Skip to main content

ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง

 

26 ธันวาคม พ.ศ. 2547
เวลา 7.58 น. เกิดแผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์ บริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย น้ำทะเลริมหาดเหือดหาย ถอยลงไปจนเหมือนจรดเส้นขอบฟ้า เห็นพื้นทรายเรียบเนียนราว 200 เมตร เกิดช่วงไม่ถึง 30 วินาที ยอดคลื่นฟองขาวก่อตัวขึ้นเห็นแต่ไกล มันเคลื่อนตัวหาฝั่งช้าๆ แต่ยิ่งใกล้ชายฝั่ง กำแพงคลื่นยักษ์กลับสูงมากขึ้นขนาดยอดมะพร้าวหรือตึกสามชั้น ด้วยอัตราความเร็วเข้าสู่ฝั่ง 700-1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความยาวคลื่น 80-200 กิโลเมตร ลักษณะเป็นกลุ่มคลื่น คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่ฝั่ง กวาดข้าวของผู้คนจำนวนมากจมหายและล่องลอยไปกับกระแสคลื่นชั่วพริบตา

สร้างความเสียหาย
แก่ 6 จังหวัดของไทย ได้แก่ พังงา กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ตรัง สตูล มีผู้เสียชีวิต 5,309 คน บาดเจ็บ 8,457 คน สูญหาย 3,370 คน รอยเตอร์สรุปยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายทั้งหมด 13 ประเทศ จำนวน 229,361 ราย สูญเสียทรัพย์สิน 10.73 พันล้านดอลลาร์

คลื่นสึนามิ
เกิดได้ทุกบริเวณในโลก 80 เปอร์เซ็นต์เกิดตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ในเขตที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟ(Pacific Ring of Fire หรือ  the Ring of Fire) เป็นที่ตั้งประเทศ โบลิเวีย บราซิล แคนาดาโคลัมเบีย ชิลี เอกวาดอร์ ติมอร์ตะวันออก ฟิจิ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ รัสเซีย หมู่เกาะโซดลมอน และสหรัฐอเมริกา

ทิลลี่ สมิธ(Tilly Smith)
สาวน้อยวัย 11 ปี ผมสีทองยาว เธอได้เดินทางจากย่านอ็อกช็อตต(oxshotf)เมืองเซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ พร้อมพ่อแม่และน้องสาว ได้พากันเดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดคริสต์มาสที่จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 เวลา 7.58 น. ขณะเธอและครอบครัว รวมทั้งผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ ลงเล่นน้ำในช่วงเช้า เธอพบความผิดปรกติ น้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว เธอบอกว่า “น้ำมีเสียงและเริ่มแตกฟอง คล้ายทะเลเดือด เหมือนกับที่หนูเคยเรียนมา”

เป็นความรู้ที่แอนดรูว์ เคิร์นนีย์(Andrew Kearney) ครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ ได้สอนเธอให้รู้จักการเกิดคลื่นซึนามิ ก่อนจะเดินทางมาประเทศไทย ทำให้เธอเป็นคนเดียวในขณะนั้นที่รู้เรื่องภัยร้ายแรงล่วงหน้า ก่อนคลื่นยักษ์จะคืบคลานมาทำลายชีวิตคนและสรรพสิ่ง

เธอได้ตะโกนเตือนการมาของคลื่นสึนามิ ช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวบนหาดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต ให้รอดปลอดภัยกว่า  ชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ เธอพูดต่อว่า


“หนูรู้สึกภูมิใจค่ะ ที่หนูกล้าจะตัดสินใจ เตือนคนบนหาดว่า คลื่นสึนามิกำลังจะมา และหนูก็ดีใจที่คนเหล่านั้นฟังหนู”

วีรกรรมของเธอทำให้ได้รับฉายาว่า “นางฟ้าแห่งผืนหาด” ได้เป็นเยาวชนดีเด่นแห่งปี

เด็กชายปฏิวัติ  คมกล้า กำลังนั่งรอรับพ่อที่อยู่บนเรือหาปลา หันบั้นท้ายให้ทะเลบ่ายหน้าเข้าหาฝั่ง เพื่อนำปลาที่หามาตลอดคืน แปรเปลี่ยนเป็นเงิน เพื่อการดำเนินชีวิตของครอบครัว เด็กชายปฏิวัติหรือน้องต้อมวัย 9 ขวบเรียนชั้นป.4  เด็กชายปฏิวัติได้มองเห็น การเหือดแห้งของน้ำทะเลอย่างฉับพลัน ได้ฟังเสียงเหมือนทะเลเดือดแบบเดียวกับเด็กหญิงทิลลี่ สมิธ เห็นที่หาดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต ต่างกันที่ว่าน้องต้อมไม่รู้เลยว่า นั่นเป็นสัญญาณอันตรายใหญ่หลวงก่อนเกิดคลื่นสึนามิ

คลื่นซัดตูมเดียว น้องต้อมก็เกาะท่อนมะพร้าวอยู่กลางทะเล นานถึง 2 วันจึงมีเฮอริคอปเตอร์มาช่วยเหลือ เด็กไทยกับเด็กฝรั่งอายุไล่เลี่ยกัน เด็กฝรั่งเห็นทะเลแห้งเหือดรวดเร็ว รู้และบอกได้ว่า กำลังจะเกิดคลื่นสึนามิ แต่เด็กไทยเห็นปรากฏการณ์ น้ำทะเลลดลงรวดเร็ว แบบเดียวกัน แต่ไม่รู้และบอกไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หมายความว่าอย่างไร ทำไมเด็กไทยกับเด็กฝรั่งจึงต่างกัน มีคำถามคำตอบมากมาย อะไรบ้างเราจะแก้ไขปรับปรุงหรือไม่อย่างไร.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน