Skip to main content

 

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

แสงแดดภายนอกห้องประชุม

ลับหายไปโดยไม่มีใครในห้องรู้  ฟ้ามืดดำลมแรงขึ้น อีกไม่กี่วินาที แรงขึ้นอีกแล้วผ่อน การจัดสถานที่ประชุมแล้วเสร็จเพียงครึ่งหนึ่ง อึดใจต่อมา ฝนและลมพัดแรงขึ้น และแรงมากขึ้น หูได้ยินเสียงอื้ออึงภายนอกห้อง ฝนเม็ดใหญ่ตกกระทบหลังคากระเบื้องดังโปกปากน่ากลัว หรือเป็นลูกเห็บ  เหมือนก้อนกรวดตกกระทบ หลังคาจะทนทานได้สักแค่ไหน เสียงกระทบถี่ขึ้นเหมือนจะเร่งเล่นงานหลังคาให้แตกร้าวให้ได้ ท่าทางคนในห้อง บอกอาการหวั่นไหว หวาดกลัว ใช่แล้วเป็นผมคนหนึ่ง ฉับพลันนั้น เสียงเพล้งดังขึ้น พายุร้ายเคลื่อนมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ มันเริ่มโจมตีกระจกเหนือหน้าต่างด้านทิศตะวันตกแตกกระจายปลิวลงมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จาก 1 แผ่นเป็น 2 แผ่น เสียงกระจกแตกเพิ่มติดๆกัน เสียงลมหวีดหวิวสร้างความหวาดกลัวแก่เราทุกคน ต่างวิ่งหนีหาที่กำบัง เศษกระจกปลิวว่อนไล่ตามหลัง พวกเราวิ่งพล่านตามกันขึ้นเวทีแบบขวัญหนีดีฝ่อ หวังอาศัยผ้าม่านเวทีกำบังกาย เศษกระจกชิ้นเล็กแหลมคม ถูกลมพัดแรงพุ่งตามหลังพวกเราต่อเนื่อง ดังอาวุธนินจา พายุแรงยังพัดชายผ้าม่านบนเวทีตระหลบขึ้น ไม่อาจอาศัยเป็นที่กำบังภัยได้ ทุกคนเคลื่อนไหวรวดเร็ว ชักช้ามีโอกาสถูกเศษกระจกทิ่มแทงร่างกาย หากโดนที่สำคัญ โอ ไม่อยากคิดต่อ เกิดถูกลูกตาจะทำฉันใด บางคนไหวพริบดี พลิกโต๊ะกลางเวทีตะแคงเป็นโล่ ไม่ต้องบอกต่างย่อตัว ทำตัวให้ลีบเล็กที่สุดลงกำบังอย่างกลัวเจ็บกลัวตาย เสียงลมแรงปะทะกระจกเหนือหน้าต่างครบจำนวน 13 แผ่น มันถูกพายุซัดกระหน่ำแตกเป็นชิ้นเล็กแหลมคม หลากหลายรูปร่าง ปลิวว่อนทั่วห้อง บางส่วนหล่นปักตามเบาะที่บุฟองน้ำในห้อง ตาผมสอดส่ายมองออกไปทางหน้าต่าง สำรวจเหตุการณ์ภายนอก เห็นต้นไม้ข้างนอกเอนลู่เหมือนจะถอนต้นตามแรงลม เห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อกล้ามกางเกงขายาว วิ่งกระเจิงส่งเสียงร้องตื่นตระหนก ฟังไม่ออกพูดว่าอะไร แกวิ่งผ่านต้นมะพร้าวหน้าที่ว่าการอำเภอ กิ่งมะพร้าวแกว่งไกวตามแรงลมดังจะหลุดจากต้น มะพร้าวเปลือกเขียว 2 ลูกสงบนิ่งที่โคนต้นบนผืนหญ้าเขียวชุ่ม

 

เมื่อลมสงบ

 ผมดูนาฬิกา ลมฝนเล่นงานเราข้างเดียวนานราว 15 นาที ผลของพายุครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายมากสุดที่หมู่บ้านทุ่งหลุก หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกอำเภอ เป็นหมู่บ้านริมทุ่งนากว้าง ลักษณะเป็นแอ่งกระทะเล็กๆ มองห่างออกไปทุกทิศ จะมีดอยล้อมรอบ บ้านทุ่งหลุกเสียหายกว่า 30 กว่าหลังคาเรือน บางหลังกระเบื้องหลังคาเสียหายสูงถึง 30 กว่าแผ่น บางหลังเพิ่งปลูก เสาไม้สักวางบนตอม่อ ยังไม่ได้ใส่นอตที่หูกระต่าย จึงถูกพายุซัดบ้านพัดเอียงกระเท่เร่

 

ทันเหตุการณ์

ทางอำเภอใช้รถยนต์ตระเวนประกาศไปทั่ว ให้บ้านที่เสียหายจากพายุ สำรวจความเสียหาย ให้ผู้ใหญ่บ้านออกสำรวจลูกบ้านแล้วรายงานอำเภอ  ส่วนเจ้าของบ้านให้ไปเบิกกระเบื้องมุงหลังคาได้ที่อำเภอ โดยจะจ่ายชดใช้ในภาวะเร่งด่วนก่อน 30  เปอร์เซ็นต์

 

หลังพายุฝนสงบ

ภายในห้องประชุม คณะกรรมการจัดสถานที่ประชุมใหญ่ครูในอำเภอ ต่างกระจายกันมองดูสภาพห้องประชุม หัวหน้าการประถมศึกษายืนใกล้ผม พูดขึ้นเหมือนรำพึงรำพัน จะทำอย่างไรดีนะ เลื่อนประชุมหรือเปลี่ยนสถานที่ประชุมดีไหม พวกเราส่วนใหญ่ไม่อยากให้เลื่อน อยากจะประชุมให้เสร็จเรียบร้อยไปเลย เพราะเป็นระยะที่หลายฝ่ายมีงานต่างๆที่รุมเข้ามา เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจึงช่วยกันเก็บเศษกระจกตามพื้น ส่านที่ปักคาตามเบาะนั่ง บางตัวมีเศษกระจกชิ้นโตมองเห็นง่าย เราเก็บทิ้งไม่ยาก ส่วนที่เป็นชิ้นเล็กๆ บ้างหักคาเบาะ  แบบนี้น่ากลัว  พวกเราต่างเบิกตาตรวจให้ละเอียดที่สุด  ผมหวั่นในใจ ใครมาประชุมวันพรุ่งนี้ ไม่รู้ผู้ใดจะถูกกระจกชิ้นเล็กทิ่มก้นบ้าง  ไม่อยากถึงพรุ่งนี้เลย.

 

                                             ........................................................................................

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน