Skip to main content

 

 

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

 

พูดถึงเด็กบ้าง

เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี หากว่ามีความรู้ มีความสามารถมากกว่าผู้ใหญ่ที่อายุเฉลี่ย ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เรียกว่าเด็กอัจฉริยะ(Child Prodigy) คือมีความฉลาดมาก ความฉลาดนี้เรียกกันอีกอย่างว่า ไอคิว มาจากภาษาอังกฤษว่า (Intelligence Quotient) แปลเป็นไทยคือ ระดับสติปัญญาหรือเชาว์ปัญญาของคน คนทั่วไป ถ้าวัด IQ แล้วอยู่ระหว่าง 70-130 หากเกินกว่า 136 จัดอยู่ในกลุ่มอัจฉริยะ ขณะที่ประชากรโลกวันนี้ 7,000 ล้านคน จะมีคนที่อัจฉริยะร้อยละ 3-5 คิดเป็นจำนวน 210-300 คน การวัด IQ มักใช้แบบทดสอบ แต่ข้อทดสอบมีจุดอ่อนไม่น้อย เช่น เมื่อทดสอบผ่านไปราว 2 ปี พบว่า IQ  มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลง ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ หากข้อทดสอบมีความเที่ยงตรง มีประสิทธิภาพ

 

ขอยกตัวอย่างเด็กอายุน้อย

แต่ฉลาดเกินวัย จนเรียกว่าอัจฉริยะ คนแรกชื่อ เด็กชายธนัช เปลวเทียนยิ่ง  ปัจจุบันอายุ 11 ปี ได้ยกย่องว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ เมื่ออายุ 4 ปี ได้แสดงการเดี่ยวไวโอลิน มีผู้เข้าชม 20 ล้านครั้งในยูทูป และยังได้จัดนิทรรศการแสดงภาพศิลปะเดี่ยว Solo Art Exhibition เมื่อเมษายน พ.ศ.2549  ผลงานทุกชิ้นมีความเป็นสากล สร้างสถิติประมูลภาพที่น่าทึ่ง ทำให้ราคาสูงขึ้นถึง 5 เท่า มีนักสะสมทั่วโลกซื้อไปมากกว่า 1 พันภาพ นอกจากนั้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชวนน้องธนัชวัย 10 ขวบ ที่มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์สูงเกินวัย เข้าร่วมทำงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์  น้องธนัชออกจากระบบโรงเรียนตอนประถมศึกษาปีที่ 3 แล้วเรียนในระบบโฮมสกูล(Home  School)อยู่ที่บ้าน โดยจดทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภายใต้สังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน

 

Kim Ung Yong

เข้ามหาวิทยาลัยอายุ 4 ขวบ อ่านภาษาญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมัน อังกฤษ ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ รับปริญญาเอกเมื่ออายุ 15 ปี มี IQ สูงถึง 210 ขณะเรียนเขาทำงานวิจัยกับ NAZA ด้วย

 

วิลเลียม เจมส์ ไซดิส

บิดาเป็นชาวรัสเซียเชื้อสายยิว เป็นบุคคล IQ สูงที่สุดในโลกคนหนึ่ง ระหว่าง 250-300

อายุ 8 เดือนตักอาหารกินเองได้ อ่านหนังสือได้เมื่ออายุได้ 18 เดือน เมื่ออายุได้ 8 ขวบพูดได้ถึง 8 ภาษา ยังไม่พอได้คิดค้นภาษาใหม่ขึ้นโดยผสมผสานตัวอักษรภาษาลาติน กรีซ เยอรมัน ฝรั่งเศส รัสเซีย เรียกว่าภาษา เวนเดอร์ กู๊ด (Vendergood) จบปริญญาเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่ออายุเพียง 16 ปี

เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า

                       “ ต้องการใช้ชีวิตสันโดษ ไม่ยุงกับสังคม จะไม่แต่งงาน ของครองพรหมจรรย์ไปตลอดชีวิต.”

เขาเรียนรู้ภาษาถิ่นแตกฉานถึง 40 ภาษา บั้นปลายชีวิตไม่ได้มีความสุขสบาย เขาเสียชีวิตแบบคนอนาถาตามลำพังในห้องเช่าในเมืองบอสตัน สาเหตุเส้นเลือดในสมองแตกเมื่ออายุ 46 ปี

 

น่าชื่นใจยิ่ง

น้องเรนนี่ ปวีณรัตน์ วงศ์ประเสริฐ วัย 16 ปี นักเรียนคนเก่งจากโรงเรียนนาชาติฮาร์โรว์ กรุงเทพ ที่สามารถสอบวัดระดับความรู้ในนานาชาติของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์(IGCSE) สอบได้คะแนน อันดับที่ 1ของโลก 2 วิชา ได้แก่ วิชาเศรษฐศาสตร์ และวิชาภูมิศาสตร์ และคว้าคะแนนอันดับที่ 1 ของประเทศไทย ในวิชาชีววิทยา วิชาเคมี และวิชาประวัติศาสตร์

 คุณแม่น้องเรนนี่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า คุณแม่จะเลือกโรงเรียนที่ประวัติการเรียนการสอนและบรรยากาศในโรงเรียนดี เลือกโรงเรียนใกล้บ้าน...น้องเรนนี่สนใจและชอบอ่านหนังสือมาก คุณแม่จะคอยหาหนังสือดีๆมาให้อ่าน...ควรส่งเสริมให้ลูกรักการอ่าน ฝึกระเบียบวินัย ความรับผิดชอบตั้งแต่เด็กๆ อย่าบังคับลูกให้เรียนในวิชาที่เขาไม่ชอบ พยายามให้มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และมีความสุขกับการเรียน...น้องไม่เคยไปเรียนพิเศษ เพราะคุณแม่บอกให้ลูกตั้งใจเรียน ให้เข้าใจบทเรียนที่ครูสอนในห้อง

น้องเรนนี่ให้สัมภาษณ์น่าสนใจมากว่า อย่าอ่านหนังสือเฉพาะตอนสอบ ให้ทบทวนหลังเลิกเรียนนิดๆหน่อยๆทุกวัน แล้วความรู้จะเข้าไปอยู่ในความจำระยะยาว...อย่าอ่านเฉพาะหนังสือเรียน ลองหาหนังสือนอกเวลาเกี่ยวกับวิชาที่เราชอบด้วย...คุณแม่เตือนให้ดูแลสุขภาพ

งานวิจัยเรื่องหนึ่ง

สรุปว่า ความสามารถทางด้านอารมณ์และสังคมมีส่วนทำให้ประสบความสำเร็จในอาชีพและชื่อเสียงมากกว่าความสามารถทางสติปัญญาหรือ IQ ถึง 4 เท่า.

                   

                                       ……………………………………………………

 

                                             

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน