Skip to main content

 

ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง

 

20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555

ได้ทราบข่าวทางโทรทัศน์ว่า เทศบาลตำบลสองแคว จังหวัดเชียงใหม่ ได้ขุดอ่างเก็บน้ำเพื่อไว้ใช้ในยามแล้งบนเนื้อที่ 13 ไร่ โดยเริ่มขุดบริเวณหนองฮองแฮง หมู่ 5-6 บ้านสองแควและบ้านหัวข่วง ได้ขุดลึกลงไป 13 เมตรเศษ พบวัตถุโบราณ เป็นเครื่องใช้ พระพุทธรูป ต้นตะเคียนขนาด 2 คนโอบยาว 24 เมตร โค่นล้มจมในหนองแห่งนี้ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้นำคณะมาตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่า เป็นพื้นที่ชุมชนโบราณเก่าแก่ของเมืองหริภุญไชย ชื่อ “ชุมชนเวียงเถาะ” อายุ 1,300 ปีขึ้นไป

 

22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ผมขับรถกระบะออกจากบ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ ไปตามถนนทางทิศใต้ ทะลุคอสะพานข้ามแม่น้ำขาน กิโลเมตรที่ 35 ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด(ทางหลวงหมายเลข 108) เลี้ยวขวาล่องใต้ วิ่งข้ามสะพานอีกราว 2 กิโลเมตร ถึงโรงเรียนบ้านสามหลัง สังเกตให้ดีโรงเรียนอยู่ฝั่งซ้ายถนน เลี้ยวรถเข้าถนนข้างโรงเรียนด้านทิศใต้ วิ่งอีก 3 กิโลเมตร ไปตามถนนที่ข้ามทุ่งนา แล้วเลี้ยวขวาโค้งตามถนนในหมู่บ้าน เมื่อสิ้นระยะทาง 3 กิโลเมตรจะถึงที่หมาย หนองฮองแฮงอยู่ด้านขวาถนน ด้านซ้ายถนนเป็นตลิ่งแม่น้ำปิง ตลิ่งห่างถนนราว 10 เมตร ฝั่งถูกแม่น้ำปิงกัดเซาะพังทลายน่ากลัว บ้านเรือนริมฝั่งรอวันถล่มลงน้ำ ก่อนนี้ผมเคยยืนดู เห็นแม่น้ำปิงทอดยาวเหยียด ไหลเข้าหาฝั่งที่ตั้งหมู่บ้าน รถวิ่งมาถึงแล้ว รถแมคโคกำลังเดินเครื่องขุดดินเสียงดังตลอด หนองที่ขุดมีลักษณะเป็นรูปวงรี ทำเป็นตลิ่งหนองน้ำเป็นขั้นบันได 1 ขั้น หนองขุดลึก 13 เมตรบนพื้นที่ 13 ไร่

กลางหนองนี้

จะทำการขุดเป็นแอ่งน้ำ เห็นต้นตะเคียนเก่าแก่ล้มนอนอยู่ ท่อนปลายถูกนำมาไว้ข้างบ้านที่ปลูกริมอ่าง อีกครึ่งท่อนอยู่กลางอ่าง ถัดมาเห็นกองอิฐเก่าแก่ 1 กอง บนตลิ่งใต้ต้นไม้มีอีกกองหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นอิฐที่หักเสียหาย เพียงไม่กี่ก้อนที่คงรูปสมบูรณ์ ผมใช้เทปวัดก้อนที่สมบูรณ์ มีขนาดกว้าง 6.1 นิ้ว ยาว 12.6 นิ้ว หนา 2.2 นิ้ว สอบถามชาวบ้านข้างอ่างเก็บน้ำบอกกว่า โบราณวัตถุ เช่น พุทธรูปหัก เครื่องใช้โบราณ เสมา ฯลฯ กรมศิลปากรได้นำไปไว้ที่อุโบสถวัดสองแคว โดยจัดทำบัญชีไว้เรียบร้อย มอบให้วัดดูแลแทน ผมขับรถย้อนกลับออกมา 1 กิโลเมตร ถึงวัดสองแควอยู่ขวามือ พบผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านมางานศพที่วัด ดูท่าทีศรัทธาญาติโยมหวงวัตถุโบราณซึ่งขุดพบมาก ผมขออนุญาตดูวัตถุที่ขุดได้ บ่ายเบี่ยงว่ากุญแจเปิดอุโบสถอยู่ที่เจ้าอาวาส และชี้ให้ผมดูเสมาวางข้างทางข้างวิหารที่ขุดได้ ผมทำการถ่ายรูป เสมาเป็นก้อนหินสีคล้ายเปลือกไข่ รูปทรงปริมาตร มีขนาดกว้าง 27 นิ้ว ยาว 60 นิ้ว หนา 13 นิ้ว ชาวบ้านบอกหนักมากขนาด 8 คนหามไม่ไหว ผมนึกในใจ เจ้าของสถานที่หวงนัก ผมคิดวางแผนการจะเข้าดูโบราณวัตถุให้ได้ พรุ่งนี้จะกลับมาในมาดใหม่.

 

                                               ..........................................................................

 

 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน