Skip to main content

                                                            

                                                                                                     ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง

ศาลาวัด

มีผู้คนมากมาย  ผู้มาสักทุกคนถอดเสื้อ  จำนวนทั้งสิ้น 61 คน  เป็นชาย 59 คนหญิง 2 คน  เมื่อรู้ว่ามีสตรีใจห้าวหาญมาสักด้วย  ใครๆต่างส่งเสียงฮือฮา  อยากเห็นหน้าตาแม่หญิงใจถึง                                    

บางคนนอนคว่ำบนเสื่อ  มือกอดหมอนหนุนคาง  พระนั่งคร่อมใช้เหล็กแหลมปักลงลายสักบนเนื้อ  เป็นจังหวะๆอย่างต่อเนื่อง  ปากว่าคาถากำกับไปด้วย  บ้างนั่งม้านั่งให้พระสัก  บ้างนอนหงายให้                                                                        

พระสัก บริเวณที่สักจะเป็นหน้าอก  หลัง  ศีรษะ  ไหล่  แขน  ชายโครง  หน้ามือ  หัวเข่า  ลายหนึ่งก็สักแห่งหนึ่ง  ลายที่นิยมสักเป็นลาย  เสือเผ่น  หนุมานคลุกฝุ่น สิงห์  เก้ายอด  ผู้หญิง 2 คนที่ห้าวหาญ  สักรูปผีเสื้อคนหนึ่ง  รูปหัวใจคนหนึ่ง  มีผู้สักลายเสือเผ่นจำนวนมาก  จึงต้องให้เณรและผู้มีคาถาอาวุโสในหมู่บ้านช่วยสัก  เมื่อสักเสร็จแล้ว  พระดอนเรียกมานั่งพนมมือ  นั่งพับเพียบในวิหารบอกให้มาพนมมือต่อหน้าพระประธานทีละคน  พระดอนบริกรรมคาถาด้านหลัง 1 รอบ   ข้างหลัง 1 รอบ 

                       “ โอมเพี้ยง  หนังเหนียว  ยิงบ่ออก  ฟันบ่เข้า  เก่งกล้า 

                         ศัตรูแพ้พ่ายทั่วทิศ พุทโธ  ธัมโม สังโฆ  เพี้ยง .”

พระดอนเป่าพรวดที่กระหม่อม  บางคนขนลุกเกลียว  บ้างสั่นสะท้านดังจับไข้อ่อน  มีบ้างที่สะดุ้งเฮือกกัดกรามแน่น  ลูบหัวผู้ศรัทธา 3 ครั้งด้วยท่าทางขรึมขลัง  พระดอนทำพิธีปลุกเสกลายเสือเผ่นจนครบทุกคน  เมื่อตะวันตรงศีรษะพอดี  นับเป็นมงคลยิ่งแล้ว

 

                 ยามบ่ายผู้เข้าทำพิธีสักทั้ง 61 คนมานั่งในวิหาร ส่วนใหญ่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย  เจ้าอาวาสให้การสั่งสอนครั้งสุดท้าย

                               “ ทุกคนที่ได้ทำพิธีสัก  สิ่งสำคัญนั้น  ทุกคนต้องศรัทธา

                          และเชื่อมั่นในอาคมที่ทำให้ร่างกายเราคงทนต่อศาสตรา

                          อาวุธทุกชนิด  ศรัทธาในคาถาจึงจะขลัง  ได้ของดีไว้ป้องกันตัวแล้ว 

                                ก็ต้องมีข้อปฏิบัติเพื่อของดีนี้จะได้อยู่กับตัวเราไปนานๆ

                                         1.ห้ามผิดลูกเมียเขา

                                         2. ห้ามด่าบุพการี

                                         3. ห้ามกินน้ำเต้า  มะเฟือง

                                         4. ห้ามลอดไม้ค้ำต้นกล้วย  สะพานหัวเดียว

                                         5. ให้ถือศีล 5  อย่างเคร่งครัด  ทำแต่กรรมดี

                                   เอ้า...ได้ของดีสมใจแล้ว  ก็ขอให้ทุกคนรับศีลรับพร  ว่าตามเน่อ...”

พอจบทุกคนคลานไปรับการประพรมน้ำมนต์จากเจ้าอาวาสทีละคน  เป็นว่าเสร็จพิธีแห่งชายชาตรี  ก่อให้เกิดความฮึกเหิมห้าวหาญแก่ทุกคนไม่น้อย

ยิ่งนานวัน  ลูกศิษย์ที่ศรัทธาพระดอนแห่งวัดพระบาทอุดม  ทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  นับแต่ทหารในคุ้ม  พ่อค้าวานิช  เหล่าชายฉกรรจ์นักสู้ผู้มีคุณธรรม  ชาวไร่ชาวนา  แม้กระทั่งชาวเขาบนดอยสูง  ต่างพากันเดินทางมาขอของดี  บ้างขอลงอาคมขลังให้หนังเหนียว  ต่างเรียกพระดอนติดปากว่า  “ ครูบาดอน” ตนบุญมาเกิด.

 

                                  …………………………………………………………..

                                                               

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน