Skip to main content

ชาวนาชาวไร่ ฟังวิทยุ มากกว่าดูโทรทัศน์ มากกว่าดูหนัง มากกว่าอ่านหนังสือ เพราะการงานในไร่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ไม่เอื้ออำนวยให้เอาสายตาและเวลาไปใช้อย่างอื่น


เสียงเพลงและ เสียงข่าว จึงดังแว่วมาตามลมตั้งแต่ริมคลองส่งน้ำด้านทิศเหนือไปจนจรดทุ่งนาติดชายป่า ด้านทิศใต้


สมัยนี้วิทยุเครื่องเล็กๆ ใช้ถ่านก้อนเดียว เครื่องละแค่ไม่กี่ร้อย ใครๆ ก็ซื้อได้

ขนาดเจ้าโหน่ง เด็กเลี้ยงวัว ยังห้อยโทรศัพท์มือถือฟังวิทยุได้ ... น่าน! เท่ห์ซะไม่มี


ฟังกันมากที่สุด ก็ต้องเป็นเพลงลูกทุ่งทั้งเก่าทั้งใหม่ รองลงมาก็สตริง ส่วนคนมีอายุก็ชอบฟังข่าว ฟังเทศน์ฟังธรรม


แล้วก็เหมือนๆ กับสื่อชนิดอื่น วิทยุ ก็ต้องมีโฆษณาหรือผู้สนับสนุนเช่นเดียวกัน

...ยาสตรีตราตะพาบน้ำ ช่วยกระชับมดลูก บำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณ ใช้แล้วประจำเดือนมาปกติ อารมณ์ดี ผิวพรรณนวลเนียน ใครเห็นใครก็ทัก ชายเห็นชายก็หลง...”

...ปุ๋ยอินทรีย์ตราหมากระโดด เหมาะสำหรับข้าว พืชไร่ พืชสวน ผักทุกชนิด เป็นปุ๋ยเม็ด ใช้หว่าน แตกตัวเร็ว เห็นผลทันตา ข้าวเขียวทันใจ ผลไม้ออกผลทันควัน พืชผักจะโตเร็ว งอกงาม จนท่านต้องร้องว่า อู้หู! ...”

...หลี่ ไป๋ โต๊ะจีน รับจัดโต๊ะจีนทั่วราชอาณาจักร ราคาเจ็ดร้อยถึงสองพันห้าร้อยบาทต่อโต๊ะ เรามีเมนูอาหารให้ท่านเลือกมากกว่าห้าสิบชนิด สะอาด รสชาติไม่เป็นรองใคร ทำเร็ว เสิร์ฟไว ทันใจแขก ประทับใจเจ้าภาพ ต่อให้แขกมากถึงร้อยโต๊ะ เราก็บ่ยั่น...”

ฯลฯ


จะว่าไป โฆษณาวิทยุก็ฟังเพลินๆ ดี ใช้ภาษาชาวบ้าน ตรงไปตรงมา ให้ภาพเกินจริงบ้างเล็กน้อย โฆษณาบางตัวก็จะขายอย่างเดียว บางตัวก็เอาขำเข้าว่า ใครจะรักจะชอบจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อะไรยี่ห้อไหน ก็แล้วแต่รสนิยมและกำลังทรัพย์


ที่แน่ๆ รายการไหนโฆษณาเยอะซ้ำๆ บ่อยๆ คนฟังก็มักจะหมุนคลื่นไปฟังสถานีอื่น


หลายบริษัท จึงนิยมใช้อีกวิธีหนึ่ง นอกจากการโฆษณาวิทยุ นั่นคือการขายตรง ส่งพนักงานขายเข้าไปประชิดถึงในหมู่บ้าน


แต่ก็อีกนั่นแหละ แต่งตัวดีๆ ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ค รองเท้าหนัง ถือแฟ้ม ถือกล่องใส่สินค้า เดินมา ชาวบ้านเห็นแต่ไกลก็รู้ทันที

...มาขายของอีกแล้ว...”


เซลล์แมน ถึงรู้ทั้งรู้ว่า ไม่มีใครชอบ แต่ก็ต้องยิ้มสู้เข้าไว้ ยกมือไหว้ และพูดแนะนำตัวตามสคริปต์

...สวัสดีครับ พี่ครับ ผมมีสินค้าดีๆ มาเสนอครับ พี่พอมีเวลาให้ผมสักห้านาทีมั้ยครับ? ...”


ที่นั่งฟังก็มี ที่ลุกหนีก็มาก แต่เซลล์แมนต้องหน้าหนา มีความอดทนสูง ยิ้มรับต่อทุกสภาวการณ์

ถึงจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างโบราณ กระนั้น ก็ยังขายสินค้าได้บ้าง ภาพเซลล์แมนแต่งตัวดีที่เดินตากแดดเปรี้ยงๆ ในหมู่บ้านจึงยังมีให้เห็นอยู่


วิธีที่ยังใช้ได้ผลเสมออีกวิธีหนึ่ง คือขายตรงแบบสร้างเครือข่าย

เซลล์แมนจะเอาสินค้าเข้ามาขายให้ แล้วบอกว่า หากหาคนมาช่วยซื้อสินค้าตัวนี้ได้เท่านั้นเท่านี้คน ก็จะได้เงินคืนเท่านั้นเท่านี้บาท หรือได้ส่วนลดในการซื้อสินค้าเท่านั้นเท่านี้เปอร์เซนต์ แม้จะแตกต่างในรายละเอียด แต่สิ่งที่เหมือนๆ กันก็คือ เอาผลประโยชน์เป็นตัวล่อ


อย่างเช่น ผงซักล้างยี่ห้อ Super Extra Clean Deluxe Royal Number 5 ราคากล่องละ หนึ่งพันเจ็ดร้อยแปดสิบบาท เซลล์แมนโฆษณาว่ามีประสิทธิภาพในการซักล้างสูงมาก ใช้ทำความสะอาดในชีวิตประจำวันได้ทุกงาน ตั้งแต่ซักเสื้อผ้า ไปจนถึงล้างจาน ล้างรถ ล้างห้องน้ำ ล้างครัว ล้างเครื่องมือการเกษตร ฯลฯ กล่องหนึ่งใช้ได้นานถึงสามเดือน


หากใครซื้อสินค้าตัวนี้ ก็จะสามารถสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นก็ถ้าหากพาเพื่อนมาสมัครเป็นสมาชิก(ด้วยการซื้อสินค้า)อีก ก็จะได้รับเปอร์เซนต์จากการขายอีก คนละแปดร้อยบาททันที


งานนี้มีคนในหมู่บ้าน สมัครเป็นสมาชิกกันยี่สิบกว่าคน แต่ละคนก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะไปหาเพื่อนฝูงมาช่วยกันสมัครเป็นสมาชิก


เซลล์แมนรับปากว่า อีก 2-3 วันจะกลับมาใหม่พร้อมกับแบ่งเปอร์เซนต์ให้ ทว่า ผ่านไปสองเดือนแล้ว เซลล์แมนคนนั้นก็หายเงียบไป แถมพอโทรไปที่บริษัท ก็ไม่มีคนรับสาย


ต่อมา มีสินค้าตัวใหม่เข้ามาอีก เป็นปุ๋ยเข้มข้นยี่ห้อ Greatest Life Energy เซลล์แมนโฆษณาว่า ใช้แค่หนึ่งฝาต่อน้ำยี่สิบลิตร รดพืชผักได้ทุกชนิด เพียงแค่แกลลอนละ สองพันห้าร้อยบาทเท่านั้น หากใครซื้อตอนนี้ และไปหาเพื่อนมาซื้อได้อีกห้าคน จะได้เงินคืนทั้งสองพันห้าร้อยบาททันที


งานนี้ มีคนหลงซื้อไปอีกหลายคน แล้วพอจะติดต่อกลับ ก็เข้าอีหรอบเดิม

เซลล์แมนหายสาบสูญ เบอร์โทรที่บริษัท โทรไปกี่ครั้งๆ ก็ไม่เคยติด

น้าเป้า ป้าจัน บ่นเสียดายตังค์อยู่ตั้งหลายวัน


ทุกครั้ง ที่เซลล์แมนประเภทนี้เข้ามา ก็มักจะแนะนำสินค้ากันที่บ้านของของ ลุงใจ เนื่องจากบ้านแกขายเคมีเกษตร แม้จะมีอยู่แค่ไม่กี่อย่างก็ตาม ลุงใจ จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน ไปตามคนนั้นคนนี้มาฟัง จัดหาน้ำท่ามาให้ แต่พอเข้าอีหรอบเดิมบ่อยเข้า ก็ไม่ค่อยมีใครอยากไป


“...
ขี้เกียจไปฟัง กลับมาจากไร่เหนื่อยๆ ขอนั่งดูทีวีดีกว่า...” น้าจ่อย ว่า

...ก็ไปช่วยกันหน่อยซี้ แค่ไปฟัง ไม่เหนื่อยอะไรหรอก...” ลุงใจ ขยั้นขยอ


ด้วยความที่ลุงใจเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีงานอะไรก็มักจะไปช่วย ทำให้ใครๆ เกรงใจแก สุดท้ายก็ต้องไปนั่งฟัง


สินค้ากี่ตัวต่อกี่ตัว ลุงใจเป็นต้องไปตามชาวบ้านมาฟังครั้งละไม่ต่ำกว่าสิบยี่สิบคน แล้วพอไปฟังกันเยอะๆ เข้า ก็ต้องมีคนซื้อสินค้าจนได้


...ข้าละเบื่อลุงใจจริงๆ ไม่อยากไป ก็มาตามได้ทุกที...” น้าจ่อย นั่งบ่นที่ร้านขายลูกชิ้นทอด

เอ็งเบื่อเอ็งก็ไม่ต้องไปสิ” พี่หวี ว่า

...ไม่ไปไม่ได้สิ เขาเป็นน้า...” น้าจ่อย ทำหน้าเซ็ง...พวกมาขายของนี่ก็เหมือนกัน มาบอกว่า ถ้าซื้อแล้วจะได้นั่นได้นี่ ข้าน่ะหมดไปตั้งหลายพันแล้ว ยังไม่เห็นจะได้อะไรเลย...”

...ก็ถือว่าซื้อของใช้ก็แล้วกัน” พี่หวี ปลอบ แต่น้าจ่อย ส่ายหน้า

มันแพงเกินไป ปุ๋ยน้ำแกลลอนละสองพันห้า น้ำยาทำความสะอาดกล่องละพันเจ็ด ข้ายังงงตัวเองอยู่เลยว่าซื้อมาทำไมวะ”

ข้าว่า...” พี่หวี พยายามคิดหาเหตุผล ...ลุงใจนี่ก็แปลกนะ รู้ทั้งรู้ว่า พวกนี้มาทีไรก็เหมือนเดิมทุกทีก็ยังมาตามพวกเอ็งให้ไปฟัง”

ก็นั่นน่ะสิ ข้าก็สงสัยว่าแกจะทำไปทำไม”

แกก็คงได้...” พี่หวีหัวเราะหึๆ

เปอร์เซนต์ !” น้าจ่อย หันมาต่อประโยคให้


นี่ละ...คำตอบเดียวของยุคสมัย

หากไม่ได้เงิน คนก็คงไม่ลวงหลอกคน พี่น้อง ก็คงไม่ลวงหลอกพี่น้อง
เมื่อเอาเงินเข้าล่อ สินค้า จะคุณภาพดีหรือไม่ ก็กลายเป็นเรื่องรอง

ชาวบ้านที่ยังไม่รู้ หรือ คิดฝันถึงผลประโยชน์อย่างที่เขาโฆษณาไว้สวยหรู

ย่อมหนีไม่พ้น ที่จะกลายเป็นเหยื่อ ครั้งแล้วครั้งเล่า


ความโลภ ยังใช้เป็นเครื่องล่อมนุษย์ได้ ทุกยุคทุกสมัย






บล็อกของ ฐาปนา

ฐาปนา
“...ที่สุดแล้ว ปัญหาการเมืองรวมถึงปัญหาส่วนตัวทุกเรื่อง เมื่อสืบเสาะลงไปให้ลึกที่สุดจะพบว่า เป็นปัญหาทางจิตวิญญาณทั้งนั้น ทุกชีวิตเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ ฉะนั้นปัญหาทุกอย่างของชีวิตจึงมีต้นตอมาจากจิตวิญญาณและจะแก้ไขได้ด้วยวิธีทางจิตวิญญาณ สงครามเกิดขึ้นเพราะใครบางคนมีสิ่งที่อีกคนอยากได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้คนบางคนทำสิ่งที่อีกคนไม่อยากให้ทำความขัดแย้งทุกชนิดเกิดจากการวางความปรารถนาไว้ผิดที่สินติเดียวที่จะยั่งยืนได้ในโลกหล้าคือศานติภายในให้แต่ละคนค้นพบสันติในใจตน เมื่อนั้นเธอจะพบว่า เธอไม่ต้องพึ่งพาอะไรอีก...”(สนทนากับพระเจ้าเล่ม 2 หน้า 204)
ฐาปนา
เมื่อครั้งยังเด็ก ผมเคยเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนมีชะตากรรมที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ทุกๆ อย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ทุกๆ อย่างถูกลิขิตไว้หมดแล้ว ตั้งแต่เกิดจนตาย พอเติบโตขึ้น ความเชื่อเรื่องชะตากรรมก็เปลี่ยนไป ผมเชื่อว่ามีแค่สามสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วและเราไม่อาจล่วงรู้ได้ นั่นคือ การเกิด คู่ครอง และการตาย ไม่นานมานี้ ผมมองชะตากรรมอีกแบบหนึ่ง ผมคิดว่า ชะตากรรม คือ สิ่งที่เข้ามาสู่ชีวิตเพื่อให้เราเลือก ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม และมันจะส่งผลต่อเรา เราจะเรียนรู้และเติบโตจากมัน เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปจากมุมมองที่เรามีต่อมัน ลองย้อนมองกลับไปถึงอดีตของเราแต่ละคน สิ่งที่เราเลือก เสมือนจุดๆ หนึ่ง…
ฐาปนา
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ลมหนาวคลายความยะเยือกลง เหลือเพียงลมเย็นโชยเฉื่อย เจือกลิ่นหอมของไม้เมืองหนาวหลายชนิดที่ยังคงผลิดอกแม้ฤดูหนาวสิ้นสุด แล้วเมืองเชียงใหม่ก็เข้าสู่ช่วงเวลาพิเศษของคนหนุ่มสาวอีกครั้ง“วันแห่งความรัก” (Valentines Day) ที่ใครหลายคนรอคอยอันที่จริง แม้จะเรียกกันว่า วัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป บริบทของสังคมเปลี่ยนไป ด้วยอานุภาพแห่งความรักและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความรัก จึงไม่อาจจำกัดให้วันแห่งความรักอยู่แค่เพียง วันที่ 14 ของเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น วันแห่งความรักได้ขยายช่วงเวลาเป็น สัปดาห์แห่งความรัก จนกระทั่งเป็น เดือนแห่งความรัก ในที่สุด นอกจากบรรยากาศแห่งความรัก…
ฐาปนา
ไม่ทราบว่าใครเป็นเหมือนผมบ้างหลังจากข้าวของพาเหรดกันขึ้นราคา แต่รายได้มันไม่ได้ขึ้นตามไปด้วย ทำให้ต้องปรับตัวทุกทางเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้ถีงขั้นต้องใช้คำว่า “เพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้” นั่นละครับเพราะรายได้ที่ไม่แน่นอน ไม่มากมาย บวกกับสภาพหนี้ทั้งงานราษฎร์งานหลวง จากที่เคยตามใจปากตามใจตัวได้บ้างก็ต้องกลายมาเป็น “งด” แทบจะทุกรายการ จะกินขนมสักสิบยี่สิบบาทก็เปลี่ยนไปเป็นอาหารญี่ปุ่นสำหรับคนจน (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) ดีกว่านี่ก็แว่วว่า บะหมี่ซองเหล่านี้จะขึ้นราคากันแล้วเราคงต้องไปหาดินอร่อยๆ กินกันแทนข้าวแล้วกระมัง ก่อนที่ดินอร่อยๆ จะได้รับความนิยมขึ้นมา แล้วดินก็จะขึ้นราคาอีก
ฐาปนา
“...ยังไม่เคยเห็นธนาคารไหนในโลกให้ดอกเบี้ยร้อยเปอร์เซนต์ ฝากพันให้พัน ฝากหมื่นให้หมื่น ฝากล้านให้ล้าน ไม่เคยเห็น แต่ธรรมชาติจะให้มากกว่านั้นแทบทุกเรื่อง ถ้าเราฝากธรรมชาติ อย่างเช่น ถ้าเราเอาเงินสิบบาทไปฝากธนาคาร ถ้าเขาให้ดอกร้อยเปอร์เซนต์ สิ้นปีก็ได้สิบบาท รวมที่ฝากเป็นยี่สิบบาท คือสูงสุดแล้ว แต่ถ้าฝากธรรมชาติ ก็เหมือนฝากให้คนอื่นทำงาน สมมติต้นกล้วยห้าบาท ค่าปลูกกล้วยอีกห้าบาท รวมเป็นต้นทุนสิบบาท พอสิ้นปีได้ปลีกล้วยมาอันหนึ่ง เครือกล้วยอีกเครือหนึ่ง หน่อกล้วยอีกสองหน่อ อันนี้ไม่รู้ราคาเท่าไรแล้ว ถามว่ามันได้ร้อยเปอร์เซนต์ หรือกี่ร้อยเปอร์เซนต์…
ฐาปนา
กิจกรรมส่วนที่สองของโครงการ one year # 2 ของมูลนิธิที่นา ที่ผมเข้าร่วม คือกิจกรรมเรื่องเกษตรกรรมธรรมชาติ เริ่มต้นด้วยการประชุมแนะนำโครงการและให้ผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละคนวาดรูปพืช ที่ตนเองอยากปลูก หรือ สัตว์ที่ตนเองอยากเลี้ยง ซึ่งในช่วงเวลาสามเดือนของกิจกรรมส่วนที่สองนี้ ทุกคนจะต้องดูแลสิ่งมีชีวิตของตนเองสองวันต่อมา เราเดินทางไปชมการทำเกษตรกรรมอินทรีย์และการดูแลสุขภาพวิถีไทที่ “สวนสายลมจอย” อำเภอสันกำแพง พื้นที่ไม่ถึงสิบไร่แห่งนี้ ถูกปรับเปลี่ยนจากพื้นที่นามาเป็นร่องสวน และบ่อเลี้ยงปลา, เต็มไปด้วยมะพร้าว พืชผล พืชผัก และสมุนไพรนานาชนิดจากการทำนาทำสวนที่ใช้สารเคมีในอดีต…
ฐาปนา
หวังให้ประเทศเล็กที่มีพลเมืองน้อยมีอาหารพอที่จะเลี้ยงดูพลเมืองมากกว่าที่เขาต้องการถึงสิบเท่าร้อยเท่าให้ประชาชนเห็นคุณค่าของชีวิตและไม่ท่องเที่ยวพเนจรไปไกลถึงแม้จะมีพาหนะเรือและรถก็ไม่มีใครปรารถนาจะขับขี่ถึงแม้จะมีเกราะและอาวุธก็ไม่มีโอกาสจะใช้ให้กลับไปใช้การจดจำเรื่องราวด้วยการผูกเงื่อนแทนการเขียนหนังสือให้เขานึกว่าอาหารพื้นๆนั้นโอชะเสื้อผ้าอันสามัญนั้นสวยงามบ้านเรือนธรรมดานั้นสุขสบายประเพณีวิถีชีวิตนั้นน่าชื่นชมในระหว่างเพื่อนบ้านต่างเอาใจใส่ซึ่งกันและกันจนอาจได้ยินเสียงไก่ขันสุนัขเห่าจากข้างบ้านและตราบจนวันสุดท้ายของชีวิตจะไม่มีใครได้เคยออกไปนอกประเทศของตนเลย(บทที่ 80 ประเทศในฝัน,…
ฐาปนา
หากให้ลองย้อนคิดดูว่า ในหนึ่งวันที่ผ่านไปเราได้ทำอะไรไปบ้าง คงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะระบุให้ครบถ้วน เพราะการกระทำเป็นรูปธรรม มีผลลัพธ์ชัดเจน มีร่องรอยที่ติตตามได้แต่หากให้ลองย้อนคิดดูว่า ในหนึ่งวันที่ผ่านไป เราได้ "พูด" อะไรไปบ้าง ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ เว้นเสียแต่ว่า วันนั้นเราจะพูดน้อยจนนับคำได้คำพูด คือความคิดที่แสดงออกเพื่อสื่อสาร ซึ่งเนื้อแท้ของสิ่งที่ต้องการสื่อสารนั้นก็คือ ความรู้สึก ความรู้สึกคือภาษาของวิญญาณ เป็นหัวใจเป็นแก่นแกนกลางของการสื่อสารทุกชนิด แต่เราก็มักจะหลงลืมหัวใจของการสื่อสารนี้ไป และไปให้ค่ากับคำพูดเสียมากกว่าฉะนั้น หากเปลี่ยนคำถามเสียใหม่ว่า ในหนึ่งวันที่ผ่านไป…
ฐาปนา
 ผมเพิ่งจะไปเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพมาครับ หลังจากไม่ได้ไปมาเป็นเวลาร่วมสิบปี  ครั้งสุดท้ายที่ขึ้นไปคือตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย พอย้ายมาอยู่ทางเหนือก็ไม่ได้โอกาสเสียที มาสบโอกาสเอาก็ตอนลมหนาวเริ่มมาเยือนนี่เอง ขับมอเตอร์ไซต์ขึ้นดอยตอนเช้า อากาศเย็นสบาย ใช้เวลาสัก 20-30 นาทีเท่านั้นวัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นสถานที่อันดับแรกที่ใครต่อใครที่มาเชียงใหม่จะต้องมาเยือนมาชม มากราบไหว้ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง ที่นี่จึงเต็มไปด้วยผู้คนมากมายตลอดเวลา ยิ่งในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว ดูเหมือนว่า ดอยสุเทพคือสถานที่แรกที่ทุกคนต้องมา…
ฐาปนา
คืนหนึ่งผมฝันถึงสถานที่หนึ่งซึ่งผมไม่เคยคาดคิดว่าจะฝันถึงสถานที่แห่งนั้นเป็นทางเดินที่ทอดยาว เชื่อมระหว่างอาคารหนึ่งไปสู่อาคารหนึ่งผมเดินไปตามทางนั้นด้วยความรู้สึกประหลาด ประหลาดเพราะรู้ว่านี่คือความฝัน แต่ทั้งรู้ว่าฝันผมกลับตื่นตื่นโพลงอยู่ในความฝัน ผมเดินไปตามทางด้วยความตื่นโพลง และรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่ในภาพวาดซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่ง แม้แต่ใบไม้แห้งก็แทบจะไม่ไหวติง ผมรู้จักสถานที่แห่งนั้นดี มันคือทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารพักอาศัยไปยังอาคารปฏิบัติรวมของศูนย์วิปัสสนาธรรมอาภา สถานที่ที่ผมไปอบรมวิปัสสนาเป็นเวลาสิบวันผมพยายามหาเหตุผลว่า ทำไมผมจึงฝันถึงสถานที่แห่งนั้น…
ฐาปนา
หากได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับยุโรป พร้อมเงินติดกระเป๋าไปเที่ยวฟรีๆ 10 วัน เป็นใครย่อมไม่รอช้า ทั้งพร้อมจะเลื่อน – ลา – หยุด ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไป มันคงเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตที่น้อยคนจะมีโอกาส แต่ด้วยเงื่อนไขเดียวกันนี้ หากเปลี่ยนจากไปเที่ยวยุโรป 10 วัน เป็นการไป ‘วิปัสสนา’ 10 วันแทน หลายคนคงต้องคิดหนัก เราหมายใจจะท่องเที่ยวไปให้ทั่วประเทศ ทั่วทวีป ทั่วโลก จากทะเลลึกถึงภูเขาที่สูงที่สุด จากมหานครสู่ป่าดิบ จากกลางตลาดที่คราคร่ำด้วยผู้คนสู่ทะเลทรายเวิ้งว้าง แต่เรากลับไม่สนใจที่จะท่องเที่ยวสำรวจ ‘จิต’ ของเราเอง ... แปลกมั้ย ?ในฐานะชาวพุทธ ไม่ว่าจะกล่าวด้วยความภาคภูมิ…
ฐาปนา
ผมสมัครเข้าร่วมโครงการหนึ่งปี “ชุมชนทดลอง # 2” ของมูลนิธิที่นา [1] ด้วยความไม่รู้ กล่าวคือ ไม่รู้เรื่องวิปัสสนา ไม่รู้เรื่องศิลปะ และไม่รู้เรื่องเกษตรกรรมธรรมชาติ  ความไม่รู้นี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะถ้ารู้แล้วคงไม่ต้องมาเมื่อได้คุยกับทีมงานหลายท่านก่อนเริ่มโครงการ ก็ได้รับความห่วงใยเกรงว่า ผู้เข้าร่วมโครงการจะคาดหวังมากเกินไป เนื่องจาก the land ไม่ใช่ utopia ซึ่งผมก็เข้าใจ ขณะเดียวกันผมเองก็ห่วงใยเกรงว่า ทีมงานจะคาดหวังกับผู้เข้าร่วมโครงการมากเกินไปเช่นเดียวกันเพราะในความต่างของปัจเจกที่มาอยู่ร่วมกันภายใต้เงื่อนไขหลวมๆ นี้ หากผู้เข้าร่วมไม่มีความชัดเจนในจุดประสงค์ของตนเอง…