Skip to main content

ที่สี่แยก
พอไฟแดงวาบขึ้น ผมบังคับรถกระบะคู่กายหยุดกึก อีก 3-4 วินาทีต่อมา ยังมีรถจักรยานยนต์ 2 คัน วิ่งไล่ตามกันไป ตามติดด้วยรถเก๋งสีครีมอีก 1 คัน ไม่มีการกลัวรถอีกสายหนึ่งจะพุ่งออกมาชนเอา ใจถึงจริงๆ ท่านผู้กล้าบนท้องถนน ผมมองตามอย่างกังขา ในเวลาเช้าจะมีรถตามสี่แยกมากจริงๆ ต่อแถวยาวเหยียด เหมือนนักวิ่งรอสัญญาณปล่อยตัวออกจากจุดสตาร์ต ต่อมาอีก 3-4 วินาทีไฟเขียวเบื้องหน้ายังไม่ปรากฏ แต่นกรู้เป็นรถจักรยานยนต์ 2 คันขยับตัวออกรถ อีก 1 คันตามหลัง รถรับจ้างสีเหลืองประจำทางเคลื่อนตามติดแม้ไฟเขียวยังไม่สว่างวาบ ส่วนผมคนซื่อพอไฟเขียวสว่างขึ้นจึงเคลื่อนรถออกไป นับเป็นเหตุการณ์ปรกติชินตา ก่อนไฟเขียวออกและหลังไฟเขียวสว่างจ้าขึ้นราว 3-4 วินาที จะมีรถออกก่อนสัญญาณเสมอ ดังแสดงว่า ข้าเก่ง ข้ารู้น่า เดี๋ยวมันก็เขียวหรอก จะรอหาอะไรอีก มีคนทำงานวิจัยเรื่องนี้ไว้ทิ่มแทงใจดีแท้สรุปว่า การจราจรเมืองไทย จะมีรถออกก่อนสัญญาณไฟเขียวราว 3-4 วินาที จำนวน 2-3 คัน และหลังสัญญาณไฟแดงดับไปแล้ว 2-3 วินาที จะยังมีรถวิ่งผ่าไฟแดงอีก 2-3 คันเช่นกัน ท่านลองสังเกตดูเถอะครับ

ในต่างอำเภอ
ถ้าสังเกตจะพบว่า มีรถจักรยานยนต์ขับรถย้อนศรเสมอ ยุคแรกๆผู้ขับขี่จะขับช้าๆก้มหน้าเหมือนเหนียมอาย คล้ายบอกทางอ้อมว่าฉันทำผิดนะ เกิดการเลียนแบบ นานเข้าจนถึงวันนี้ ต่างขับขี่รถจักรยานยนต์หน้ามองตรง ไม่สะทกสะท้าน ขับเร็วด้วย วิ่งไประยะไกลๆ บ้างวิ่งข้ามถนนตัดเลนไปตามใจ เก่งกล้าถึงขนาดขับเลยเส้นขาวข้างถนนออกมา ผู้ขับขี่ที่เคารพกฎจราจรคนอื่นที่เป็นส่วนใหญ่ต้องระวังพวกนี้ มีมากขึ้นทุกวัน รถยนต์ขับย้อนศรเริ่มมีบ้าง ขับแบบหน้าตาเฉยเช่นกัน อยากเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปปฏิบัติซุ่มดูตามจุดดังกล่าว ที่เห็นประจำและทำกันจริงจังเป็นการตั้งด้านตรวจเอกสาร เช่น ใบขับขี่ ป้ายวงกลม ส่วนจับไม่สวมหมวกนิรภัยมีบ้างไม่มาก ในตัวเมืองเชียงใหม่ มักมีการจอดรถยนต์ตามป้ายห้ามจอด จอดควบเส้นข้างทาง ที่น่าเบื่อเป็นรถสีล้อแดงรับจ้าง วิ่งหาผู้โดยสารจอดตามใจ อยากจอดที่ไหนก็ได้ ทำให้จราจรติดขัด

ขณะขับรถ
ใจผมเริ่มลอยนึกไปถึงเรื่องพันธมิตรฯยึดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 นานถึง 3 ปีเศษแล้ว อัยการสั่งเลื่อนคดีหลายครั้งหลายหน จนเราลืมเรื่องนี้กันไป ไม่ทราบว่า อัยการจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร เมื่อไร นึกถึงเรื่องนี้ผมชักหงุดหงิด พอดีทราบข่าวล่าสุดว่า คดีปิดสนามบินสองแห่งนั้น อัยการ นัดฟังคำสั่งวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2555 ใจแวบไปถึงเรื่องที่สอง คดีส่งเสือโคร่งเบงกอลไปประเทศจีนนั้น นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าพบอัยการสูงสุดเพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าว ที่ ป.ป.ช.ได้มีการชี้ข้อมูลและส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ส่งฟ้องในคดีอาญาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 ซึ่งผ่านมา 5 ปี ยังไม่มีความคืบหน้า เรื่องนี้หลายคนคงลืมไปแล้ว...อีกเรื่องถูกใจมากเลยคือเรื่องรัฐธรรมนูญ รัฐบาลชะลอลงวาระ 3 ไปก่อน และมีการพูดถึงมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เป็นมาตราที่ต้องแก้ไขมากที่สุด สาระสำคัญคือ ป้องกันการรัฐประหาร หากฝ่ายใดรัฐประหาร เมื่อพ้นอำนาจจะไม่มีการนิรโทษกรรม...หูผมได้ยินเสียงรถเบรกเอี๊ยด จึงตื่นจากอาการใจลอย เห็นป้ายไฟแดงสว่างจ้า แต่รถผมยังวิ่งตามกลุ่มรถข้างหน้าที่ทิ้งระยะห่างออกไป เห็นกลุ่มรถทางแยกขวามือกำลังออกรถเคลื่อนเข้ามาหาผม ผมใจหายวาบ รีบเหยียบคันเร่งพุ่งไปข้าง ใจลอยไม่ดีเลย.

.............................................

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน