Skip to main content

ม็อบกระเทียมปิดถนน

เรียกร้องความต้องการ ทำความเดือนร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้ถนน ผู้เคารพกฎจราจร เคารพกฎหมายบ้านเมือง ผู้ร้ายล็อกคอพลเมืองดีเป็นตัวประกัน ต่อรองเรียกร้องให้คนอื่นทำตามใจตน นี่เป็นตัวอย่างของบางคนบางกลุ่ม ที่รบกวนความสงบสุขของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย ก่อความเดือนร้อนให้คนดีๆ ผู้ก่อเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และบางอำเภอในสงขลา วางระเบิด ยิงคนดีๆ ผู้บริสุทธิ์คนทำมาหากิน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ทำลายทั้งชีวิตและบ้านเรือนร้านค้า ใช้อาวุธร้ายแรง ยิงคนเหมือนยิงนก คล้ายดังเชือดเป็ดไก่ ไร้ความรู้สึกของวิญญูชน ไม่ถามหรอกทำไมทำเช่นนั้น รู้ดี เพราะเราคิดไม่เหมือนกันนั่นเอง...เขานำประชาชนมาเป็นข้อต่อรอง เหมือนโกรธคนหนึ่งแล้วมาทำร้ายอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร คนดีๆคนรักสงบอยู่ลำบากขึ้นทุกวัน คนไทยเหมือนกัน แต่อยู่คนละจังหวัด ความปลอดภัยในชีวีตต่างกัน ย้ายไปอยู่ที่อื่นดีกว่า แต่ต้องมีเงินซื้อที่และปลูกบ้าน ว่าแต่คนจนคนยากมีตัวเลือกมากนักหรือ ต้องทนอยู่ต่อไปแบบสวดมนต์ไป เหลียวซ้ายขวาไปด้วย

รัฐบาลมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้

แม่ทัพภาค 4 เชิญสมาพันธ์ครูจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาสและสงขลา รวมทั้งผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็น กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยครู เพื่อให้พอใจกันทุกฝ่าย ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม เช่น ชรบ. , ทสปช. ทั้งยังมีการเพิ่มเบี้ยเสียงภัยจากเดิมให้ เดือนละ 2500 บาท เป็นเดือนละ 3500 บาท  อีกทั้งมีการใช้กฎหมายหลายฉบับในพื้นที่ภาคใต้ได้แก่ พรบ.กฏอัยการศึก พ.ศ 2457 พรบ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551  พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

3 จังหวัดชายแดนใต้

ยังร้อนระอุต่อไป ครูถูกยิงเสียชีวิตอีก 2 ราย เหตุเกิดวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2555 เวลา 12.45 น. ค้นร้าย 3 คนในชุดพรางคล้ายทหาร บุกเข้าโรงเรียนบ้านนาโง หมู่ 1 ตำบลปานัน อำเภอบายอ จังหวัดปัตตานี ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงนางตติยารัตน์ ช่วยแก้ว ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน และนายสมศักดิ์ ขวัญมา ตำแหน่งครูผู้สอนเสียชีวิตขณะรับประทานอาหารกลางวันในโรงเรียน ทั้งสองคนเป็นครูไทย-พุทธ นับเป็นครูไทย-พุทธรายที่ 156 และ 157

ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนใต้

ร้อนรนทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมาหาแนวทางป้องกันตนเอง ได้ประชุมร่วมกับรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บริหารโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ในวันที่ 12 ธันวาคม เพื่อหารือถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ครู ที่ประชุมได้ข้อสรุปหลายประการ มาตรการเด่นคือ หนึ่งให้มีเจ้าหน้าที่ตั้งฐานย่อยอยู่ติดกับรั้วโรงเรียน สองให้ทำ MOU ระหว่างโรงเรียนกับกองกำลังในพื้นที่ เพื่อจะได้รู้ว่าฝ่ายใดบกพร่องหรือต้องปรับปรุงอย่างไร คำว่า MOU(Memorandum OF Understanding) คือข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายจะทำร่วมกัน ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ไม่มีผลทางกฎหมาย สามตั้งโทรทัศน์วงจรปิดหรือCCTV(Closed Circuit Television)ในโรงเรียน

พอเกิดเหตุร้ายแรง

รัฐบาลปรับแผนจัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบทันทีเหมือนทุกครั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  นายกรัฐมนตรีรีบเดินทางไปปัตตานีในวันที่ 13 ธันวาคม รับข้อเสนอ 8 ข้อของครู 3 จังหวัดชายแดนใต้ รับปากจะดูแลให้...ที่ผ่านมานั้นรัฐบาลดูจะเป็นฝ่ายตั้งรับค่อยแก้ไขตลอด  ก็พยายามดับไฟใต้ต่อไป...หนักใจแทนจริงๆ ไม่รู้พรุ่งนี้จะมีข่าวหน้า 1 อะไรอีก.

.........................................................................

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน