Skip to main content

เหตุที่ประโยค Respect My Vote. กลายเป็นประโยคที่นำไปใช้ต่อ ๆ กันแพร่หลายกินใจผู้รักประชาธิปไตยในขณะนี้ ไม่เพียงเพราะประโยคนี้มีความหมายตามตัวอักษร แต่เพราะประโยคนี้ยังเป็นถ้อยแถลงทางการเมืองของประชาชน ที่ประกาศว่า อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของประชาชนRespect My Vote. อาจจะแปลเป็นไทยตามตัวอักษรได้ว่า "จงเคารพคะแนนเสียงของฉัน" แต่ประโยคนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้นดังนี้

1) ผู้กล่าว Respect My Vote กำลังเรียกร้องให้ผู้ฟังเคารพสิทธิในการใช้อำนาจแสดงออกทางการเมืองของประชาชน การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือที่ใช้แสดงออกซึ่งอำนาจการตัดสินใจของประชาชนที่ดีที่สุดเท่าที่นักประชาธิปไตยจะคิดได้ในขณะนี้ การเลือกตั้งอาจมีได้หลายวิธีการ แต่โดยหลักการพื้นฐาน มันคือการเชื่อมโยงประชาชนกับผู้แทนของประชาชน และเป็นเครื่องมือตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้แทนด้วยประชาชนเอง การเคารพสิทธิการเลือกตั้งจึงเท่ากับเป็นการเคารพอำนาจการตัดสินใจและอำนาจการตรวจสอบของประชาช

2) Respect My Vote ประกาศว่า "คนเท่ากัน" เป็นการแสดงให้เห็นค่าความเป็นคนเสมอกัน ความเท่าเทียมกันเป็นพื้นฐานสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เท่ากันไม่ใช่ว่าต้องเหมือนกัน ผู้คนไม่ว่าจะยากดีมีจน ไม่ว่าจะเกิดในตระกูลใด ไม่ว่าจะเรียนสูงแค่ไหน ทำงานประกอบอาชีพที่ต้องใช้ทักษะแตกต่างกันเพียงใด ไม่ว่าจะสีผิวใด อาศัยอยู่ถิ่นไหน ไม่ว่าจะมีคุณธรรมสูงส่งหรือต่ำต้อยเพียงใด หากเป็นคนแล้ว ย่อมเท่าเทียมกัน 

3) ผู้ถือป้าย Respect My Vote กำลังเรียกร้องให้ผู้อ่านเคารพการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พวกเขาแสดงความกังวลว่า ระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยกำลังถูกคุกคาม ถูกโค่นล้ม หรือแม้แต่ถูกทำให้สะดุดหยุดลงอีกครั้ง กระบวนการประชาธิปไตยที่สะดุดหยุดลงไม่ได้เพียงริบอำนาจประชาชนไปอยู่ในมือของคนกลุ่มเล็ก ๆ หากแต่ยังจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวนโยบายต่าง ๆ มากมาย ยังลิดรอนเสรีภาพในการแสดงออก ในการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจ และยังจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ประเทศอีกมาก 

4) การชูป้าย Respect My Vote เป็นการแสดงออกของคนด้อยอำนาจทางการเมือง คนที่ไม่มีที่ทางสำคัญทางการเมือง หากแต่มีพลังในการต่อกร คัดง้างกับผู้มีอำนาจ ด้วยเครื่องมืออันสงบของพวกเขา หรืออย่างน้อยที่สุดคือ การปลุกเตือนสำนึกทางประชาธิปไตยของทั้งผู้ปกครองและประชาชนผู้หลับใหล ให้ตื่นจากการสร้างระบอบที่ไม่เป็นธรรม ให้ตื่นขึ้นมาต่อสู้กับระบอบที่ไม่เป็นธรรม การชูป้าย Respect My Vote เป็นการแสดงให้เห็นพลังต่อสู้ของประชาชนคนเล็กคนน้อย ที่กำลังถูกข่มเหงโดยอำนาจนอกระบอบประชาธิปไตย 

5) คำกล่าว Respect My Vote เป็นการแสดงออกทางการเมืองโดยสันติ ผู้ใช้ประโยคนี้คือนักสันติวิธี พวกเขาเพียงเขียนอักษร เพียงชูป้าย เพียงต้องการให้มองเห็นรับรู้ การแสดงออกของชายผู้ชูป้ายคนแรกอาจเป็นการรบกวนผู้อื่นบ้าง หากแต่เมื่อกระแสถูกจุดติดแล้ว ป้ายถ้อยคำก็นี้ถูกเขียนอย่างเงียบ ๆ ชูขึ้นอย่างเงียบ ๆ และใช้ต่อ ๆ มาในการชุมนุมของประชาชนอย่างสงบ ในขบวนการจุดเทียนเพื่อประชาธิปไตยที่กำลังแพร่ไปทั่วในขณะนี้ 

ผู้ปกครองหรือกลุ่มบุคคลใดก็ตามที่กำลังลิดรอนอำนาจทางการเมืองของประชาชน พวกคุณจงสำเหนียกด้วยว่า การต่อสู้ของประชาชนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หากพวกคุณยังไม่เคารพอำนาจของประชาชน ยังไม่เข้าใจความหมายของถ้อยแถลงว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน พวกคุณอาจสูญเสียแม้ฐานะอำนาจที่ตนเคยมีอยู่ในขณะนี้

บล็อกของ ยุกติ มุกดาวิจิตร

ยุกติ มุกดาวิจิตร
มีวันหนึ่ง อาจารย์อคินเดินคุยอยู่กับอาจารย์ที่ผมเคารพรักท่านหนึ่ง ผมเดินตามทั้งสองท่านมาข้างหลังอย่างที่ทั้งสองท่านรู้ตัวดี ตอนนั้นผมกำลังเรียนปริญญาเอกที่อเมริกา หรือไม่ก็เรียนจบกลับมาแล้วนี่แหละ อาจารย์อคินไม่รู้จักผม หรือรู้จักแต่ชื่อแต่ไม่เคยเห็นหน้า หรือไม่ก็จำหน้าไม่ได้ ผมแอบได้ยินอาจารย์อคินเปรยกับอาจารย์อีกท่านว่า
ยุกติ มุกดาวิจิตร
คืนวาน วันฮาโลวีน นักศึกษาชวนผมไปพูดเรื่องผี ปกติผมไม่อยู่รังสิตจนมืดค่ำ แต่ก็มักใจอ่อนหากนักศึกษาชวนให้ร่วมเสวนา พวกเขาจัดงานกึ่งรื่นเริงกึ่งเรียนรู้ (น่าจะเรียกว่าเริงรู้ หรือรื่นเรียนก็คงได้) ในคืนวันผีฝรั่ง ในที่ซึ่งเหมาะแก่การจัดคือพิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยา เพราะมีของเก่าเยอะ ก็ต้องมีผีแน่นอน ผมก็เลยคิดว่าน่าสนุกเหมือนกัน 
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ผมไม่ถึงกับต่อต้านกิจกรรมเชียร์อย่างรุนแรง เพราะคนสำคัญใกล้ตัวผมก็เป็นอดีตเชียร์ลีดเดอร์งานบอลประเพณีฯ ด้วยคนหนึ่ง และเพราะอย่างนั้น ผมจึงพบด้วยตนเองจากคนใกล้ตัวว่า คนคนหนึ่งกับช่วงชีวิตช่วงหนึ่งของมหาวิทยาลัยมันเป็นเพียงแค่ส่วนเสี้ยวหนึ่งของพัฒนาการของแต่ละคน แต่ก็ยังอยากบ่นเรื่องการเชียร์อยู่ดี เพราะความเข้มข้นของกิจกรรมในปัจจุบันแตกต่างอย่างยิ่งจากในสมัยของผม
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ผมเพิ่งไปเก็บข้อมูลวิจัยเรื่องการรู้หนังสือแบบดั้งเดิมของ "ลาวโซ่ง" ในไทยที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ได้ราว 2 วัน ได้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับประเด็นที่สนใจ แต่ก็ได้อย่างอื่นมาด้วยไม่น้อยเช่นกัน เรื่องหนึ่งคือความรู้เกี่ยวกับปลา
ยุกติ มุกดาวิจิตร
วันก่อนปฐมนิเทศนักศึกษาปริญญาโท-เอกของคณะ ในฐานะคนดูแลหลักสูตรบัณฑิตศึกษาทางมานุษยวิทยา ผมเตรียมหัวข้อมาพูดให้นักศึกษาฟัง 4 หัวข้อใหญ่
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ชื่อโมเฮน-โจ-ดาโรแปลตามภาษาซินธ์ (Sindh) ว่า "เนิน (ดาโร) แห่ง (โจ) ความตาย (โมเฮน)" เหตุใดจึงมีชื่อนี้ ผมก็ยังไม่ได้สอบถามค้นคว้าจริงจัง แต่ชื่อนี้ติดหูผมมาตั้งแต่เรียนปริญญาเอกอยู่ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน และเพราะโมเฮนโจดาโรและเมืองคู่แฝดที่ห่างไกลออกไปถึง 600 กิโลเมตรชื่อ "ฮารัปปา" นี่แหละที่ทำให้ผมชอบวิชาโบราณคดีและทำให้อยากมาปากีสถาน 
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ก่อนมา รู้อยู่แล้วว่าปากีสถานช่วงเดือนนี้คือเดือนที่ร้อนมาก และก็เพิ่งรู้ว่าเดือนนี้แหละที่ร้อนที่สุด แต่ที่ทำให้ “ใจชื้น” (แปลกนะ เรามีคำนี้ที่แปลว่าสบายใจ โดยเปรียบกับอากาศ แต่ที่ปากีสถาาน เขาคงไม่มีคำแบบนี้) คือ ความร้อนที่นี่เป็นร้อนแห้ง ไม่ชื้น และจึงน่าจะทนได้มากกว่า 
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ครึ่งวันที่ผมมีประสบการณ์ตรงในกระบวนการยุติธรรมไทย บอกอะไรเกี่ยวกับสังคมไทยมากมาย
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ผมลองเอากรณีทุบรถกับทุบลิฟมาเปรียบเทียบกัน แล้วก็เห็นความแตกต่างกันมากหลายมุม ได้เห็นความเหลื่อมล้ำของสังคมที่สนใจกรณีทั้งสองอย่างไม่สมดุลกัน แต่สุดท้ายมันบอกอะไรเรื่องเดียวกัน คือความบกพร่องของสถาบันจัดการความขัดแย้งของประเทศไทย 
ยุกติ มุกดาวิจิตร
คนรุ่นใหม่ครับ... 
ยุกติ มุกดาวิจิตร
เมื่อวาน (4 ตุลาคม 2560) นิสิตมหาวิทยาลัยหนึ่งโทรศัพท์มาสัมภาษณ์เรื่องการพิมพ์คำ "คะ" "ค่ะ" ผิดๆ ในโซเชียลมีเดียและการส่งข้อความต่างๆ บอกว่าจะเอาไปลงวารสารของคณะเธอ เธอถามว่าการใช้คำผิดแบบนี้มีนัยทางสังคมอย่างไร
ยุกติ มุกดาวิจิตร
เมื่อคืนวาน (30 กันยายน 2560) นักศึกษาปริญญาโทชั้นเรียนมานุษยวิยาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เขียนบทละครเรื่อง "The Dark Fairy Tales นิทานเรื่องนี้ไม่เคยเล่า" ชวนไปดูและร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นหลังละครจบ ช่วยให้คิดอะไรเกี่ยวกับการอ่านนิทานได้อีกมากทีเดียวจึงอยากบันทึกไว้