Skip to main content

 

 
ความสุขคนเราต่างกัน
บางคนชอบเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า บ้างดูหนังฟังเพลง บ้างหามุมเย็นๆอากาศดี   กินอาหารและดื่มกับเพื่อน กับคนรู้ใจ   ผมมาอีกแนวหนึ่ง   ร้านขายหนังสืออยู่ที่ไหน   ใจพาเท้าเดินเข้าไปร่ำไป   มีความสุขดีครับ   ดูหนังสือออกใหม่ หนังสือที่ออกตามกระแสยุคสมัย เช่น ใครฆ่าเสธ.แดง   ทุนสามานย์   อยากอ่านหนังสือ ลับ ลวง พราง ราคาราว 200 กว่าบาท   ผมซื้อหลายประเภท ซื้อมากเล่ม   กระทบงบประมาณที่จำกัด จึงพิถีพิถันซื้อสักหน่อย   บางเล่มคนเขียนเป็นกลาง   บางเล่มคนเขียนถล่มอีกฝ่ายแบบไม่เลี้ยง   อยากได้หลายเล่ม แต่ซื้อจริงได้แค่เดือนละ 2-3 เล่ม บางเล่มราคาแพงมาก   เป็นประเภทหนังสือแปล   อยากอ่านหนังสือ “สงครามและสันติภาพ”  ของ ลิโอ   ตอลสตอย    แต่ราคาเล่มละ 500 บาท   ซื้อไม่ไหว   อีกเล่มที่จับแล้วต้องวางลง    ชื่อ “ก็องดิคต์”  ของวอลแตร์ เป็นนิทานปรัชญา   ผลงานชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของนักเขียนชาวฝรั่งเศส
 
วันสิ้นเดือนมาถึง
เงินเดือนข้าราชการบำนาญออกวันที่ 23 ครับ   เราสองคนลุงและป้า ที่เคยเป็นคนหนุ่มสาวเมื่อนานมาแล้ว   ขับรถจากบ้านอำเภอสันป่าตอง   มุ่งไปห้างสินค้าคาร์ฟูร์ สาขาหางดง   แม่บ้านเข้าไปซื้อของในร้าน   ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงเศษ   มอบเวลาให้เธอเต็มที่   บ่นไม่ได้เด็ดขาด   เป็นความสุขของเธอ ตัวผมแวบเข้าร้านขายหนังสือ   ร้านอยู่ชั้นล่างตรงประตูเข้าด้านทิศเหนือ   เนื้อที่คูหาหนึ่ง   หยิบดูหนังสือการเมืองพลิกอ่านคร่าวๆ   น่าสนใจแต่ราคาแพงไปหน่อย ราคา 200 กว่าบาทขึ้นไป   บางเรื่องเราพอรู้สาระเนื้อหาบ้างแล้ว   เดินดูช้าๆไปเรื่อยๆ   ลองแวะดู
 
หนังสือคอมพิวเตอร์หน่อยเป็นไรไป   ใครเห็นเราเขาจะได้คิดว่า   คนสูงวัยไม่ตกยุคยืนอยู่นี่คนหนึ่ง    ได้มาหนึ่งเล่มชื่อ   “รวมสุดยอดโปรแกรมแปลงไฟล์”   ราคา 159 บาท   พอล้วงกระเป๋าซื้อได้คล่องมือหน่อย   ที่น่าสนใจมากสำหรับ   คนชรามือใหม่จำเป็นต้องขับคือ     คุณสมบัติของแผ่น  CD และ DVD    รวมทั้งการแปลงไฟล์ ฯลฯ
 
ผมออกจากห้างคาร์ฟูร์
สาขาหางดง เชียงใหม่     หลังดูหนังสือในร้านเสร็จแล้ว   ยังมีเวลาเหลืออีกมาก   แม่บ้านเพิ่งเข้าไปห้างแค่ชั่วโมงเดียว   ผมเดินเรื่อยไปตามอาคารพาณิชย์ที่อยู่หน้าห้าง   เป็นอาคารชั้นเดียวยาว   แบ่งเป็นหลายคูหา   พบคูหาหนึ่ง   มองผ่านกระจก   เห็นบรรดาหนังสือวางเรียงรายตามข้างห้องบ้าง   ในชั้นตู้หลายใบบ้าง   แหงนดูชื่อร้าน   ตัวหนังสือใหญ่ชื่อร้าน “สามัญชน”  อื้อหือ!   ชื่อกระแทกตากระแทกใจดีเหลือเกิน   ประตูเข้าติดกระจกใส 2 บาน   เท้าพาผมเดินเข้าไปไม่รีรอ   ได้ยินเสียงกระดิ่งแขวนที่ประตูดังกรุ้งกริ้งๆ   ผมก้าวผ่านเข้าไป รู้สึกทึ่งและมึนงงเล็กน้อย.
 
 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน