Skip to main content

บล็อกกาซีน ประชาไท

หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง การเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 13-15 มี.ค. มีหลายประเด็นจากการเยือนดังกล่าวที่ยังไม่ได้รับการพูดถึง หลายเรื่องถูกบิดเบือน และผลิตซ้ำ จนกลายเป็นชุดความคิดที่ถูกยอมรับโดยไม่มีการตั้งคำถาม “ประชาไท” ขอนำเสนอเรื่องที่ยังไม่มีการรายงาน เรื่องที่ยังไม่ถูกพูดถึง และเรื่องที่บิดเบือนดังกล่าว ในระหว่างการเยือนอังกฤษของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  1.เปิดต้นทางข่าว “ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร”   สื่อมวลชนไทยทุกฉบับพร้อมใจรายงานภารกิจของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-15 มี.ค. แทบจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากรายงานข่าวนั้น โดยในวันที่ 14 มี.ค. เวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ไปปาฐกถาหัวข้อ “การจัดการความท้าทายในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย” ที่ St. John’s College OXFORD และในช่วงตอบคำถามได้อภิปรายโต้ตอบกับ ใจ อึ๊งภากรณ์ อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันพำนักอยู่ที่อังกฤษ โดยมีการายงานอย่างครึกโครมในสื่อว่านายอภิสิทธิ์ตอบโต้ ใจ ว่า “ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร” โดยการนำเสนอลักษณะดังกล่าว ปรากฏในหนังสือพิมพ์ไทยหลายฉบับ เช่น คมชัดลึก ["อภิสิทธิ์"โชว์สปีชย้ำปชต.ไทยเดินหน้า] ไทยโพสต์ ["มาร์ค" เคลียร์สถานการณ์ประเทศไทย ตอก “ใจ” หน้าหงายกลางออกซ์ฟอร์ด] ไทยรัฐ [มาร์คโชว์สปีชอ๊อกฟอร์ด ย้ำปชต.ไทยต้องเดินหน้า] แนวหน้า ["ใจ"ชูตีนตบป่วนปาฐกถา มาร์คตอกกลับหนีคดีหมิ่น แจงผู้ดีปชต.ไทยเริ่มเข้มแข็ง] ประชาทรรศน์ ['มาร์ค'ยันไทยปชต.เต็มใบ'ใจ'โผล่ชูตีนตบโต้กลางวงปาฐกถา] โพสต์ทูเดย์ ["มาร์ค"โต้ "ใจ"กลางวงปาฐก] มติชน ["ใจ อึ๊งภากรณ์"ชูตีนตบรับ"มาร์ค"ที่อ๊อกซ์ฟอร์ด-นายกฯลั่นไม่ยอมให้เสียงข้างมากหักล้างความโปร่งใส] ASTVผู้จัดการออนไลน์ [“มาร์ค” ปาฐกถาออกซฟอร์ด ยันไทยมี ปชต. “ใจ” โผล่พกตีนตบถาม กม.หมิ่น] the Nation [Abhisit vows progress on democracy] ฯลฯ อีกหลายฉบับ รวมถึงรายการเล่าข่าวตอนเช้าของโทรทัศน์ช่องต่างๆ ในบรรดาสื่อมวลชนไทยนั้น จะยกเว้นก็แต่ข่าว Abhisit vows progress on democracy ของ Bangkok Post พูดถึงการเผชิญหน้าระหว่างนายอภิสิทธิ์กับใจเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้รายงานการโต้เถียงกันเรื่อง “หนี” แต่อย่างใด แต่เหตุผลจะมาจากความระมัดระวังของกองบรรณาธิการ หรือหน้ากระดาษในการนำเสนอข่าวอันจำกัดก็ไม่อาจทราบได้ และคำพูดเจ้าปัญหาท่อนที่ว่า “ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร” ของแต่ละสื่อนั้น พบว่ามีที่มาจากการรายงานของ สำนักข่าวไทย [1] ซึ่งส่งผู้สื่อข่าวติดตามไปทำข่าวนายกรัฐมนตรีที่อังกฤษ หลังจากการนำเสนอของสำนักข่าวไทย จึงเกิดกระบวนการเผยแพร่แบบ “รวมการเฉพาะกิจ” ต่อกันมาจากสื่อไทยฉบับต่างๆ รวมทั้งประชาไท [2] ที่นำข่าวเหล่านั้นมาเรียบเรียงเพื่อเผยแพร่ต่อในคืนนั้นด้วย และหลายวันต่อมาประชาไทจึงมีการนำเสนอการรายงานในมุมมองของผู้ฟังปาฐกถาดังกล่าวโดยแปลมาจากเว็บไซต์นิวมันดาลา [3] การพร้อมใจกันรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยดังกล่าว นำมาสู่การวิจารณ์โดยสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ผ่านกระทู้ “คุณภาพ” ของสื่อไทยกรณีอภิสิทธิ์ที่ Oxford [4] ในกระดานข่าวฟ้าเดียวกัน สมศักดิ์เห็นว่าเป็นการรายงานข่าวเพื่อทำให้ “อภิสิทธิ์ มี "ชัยชนะ" ในการโต้กัน (ซึ่งความจริง เป็นประเด็นจิ๊บจ๊อย) ประเภท สามารถสวนกลับใจ ในสิ่งที่ใจ ตอบไม่ได้ ปัญหาคือ ที่จริง อภิสิทธิ์ ไม่ได้สวนกลับ ใจ ด้วยประโยคทีว่าเลย” “สรุปแล้ว เวลาอ่านหรือฟัง สื่อ ไทย ไม่ว่า ช่องไหน ฉบับไหน ถ้าเป็นเรื่องสำคัญๆ ต้องลอง double-check ให้ดีก่อน ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เป็นประเด็นที่ถูกนำเสนอ เป็น "หัวข่าว" (คือชูเป็นประเด็นใหญ่) ต้องลองเช็คให้ดีๆ” สมศักดิ์ทิ้งท้าย   2.นักข่าวพลเมืองทลายการปิดกั้นจากสื่อหลัก  ผู้ชุมนุมเสื้อแดงเป็นจำนวนมากชุมนุมอย่างสงบภายนอกห้องประชุมที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะปาฐกถา โดยไม่ได้มีจำนวน 2 คน อย่างที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยรายงานแต่อย่างใด (ที่มาของภาพ: Thaienews)   อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้บริหาร Oxford (ที่มาของภาพ: Thaienews)   ใจ อึ๊งภากรณ์ ขอตั้งคำถามและอภิปรายนายอภิสิทธิ์ (ที่มาของภาพ: Thaienews)   คนเสื้อแดงถ่ายทอดสดการชุมนุมของตนทางอินเตอร์เน็ตด้วยกล้องที่ติดกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุค(ที่มาของภาพ: Thaienews)   ไม่ได้มีแค่เรื่อง “ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร” ที่คลาดเคลื่อนไป แต่ยังมีเรื่องจำนวน “ผู้คัดค้าน” ในการปาฐกถานั้นด้วย โดยการรายงานในช่วง ข่าวภาคค่ำ [5] ในวันที่ 14 มี.ค. ของสำนักข่าวไทย สุปวีณ์ ปฏิภาณวัฒน์ ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวไทย โทรศัพท์รายงานมาจากประเทศอังกฤษถึงบรรยากาศการปาฐกถาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและการประท้วงหน้าสถานที่ปาฐกถา โดยสุปวีณ์รายงานว่า มีใจ อึ๊งภากรณ์และคนเพียง 2 คนยืนแจกใบปลิว "ก็มีคนสวมเสื้อโค๊ดสีแดง ไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มเสื้อแดงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะว่าช่วงนี้ประเทศอังกฤษกำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ สีสันก็เลยออกมา เขาก็ไม่ได้ทำอะไรก็ยืนเฉยๆ 2 คน แล้วก็อาจารย์ใจก็เข้ามาในห้องประชุมที่มีการปาฐกถาพิเศษ" นอกจากนี้ยังบอกว่าคนในห้องประชุมไม่ให้ความสนใจกับอาจารย์ใจ และช่วยกันพูดให้อาจารย์ใจเข้าสู่คำถามในช่วงอภิปราย หากเหตุการณ์นั้นมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวไทยเป็นผู้รายงานเพียงผู้เดียว นอกจากผู้ที่อยู่ในการปาฐกถานั้นแล้ว ก็คงไม่มีวันทราบว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้นบ้างกันแน่ แต่จากการรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวพลเมืองผ่านบล็อก Thaienews [6] ทำให้พบว่านอกจากการคัดค้านอภิสิทธิ์โดยใจแล้ว ภายนอกยังมีผู้ชุมนุมเสื้อแดงจำนวนมากถือป้ายรณรงค์และแจกใบปลิวคัดค้านรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้มีจำนวน 2 คนอย่างที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยรายงาน และในห้องประชุมดังกล่าวก็มีผู้ร่วมประชุมสวมเสื้อแดงหลายราย นอกจากนี้เครือข่ายคนเสื้อแดงในอังกฤษยังทำการถ่ายทอดสดการชุมนุมของตนผ่านทางอินเตอร์เน็ตด้วย   สถานทูตปรามเสื้อแดงอย่าทำให้เสียชื่อ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าจำนวนคนที่อยู่ในห้องประชุมเพื่อฟังปาฐกถาของอภิสิทธิ์นั้นครึ่งหนึ่งเป็นคนที่ถูกเกณฑ์มาจากสถานทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ และคณะผู้ติดตามมาประเทศอังกฤษของนายอภิสิทธิ์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยยังโทรศัพท์ถึงแกนนำผู้ชุมนุมเสื้อแดงในอังกฤษว่าอย่าทำให้ประเทศไทยเสียชื่อ พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่สถานทูตดังกล่าวสอดคล้องกับที่ กิตติ วะสีนนท์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน ที่ออกอากาศในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย” ออกอากาศทาง NBT [7] ช่วงเช้าวันที่ 15 มี.ค. ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ โดยกิตติกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของคนไทยในประเทศอังกฤษว่า “ในความเห็นของผมเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิในทางประชาธิปไตย แล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ภายในประเทศจะมีความคิดเห็นต่างกัน แต่ใจผมเนี่ย ก็อยากที่จะให้คนไทยนึกถึงหน้าประเทศชาติเหมือนกันว่าเวลาอย่างการเยือนของ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นการเยือนในนามของรัฐบาลไทย ท่านมาทำหน้าที่ให้กับประเทศไทย”   3.เรื่องของใจ   สำหรับ “ใจ อึ๊งภากรณ์” “บุคคลต้องห้าม” ในทัศนะฝ่ายอนุรักษ์นิยมไทย หลังการออกนอกประเทศพร้อมร่อนแถลงการณ์ “สยามแดง” นั้น ภายหลังจากที่การเข้าฟังปาฐกถาของอภิสิทธิ์ เมื่อ 14 มี.ค. เขาได้ออกจดหมายเปิดผนึกหัวข้อ “อภิสิทธิ์พูดที่ Oxford: คำโกหก คำแก้ตัว และการบิดเบือนความจริง” เผยแพร่ทางอีเมล์ทันที โดยใจความของจดหมายเปิดผนึก [8] โดยสรุป ระบุว่า คำพูดของอภิสิทธิ์เต็มไปด้วยคำโกหกหลอกลวงและคำแก้ตัว แต่ทั้งๆ ที่เขามั่นใจคิดว่าคนทั่วโลกโง่ คนไทยส่วนใหญ่และคนต่างประเทศที่เข้าใจการเมืองไทยไม่มีวันเชื่ออะไรที่ออกมาจากปากเขา ใจ ตั้งข้อสังเกตว่า “สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือทางรัฐบาลไทยกลัวประชาชนมาก มีการกีดกันคนไทยธรรมดาที่อยากเข้าไปตั้งคำถามจำนวนมาก”   อภิปราย ‘มาร์ค’ นอกห้อง แนะหลังเป็นนายกฯ ให้ไปเล่นตลก ในจดหมายดังกล่าว กล่าวถึงเนื้อหาปาฐกถาของอภิสิทธิ์ว่า อภิสิทธิ์โกหกว่าเขาได้รับการ “เลือกตั้งมาเป็นนายก” และอวดว่าตนเองเป็น “ผู้ปกป้องประชาธิปไตยไทย” แต่กระนั้นเขายังยืนยันว่าต้องมีกฎหมายหมิ่นฯ “เพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ” และมองว่าใจควรถูกลงโทษจากการเขียนหนังสือวิจารณ์รัฐประหาร 19 กันยา “เพราะไปดูหมิ่นกษัตริย์” เมื่อถูกถามว่าหมิ่นตรงไหนในหนังสือ อภิสิทธิ์บอกว่าจำไม่ได้ ทั้งๆ ที่อ้างว่าอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว เลยแก้ตัวว่ามีคนเล่าให้ฟังว่าหมิ่น นอกจากนี้อภิสิทธิ์พูดว่าคดีคุณโชติศักดิ์ได้ยกเลิกไปแล้ว และการจับกุมผู้บริหารประชาไทเป็น “ความผิดพลาดของตำรวจ” ซึ่งเขาได้ “เคลียร์เรื่องนี้” โดยการโทรศัพท์ไปหาผู้บริหารประชาไทแล้ว หลังจากนั้นอภิสิทธิ์อ้างว่าแกนนำพันธมิตรที่ยึดสนามบินจะโดนคดีแน่ๆ และนายพลที่มีส่วนในการฆ่าคนที่ตากใบจะถูกลงโทษอีกด้วย “หลังจากที่เราเอาเขาออกจากตำแหน่ง อภิสิทธิ์ควรหากินเป็นนักแสดงตลกมั้ง?” ใจ ตั้งคำถาม ทั้งๆ ที่อภิสิทธิ์ขี้ขลาดไม่ยอมรับคำท้าของผมเพื่อโต้วาทีสดในรายการโทรทัศน์ไทย เขาหน้าด้านกล่าวหาผมว่าหนีคดีที่เมืองไทย โดยเสนอว่าศาลมีความยุติธรรม เขาพูดต่อว่า “อย่าดึงกษัตริย์มาในเรื่องการเมือง” แต่คงไม่กล้าพูดอย่างนี้กับเจ้านายของเขาในกองทัพหรือในพันธมิตรฯ ผมจึงแสดงความเห็นว่าทั้งอภิสิทธิ์ (เซ็นเซอร์) อ่อนแอและไร้อุดมการณ์ประชาธิปไตย ในขณะที่เจ้านายแท้ของสังคมคือทหาร แถลงการณ์จากใจ ระบุในช่วงท้ายว่า ช่วงบ่ายมีการประชุมกลุ่มเสื้อแดงที่ออกซ์ฟอร์ดในช่วงบ่าย คนเสื้อแดงในอังกฤษยืนยันจุดยืนเพื่อประชาธิปไตยและตกลงกันว่าจะประชุมเป็นประจำทุกเดือน เราตกลงกันว่าเราจะเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งทั่วประเทศก่อนสิ้นปีภายใต้ กติกาของรัฐธรรมนูญปี 40 โดยที่ประชุมเสื้อแดงที่ออคซ์ฟอร์ด ยังให้ความเห็นในเรื่องการปฏิรูปการเมืองว่าประชาชนไทยต้องเป็นผู้ทำ ไม่ใช่ปล่อยให้สถาบันพระปกเกล้าที่ไม่เคยสนับสนุนประชาธิปไตยเป็นผู้เสนอการปฏิรูป   ใจยืนยันเสรีภาพทางการเมืองในอังกฤษ ตั้งคำถามคณะมาร์คมามากเหมือน ‘ช็อปปิ้งทริปส์’ ใจยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า สาเหตุที่การรณรงค์ของเขาและคนเสื้อแดงในอังกฤษไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและคนของรัฐบาลอภิสิทธิ์จับ เพราะในอังกฤษ ไม่มีการจับผู้ที่แสดงความเห็นทางการเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนอภิสิทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลก็ไม่มีสิทธิจับเขาและคนเสื้อแดงเช่นกัน นักวิชาการผู้นี้ยังแนะนำนายอภิสิทธิ์เกี่ยวกับการยกตัวอย่างกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในประเทศแถบยุโรปว่า ไม่ควรอ้างว่าที่ยุโรปมีคนติดคุกเพราะวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์เพราะเป็นเรื่องไม่จริง นอกจากนี้ใจยังฝากถามนายอภิสิทธิ์ด้วยว่าทำไมนายอภิสิทธิ์จึงพาคณะผู้ติดตามมาจากประเทศไทยเป็นจำนวนมากเหมือน ‘ช็อปปิ้งทริปส์’   เผยคลิป ‘ใจ’ ไม่หนี แถมท้าดีเบต มาร์คโอเคแต่ต้องที่เมืองไทย ส่วนที่มีสื่อมวลชนไทยรายงานข่าวว่าอภิสิทธิ์กล่าวตอบโต้กับ ใจ ว่า “ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร” นั้น จากคลิปที่การโพสต์ไว้ใน youtube.com โดยคุณ 1434278 [9] ซึ่งเป็นช่วงที่อภิสิทธิ์ตอบคำถามกับ ใจ โดยช่วงหนึ่งเขากล่าวในเชิงปกป้องกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (นาที่ 1.56) โดยอภิสิทธิ์บอกว่ามีกฎหมายเช่นเดียวกันนี้ในประเทศยุโรปบางประเทศ ซึ่งมีสถาบันกษัตริย์ในระบอบรัฐธรรมนูญ เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีคนถูกจำคุกในประเทศยุโรปประเทศหนึ่งด้วยกฎหมายที่คล้ายกันนี้ ดังนั้นกฎหมายโดยตัวของมันเองไม่ใช่เรื่องที่ไม่เป็นประชาธิปไตย “ถ้าหากคุณไปพูดแบบนี้ หรือกล่าวหาคนทั่วไปแบบนี้ คุณก็จะถูกฟ้องศาลเช่นกัน สิ่งที่กฎหมายทำก็คือการคุ้มครองราชวงศ์ในแบบเดียวกับที่กฎหมายหมิ่นประมาท คุ้มครองคนทั่วไป” อภิสิทธิ์ กล่าวว่ามีข้อแตกต่างระหว่างกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับกฎหมายหมิ่นประมาทคนทั่วไป เนื่องจากราชวงศ์ไทยนั้นเป็นสถาบันที่เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และอยู่เหนือความขัดแย้ง และเป็นสถาบันที่ได้รับความเคารพศรัทธาโดยประชาชนไทย และเป็นเสาหลักของความมั่นคงแห่งชาติ ดังนั้นกฎหมายจึงไม่ต้องการให้สถาบันกษัตริย์ต้องมาฟ้องร้องคดีต่อประชาชน อภิสิทธิ์กล่าวว่า นี่จึงเป็นสาเหตุที่มีคนหลายคนถูกตั้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และกำลังต่อสู้คดีอยู่ หลายกรณีก็ได้รับการยกฟ้อง เขายังกล่าวว่ามีคนหลายคนต่อสู้คดีนี้อยู่ในประเทศ เพราะเชื่อว่าพวกเขาบริสุทธิ์ โดยไม่หลบหนีข้อกล่าวหา ซึ่งตรงนี้ใจกล่าวสวนว่า “ผมไม่ได้หลบหนีข้อกล่าวหา” และอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ผมก็ไม่ได้พูดว่าคุณหนีนี่” จากคำตอบของอภิสิทธิ์ทำให้มีผู้ชมส่วนหนึ่งปรบมือ จากนั้นใจเอ่ยถามว่าอภิสิทธิ์จะโต้วาทีทางโทรทัศน์กับเขาหรือไม่ อภิสิทธิ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร ซึ่งมีผู้ชมบางคนปรบมือให้ใจเช่นกัน โดยอภิสิทธิ์กล่าวว่าผมไม่โต้วาทีด้วย และว่าถ้าคุณไม่ชอบคำถามของผม แต่คุณเรียนรู้กับคนที่มีความเห็นที่ต่าง คุณถึงจะเป็นผู้นิยมประชาธิปไตยแท้จริง ช่วงนี้เองที่ผู้ดำเนินรายการบนเวที พยายามตัดบทใจ และบอกว่าคำถามสุดท้ายแล้ว คนอื่นอาจจะมีคำถามอื่น แต่อภิสิทธิ์ปฏิเสธ โดยกล่าวว่าไม่มีปัญหา ผมยังมีประเด็นอีกมากกับเขา และกล่าวว่าเขาจะโต้วาทีกับใจในเมืองไทยเท่านั้น เพราะใจต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเช่นเดียวกับประชาชนไทยคนอื่น   4.เก็บตกจากปาฐกถา: สมชาย ตากใบ โชติศักดิ์ จีรนุช และพันธมิตรฯ   นอกจากนี้ จากคลิปที่โพสต์ไว้ใน youtube.com โดยคุณ 1434278 ดังกล่่าว อภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงคดีของโชติศักดิ์ อ่อนสูง (ผู้ต้องหาคดี ม.112 เนื่องจากไม่ยืนระหว่างการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี) ว่ามีการถอนฟ้องแล้ว (1.30) อย่างไรก็ตามโชติศักดิ์ยืนยันว่าคดีของเขายังอยู่ในชั้นอัยการ โดยโชติศักดิ์และเพื่อนจะต้องไปฟังคำสั่งอัยการว่าเห็นควรสั่งฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 30 มี.ค. อภิสิทธิ์ยังบอกว่าเขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่เชิญกลุ่ม เน็ทติเซ่น (Netizen) มาพบสองครั้งแล้ว เพื่อที่จะหารือป้องกันการแสดงข้อความที่ผิดกฎหมายทางเว็บไซท์ต่างๆ (5.40) และยังโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวกับผู้ที่ถูกจับล่าสุดเพราะความเข้าใจผิดของตำรวจ (หมายถึงกรณีตำรวจกองปราบจับจีรนุช เปรมชัยพร ผอ.เว็บไซต์ประชาไท เมื่อวันที่ 6 มี.ค.) (5.50)   ‘มาร์ค’ โทหา ด้าน ‘ผอ.ประชาไท’ ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเรื่องนี้ จีรนุช ได้ชี้แจงผ่านประชาำไทเว็บบอร์ด [10] หัวข้อลำดับที่ 784710 เมื่อ 16 มี.ค. ว่า อภิสิทธิ์โทรมาจริง ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เครือข่ายพลเมืองเน็ต (Netizen) ไปพบอภิสิทธิ์ตามคำเชิญที่ห้องทำงานที่รัฐสภา ก่อนที่อภิสิทธิ์จะเดินทางไปอังกฤษ ส่วนจีรนุช ตัดสินใจไม่ไปเข้าพบพร้อมกับคณะตัวแทนของเครือข่ายพลเมืองเน็ต เพราะไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องการผลประโยชน์ต่อคดี เพราะโดยส่วนตัวอยากให้เครือข่ายพลเมืองเน็ตผลักดันกรณีปัญหาของข้อกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายในภาพรวม อย่างไรก็ตามเมื่อมีโทรศัพท์มาว่านายอภิสิทธิ์อยากคุยด้วย จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ถูกจับกุมดังกล่าว และอภิสิทธิ์สอบถามเพิ่มเติมว่าทางตำรวจให้เหตุผลเรื่องการออกเป็นหมายจับว่าอย่างไร จึงตอบไปตามที่ได้คำตอบจากตำรวจในวันนั้น ซึ่งตำรวจให้เหตุผลว่าเนื่องจากเป็นคดีที่มีฐานความผิดเกินกว่า 3 ปี และเป็นวินิจฉัยของศาล ซึ่งก็สอบถามต่อไปว่า ตามที่เข้าใจส่วนหนึ่งน่าจะอยู่ที่การตั้งเรื่องจากตำรวจไปที่ศาลไม่ใช่ หรือ และอันที่จริงตำรวจก็สามารถที่จะออกหมายเรียกได้เองโดยไม่จำเป็นต้องขอหมายศาลด้วยซ้ำ ซึ่งคำถามนี้ก็ไม่ได้รับคำตอบจากตำรวจ โดยจีรนุช พูดถึงเท่านี้สายโทรศัพท์ก็ตัดไป   คดีพันธมิตรฯ ประเด็นที่ต้องติดตามจากอภิสิทธิ์ นอกจากการตั้งคำถามของใจต่ออภิสิทธิ์ และตามมาด้วยการอภิปรายโต้ของอภิสิทธิ์นั้น ยังมีประเด็นที่น่าสนใจที่อภิสิทธิ์ตอบคำถามของผู้เข้าฟังปาฐกถา [11] โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่าตั้งใจที่จะทำให้เกิดความยุติธรรมในการรื้อฟื้นการสอบสวนในคดีอื่นๆ อาทิเช่น กรณีการหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร รวมไปถึงการตั้งข้อกล่าวหากับผู้นำกองทัพที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ตากใบ เขายังตอบคำถามผู้หญิงไทยคนหนึ่งเกี่ยวกับการดำเนินคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า “ตอนนี้พวกตำรวจกำลังเตรียมออกหมายจับในกรณีการยึดทำเนียบรัฐบาล ผมได้รับรายงานจากตำรวจอยู่สม่ำเสมอ และผมก็ได้รายงานต่อรัฐสภาเกี่ยวกับกรณีปิดสนามบิน ครั้งล่าสุดที่ตำรวจรายงานสองสัปดาห์ก่อน รายงานได้เสร็จสิ้นไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาดว่าจะมีการดำเนินคดีในเร็วๆ นี้” และเมื่อผู้หญิงคนนี้ถามย้ำอีกว่าให้บอกชัดๆ ได้หรือไม่ว่าเมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตำรวจบอกว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักสองสามสัปดาห์ ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่อง “ที่ยังไม่ได้รับรายงาน” หลังการเยือนอังกฤษของอภิสิทธิ์และคณะ หลายเรื่องเป็นประเด็นที่รออภิสิทธิ์จัดการ โดยเฉพาะการรับปากว่าจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตากใบ และการดำเนินคดีพันธมิตรฯ และอีกหลายเรื่องโดยเฉพาะวาทะ “ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร” ก็ถูกทำให้เป็นที่กระจ่างแล้ว อาจจะเหลือก็แค่ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังแผ่นเสียงตกร่อง ใช้ข้อมูลที่ยังบิดเบือน ปราศรัยขับกล่อมมวลชนที่เวทีพันธมิตรฯ ที่หน้าบ้านเจ้าพระยาเมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค. [12] “ใจ อึ๊งภากรณ์ บอกว่าไม่หนี ไม่หนี ไม่หนี พูดที่อังกฤษนะ นายกรัฐมนตรีเลยตอบว่า ไม่หนีแล้วคุณมาอยู่นี่ได้ยังไง คุณมาอยู่นี่ได้ยังไง คุณพูดในประเทศไทย คุณเป็นอาจารย์รัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์ คุณเป็นบุคคลสาธารณะ คุณตั้งพรรคการเมืองกระจอกๆ พรรคหนึ่งแล้วไม่มีใครไปเป็นสมาชิกมากมายอะไรเลย วันนี้คุณไม่หนีแต่คุณไปอยู่อังกฤษ คุณไปอยู่ใกล้ๆ ใครบางคนใช่ไหม เมื่อก่อน คุณไปอยู่แถวนั้นใช่ไหม ที่นั่นคือผู้ลี้ภัยของอาชญากรแผ่นดิน ใช่ไหมครับพี่น้อง”   อ้างอิง [1] “อภิสิทธิ์” ยืนยันประชาธิปไตยไทยจะไม่ถอยหลัง, สำนักข่าวไทย, 14/3/2552 [2] ‘มาร์ก’ ลั่นไม่ยอมให้เสียงข้างมากหักล้างความโปร่งใส ถาม ‘ใจ’ ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร, (ที่มา: สำนักข่าวไทย, มติชนออนไลน์, เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์), ประชาไท, 14/3/2552 [3] การพูดของอภิสิทธิ์ที่อ็อกซ์ฟอร์ดและการโต้คารมกับนายใจ รายงานจากผู้ฟังทั้งในและนอกห้อง, ประชาไท, 18/3/2552 [4] "คุณภาพ" ของสื่อไทย กรณี อภิสิทธิ์ ที่ Oxford, กระดานข่าวฟ้าเดียวกัน, 19/3/2552 [5] Abhisit & Giles at St. Johns College OXFORD, (คัดลอกจากสำนักข่าวไทย), meng438, http://www.youtube.com/watch?v=ZvlsNOkjL7g [6] http://thaienews.blogspot.com/2009/03/blog-post_5310.html [7] การปาฐกถาที่ Oxford, (รายการเชื่อมั่นประเทศไทย, NBT, 15/3/2552), AbhisitOrg http://www.youtube.com/watch?v=qBlQljSpQAg&feature=related [8] http://thaienews.blogspot.com/2009/03/blog-post_15.html [9] นายกฯ อภิสิทธิ์ตอบใจ PM Abhisit answered JI, 1434278 http://www.youtube.com/watch?v=V-fsOdpVFsw [10] กระดานข่าวประชาไท ที่ 784710, http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic.php?id=784710 [11] การพูดของอภิสิทธิ์ที่อ็อกซ์ฟอร์ดและการโต้คารมกับนายใจ รายงานจากผู้ฟังทั้งในและนอกห้อง, ประชาไท, 18/3/2552 [12] “สมเกียรติ”สวน“ไข่แม้ว”บอร์ดการท่าฯ 11 ธ.ค.ตำหนิ “เสรีรัตน์”สิ่งปิดสนามบิน, ASTVผู้จัดการออนไลน์, 21 มีนาคม 2552, ASTVผู้จัดการออนไลน์   ข่าวที่เกี่ยวข้อง ‘มาร์ก’ ลั่นไม่ยอมให้เสียงข้างมากหักล้างความโปร่งใส ถาม ‘ใจ’ ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร, (ที่มา: สำนักข่าวไทย, มติชนออนไลน์, เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์), ประชาไท, 14/3/2552 นักเรียนอังกฤษ ยื่นข้อเสนอ ‘มาร์ก’ เรียกร้องปฏิรูป รธน.- กฎหมายหมิ่นฯ ตามด้วยยุบสภา, ประชาไท, 15/3/2552 โชติศักดิ์เผยคดีไม่ยืนฯ อยู่ชั้นอัยการ ยังไม่ยุติอย่างที่นายกฯ บอก, ประชาไท, 17/3/2552 การพูดของอภิสิทธิ์ที่อ็อกซ์ฟอร์ดและการโต้คารมกับนายใจ รายงานจากผู้ฟังทั้งในและนอกห้อง, ประชาไท, 18/3/2552   บทความ “คุณภาพ” ของสื่อไทยกรณีอภิสิทธิ์ที่ Oxford, สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, 20/3/2552 แน่ใจหรือว่า “ประชาธิปไตย” แบบ ‘อภิสิทธิ์’ หมายถึง “ประชาธิปไตย” จริงๆ, ประชาไท, 19/3/2552 ผมไม่ได้หนี, ประชาไท, 19/3/2552
สวนหนังสือ
นายยืนยง   ชื่อหนังสือ : เด็กเก็บว่าว The Kite Runner ผู้เขียน : ฮาเหล็ด โฮเซนี่ ผู้แปล : วิษณุฉัตร วิเศษสุวรรณภูมิ ประเภท : นวนิยาย พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม พ.ศ.2548 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ The One Publishing เด็กเก็บว่าว นวนิยายสัญชาติอเมริกัน-อัฟกัน ขนาดสี่ร้อยกว่าหน้า ที่โปรยปก มหัศจรรย์แห่งนวนิยายที่สร้างปรากฏการณ์ปากต่อปากจนติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ เล่มนี้ กล่าวถึงเรื่องราวของอะไรหรือ ทำไมผู้คนจึงให้ความสนใจกับมันมากมายนัก ฉันถามตัวเองก่อนจะหยิบมันมาอ่าน
การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์
 จำผมได้ไหมคับ โฟรโด้
Hit & Run
  กรกช เพียงใจ  ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดาผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่ามทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาล ขลิบปลายแขนแดง ‘ดารณี' ถูกจับกุมที่บ้านพัก ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และติดคุกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี ระหว่างที่คดีเพิ่งเริ่มพิจารณา และนัดหมายการไต่สวนพยานครั้งแรกกันอีก 6 เดือนข้างหน้า 0000"ไอ้ที่พี่พูด ก็เอามาจากวงสัมมนาของนักวิชาการ หรือหนังสือที่อ่านทั้งนั้น จริงๆ พี่อยากบอกทนายว่า ให้คุณสุพจน์ (ด่านตระกูล) มาเป็นพยานให้ในศาลที เพราะสิ่งที่พี่พูดก็เอามาจากการอ่านหนังสือของแก"  เสียงเธอแว่วผ่านกรงขังมายังคู่สนทนา เพียงสองสามสัปดาห์หลังจากนั้น สุพจน์ก็จากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็ง "เขาเป็นคนใจร้อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร บางทีคุยกับผมไม่รู้เรื่อง มันยังดุผมเลย" คำบอกเล่าของพี่ชายของดารณีที่เทียวไปมา 12 ชั่วโมง ระหว่างภูเก็ต-กรุงเทพฯ  เพื่อเยี่ยมน้องสาวทุกสัปดาห์"เขาเป็นหนอนหนังสือ มันอ่านไปทั่ว นี่ยังให้ผมไปขอใบประกาศปริญญาโทที่มหาลัยเกริก เพราะจะสมัครเรียน นิติศาสตร์ ของ มสธ. ที่เปิดรับสมัครในคุกด้วย สงสัยเขาจะว่าความเอง" พี่ชายแซวน้องสาว ขณะที่ตัวเองก็ถือหนังสือ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาติดตัวตลอดนับตั้งแต่น้องสาวโดนคดี เมื่อถามว่าทำไม เขาตอบว่า "ผมพยายามจะทำความเข้าใจ""เขาเป็นคนเชื่อมั่น ไม่ฟังใคร ผมเตือนแล้วเวลาพูดอะไรต้องระมัดระวัง ชาวบ้านหลายๆ คนที่สนามหลวงเขาจับกลุ่มปราศรัยกันเอง เวทีเล็กๆ แล้วชอบพูดประเด็นแบบนี้ แล้วพอได้เสียงเฮก็ได้ใจใหญ่ กลายเป็นดาวดวงใหม่"  เพื่อนนักเคลื่อนไหวพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนิ่ง"เขาน่าสงสารนะ เราก็มาให้กำลังใจเขา ไม่ได้รู้จักกันส่วนตัวหรอก คนอื่นหลายคนก็อยากมาเยี่ยม แต่ไม่กล้ามา คดีแบบนี้ใครๆ ก็กลัว แต่ป้าไม่กลัว เราไม่ได้ทำอะไรผิด" ป้าคนหนึ่งบอกระหว่างรอเยี่ยมดารณีในเรือนจำ0000เดือนแรกๆ "เราทำเพื่อประเทศชาติขนาดนี้ แล้วโดนแบบนี้ ถามหน่อย แล้วอีกหน่อยใครเขาจะกล้าลุกขึ้นมาทำอะไร""อยู่ในนี้มันลำบาก แต่เราต้องเข้มแข็ง ต้องดูแลใจตัวเองให้ดี ก็ได้แต่คิดเสียว่า ท่านปรีดี (พนมยงค์) ยังโดนเยอะกว่าเรามากนัก" "บ้านเรามันไปไม่ถึงไหนก็เพราะอย่างนี้ ไม่พอใจๆ ก็รัฐประหาร ทำลายระบบหมด ไม่เห็นหัวชาวบ้านเลย เราไม่ได้ขัดข้องเลยถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นรัฐบาล แต่ต้องเลือกตั้งมาตามระบบ มันเป็นหลักพื้นฐาน""ป่าวๆ ไม่ได้เห็นไทยรักไทยเป็นเทวดาด้วย แต่เขามีนโยบายเพื่อคนจน เรื่องปากท้องของคน ลดช่องว่างของคน เป็นเรื่องสำคัญสุดของประเทศนี้นะพี่ว่า แต่นโยบายมีปัญหาตรงไหนก็มาว่ากัน ไม่ใช่ทำแบบนี้ แล้วดึงเอาสถาบันลงมาในการเมือง มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เรื่องพวกนี้นักวิชาการก็พูดไม่ใช่เหรอ"  "ถ้าโดนจับสมัยรัฐบาลเผด็จการ เราคงไม่เสียใจเท่านี้ เราสู้เพื่อประชาธิปไตย พวกคุณก็ได้ประโยชน์ด้วย แล้วสุดท้ายพอมีปัญหาก็ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยอะไร" เดือนหลังๆ   "กับข้าวในนี้แย่มาก เราก็ขากรรไกรอักเสบ กระดูกบนล่างมันจะยัดติดกันอยู่แล้ว กินอะไรลำบากเพราะมันอ้าปากไม่ได้ จริงๆ หมอนัดไว้ว่าจะต้องผ่าตัดแต่โดนจับซะก่อน ตอนนี้น้ำหนักลดไปสิบกว่าโลแล้ว เวลาแปรงฟันทีก็ลำบาก ต้องเอาแปรงสีฟันกระแทกเข้าไปในปาก มันอ้าไม่ได้ ฟันหน้าบิ่นหมดแล้ว" "นี่เขายึดชุดนอนไปอีกแล้ว คนอื่นๆ มีเกินสองชุดได้ไม่เห็นมีปัญหา" "ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมจะต้องจำกัดน้ำขนาดนั้น อาบไม่เคยทันเลย ยิ่งใครมีเมนส์จะลำบากมาก ได้แค่ไม่กี่ขันเท่านั้น แล้วพอเข้าหน้าหนาวยิ่งลดลงอีก บอกว่าอากาศหนาวไม่ต้องอาบมาก นี่มันอะไร""จะออกจากเรือนจำมาศาลแต่ละที เขาจับขึ้นขาหยั่งตรวจภายในทั้งตอนเข้า ตอนออก เขากลัวเรื่องยาเสพติด แต่ไม่ดูเลยนี่มันคดีอะไร มันเป็นคดีการเมือง รู้สึกแย่มากจริงๆ มันเจ็บด้วย แล้วเจ้าหน้าที่ก็พูดจากับเราไม่ดี" "ตอนนี้ได้มารวมกลุ่มกับคนอื่นๆ แล้ว ปกติถ้าเข้าแดนแรกรับใหม่ๆ เขาจะกันไม่ให้คุยกับใครเดือนนึง แต่นี่โดนไปสามเดือน ต้องไปนั่งเฉยๆ ใต้ตึกที่ทำการ จะไปห้องน้ำต้องขออนุญาต""คนในนี้นี่ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าว เขาเป็นคนหาเรื่องพี่ พอเถียงกัน เจ้าหน้าที่มา เขาก็บีบน้ำตา บอกเราไปเตะขาเขา ทั้งที่เขาเอาขามาขวางไม่ให้เราไปห้องน้ำ เราก็พยามยามก้าวข้ามขาเขาไป แต่มันก็ไม่พ้น โดนขาเขาหน่อยนึง แล้วกลายเป็นเราหาเรื่องเขา โดนลงโทษ" "มันไม่เมกเซ้นส์เลย ให้กินข้าวในขัน มีสองขันแยกเป็นขันเข้าห้องน้ำกับขันข้าว เมื่อสามปีที่แล้วเขาอนุญาตให้เอาทัฟเปอร์แวร์มาขายได้ แต่ยกเลิกไป บอกนักโทษอาจเอามาใช้เป็นอาวุธ ถามว่าเขาจะเอาทัฟเปอร์แวร์มาฟาดหัวกันเหรอ"0000เว็บบอร์ดต่างๆ  สมควรแล้ว ยังน้อยไป: น่าจะโยกไปขังคุกชาย เอาให้หาย ทอม ปากเหม็นดีนัก หน้าตาอย่างนังดาผู้ชายยังกลัวเลย  หน้าขยักแขยงอย่างนี้ สมควรกับความชั่วของมันแล้ว  บังอาจไปช่วยนายเหลี่ยมพูดจาลบหลู่สิ่งที่คนไทยเทิดทูลอย่างนั้น เลวมากนังดา...Notthat_likethat : รู้สึกเหมือนมีคนบอกว่า คนเรามีสิทธิเชิดหน้าลืมตาอ้าปากและแสดงความเห็นได้ แต่คนที่บอกเราอย่างนั้นกลับเอามืออุดปากและกดหัวเราไว้ หึๆๆๆ ได้เท่านี้หรอ หึๆๆๆ คงเพียงเท่านี้ แด่ประชาธิปไตยที่ไม่เคยมีอยู่จริง ฟ้าประทาน : ถ้าเป็นกม.ในสมัยก่อนป่านนี้โดนตัดหัวเสียบประจานไปแล้ว นี่ยังดีแค่ติดคุก ก็พูดจาซะขนาดนั้น ไม่มีใครยอมรับได้หรอก คนไทยทั้งชาติเขารับไม่ได้ พูดจาให้ร้ายสถาบัน มันสมควรแล้วหรือ ทำไมถึงคิดถึงพูดได้ขนาดนั้น เสียดายที่อุตส่าห์เคยเป็นนักนสพ. แต่อะไรทำให้กล้าทำผิดได้ขนาดนั้น ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมกับสิ่งที่ตนทำไว้มันก็ถูกแล้ว Kamikaze : ทำผิดก็ต้องรับผิด ครับ เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายไทยผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ นี่เป็นตรรกะที่ง่ายมากๆ พูดไปโดยไม่รู้จักเซฟตัวเอง ก็ต้องรับผิดชอบในคำพูดนั้นครับ ต่อให้ไม่มี 112 แล้วเกิดเจ้าเค้าเอาเรื่องขึ้นมาก็โดนข้อหาหมิ่นประมาทอยู่ดี อย่ามาอ้างว่าประชาธิปไตยเลย ไม่มีที่ใดที่จะประชาธิปไตยได้ "จริงๆ" หรอก    ไร้ความยุติธรรม : ไม่หน้าเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยฆาตกรฆ่าคนตายหลายศพได้รับการประกันตัวแต่ดา ตอปิดโด ขึ้นไปวิจาร์ณ ไฮปาร์คที่สนามหลวงโดนติดคุกแบบไม่ให้ประกันตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ระหว่างคนฆ่าคนตายกับด่าคนอื่นท่านว่าอะไรรุนแรงกว่ากัน นี่มันยิ่งกว่าอยุติธรรมเสียอีกนี่มันต้องเรียกว่าไม่มีมาตราฐานเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วทำไมคดีเดียวกัน แป็ะลิ้มไม่เห็นโดนแบบนี้บ้างทั้งๆที่เจ้านี่ก็เอาคำพูดของเจ้ดาไปพูดเหมือนกัน แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราเคารพบูชาหายไปไหนหมด ไม่รู้จะไปกราบไหว้ใครได้ที่ไหนแล้วตอนนี้ล้วนเป็นสิ่งจอมปลอม หลอกลวงทั้งสิ้น ต้องขอให้องค์กรจากต่างประเทศเข้ามาตรวจสอบเพราะระบบความยุติธรรมในไทยถอยหลังไปสู่ยุคโบราณเป็นร้อยๆปี Sazzi : เพื่อนศศิไม่ได้เป็น พธม. แต่เพื่อนศศิบอกว่า หากมีโอกาสได้เจอไอ้-อีที่จาบจ้วงสถาบันเมื่อไหร่จะไม่ยอมเสียโอกาสที่จะเหยียบปากไอ้-อี พวกนั้นเลย ต้องบอกอีกหน่อยว่า ปกติเพื่อนศศิสุภาพค่ะ 5555 ;) กลิ่นธูป-**: เหมือนยุคกลางเลย ใครเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ส่งเข้าคุกข้อหา "นอกรีต"เมื่อเข้าคุกไปก็ถูกทรมานแสนสาหัส ชุดนักโทษยังให้สวมชุดนักโทษคดีอุกฉกรรจ์นี่หรือบ้านเมืองที่อวดอ้าง คุณธรรม เมตตาธรรม แต่ยามใดที่มีคนคิดต่างออกมาพูดบางสิ่งที่ส่งผลกระทบ(ทั้งที่จะเป็นจริงหรือเป็นเท็จ) แทนที่จะใช้วิธีชี้แจงแก้ต่าง กลับเลือกใช้กฏหมายรุนแรงจัดการ เป็นการ...ปิดปาก  ddd: ถ้าการออกมานอกบ้าน ไปยืนบนเวทีแล้วด่าคนอื่น คุกคามคนอื่น อาฆาต แบบที่ดา ทำ แล้วมีคนยกย่อง (ในนี้)ว่าเป็นการกระทำของวีรสตรี ผมว่า ต้องกลับมามองตัวเองกันเสียบ้าง ว่าทำไมถึงชื่นชอบคนแบบดาสาวกประชาไท ทั้งหลาย ควรคิดว่า การพูดถึงบุคคลอื่น แบบที่ดาพูดนั้น ไม่ว่าจะกล่าวถึงสถาบัน หรือ คนทั่วไป ก็ควรได้รับโทษในข้อหาหมิ่น ฯ เหมือนกันดีใจที่ศาลไม่ให้ประกัน เพราะ ออกมาเธอก็อาจจะทำเหมือนที่เธอทำมาตลอดแน่ ๆ อยู่ในนั้นน่าจะดีกว่า นะ คุณ ดาสองมาตรฐาน : กฎหมายหมิ่นประมาทของไทย มีสองมาตรฐาน1.สำหรับคนทั่วไป ถ้าคุณพูดเรื่องจริงและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมคุณไม่ต้องรับโทษ เช่นพูดว่า ทักษิณอมเพชรซาอุ ทำให้แรงงานไทย ไปซาอุไม่ได้2.สำหรับ ในหลวง ราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แม้คุณจะพูดเรื่องจริงและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คุณก็ต้องติดคุก ติดหลายปีซะด้วยเห็นหรือยังครับว่า กฎหมายหมิ่นประมาทของไทย มีสองมาตรฐาน เศรษฐกิจพอเพียง : ติดคุก ตายๆๆ ไปซะให้หมด ไอพวกเหื้ยเรื่องเยอะแยะมีให้พูด เสือกไม่พูดกัน เอาเรื่องที่คนไทยส่วนมากเค้านับถือ เทิดทูน มากล่าวร้ายพ่อแม่มีง ก้อคงมีนิสัย แบบพวกมีง จับมันแล้ว ต้องจับพ่อแม่ โครตเหง้า มันมาประหารด้วย0000ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดาผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่ามทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาลขลิปปลายแขนแดง ในสภาพผ่ายผอมลงไปถนัดตา ดวงตาลึกคล้ำ เท้าที่เปลือยเปล่า แลดูด้าน สกปรก ยืนไหล่ห่อ ทิ้งมือสองข้างแนบลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง เงยหน้าเล็กน้อยเพื่อแหงนมองไปยังบัลลังก์ที่อยู่สูงขึ้นไป .... ใครบางคนที่ไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน กำลังยืนร้องไห้โดยไร้เสียงสะอื้นอยู่หลังห้อง  ขอขอบคุณประเวศ ประภานุกูล ทนายความของดารณี ชาญเชิงศิลปกุล ผู้ถ่ายทอดคำพูดและเรื่องราวของลูกความ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ให้ข้อมูล
นาโก๊ะลี
