Skip to main content

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

 

 

เก้าอี้สำหรับนั่งร้องเพลง

ตั้งอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่ร่มรื่น ที่วางเนื้อเพลงตั้งอยู่ด้านข้าง ถัดไปเป็นโต๊ะอาหาร มีผลไม้ ข้าวและกับหลายอย่าง มีอาหารปักษ์ใต้ และภาคเหนือ ของขบเคี้ยวเล่นอีก ผมนึกในใจ วันเกิดของเรา จะได้ฟังดนตรี

ผ่อนคลาย ไม่มีใครรู้ว่าเราเกิดวันนี้ ผมนั่งคุยกับสตรีชาวกรุงเทพฯที่แวะมาเยี่ยมเจ้าของบ้าน จึงได้รู้ว่า เธอเกิดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ จะเกษียณเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ น่าแปลกคนเกิดวันใกล้กันมาพบกันโดยมิได้

นัดหมาย กำลังนั่งกินข้าวด้วยกัน สักพักนักร้องสมัครเล่นมาถึงบ้านครอบครัวนักเขียนดัง เธอลงจากรถเก๋งสีขาวขนาดเล็ก ทรงผมสั้น เธอเดินตรงมาที่โต๊ะ ยกมือไหว้ทักทายทุกคน บอกยังไม่ได้กินอาหารกลางวัน ขอกินข้าวก่อนเถอะกำลังหิว

 

ผมชักหงุดหงิด

กว่าเธอจะกินข้าวเสร็จ  กินเสร็จนั่งคุยย่อยอาหารอีก ท้องผมเพิ่มประท้วงอยากกินข้าวกลางวันบ้าง อาหารบนโต๊ะไม่ถูกปากผมเลย แกงปักษ์ใต้ใครๆก็รู้ว่าเผ็ดร้อนเพียงใด มองดูนาฬิกานี่ 11.02 นาฬิกาแล้ว ผมกินข้าง 11.00 นาฬิกาตรงเวลาทุกวัน ไม่อยากฟังเพลงแล้ว เคยฟังนักร้องดังมาก็มาก  เธอผู้มาใหม่จะร้องเพราะขนาดไหนเชียว ผมอยากกลับบ้าน จึงหาเหตุผลโน้มเอียงเข้าหาตนเอง เจ้าของบ้านทักท้วงบอกว่า อาจารย์อย่าเพิ่งกลับ อยากให้ฟังเพลงจริงๆ รับรองเธอร้องเพลงเพราะนะ เดี๋ยวจะทอดไข่เจียวอร่อยๆให้กิน ผมหย่อนก้นนั่งลงตามเดิม มารยาทการเข้าสังคมพันมือพันตัวผมไว้  ไข่เจียวหอมเหลืองจนน้ำลายชุ่มปากถูกเสิร์ฟบนโต๊ะทันที ผมถือช้อนตักกินกับข้าวสวย พอไหวๆอร่อยใช้ได้ นักร้องพอทราบผมจะริบกลับ เธอรีบกินข้าวเร็วๆ กินไม่ถึง 10 คำ คว้ากีตาร์เข้านั่งที่เก้าอี้ใต้ต้นมะขามใหญ่ร่มรื่น ผมเห็นความตั้งใจของเธอแล้วพูดไม่ออก กินข้าวยังไม่อิ่มดี มีน้ำใจจะร้องเพลงให้คนที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นฟัง

เธอกรีดนิ้วบนสายกีตาร์

ด้วยมาดเหมือนนักร้องประกวดรายการ “ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนท์.”  ขึ้นต้นด้วยเพลงหยาดเพชร เล่นกีตาร์ได้ดีทีเดียว เสียงเพราะชวนฟังอีกด้วย หน้าตาปล่อยเลื่อนลอยไปกับเพลง เธอทำให้เพลงมีชีวิตและวิญญาณ ได้รับเสียงปรบมือจากพวกเราด้วยความชื่นชม ไม่ใช่เสียงปรบมือตามมารยาท ยังไม่พอเธอร่ายมนต์สะกดผู้ฟังต่อด้วยเพลงอมตะของคุณ ศรีไสล สุชาติวุฒิ  สมญาแหบเสน่ห์ เพลงชื่อ “รักข้ามขอบฟ้า” ที่แสนไพเราะ อากาศเริ่มร้อน เราหาพัดลมเป่าให้เธอ  เธอกล่าวขอบคุณ ยกมือปัดผมสั้นไปมา ผลงานร้องเพลงที่ประทับใจ ทำให้เธอดูดีกว่าเดิมมาก เธอสวมเสื้อสีขาวยาวแค่ต้นแขน ท่อนล่างคล้ายชุดช่างฟ้อนคนเหนือ 

ยังไม่พอ ตาผมสอดเห็นข้อเท้าขวาเธอมีกำไลเงินสวมอยู่ เพลงต่อไปเธอดีดกีตาร์ร่วมกับสามีเจ้าของบ้านทำให้เสียงกีตาร์หนักแน่นชวนฟังมากขึ้น และที่ผมจดจำและจะไม่ลืม เธอปิดรายการด้วยเพลงวันเกิดให้ผม ใช่ครับ เพลง Happy Birth Day นั่นเอง

 

เธอกลับมากินอาหารต่อที่โต๊ะ

พวกเราคุยกันสารพัดเรื่อง แบบคนกันเอง มุมมองของผมที่ดูเธอเปลี่ยนไป  เธอบอกว่า เพิ่งหัดกีตาร์ได้ 3 ปี พอเล่นได้แบบงูๆปลาๆ พอฟังแก้เหงาได้นะคะ ผมทราบภายหลังว่า เธอหันกีตาร์ร้องเพลงด้วยตนเองเมื่ออายุ 37 ปี โอ 3 ปีเล่นได้ขนาดนี้หรือนี่ ขณะนี้ซื้อขิมมา 1 ตัวและซออู้อีก 1 คันจากถนนคนเดินท่าแพ เชียงใหม่ กำลังจะหัดเล่น ผลงานการเล่นกีตาร์และร้องเพลงได้ดีขนาดนี้ ผมว่าเธอสามารถเล่นตามห้องอาหารได้เลย ทำให้ผมนึกถึงเพื่อนชายคนหนึ่ง เพื่อนคนนี้มีพี่สาวสวยขนาดเป็นนางงามเชียงใหม่ หากบอกชื่อ คนที่สูงอายุจะร้องอ๋อที่เดียว เพื่อนคนนี้ตัวสูงโย่งยังกะฝรั่ง หัดร้องเพลงเอลวิส เพลสลีย์ พร้อมดีดกีตาร์ไปด้วย เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา  ไล่วันเดือนดูแสดงว่าเพื่อนผมร้องเพลงและหัดกีตาร์เมื่ออายุปาไป 59 ปี  มีอีกตัวอย่าง คุณจริน ยุทธศาสตร์โกศล เป็นนักบัลเล่ต์สูงวัยหญิงไทยคนแรก ที่ได้บันทึกลงกินเนส บุ๊ก(Guinness World Records) ท่านเริ่มเรียนบัลเล่ต์เมื่ออายุประมาณ 50 ปี จนเต้นได้เก่งเท่านักบัลเล่ต์อาชีพทีเดียว ขอยกตัวอย่างผู้ชายสูงวัยบ้าง นายแอลเลน สจ๊วต ชาวออสเตรเลีย เข้ารับปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์คลินิก จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์น ครอสส์ เมื่อคุณปู่อายุได้ 97 ปี...หมายความว่าอย่างไร  หมายความว่า ชีวิตนี้ไม่มีอะไรช้าไป สายไป และแก่ไป ทุกสิ่งทุกอย่างนับ 1 ใหม่ได้เสมอ ใช่ไหม.

 

................................................................... 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน