Skip to main content
 

ฉันมีสก็อตเทป

ไว้ในมืออยู่เสมอ

แปะติดจนตัวเบลอ

เดินเกลื่อนกลาดทั่วมอชอ

                    

 ปีไหนก็ปีไหน

ยังเดินไปจนตัวหงอ

ติดโปสเตอร์ทั่วมอชอ

ทั้งaction   ทั้งเสวนาร่ำไป

 

วันนี้ฉันก็ติด

ฉีกเสียงซี๊ดไปกันใหญ่

นักศึกษาผ่านมาไป

ไม่สนใจฉันกันเลย

 

ติดสก็อตเทป กระโปรงเปิด

เห็นเกงในอันเอ้อระเหย

ตั้งอกตั้งใจฉีกแปะอย่างเคย

ไม่สนใจสภาพอันใด

 

นักศึกษาผ่านไปมา

ไม่สนใจบอร์ดอันใหญ่

ฉันติดอย่างตั้งใจ

ไม่มีใครอ่านมามอง

 

นักศึกษาทำอะไรกัน

ฉันเงี่ยฟังจนตับหลอน

ติดโปสเตอร์ด้วยมือปอนปอน

เขาพูดกันว่อนเรื่องคะแนน

 

ฉันฟังเสียงนักศึกษา

ผ่านไปมาไม่มองแหงน

พูดแต่เรื่องคะแนน

บ้างตกมีน ไม่พอใจ

 

บ้างว่าจะไปดร็อบ

โอ๊ย  ไม่ชอบ คะแนนที่ได้

บ้างว่าอาจารย์โหดไป

กดคะแนนไว้  ไม่แบ่งปัน

 

นักศึกษาเดินเหินผ่าน

นับประมาณยี่สิบนั้น

พูดแต่เรื่องคะแนนกัน

ในหัวมัน ไม่พูดเรื่องอะไร

 

นี่แหละ ความคิดนักศึกษา

ที่เดินผ่านไปมา   แล้วก็เดินกลับไปใหม่

ในหัวหลงตัวเลขคะแนนไซร้

ฝันใฝ่ จะได้คะแนนดีดี

 

ฉันเดินออกมา

จากนักศึกษา...เหล่านี้

รู้สึกแปลกแยกเต็มที

ให้ตายเถอะขี้  ฉันไม่เหมือนใคร

 

ฉันเป็นนักศึกษา

ที่มุ่งหวังว่า จะปฏิวัติสังคมใหม่

แต่ฉันมองทั้งขวาทั้งซ้าย

ก็ไม่มีใคร มาช่วยฉันแปะสก็อตเทปเลย

 

.............................ฉันยังติดต่อไป

ติดแปะใหม่ หน้าตาเฉย

ยังยิ้มให้โปสเตอร์เอย

กับคราบเหงื่อที่ท่วมกาย

 

เดินติดโปสเตอร์ไป

พลางเงี่ยหูฟัง อย่างง่ายๆ

นักศึกษาพวกผู้ชาย

เขาเม้าท์เรื่องกินเหล้ากัน

 

"ไอ้ห่าแม่งโคตรเด็ด

ซัดเหล้าเพียวอย่างแข็งขัน

ใครทำได้เหมือนมัน

กินเหล้าด้วยกัน แม่งเจ๋งกว่าใคร"

 

เดินจากมา ที่ม้าหินอ่อน

เพื่อพักผ่อนให้แจ่มใส

แล้วมีผู้ชายใส่เสื้อชอปพิรี้พิไร 

เสียงดังใหญ่ คุยโวกัน

 

"เฮ้ย  ไอ้เหี้ย  แม่ง  ไอ้สัด

ควยชะมัด ไอ้ห่านั้น

แม่งมันควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากัน

ควงหลายคน สวยทุกคน

 

มันไปที่โรงหนัง

แล้วก็ยังได้อีกหน

เจอผู้หญิงที่โรงหนังหนึ่งคน

เพิ่งรู้จัก  ได้กันเลย

 

กูก็มีผู้หญิงหุ่นน่าเอา   เขามาให้

แต่กูก็ไม่เอาเขาเฉย

เพราะผู้หญิงแม่งตามตื๊อจังเลย

ตามตื๊อเป็นปี  กูรำคาญ"

 

ฉันรอรถม่วงอยู่นานมาก

กระเทยกับสาวสาวถ่ายรูปสนุกสนาน

โพสหน้าแอ๊บแบ๊วอยู่ตั้งนาน

โพสหน้านั้นหน้านี้  มือยกมือถือยิ้มรี่  ถ่ายท่านี้จนสุขใจ

 

ฉันยังเดินแปะต่อ

กับโปสเตอร์อันใหญ่ใหญ่

นักศึกษาผู้หญิงร่ำไร

เธอชอนไชเรื่องนินทา

 

"อีนั่นนะ  พอปลดซ็อค

มันก็นุ่งสั้นแท้ว่า

เหมือนเซร่ามูนแปลงร่างมา

พีทสั้นท่าโชว์ขาอ่อน"

 

ฉันเดินแปะต่อไป

โปสเตอร์ใหม่หน้าสลอน

นักศึกษาชายคนมาก่อน

ถามคนมาหลัง อย่างตั้งใจ

 

"ครับผม  ครับครับพี่

ผมไม่มีพี่รหัสที่ไหน

ผมมีแต่พี่เทคไง

พาผมไปเลี้ยงวันนี้"

 

ว่าแล้วน้องป้ายชื่อ

หน้าซื่อซื่อ หน่อมแน้มนี้

ก็ยกมือไหว้รุ่นพี่

ทั้งที่มือนี้ ไม่เคารพด้วยใจ

 

ฝ่ายพี่  มือวางตัก

แล้วพยักหน้ารับ เมื่อน้องไหว้

วางยศฐาบรรดาศักดิ์ใหญ่

หน้าตาขรึม มาดเข้มเอง

 

ฉันเห็นแล้วสลด

แล้วกลั้นตด ขำโหวงเหวง

รุ่นพี่แก่กว่ารุ่นน้องปีเดียวเอง

ทำยังกะเป็น เจ้าใหญ่นายโต

 

ฉันก็เดินออกไปใหม่

โถ อะไร  มากมายโอ้

บันไดอาร์บีห้า  น้องนั่งโชว์

ร้องเพลงเชียร์ ดังแต่ไกล

 

"ไม่น้อง  เสียงไม่สูง

เอาให้ดัง  ต้องร้องใหม่

ร้องให้ดี ให้ดังไว้

ความภูมิใจ ของคณะเรา"

 

โถเอ๋ย  จะอ้วกแตก

ร้องกี่รอบ จะพอเล่า

หรือพี่หูหนวกเอา

น้องร้องดัง เสือกไม่ได้ยิน

 

การศึกษาประเทศไทย

จะก้าวไปไหนให้เจริญสิ้น

เมื่อนักศึกษายังเคยชิน

กับเรื่องแบบนี้ที่เป็นมา

 

ห่วงเรื่องของตัวเอง

ส่วนเรื่องสังคม ไม่เห็นหน้า

ห่วงคณะ  ห่วงพวกพ้องบรรดา

พวกเดียวกัน พิธีกรรมเหมือนกัน

 

ประเทศไทยหรือจะก้าวไปไหน

ถ้านักศึกษาไทย ที่ใฝ่ฝัน

รักตัวเอง รักพวกตัวเองเท่านั้น

แก้ไขปัญหาสังคมอะไรกัน  ฉันทำไม่เป็น

 

ฉันติดโปสเตอร์ใบสุดท้าย

แล้วเดินจากภาพที่เห็น

ความหวังที่มีต่อนักศึกษา  กระจุยกระเด็น

ปัญญาชนหล่น   จนปัญญา

 

 

บล็อกของ ยุภาวดี ฑีฆะ

ยุภาวดี ฑีฆะ
คนเราควรเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น  และสิ่งที่คนไทยขาดโคตรๆก็คือ  การเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น 
ยุภาวดี ฑีฆะ
 คงเป็นอีกวันที่ทำผลงานให้กับองคฺ์กรไม่ได้เลย     ชีวิตของเด็กปริญญาตรีจบใหม่ต่างต้องเผชิญกับอุปสรรคนาๆประการ  ทีแรก ฉันก็นึกว่าฉันเป็นคนเดียวที่เป็นเด็กปริญญาตรีที่จบมาก็ลำบาก  เพราะชีวิตในมหาลัยมัวแต่สะดวกสบาย  
ยุภาวดี ฑีฆะ
 วันทำงานโรงงานวันแรกนั่งอบรมไปค่อนวัน ศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎี เขาคงปรับความรู้ผู้ใช้แรงงานอย่างพวกเราให้เป็นผู้ใช้แรงงานที่มีความรู้ เพราะมาตรฐานมันเป็นเครือข่ายที่มีหลายประเทศทั่วโลก พวกดิวิชั่นใหญ่ๆมีแต่ชาวต่างประเทศ
ยุภาวดี ฑีฆะ
มิตรสหายท่านหนึ่ง เคยกล่าวกับข้าพเจ้าไว้ว่า พวกที่กบฏอย่างพวกเรานี้ มักมีนิสัยมาตั้งแต่เด็กที่เป็น
ยุภาวดี ฑีฆะ
ในนาม "พรรคสามัญชน" ขอเชิญชวนทุกท่านที่รักแม่น้ำ รักสิ่งแวดล้อม รักทรัพยากรทางทะเล พวกเรามาร่วมใจกันทำแคมเปญ ลอยกระทงอธิษฐานการคัดค้านเขื่อนหลายแห่งเช่น หยุดการสร้างเขื่อนไซยะบุรี เขื่อนแม่ว
ยุภาวดี ฑีฆะ
หนู    ไม่เอาเขื่อน เพื่อนหนู   ไม่เอาเขื่อน พี่น้องของหนู   ไม่เอาเขื่อน รักสิ่งแวดล้อม   ไม่เอาเขื่อน   เขื่อนจ๋า    ทำไมนะต้องทำลายชุมชน
ยุภาวดี ฑีฆะ
  ฉันมีสก็อตเทป ไว้ในมืออยู่เสมอ แปะติดจนตัวเบลอ เดินเกลื่อนกลาดทั่วมอชอ                     
ยุภาวดี ฑีฆะ
เขาพูดกันว่า....“ใครที่ไม่เอาการรับน้อง ก็ออกไปจากมหาลัยนี้ซะ(ออกไปจากคณะนี้ซะ)” “ใครที่ไม่รักพ่อ ก็ออกไปจากประเทศนี้ซะ” เราเห็นอะไรในฐานคิดนี้ หนูเห็นการสร้าง “ความเป็นอื่น”กับคนที่คิดไม่เหมือนตัวเอง และก็ยังไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้มีพื้นที่แสดงความคิดเห็น
ยุภาวดี ฑีฆะ
 "อาจารย์ขา หนูกำลังต่อต้านระบบว้ากน้อง แต่หนูทำยังไงหนูก็แพ้" "ก็คุณมันเสียงส่วนน้อย คุณสู้เสียงส่วนใหญ่ทั้งมหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้หรอก""คุณควรวางเฉย หรือไม่ก็บอกให้เพื่อนคุณเปลี่ยนทีละเล็กทีละน้อย"
ยุภาวดี ฑีฆะ
วันนี้หนูมาศาลจังหวัดลำพูน จริงอย่างที่เพื่อนหนูบอกจริงๆด้วยค่ะ ในขณะที่เด็กมหาวิทยาลัยตีกลองกันดังตุ๊มต๊ามๆ รับน้องกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน และหาได้มีสาระแก่นสารอันใดไม่นอกจากความสนุกเท่านั้น นอกจากสนุกแล้วก็ยังแหกปากด่ากัน รุ่นพี่ด่ารุ่นน้องแ