Skip to main content

 

                                                          
                                                                                                              ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง


5.

กะเหรี่ยงเฒ่า 

เจ้ากุยโน่และผู้ติดตามก้มกราบลาพระดอนกลับดอยสูงเบื้องทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  ริมชายแดนพม่า  เตรียมย้ายหมู่บ้านไปอยู่ทำเลใหม่ที่เหมาะสม  หมู่บ้านแห่งใหม่อยู่บนดอยสูงริมหน้าผา  มองลงไปเห็นเพียงสายน้ำดังผืนผ้าขาวบาง  ไหลผ่านก้อนหินใหญ่น้อย  หากใครจิตใจไม่เข้มแข็งนิ่งสงบพอ  แม้ยืนริมหน้าผาแล้วก้มมองลงไป  แข้งขาอาจอ่อนแรงร่วงหล่นลงไปกระแทกหินผาแหลกเละได้  พื้นที่โดยรอบกว้างพอปลูกบ้านได้ 30 กว่าหลัง  มีทางไต่ขึ้นเพียงทางเดียว  สามารถมองเห็นได้โดยรอบดอย  ข้าศึกผู้ร้ายหากรุกล้ำเข้ามาย่อมมองเห็นโดยง่าย

ภายในวัดพระบาทอุดม  ใช่จะมีเพียงโบสถ์วิหารศาลา  และที่อบสมุนไพรเท่านั้น  ถัดจากด้านหลังวัด    ยังเป็นป่าโปร่งเนื้อที่กว่า 30 ไร่  ณ  ที่นี่ทางฝ่ายทหาร  ได้ขอเจ้าอาวาสใช้เป็นค่ายฝึกอาวุธแก่ทหาร  แม้บ้านเมืองยังสงบ  ผู้ครองเมืองมิได้ประมาท  มีการเตรียมกำลังทหารไว้เสมอมา  ทางวัดมิได้ขัดข้องแต่ประการใด  ยามนี้ทางวัดและฝ่ายบ้านเมืองต้องร่วมมือกัน  ด้วยพระศาสนาและพระสงฆ์องค์เจ้าจะอยู่รอดปลอดภัย  บ้านเมืองต้องปลอดจากข้าศึกรุกราน  กำลังทหารเท่านั้นจะช่วยได้  พระดอนและเจ้าอาวาสเคยไปดูการฝึกอาวุธให้ทหารเช่นกัน  พระดอนยังช่วยแนะนำการต่อสู้ให้ทหารขณะฝึกซ้อม  แต่มิได้ลงทดสอบเพลงดาบ  เป็นที่ทราบเพียงว่า  พระดอนมีฝีมือทางเพลงดาบ อยู่ในระดับน่าเกรงขาม  มีแม่ทัพและนายทหารไม่กี่คน  ที่ทราบว่ามีทหารฝีมือดี  รวมทั้งครูดาบทั้งหลาย  บางคนเดินทางมาจากแดนไกล  จากหลายแหล่งแห่งหน  ดั้นด้นมาฝึกเพลงดาบให้พระดอน  โดยไม่มีการเปิดเผย  แม้เป็นพระยังต้องฝึกเพลงดาบ  มิใช่เรื่องแปลกประหลาด  ในยามบ้านเมืองมักมีศึกสงครามไม่ขาด  อาจเป็นเพราะพระดอนสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าอุดมสิน  ผู้ครองเมืองฝางในกาลก่อน  เป็นหลานพระนางสามผิว  จึงมีอยู่เนืองๆ  มักมีญาติผู้ใหญ่และที่รองลงมา  จะมาเยี่ยมเยือน  มากราบพระดอนเสมอ  ทั้งของฉันและของใช้มาถวาย  บางทีเป็นผลไม้หลากหลายชนิด  จนพระดอนฉันไม่หมด  ต้องแบ่งปันพระรูปอื่น  สุดท้ายโขยมวัดพลอยได้กินเอร็ดอร่อยทั่วหน้า

ทุกวันพระจะมีสตรีนางหนึ่งวัย 15 ปี  รูปร่างระหง  ท่าทางมีสง่าราศี  กริยาสำรวมเรียบร้อย  นุ่งผ้าซิ่นลายขวางต่อตีน(ต่อเชิงต่อเอว)  สีส้มตัดสีเหลือง  สวมเสื้อคอกลม  ตัวหลวม  แขนกระบอกต่อแขนต่ำ  ผ่าอกตลอด  ติดมะต่อมแต๊บ(กระดุมแป๊ป)  มีกระเป๋าสองข้าง  สีเปลือกไข่  ตุ้มหูแต่ละข้างเป็นวงกลมทอง 2 วง  เรียงจากวงใหญ่ลงไปหาเล็ก เกล้าผมมวยเหนือท้ายทอย  เสียบผมด้วยหย่องโลหะ(เข็มเสียบผม)ทำด้วยนาก  ผมสีดำสนิทต้นคอตัดกับลำคอขาวระหง  แขนซ้าย สวมกำไลทอง  ผิวนางผุดผ่องด้วยวัยเริ่มสาว  สีผิวดังมะปรางสุกทีเดียว  นางถือถาดอาหารคาวหวานมุ่งสู่กุฏิพระดอน พร้อมคนใช้หญิงสูงวัยกว่านางเล็กน้อย  ทั้งสองนั้นมาถึงวัดแต่เช้าก่อนใคร
                                                          

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน