชนจำนวนมากต้องสูญเสีย และเดือดร้อนนับหมื่นแสน ยังไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะต้องเกิดขึ้นตามมาระหว่างและหลังการสร้างเขื่อน


ย้อนกลับมามองฝั่งประเทศไทย หากว่ามีการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำสาละวิน แม้ว่าประเทศไทยจะไม่มีสงคราม แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องอพยพหนีน้ำท่วม ในขณะที่รัฐไทยไม่ได้มองความเป็นจริงว่า ผู้คนริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน เขาอยู่ที่นี้มานาน และพวกเขาก็มีวิถีชีวิตที่สัมพันธ์กับป่า และแม่น้ำอย่างแยกออกจากกันไม่ได้ เมื่อป่าและน้ำถูกทำลาย คนเหล่านี้จะเป็นเช่นไร


พ่อหลวงนุ ชำนาญคีรีไพร กล่าวว่า

พวกเราอยู่กับป่า กินกับป่า พวกเราอยู่ตรงนี้มานาน จะมาสร้างเขื่อนเอาไฟฟ้าไปให้ใครใช้ก็ไม่รู้ พอเขาเอาไฟไปแล้ว พวกเราก็เดือดร้อน พวกเรามีบัตรประชาชนเป็นคนไทย พอสร้างเขื่อนจะมาให้พวกเราอพยพ ทั้งที่เราเป็นคนไทยจะให้เราเป็นผู้อพยพในประเทศของเราเองทำไม แม่น้ำมันดีอยู่แล้ว มันได้ไหลจะไปสร้างเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลทำไม สร้างเขื่อนได้ไฟ แต่รู้ไหมว่า คนจำนวนไม่น้อยจะเดือดร้อน’


บทเรียนซ้ำซาก ที่ปรากฏให้เห็นอยู่เสมอมาคือ เมื่อมีการสร้างเขื่อนหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับบริเวณสร้างเขื่อนก็จะถูกอพยพ หากเขื่อนบนแม่น้ำสาละวิน ถูกสร้างก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะต้องอพยพคนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไปอยู่ในที่ใดภายหลังการสร้างเขื่อน แล้ววิถีชีวิตของคนอยู่ป่าที่เคยชินกับการทำไร่ และไม่ต้องพึ่งพาระบบเศรษฐกิจในระบบของทุนนิยมเช่นปัจจุบัน


พวกเขาจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อวิถีชีวิตต้องปรับเปลี่ยน แม้กลุ่มผู้มีอำนาจในสังคมจะบอกว่า บางทีคนส่วนน้อยต้องเสียสละให้คนส่วนใหญ่บ้าง บทเรียนที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่า เราปล่อยให้ผู้เสียสละประสพความลำบากมามากต่อมากแล้ว และพวกเขาก็เป็นผู้สังเวยชะตากรรมที่ตัวเองไม่ได้สร้างอยู่ร่ำไป


ถึงเวลาหรือยังที่จะยอมรับว่า แม่น้ำสาละวิน คือ บ้านของคนนับแสน และถึงเวลาหรือยังที่จะยอมรับว่า เขื่อนขนาดใหญ่ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของเรื่องการจัดการน้ำ


ความสัมพันธ์ของคนกับสายน้ำมีมาเนิ่นนาน สายน้ำยังมีความหมายในหลายๆ ทาง ทั้งทางสังคม วัฒนธรรม และจิตวิญญาณของผู้คนสองฝั่งน้ำ การที่มนุษย์ได้พึ่งพาอาศัยน้ำ มนุษย์จึงได้ก่อเกิดวัฒนธรรมประเพณีที่แสดงออกให้เห็นถึงการเคารพนอบน้อมธรรมชาติ


นอกเหนือจากนั้นแล้ว บนสายน้ำเดียวกัน มนุษย์ยังได้เรียนรู้ที่จะรักษาสายน้ำไว้เพื่อประโยชน์ของตนเอง และปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้คนสองฝั่งแม่น้ำสาละวิน รักและหวงแหนแม่น้ำที่พวกเขาได้ใช้ประโยชน์ ด้วยความรักที่มีต่อแม่น้ำผู้เฒ่าผู้แก่จึงคอยย้ำเตือนลูกหลานแห่งเผ่าพันธุ์อยู่เสมอว่า

อ่อทีกะต่อที อ่อก่อกะต่อก่อ กินน้ำรักษาน้ำ อยู่ป่ารักษาป่า”


และปฏิเสธอีกไม่ได้เช่นกันว่า ดิน น้ำ ป่า คน ล้วนเป็นความสมดุลที่ตั้งอยู่บนความหลากหลายโดยแท้จริง ฉะนั้นแล้วเมื่อมนุษย์คิดกอบโกยเอาประโยชน์จากธรรมชาติ เราควรคิดให้ดีว่า

เมื่อเราใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ เราเคารพในธรรมชาติ และศรัทธาในความเท่าเทียมกันของมนุษย์แล้วหรือยัง’


ข้อมูลประกอบการเขียน


เขื่อนสาละวิน: โศกนาฏกรรมสองแผ่นดิน, แผ่นดิน สายน้ำ และลมหายใจของกลุ่มชาติพันธุ์ที่จะจมใต้น้ำ, รายงานข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการเขื่อนบนแม่น้ำสาละวิน, ๒๕๔๖

การสร้างเขื่อนภายใต้รัฐบาลทหารพม่า,จัดทำโดยกลุ่มวิจัยด้านการพัฒนาของกลุ่มคะเรนนี, ๒๕๔๙

ผ่าสาละวินก่อนจะสิ้นป่าผืนสุดท้าย,โดยยอด ยิ่งยวด,

การพลัดถิ่นฐานภายในประเทศ และสภาวะเปราะบางของผู้พลัดถิ่นในประเทศพม่าแถบตะวันออก,โดยองค์การมนุษยธรรมชายแดนไทย-พม่า และเพื่อนไร้พรมแดน

งานวิจัยปกากะญอสาละวิน,วิถีน้ำ วิถีป่าของปกากะญอสาละวิน, โดยคณะนักวิจัยปกากะญอ สาละวิน, ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน, เครือข่ายแม่น้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,๒๕๔๘

ขอบคุณข้อมูลจากโครงการแม่น้ำเพื่อชีวิต เครือข่ายแม่น้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขอบคุณเครือข่ายชาวบ้านลุ่มน้ำสาละวินยวมเมยทุกคนที่ร่วมกันรังสรรค์สิ่งดีงามด้วยการปกป้องแผ่นดินเกิด

หมายเหตุ: งานชิ้นนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกหนังสือ “โศกนาฏกรรมคนชายขอบ”




บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
 แม่น้ำโขงจากหลังคาโลกสู่ทะแลจีนใต้แม่น้ำโขงได้รับการจัดอันดับว่าเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ ๑๐ ของโลกครอบคลุมพื้นที่ ๖ ประเทศคือ จีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม มีผู้คนมากกว่า ๖๐ ล้านคนได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้ในด้านต่างๆ ทั้งทำการประมง ทำการเกษตร การขนส่ง และการคมนาคม แม่น้ำโขงตอนบนมีลักษณะลาดชันไหลผ่านช่องเขาที่แคบเป็นแนวยาว แม่น้ำโขงตอนบนได้รับน้ำจากการละหายของหิมะเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่แม่น้ำโขงตอนบนอยู่ในเขตปกครองตนเองของทิเบต และจีนแม่น้ำโขงในส่วนตอนกลางมีลักษณะเป็นแก่ง และมีหน้าผาสูงอยู่ในแม่น้ำและตามริมฝั่ง ระดับน้ำในฤดูน้ำหลากและฤดูแล้งจะมีความแตกต่างกันถึง ๒๐ เมตร…
สุมาตร ภูลายยาว
การเรียกชื่อของสถานที่ใดสถานที่หนึ่งในแม่น้ำสายใดสายหนึ่งล้วนแตกต่างกันออกไปตามแต่ภาษาของคนท้องถิ่นนั้นๆ แต่ชื่อหลักที่ผู้คนทั่วไปรู้จักคงไม่ผิดแปลกกันนัก แม้ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของแม่น้ำจะแตกต่างกันไปตามภาษาถิ่น และความเชื่อของคนท้องถิ่น ในแม่น้ำโขงเองก็เช่นกัน มีสถานที่หลายแห่งที่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงบนพรมแดนไทย-ลาวได้เรียกชื่อของสถานที่เหล่านั้นทั้งเหมือนกัน และแตกต่างกัน คอนผีหลงก็เช่นกัน คณะผู้สำรวจจากประเทศจีนอ้างอิงเอาตามคำเรียกชื่อของแก่งนี้ตามคนลาวท้องถิ่นในบริเวณนั้นว่า ‘คอนผีหลวง’ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนลาวเรียกว่า ‘คอนผีหลงไม่ใช่คอนผีหลวง’ คำว่า ‘คอน’ ในพจนานุกรม…
สุมาตร ภูลายยาว
ไม่ว่าจะในแม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง หรือท้องทะเล ทุกหนแห่งที่กล่าวมาล้วนมีคนกลุ่มหนึ่งอาศัยพึ่งพามาตลอด เรียกได้ว่าเมื่อนึกถึงแม่น้ำ เราก็จะนึกถึงคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกๆ นอกจากนึกถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ... เรากำลังกล่าวถึงคนกลุ่มหนึ่งที่ผู้คนทั่วไปรู้จักพวกเขาในนาม ‘คนหาปลา’ เมื่อกล่าวถึงคนกลุ่มนี้คงไม่ต้องอธิบายมากว่า พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการทำอาชีพอะไร แต่เมื่อเพ่งพิศลงไปในอาชีพ และวิถีทางแห่งการดำรงอยู่ของพวกเขา เราจะพบว่า การดำรงตนด้วยการหาปลานั้นเป็นสิ่งยากยิ่ง แน่ละ มันมีหลายเหตุผลที่จะกล่าวเช่นนี้ เหตุผลอย่างที่หนึ่ง เมื่อเราจะออกสู่แม่น้ำ ลำคลอง…
สุมาตร ภูลายยาว
คนทำเรือแห่งแม่น้ำมูนหากเปรียบ ปู ปลาคือผลผลิตจากนาน้ำของคนไม่มีนาโคก เรือก็คงไม่ต่างอะไรจากรถไถนา ‘เรือ’ คำสั้นๆ แต่ดูเปี่ยมด้วยความหมายยิ่งใหญ่สำหรับผู้คนริมฝั่งน้ำ นอกจากจะใช้เป็นพาหนะในการเดินทางแล้ว ยังใช้ในการหาปลาอีกด้วย เรือในแม่น้ำย่อมมีขนาดแตกต่างกันออกไป แม่น้ำใหญ่เรือก็ใหญ่ แม่น้ำเล็กเรือก็ลำเล็ก นอกจากขนาดของเรือในแต่ละแม่น้ำจะแตกต่างกันออกไปแล้ว ท้องเรือที่จมอยู่ในแม่น้ำยังแตกต่างกันออกไปด้วย เรือในแม่น้ำสาละวินท้องเรือมีลักษณะแบน แต่เรือในแม่น้ำโขงท้องเรือมีลักษณะเรียวแหลมคล้ายสิ่วเจาะไม้
สุมาตร ภูลายยาว
ในสมัยก่อนคนพื้นถิ่นแถบแม่น้ำของ หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันว่าน้ำโขง มีการใช้เรือในแม่น้ำของเพื่อการคมนาคมและขนส่งสินค้า ซึ่งสินค้าของคนพื้นถิ่นแถบอำเภอเชียงของและเวียงแก่นก็จะมีทั้ง เกลือ ข้าว และสินค้าอื่นๆ เพื่อค้าขายและเปลี่ยนกับฝั่งลาวและคนต่างถิ่น การค้าทางน้ำในแม่น้ำของนั้นมีมานานหลายชั่วคน นอกจากประโยชน์ในการบรรทุกสินค้าแล้ว คนท้องถิ่นยังใช้เรือในการหาปลา ซึ่งก่อนที่คนหาปลาจะหันมาใช้เรืออย่างทุกวันนี้ คนหาปลารุ่น ๗๐ ปีขึ้นไปที่หาปลาในแม่น้ำของในอดีตใช้แพไม้ไผ่เพื่อหาปลา พ่ออุ้ยผุย บุปผา อายุ ๗๖ ปี ชาวบ้านปากอิงใต้เล่าว่า “แต่ก่อนตอนพ่อเป็นหนุ่ม…
สุมาตร ภูลายยาว
ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคนไทยจำนวนไม่น้อยคงได้ดีใจกับเหรียญทองเหรียญแรกในกีฬาโอลิมปิก แต่ในความดีใจนั้นก็มีความเศร้าใจปะปนมาด้วย และความเศร้าใจก็เดินทางมาพร้อมกับความสูญเสียจำนวนมหาศาลที่คิดเป็นมูลค่าของเงินแล้วไม่ตำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ความเศร้าใจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์น้ำโขงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน และที่สวนไร่นาจำนวนมหาศาล ที่บอกว่าเหตุการณ์อันกำลังเกิดขึ้นเป็นความเศร้าใจนั้น เพราะพืชผลทางการเกษตรจำนวนไม่น้อยกำลังอยู่ในช่วงรอการเก็บเกี่ยวผลิต บ้างก็กำลังเริ่มให้ผลผลิต ในจำนวนผู้คนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ดูเหมือนว่าในส่วนของประเทศไทย…
สุมาตร ภูลายยาว
๑.แม่น้ำสาละวินและระบบนิเวศแม่น้ำ -บทพูด- -มีคนบรรยายเกิ่นนำเรื่องแม่น้ำสาละวิน แม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำนานาชาติสายหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำเนิดจากการละลายของหิมะในธิเบตแล้วไหลผ่านประเทศจีน,ไหลเข้าเขตรัฐฉาน,รัฐคะยาห์ และไหลเรื่อยมาเป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-พม่ารวมระยะทาง ๑๑๘ กิโลเมตร ก่อนจะสิ้นสุดพรมแดนไทย-พม่าที่บ้านสบเมย หลังจากนั้นแม่น้ำสาละวินก็จะไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดียที่อ่าวเมาะตะมะบริเวณเมืองเมาะลำเลิงหรือมะละแหม่งของรัฐมอญ รวมระยะทางทั้งสิ้น ๒,๘๐๐ กิโลเมตร แม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับที่ ๒๖ ของโลก สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว…
สุมาตร ภูลายยาว
 ๑.ภาพเปิดก่อนนำเข้าสู่เรื่องราวทั้งหมด            -ภาพของเด็กๆ กำลังเล่นน้ำ            -ภาพของคนกำลังหาปลา            -ภาพของงานวัฒนธรรม            -ภาพของเรือจีน            -ภาพเรือหาปลาในลาว / ภาพเรือรับจ้างขนของ / เรือโดยสาร            -…
สุมาตร ภูลายยาว