เรือลำโตล่องลำอยู่ในทะเลกว้าง ขณะที่ฟ้าเริ่มมืดลงช้าๆ วันที่ฟ้าปลอดมรสุม ในความพลุกพล่านของคนบนเรือใหญ่ ใช่อยู่ว่า ผู้คนต่างก็เดินทางของตัวเอง แต่ ณ ขณะนี้ เราต่างอยู่บนเรือลำเดียวกัน ไม่นานนักหรอก เพียงเมื่อเรือเทียบท่า เราก็ออกจากเรือลำเดียวกันนี้ สู่ทางของตัวเองอีกครั้ง คนภูเขาอย่างเราไม่ได้คุ้ยเคยนักกับเรื่องราวของทะเล แต่ก็เหมือนกับทุกครั้ง แม้ในท่ามกลางผู้คน เมื่อใจเรารวมกับทะเล มันก็ยังเกิดคลื่นความเหงาอยู่ นั่นคงเป็นทุกครั้งคราวไปกระมัง เมื่อยามมาเยือนทะเล แต่....นั่นก็งดงามไม่น้อยหรอก เมื่อเหงาเราจึงได้เฝ้ามอง คลื่นความคิดเคลื่อนตามแรงกระเพื่อมของพายุอารมณ์ ทำให้เราพบว่าที่สุดแล้ว ในความเหงานั้นมันกลับสงบอย่างยิ่ง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ปีแรกที่เป็นข้าราชการครู ผ่านมาได้ 30 ปีเศษ ได้ซื้อจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าขนาด 90 ซี.ซี.คันหนึ่ง สีแดงสดใหม่เอี่ยม นำออกจากร้านวันอังคาร โหราศาสตร์ถือว่าวันแรงไม่ดี ผมไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไร ขับไปให้พระผูกสายสิญจน์ที่วัดดับภัยกับน้อง ผูกเสร็จลองขับดู รถแฉลบกองทรายวัดเล็กน้อย น้องพูดว่า ไม่เป็นไรขับขี่ปลอดภัย พระก็สวดแล้ว สบายใจได้ ผมไม่ได้ซื้อเงินสด ต้องผ่อนรายเดือน ขับขี่โฉบเฉี่ยวได้ 22 วัน จำได้แม่นยำ เพราะรถถูกจี้บนดอยบ้านปง อำเภอแม่แตง จากปากทางเขื่อนแม่งัดเข้าไปราว 3 กิโลเมตร คนจี้ผิวขาว ตัดผมสั้นเกรียน ผ้าขาวม้าลายคลุมไหล่ รถผมกำลังลงดอย ต้องเบรกรถเล็กน้อย โดยวิ่งชิดทางด้ายซ้าย ถนนขรุขระด้วยก้อนหินเล็กๆ มันเดินสวนขึ้นมา ยกมือขวาถือปืนจ้องมา บอกให้หยุด ผมเหลือบดูด้วยหางตา ใจหนึ่งอยากเร่งรถจักรยานยนต์หนีแบบซึ่งหน้า เสียวสีข้างกลัวถูกยิงแบบเผาขน ระยะใกล้มาก รถก็วิ่งช้าๆ จึงจำใจหยุดรถ นั่นหมายถึงสถานการณ์ผมเป็นรองทันที มันก้มตัวเข้ามาใกล้ด้านล้อหน้าแบบมีชั้นเชิง
เมธัส บัวชุม
เป้าหมายของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรกับเป้าหมายของคนเสื้อแดงนั้นไม่อาจกล่าวได้ว่าเหมือนกันเสียทีเดียวหากแต่มีความเหลื่อมล้ำกันอยู่มาก หมายถึงว่ามีทั้งส่วนที่เหมือนกันและแตกต่างกัน แต่ก่อนจะพูดถึงส่วนที่เหมือนและต่างนั้นต้องทำความเข้าใจเป็นเบื้องต้นกันก่อนว่า คนเสื้อแดงมีหลายประเภท หลายเฉด คนเสื้อแดงมีตั้งแต่กลุ่มฮาร์ดคอร์แบบอาจารย์ใจ อึ๊งภากรณ์, จักรภพ เพ็ญแข และสีแดงอ่อนๆ ประเภท "แดงสมานฉันท์" สีแดงมีหลายดีกรีคือมีทั้งพวกอนุรักษ์นิยมอ่อนๆ ,เสรีนิยม ไปจนถึงกลุ่มถอนราก ถอนโคน (radical)
กวีประชาไท
  “พี่ ปุ๊ ... 'ร ง ค์  ว ง ษ์ ส ว ร ร ค์” ลือลั่นในทุกเรื่อง อารมณ์ขันอยู่ เนือง เนือง ปราชญ์เปลื่องในวิญญาณ์
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  1. ยามเช้าเปิดหน้าต่างตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างและข่าวคราวจากโลกภายนอก
สร้อยแก้ว
ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงเล้ยยยยย... จริงๆ พับเผื่อยซิ วันประชุมสมัชชาคนจน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อน ได้มาประชุมปรึกษาหารือกันที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน เจ้าแมวตัวนี้นอนซุกอยู่ในรองเท้าเจ้าอ้วน - เด็กอ้วนแห่งรายการวิทยุชุมชน เด็กๆ แถวนี้บอกว่าพี่น้องมันตายไปหมดแล้ว หมาฟัดเรียบฉันได้แต่ฟังเขาพูด ไม่ได้ขึ้นไปฟังเขาประชุมด้วย เลยไม่รับรู้ต่อการมีอยู่ของมันแต่ว่าพอบ่ายแก่ๆ ก็มีมือดีจับใส่กระเป๋าเสื้อเดินมาให้ที่บ้านดิน"อยู่ที่นี่ดีกว่านะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะถูกหมาฟัดตาย"เจ้าของเสียงดึงมันออกมา ตัวเล็กๆ อยู่ในอุ้งมือเดียวเท่านั้นของชายหนุ่มฉันมองแล้วทั้งยิ้มทั้งถอนใจ
ประสาท มีแต้ม
ในขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เริ่มต้นจากถนนวอลล์สตรีทในสหรัฐอเมริกากำลังลุกลามไปอย่างรวดเร็วราวกับลาวาภูเขาไฟไปสู่ทุกถนนของโลก ในภาคใต้ของประเทศไทยโดยหน่วยงานของรัฐและการนิคมอุตสาหกรรมก็กำลังดำเนินการให้มีแผนพัฒนาภาคใต้ด้วยโครงการต่าง ๆ มากมาย ทั้งโดยเปิดเผยและแอบแฝง ตัวอย่างของโครงการเหล่านี้ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ในจังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ จังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี โครงการขุดเจาะน้ำมันของบริษัทเซฟรอน ที่นครศรีธรรมราช ตลอดจนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึง 3 โรง นอกจากนี้ยังมีนิคมอุตสาหกรรมที่จังหวัดตรัง และท่าเทียบเรือน้ำลึกในจังหวัดสงขลาและอีกหลายจังหวัด เป็นต้นถ้ากล่าวโดยสั้น ๆ จะได้ว่า ภาคใต้กำลังจะถูกทำให้เป็นมาบตาพุดแห่งที่สองนั่นเอง
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ในวงการนักอนุรักษ์ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักคุณลุงโชคดี ...!!! ในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณะ v4n กำลังเป็นที่รู้จัก ...!!!แววตาอ่อนโยนหลังแว่นกรอบนั้นมองมาที่พวกเราอย่างสงสัย เส้นผมและหนวดเคราเส้นเล็กขาวโพลนเหมือนกับปุยฝ้ายแตกปุยทำให้คุณลุงโชคดีดูอ่อนโยนมากขึ้น ใต้ศาลาเอนกประสงค์กลางลานบ้านของสวนลุงโชค เด็กๆ รุ่นหลังอย่างพวกเรากำลังตามความคิดของคุณลุง

แท็กล่าสุด

แท็กยอดนิยม