อ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ประจำวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2553 มีข่าวหนึ่งสะดุดตาและสมอง หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวว่า
“ ทึ่ง ‘ ข้าวไม่ต้องหุง’ ศูนย์วิจัยคิดค้นรายแรกของไทย.” มันสะดุดตาตรงที่ ข้าวไม่ต้องหุง ข้าวอะไรไม่ต้องหุง ? ต้องเป็นข้าวที่มีคุณภาพพิเศษมากๆแน่นอน สะดุดยิ่งขึ้นอีก เมื่อบอกว่า ศูนย์วิจัยคิดค้นรายแรกของไทย อะไรที่มีคำว่าวิจัย ผมสนใจเสมอ เพราะมันหมายถึง การค้นหาคำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์ ที่พิสูจน์ความจริงได้ อ่านรายละเอียดข่าวแล้ว พอจะตกผลึกได้ว่า ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่คิดค้นข้าวไม่ต้องหุง สำเร็จรายแรกของไทย อ่านมาถึงตอนนี้ หัวใจชักพองโตด้วยความภาคภูมิใจ คนไทยเก่งนะ เกิดความอยากไปดูให้เห็นกับตา ที่ศูนย์วิจัยแห่งนี้ อยากดูข้าวที่ไม่ต้องหุง มันมีลักษณะอย่างไรหนอ ข่าวบอกว่า ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่อยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลมะขามหลวง อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ โถ ! อยู่ใกล้ๆบ้านผมนี่เอง ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่อยู่ที่ถนนโค้งก่อนถึงสี่แยกตลาดมะจำโรง ฝั่งตะวันออก ถนนสันป่าตอง เชียงใหม่ ผมบอกตนเอง ต้องขับรถยนต์ไปดู ไปหาข้อมูลรายละเอียดให้ได้ บ้านผมอยู่บ้านทุ่งแป้งแค่นี้เอง
6 กรกฎาคม 2553
ผมขับรถยนต์พร้อมภรรยาออกจากบ้าน พารถคดเคี้ยวไปตามถนนเป็นหลุมเล็กทะลุถึงตลาดต้นแหน ตรงมุมถนนข้างตลาดต้นแหน จะเป็นหลักกิโลเมตรที่ 33 พอดีครับ ผมขับรถเลี้ยวซ้าย ขึ้นเหนือเข้าอำเภอสันป่าตอง ราว 5 กิโลเมตรก็ถึงหน้าศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ หมู่ 3 ตำบลมะขามหลวง อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ เปิดไฟเลี้ยวขวา จอดรถนิ่งกลางถนน พอถนนว่าง ขับรถเข้าไปช้าๆ จอดที่ป้อมยาม ถามยามถึงคุณสกุล มูลคำ นักวิชาการศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ ยามชี้ตรงเข้าไปตามถนน พร้อมเปิดเสาที่ขวางทางเข้า ผมกล่าวขอบคุณ ขับรถเข้าไปช้าๆ ตากวาดมองซ้ายขวา ตามประสาคนแปลกสถานที่ ถนนเป็นคอนกรีต มีต้นไม้ใหญ่น้อยมากมาย มีอาคารสวยงามปลูกเป็นระยะ เป็นระเบียบ บรรยากาศเงียบสงบ มองจากข้างนอก คาดว่าคงมีอาคารสัก 2-3 หลัง มีเนื้อที่แคบๆ พอขับรถเข้ามาเห็น เนื้อที่กว้างขวางทีเดียว อาคารหลายหลัง บ้านพักอีก จอดรถหน้าอาคารหลังหนึ่ง น่าจะเป็นอาคารที่ติดกับด้านหลังสุดของศูนย์วิจัย ฯ จอดรถเดินข้ามถนนไปยังอาคารชั้นเดียว มีผู้หญิงต่างวัย 2 คนต้อนรับ ได้ความว่า
คุณสกุล มูลคำ นักวิชาการชำนาญการศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ เดินทางไปประชุมที่เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่อัธยาศัยดีบอกว่า หากจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้าวไม่ต้องหุง คงไม่เหมาะสมเพราะเป็นผู้น้อย ขอให้มาพบหัวหน้าฯ ดีกว่า เธอให้หมายเลขโทรศัพท์คุณสกุล มูลคำ หมายเลข 089-9509061
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เสียงร้องเพลงดังขึ้นพร้อมกับอิเล็กโทน
แต่ยังไม่ปรากฏตัวผู้ร้อง เร้าใจผู้ชมให้อยากเห็นหน้ายิ่งนัก ครู่เดียว บนเวทีปรากฏร่างผู้ชาย 2 คน หญิง 2 คน เดินออกมาจากหลังเวที คนแรกเดินถือไมค์ร้องนำออกมา แนวเพลง “พรศักดิ์ ส่องแสง” กล่อมผู้ชมด้วยเพลงยอดฮิตในอดีต “เมียเด็ก” เสียงดีพอใช้ได้ทีเดียว เพ่งดูชัดๆเป็นหัวหน้าคณะช่างซอ สิงห์คำนั่นเอง ยังคงสวมชุดเดิม ช่างซออีก 3 คนเต้นเป็นหางเครื่อง สะบัดแข้งขาหมุนตัวพอใช้ได้ ช่างซอหญิงทั้ง 2 คน เปลี่ยนนุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว เสื้อแขนกุดสีสดใส …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผู้ใหญ่บ้านเดินมาหน้าเวที
ยื่นใบแดงให้ฝ่ายชาย 1 ใบ ฝ่ายหญิงอีก 1 ใบ ผู้รับก้มไหว้ในท่าที่คิดว่าสวยที่สุด ยังไม่พอ ผู้ขับซอทั้ง 4 คน ประกอบด้วย สิงห์คำ แจ่มจันทร์ ก้าน ผ่องพรรณ คนหลังนี่เนาวรัตน์จ้องดูเธอมากกว่าใคร เธอสวยทันสมัยถูกใจมาก ทุกคนช่วยกันขับซออ้อนรายต่อไป มีรายชื่อในสมองมากมาย รวมทั้งในกระดาษและที่มีคนกระซิบบอกอีกหลายชื่อ เป็นช่วงเวลาเป็นเงินเป็นทองของพวกเขา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ใครบ้างไม่ชอบ
ความสวยงาม คนสวยคนหล่อ ดวงอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกยอดดอย อาหารอร่อย กาแฟรสเข้ม ทะเลกับหาดทราย สวนดอกไม้นานาพันธุ์ เสียงนกร้อง น้ำตกสาดซัดหินผา สายลมต้องใบไม้ผะแผ่ว ระฆังชายคาโบสถ์วะแว่ว และเสียงมนุษย์ที่ขับขานเป็นท่วงทำนองเสียงเพลง ผมชอบฟังเพลงตั้งแต่เด็ก ร้องเพลงเมื่อเรียนชั้นประถมศึกษา พอโตก็ร้อง เคยร้องกับวงดนตรีครูดอย ชื่อวง “สนเกี๊ยะ” คนร้องกับดนตรีไปคนละทาง เรียกว่าร้องไม่เป็นสรรพรส ทำให้นักดนตรีวุ่นวายทั้งวง เขาคงกลัวจะเสียชื่อ …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ความหนาวเย็นแห่งฤดูหนาว
จากไปโดยไม่ล่ำลา ลมร้อนพัดเข้ามาแทน แม้ไม่เชื้อเชิญ ระหว่างรอยต่อปลายกุมภาพันธ์ ได้ยินเสียงนก “ปิ้ดจะลิว”(นกกรงหัวจุก) ส่งเสียง “ปิ้ดจะลิวๆ” ตอนเช้าตรู่ ยังไม่เห็นตัวเสียงมาก่อน นกจี๋เจี๊ยบ(นกกางเขน)ส่งเสียงแหลมสูงเจื้อยแจ้วประชัน จักจั่นเป็นฝูงส่งเสียงแซ่สนั่นที่ต้นสักข้างบ้าน ไม่เห็นตัวอีกเช่นกัน เหมือนนักร้องลูกทุ่งดัง ระดับหัวหน้าวง ต้องร้องอยู่หลังม่านเวทีสักท่อนหนึ่งก่อน แล้วจึงค่อยเดินตัวตรงมาดเท่ในชุดสากล ปรากฏตัวต่อมิตรรักแฟนเพลง น้ำแม่ขานที่คั่นระหว่างบ้านทุ่งแป้ง(อำเภอสันป่าตอง) …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
พอทราบข่าว
ผลการประกวดภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 20 ประจำปี 2553 ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บิช เมื่อค่ำวันที่ 6 มีนาคม 2554 ว่า ผู้ได้รับรางวัล ผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เป็นสาวน้อยวัย 18 ปี หน้าตาใสๆ น่ารัก ชื่อ “หนูนา” หนึ่งธิดา โสภณ(160 ซ.ม./44 กก.) จากหนังเรื่อง “กวน มึน โฮ” เธอสามารถทำคะแนนนำสาวพลอย เฌอมาลย์ สาวสวยเข้มฝีมือจัดจ้าน ที่แสดงเรื่อง “ ชั่วฟ้าดินสลาย” จากบทประพันธ์ของ “เรียมเอง” หรือ มาลัย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมสูดปากเบาๆ
มันแสบตาแทบลืมไม่ขึ้น น้ำตาเริ่มไหล
“ลุงขยับหน้าเข้ามาใกล้อีกนิด ให้คางวางบนแผ่นพลาสติก หน้าผากชิด นั่งนิ่งๆนะครับ.” หมอหนุ่มเริ่มหมุนกล้องที่ติดกับส่วนที่ผมวางคาง ปรับกล้องจนผมรู้สึกว่าผิวเลนซ์กล้องมันแทบติดดวงตา แสงไฟสว่างจ้าเข้มลำเล็กพุ่งเข้าดวงตา หมอตรวจทั้งสองข้าง ปากก็พูดพึมพำ
“ความดันตาปรกติ”
หมอปรับระยะกล้องตรวจใหม่ บอกผมให้วางคางบนแผ่นพลาสติก ส่วนหน้าผากชิดติดกับแผ่นเหล็กข้างหน้า ฝ่ามือผมทั้งคู่วางบนโต๊ะเพื่อทรงตัว หมอส่องกล้องตรวจตาทีละข้างอีกรอบ ให้ผมกลอกตามองข้างบน แล้วมองล่าง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล
รอหมอนานๆน่าเบื่อ
ส่วนใหญ่นั่งเงียบที่แถวเก้าอี้ หูคอยฟังนางพยาบาลเรียกพบหมอ ส่วนตานั้นจับจ้องดูความเคลื่อนไหวของนางพยาบาล บางคนฆ่าเวลาด้วยการพูดคุยกับคนข้างเคียง ได้ยินนางพยาบาลที่ประจำห้องตรวจรียกชื่อคนไข้เป็นระยะๆ แล้วผายมือให้นั่งรอคิวที่เก้าอี้ข้างประตูห้องตรวจ นั่งรอหมอนานๆไม่รู้ทำอะไร ผมฆ่าเวลาโดยมองดูสิ่งรอบๆตัวให้สบายตา ดูพยาบาลชุดขาวสะอาด ผิวขาวสะอาดสะอ้าน คนนี้หน้าสวย คนนั้นตาสวย คนนี้พูดเพราะ ทุกคนเคลื่อนไหวตลอด บ้างก้มหน้าพิมพ์ข้อมูลที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันนี้ขับรถยนต์
จากบ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตอง เวลา 7.32 น หมอนัดตรวจตา ที่โรงพยาบาลสวนดอก(มหาราช) เชียงใหม่ เป็นช่วงเวลาเร่งรีบของทุกคน บ้างรีบไปทำงาน บ้างรีบไปเรียนหนังสือ ถนนจึงมากมายด้วยรถรา พอวิ่งเข้าเขตตัวอำเภอสันป่าตอง รถเริ่มติด และติดหนาแน่นขึ้นเมื่อวิ่งเข้าเขตอำเภอหางดง เริ่มเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ รถจักรยานยนต์วิ่งกันหวาดเสียว วิ่งเร็ว แซงซิกแซกซ้ายขวา รถวิ่งเลียบตามคูเมืองด้านนอก ไปช้าๆ ผ่านหน้าโรงพยาบาลสวนดอกแล้ว เคลื่อนตัวช้ามาก ถนนมีเท่าเดิม รถมากขึ้นทุกๆวัน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมขับรถออกจากบ้าน
คุณแม่จันทร์สม สายธารา เลี้ยวซ้ายปากซอย มุ่งตรงกลับบ้าน อดนึกถึงคำพูดของ พ่อครูคำผาย นุปิง ศิลปินแห่งชาติ ประเภทเพลงพื้นบ้าน-ขับซอ ปี พ.ศ. 2538 ที่ปรากฏในอินเตอร์เน็ต หัวข้อ “ ซอพื้นบ้านล้านนา คุณค่าแห่งดนตรีที่ถูกเมิน”
“ ยุคนี้ไม่ใช่ยุคของซออีกต่อไป ในอดีตซอได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในหมู่บ้านล้านนาไปที่ไหนๆก็มีซอ ซอสมัยก่อนได้เงินหลักร้อย ซึ่งถือว่าสูงมากในเวลานั้น แตกต่างจากตอนนี้ที่มีเด็กรุ่นใหม่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สนใจจะเรียนซอกันอย่างจริงจัง กลุ่มคนฟังในปัจจุบัน …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ลองอ่านความหมาย
คำว่า “รัก” ของนักเขียนเอเชียชาวญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลโนเบลปี ค.ศ.1968 เขาคือ ยาสึนาริ คาวาบาตะ กล่าวในงานเขียนของเขาชื่อ “เสียงแห่งขุนเขา”