เสียงไก่ขันสลับกับเสียงกลองจากวัดบนภูเขาดังกระชันถี่ขึ้น เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่ายามเช้าใกล้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ในรอบหนึ่งเดือน เสียงกลองยามเช้าจากวัดจะดังอยู่ ๘ ครั้งต่อเดือน เพื่อเป็นสัญญาณบอกให้ชาวบ้านรู้ว่า ‘วันนี้วันพระ’ เมื่อลองมาไล่เรียงตัวเลขบนปฏิทินก็รู้ว่า วันนี้เป็นวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ในทางพุทธศาสนาแล้ว วันนี้ถือเป็นวันก่อเกิดสิ่งมหัศจรรย์ ๓ อย่างพร้อมกัน คือวันนี้เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นปฐมบทแห่งศาสนาพุทธ ไก่ขันครั้งสุดท้ายล่วงเข้ามา หลายบ้านเริ่มตื่นขึ้นมาก่อไฟหนึ่งข้าว และทำอาหารเช้า พอพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าได้ไม่นาน…
สุมาตร ภูลายยาว
สุมาตร ภูลายยาว เฆมฝนสีดำทะมึนฉาบไปทั่วทิศทาง เรือหาปลาลำเล็กหนึ่งลำ และเรือลำใหญ่สองลำค่อยๆ เคลื่อนออกจากฝั่งริมแม่น้ำ เพื่อลอยลำไปยังเบื้องหน้าแท่งคอนกรีตอันเป็นสัญลักษ์ของความชั่วร้ายในนามการพัฒนามาหลายปี เมื่อเรือไปถึงกลางแม่น้ำ คนบนเรือค่อยๆ คลี่ผ้าขาวที่ห่อหุ้มถ่านเถ้าเบื้องหลังความตายแล้วปล่อยถ่านเถ้านั้นไหลลอยไปกับสายน้ำริมฝั่งดอกไม้ทั้งดอกจำปา ดอกเข็มแดง ดอกดาวเรือง ต่างเข้าแถวเรียงรายกันไหลไปตามแม่น้ำ หลังจากมันถูกปล่อยออกจากกรวยใบตองในมือคนริมฝั่ง ถัดออกไปจากริมฝั่งพ่อทองเจริญกับพ่อดำ ได้พาชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปขอขมาแม่น้ำ…
สุมาตร ภูลายยาว
สำเนียงภาษาอีสานจากหนังเรื่อง ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ฉุดให้ผมคิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับหนังขึ้นมาอีกครั้ง ผมตั้งใจเอาไว้หลายครั้งแล้วว่า อยากจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ซ่อนอยู่ในเนื้อในหนังอันเป็นเรื่องราวที่ผู้กำกับหนังคนนั้นๆ ต้องการอยากให้เราเห็น ฉากทุกฉากที่ปรากฏอยู่ในหนังแทบทุกเรื่อง ล้วนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือความจงใจที่ผู้กำกับต้องการอยากให้เราเห็นในสิ่งที่เขาเห็น เขาจึงได้ใส่มันเข้าไปในหนัง หลังจากดู ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ จบ ผมก็มานั่งนึกว่าตัวเองได้ดูหนังอะไรบ้างที่พูดถึงแม่น้ำโขง หรือมีชาวโขงเข้าไปโลดเล่นอยู่บนจอสีขาวในโรงหนัง…
สุมาตร ภูลายยาว
‘นายน้ำ’ เป็นคำเรียกคนขับเรือที่คนลาวใช้เรียกกัน กี่ชั่วอายุคนมาแล้วก่อนที่เราจะมีถนนใช้ แม่น้ำคือถนนชนิดหนึ่งในระหว่างทางที่เรือล่องขึ้น-ลงในแม่น้ำ ยากจะคาดเดาได้ว่า บรรพบุรุษของนายน้ำคนแรกเป็นใคร บนนาวาชีวิตที่ล่องไปบนสายน้ำกว้างใหญ่ และไหลเชี่ยว ชีวิตของพวกเขาล้วนฝากไว้กับบางสิ่งบางอยางที่บางคนเรียกมันว่าชะตากรรมบ่อยครั้งที่ล่องเรือไปบนสายน้ำ เราล้วนแต่ต้องค้อมคารวะหัวใจอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา เมื่อเดินทางสู่ฝั่ง หากมองทะลุลงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ อะไรคือหมุดหมายที่ฉุดรั้งพวกเขาให้มุ่งหน้าสู่เส้นทางที่มองทางไม่เห็นทางเช่นนี้ในบรรดานายน้ำที่มีอยู่มากมาย พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นนายของน้ำ…