Skip to main content

ผมกับธาตรีสนิทสนมกันมากขึ้น

ผมเป็นหนุ่มใหญ่มีครอบครัวแล้วมาจากในเมืองเชียงใหม่ ธาตรีหนุ่มโสดผิวสีกาแฟลืมใส่นมวัยยี่สิบเศษมาจากกรุงเทพฯ เราทั้งคู่สูงต่ำพอกัน เวลาผ่านไปได้สองสัปดาห์ ผมชวนธาตรีเดินเตร่หาบ้านเช่าหลังใหม่ ได้บ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่อยู่ติดถนนริมทุ่งนา มีบ่อน้ำใสอยู่ข้างบ้าน ตกลงราคากันเรียบร้อย ผมชวนธาตรีมาอยู่ด้วยกัน เขาทำท่าอิดออด...

 

ผมจึงโน้มน้าวว่า เราอยู่กันสามคนกับหัวหน้า การทำอะไรก็เกรงใจท่าน เราต้องสำรวมพอสมควรจะร้องเพลงเต้นแร้งเต้นกาก็ทำไม่สะดวก เห็นผู้หญิงสวยๆ ขาวๆ เดินผ่านหน้าบ้าน จะพูดจาทักทายเย้าแหย่ทำไม่ได้เต็มที่ ค่าเช่าบ้านไม่ต้องห่วง ผมเบิกได้ อาหารเราไม่ต้องทำให้เหนื่อย กินข้าวเดือนร้านเจ๊อี๊ดก็ได้ ผมชำเลืองดูท่าทีของธาตรีสีหน้าเขาดีขึ้นปรากฏรอยยิ้ม...ที่สุดเราทั้งคู่ย้ายมาอยู่บ้านเช่าหลังใหม่ใกล้ที่ทำงานกว่าบ้านหลังเก่า ผมบอกให้ธาตรีเลือกนอนห้องใดชั้นใดก็ได้ ธาตรียิ้มชอบใจบอกขอห้องใหญ่ชั้นบน ผมบอกว่าเอาไปเลยหนุ่มโสดจะได้แต่งห้องให้เต็มที่

อีกสัปดาห์หนึ่งต่อมา

มีนักวิชาการชายอีกคนย้ายมารับตำแหน่งในหน่วยงานผม ผมชวนมาอยู่ด้วย แกตกลง แกชื่อวิชาญ คุยสนุกตลกดี ไล่อายุกันแล้ว ถ้าใช้โครงเรื่องของบ้านทรายทอง ผมอาวุโสสุด จะเรียกแก่สุดนั้นถูกต้อง แต่ใจมันรับไม่ได้เมื่ออายุมาก สมมติให้เป็นชายใหญ่ อาจารย์วิชาญเป็นชายกลาง ส่วนธาตรีเป็นชายน้อย แต่ไม่ต้องพิการเหมือนชายน้อยในนิยายเองดังของ ก.สุรางคนางค์  ถึงตรงนี้คงสนุกกันแน่พจมานเป็นใครกันหนอ...

 

กิ่งเวียงแหงนั้น

ภูมิประเทศเป็นดอยเป็นป่า จึงมีอาหารป่าให้ได้ชิมเสมอ เช่น น้ำผึ้ง นก งู สิงห์ แลน หมูป่า เห็ด ไก่ป่า สมุนไพร แต่ไม่ใช่จะได้กินทุกวัน มันขึ้นกับว่า มีใครไปล่ามันได้เมื่อไหร่ ที่บอกชื่อนั้นผมไม่ชอบกินเลย ยกเว้นน้ำผึ้งอย่างเดียว...

 

วันเสาร์นี้ไม่มีใครกลับบ้าน

เราสามคนชวนกันไปเที่ยวบ้านชาวกะเหรี่ยงซึ่งอยู่ห่างบ้านพักเราราว 5 กิโลเมตร เข้าทางแยกจากถนนใหญ่เข้าไป3 กิโลเมตรเศษ เราได้น้ำผึ้งมาคนละขวด คุณลุงกะเหรี่ยงชราเจ้าของสินค้ายืนยันหนักแน่นสั้นๆ ว่า-ของจริงเรากระหยิ่มใจคิดว่า...ซื้อมาจากต้นกำเนิดมาจากผู้ผลิตรายแรกต้องของจริงไม่ปลอมปนแน่นอนที่สุด ราคาขวดละ 80บาท

 

กลับมาถึงบ้าน

ผมรีบเข้าห้องนอนจะทดสอบน้ำผึ้งว่าเป็นน้ำผึ้งจริงร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่โดยการทดสอบ3ข้อถ้าทดสอบผ่าน3ข้อถือว่าน้ำผึ้งจริงๆ

1. ป้ายน้ำผึ้งที่หัวไม้ขีดไฟแล้วนำไปขีดข้างกลักไม้ขีด ปรากฏว่าไฟลุกข้อหนึ่งผ่าน

2. หยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษทิชชู น้ำผึ้งไม่ซึมผ่าน ข้อสองผ่าน

3. ตักน้ำใส่แก้วหยดน้ำผึ้งลงในน้ำ ถ้าหยดน้ำผึ้งจับกันเป็นก้อนไม่แตกกระจายหรือไม่มีฟองอากาศขณะน้ำผึ้งค่อยจมลงสู่ก้นแก้ว ระบุได้ว่าน้ำผึ้งแท้

 

ผลการทดสอบปรากฏว่า

ผ่านมาได้ 2 ข้อ เหลืออีกข้อเดียวคือข้อที่ 3 พอหยดน้ำผึ้งจมลงไปกระทบก้นแก้วปรากฏว่ามันค่อยๆ แตกกระจายละลายเจือจางปนน้ำ ข้อสามไม่ผ่าน ใช่มันคือน้ำผึ้งปลอม

เฮ้อ...ไม่ว่าที่ไหนๆ ในโลกนี้ที่มีมนุษย์

ย่อมหนีไม่พ้นคนหลอกลวง

แม้แต่คนในทุ่งนาป่าเขาและดงดอย

นี่แหละคือโลกของความเป็นจริง.

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน