Skip to main content

บล็อกกาซีน ประชาไท

การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์
  พี่โด้นั่งเล่นบนขอบรั้ว
มาลำ
น้ำในคลองวังหยีสีเขียวเข้ม ชื่อคลองวังหยีเพราะมีต้นหยีต้นใหญ่อยู่ริมฝั่ง เป็นคลองสายหลักที่ไหลผ่านทุ่งนากว้างใหญ่ของหมู่บ้าน น้ำจะไหลเชี่ยวและกัดเซาะทุกอย่างที่ขวางหน้า ก่อนจะไหลข้ามสะพาน น้ำจะไหลเอื่อยลงไปในแอ่งลึกที่คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านเรียกว่าวัง น้ำในวังจะสีเขียวเข้มกว่าส่วนอื่น เพราะความลึกของมัน แค่เพ่งมองฉันก็นึกกลัวขึ้นมา ยิ่งแว่วเสียงคนบอกเล่า มีผีพรายอยู่ในวังด้วยนะ ผีพรายเป็นผู้หญิงผมยาวที่เฝ้าอยู่ในวัง เวลาเล่นน้ำระวังเถิดมันจะมาดึงขาลากลงไปอยู่ในวังด้วยกัน ฉันกลัวจนตัวสั่น ทำให้ฉันต้องลืมตาทุกครั้งเวลาดำน้ำ หลังไปช่วยแม่เก็บน้ำยางที่สวน เมื่อปั่นจักรยานผ่าน ฉันต้องหยุดอยู่ตรงหน้าวังหยีทุกครั้งไป หลังจอดจักรยานไว้ริมคลอง ฉันกระโดดตูมลงไปในวังหยี ดับความร้อนหลังใช้เรี่ยวแรงในการหมุนจักรทำยางแผ่น น้ำเย็นที่ไหลผ่านตัวทำให้สดชื่นเหลือเกิน ไม่รู้ว่าฉันว่ายน้ำได้อย่างไร แต่การถีบขาอยู่ในน้ำทำให้เราลอยอยู่ได้ นั่นกระมังเป็นหนทางทำให้ฉันว่ายน้ำอยู่ในวังหยีได้ไม่รู้เบื่อ
ชนกลุ่มน้อย
เสียงเธอดังขึ้นในความเงียบ ผมบอกให้เธอรู้อีกครั้ง ใช่ๆ ใช่มันจริงๆ อีแร้งหรือไม่ก็นกยักษ์ มันนั่งยองๆ อยู่บนรั้วบ้าน อย่างกับทิ้งน้ำหนักนับพันๆกิโลกดทับลงบนกำแพงคอนกรีตอันบอบบาง ถ้ามันนั่งนานกว่านี้ เมืองทั้งเมืองจะเทลาดมาทางนี้ มันเชิดหน้าเฉยเมย ประกาศความใหญ่โตหนาหนัก ผมยืนมองมันด้วยความรู้สึกแขนขาอ่อน เนื้อตัวเย็นเฉียบ อย่าคิดมากเลย คำพูดผมเบาเป็นนุ่น เธอไม่เชื่อในสิ่งที่ผมเห็นมากับตา เธอต้องลงไปดู ไม่ แต่พี่เห็นมัน มันคงมาเล่นงานเราอีก คราวนี้พี่อย่ายอมมันนะ ไอ้นกป่วยนั่นนำโชคร้ายมาให้ มันควรไปเกาะที่อื่น ไปในที่ๆไม่ใช่ขอบรั้วบ้านมนุษย์ยิ่งดี หรือไม่มันก็ควรกลับนรกไปเสียที ในหูผมได้ยินแต่เสียงร้องของมัน ผมผลักประตูหลังบ้านออกไปอย่างแรง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในวัยราว 6 ขวบ พ่ออุ้มผมที่บาดเจ็บตรงสะบ้าหัวเข่า เดินท่องน้ำที่กำลังท่วมผ่านสนามโรงเรียน ไปส่งห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นบาดแผลเกิดจากคมมีดที่ผมฟันกิ่งไม้แห้ง แล้วแฉลบมาโดนจนเนื้อแหว่ง ต้องทายาพันผ้ายาวคืบกว่า ตอนเย็นพ่อก็ไปรับอุ้มกลับบ้านอีกรอบ พ่อแม่ญาติพี่น้องให้ผมหยุดโรงเรียน แต่ผมรบเร้าจะไปโรงเรียนให้ได้ ฤดูหนาว เวียนมาถึง อากาศหนาวเย็น การอาบน้ำตอนเย็นเป็นเรื่องอิหลักอิเหลื่อของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ย่าตักน้ำใส่คุวางไว้กลางข่วงบ้าน (ลานบ้าน) ตั้งแต่เที่ยงวัน ตักอาบน้ำตอนเย็นจะได้อุ่น ใครขยันหน่อยตักน้ำใส่ปี๊บแล้วต้ม เป็นช่วง 40 กว่าปีมาแล้วยังไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เวลาเย็นลงแล้ว ผมลำบากใจเรื่องอาบน้ำ วิ่งเล่นถ่วงเวลาจนมืดค่ำ พ่อเรียกอาบน้ำหลายครั้งก็ทำเฉยๆ ขั้นสุดท้ายพ่อไล่จับผมจนชุลมุนไปหมด
ชาน่า
เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสไปเข้าร่วมสัมมนาว่าด้วยเรื่อง “สื่อของเกย์และกะเทยในสังคมไทย” ณ ห้องกิ่งเพชร โรงแรมเอเซีย กรุงเทพฯ ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน โดยมูลนิธิไฮน์ริค เบิลล์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เริ่มกันตั้งแต่เช้าของวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 – 10.00 น. ได้เปิดลงทะเบียน รับเอกสาร รับประทานอาหารว่างหลังจากนั้นได้เริ่มแสดงวีดีโอ พรีเซ็นเทชั่น นำโดยคุณโสภิดา วีรกุลเทวัญ พิธีกรในงาน โดยมี ดร.ปีเตอร์ แจ็คสัน กล่าวเปิดงาน ต่อแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนมากมาย การสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อต่าง ๆ ที่มาร่วมงานมากมายอาทิ ไทยรัฐ เดลินิวส์ เดอะเนชั่น รายการทีวีต่างๆ และอีกหลายสื่อนับไม่ถ้วน บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นห้องสัมมนาที่ถูกจัดอย่างดีภายในโรงแรมเอเซีย โดยมีการตั้งซุ้มของสมาคม องค์กรกลุ่มหลากหลายทางเพศ หลายกลุ่มที่มาร่วมแสดงนิทรรศการ การสัมมนาเริ่มต้นเวลา 10 โมงเช้า โดยแบ่งแยกเป็นหลายหัวข้อที่น่าสนใจ และมีวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญในวงการหลายท่านมาร่วม
ชิ สุวิชาน
ด้วยความที่อยากให้เกียรติวีรบุรุษในการต่อสู้ของคนที่อยู่กับป่า ทางทีมงานของเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมจึงเลือกเพลง ปูนุ ดอกจีมู เป็นเพลงเปิดหัวในการประชาสัมพันธ์อัลบั้มเพลงเกอะญอเก่อเรอ ที่แรกที่เราส่งไปคือสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ท่าเป็นช่วงภาคภาษาชนเผ่า โดยเฉพาะภาษาปกาเกอะญอ ซึ่งมีพี่มานะ หรือบิหนะ เป็นผู้ประกาศข่าวคราวต่างไปถึงพี่น้องปกาเกอะญอในเขตภูเขา หลังจากที่เพลงถูกเปิด มีพี่น้องปกาเกอะญอจากที่ต่างๆโทรมาแสดงความเห็นมากมาย “ส่วนใหญ่เค้าบอกว่า เค้าชอบเพลงนี้มาก แต่เค้าขอร้องมาว่า ถ้าถึงท่อนที่เป็น ธาโย ช่วยปิดเลยได้มั้ย เพราะเขค้าฟังแล้วขนลุก โดยเฉพาะเวลานั่งหรือนอนฟังในบ้าน มันทำให้นึกถึงบรรยากาศงานศพขึ้นมาทันที เค้าบอกว่าทำให้เค้ารู้สึกไม่ค่อยดีเลย” พี่บิหนะ ผู้ประกาศข่าวภาคภาษาปกาเกอะญอโทรมาบอกผม
เจนจิรา สุ
เสียงโหม่งขนาดใหญ่ประสานกับเสียงกลอง ฆ้อง ฉาบ แม้ฟังดูอึกทึกครึกโครม แต่ก็พลิ้วไหวไปตามทำนองขุล่ยมั้งที่เป็นขลุ่ยเฉพาะของชาวกระยัน ได้เริ่มขับประโคมหมู่บ้านราวป่า ส่งสัญญาณการเริ่มต้นของงานประเพณีต้นที “กะควาง” ในภาษากระยันถูกแปรออกมาเป็นภาษาเรียกอีกอย่างว่า “ต้นที” ซึ่งหมายถึงเสาไม้สีขาวแกะสลักปลายเสาให้เป็นรูปร่างคล้ายกับศิวลึงค์ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในหมู่บ้านชนเผ่ากระยัน(กระเหรี่ยงคอยาว) และชนเผ่ากระยา(กระเหรี่ยงแดง) ชาวกระยันเชื่อว่า ต้นทีเป็นต้นไม้ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งแรกบนโลกมนุษย์ การบูชาต้นทีก็เพื่อให้บรรพบุรุษของกระยัน ที่สถิตบนสวรรค์ลงมาปกป้องคุ้มครองหมู่บ้านให้มีความสงบสุข อยู่ดีกินดี ไม่มีโรคระบาด ผีร้ายหรือสัตว์ป่าเข้ามารบกวนตลอดปี ก่อนวันงาน ทุกครอบครัวจะจัดเตรียมไม้ฟืนไว้สำหรับหุงต้มอาหาร แต่ละบ้านจะหาไม้ฟืนไว้พอใช้ทั้งปี ชายหนุ่มเข้าป่าเสาะหาไม้ล้มมาทำฟืน หญิงสาวปัดกวาดเช็ดถูบ้านเรือนครั้งใหญ่ แม่เฒ่ากระยันหุงเหล้ากลิ่นคละคลุ้งทั่วบ้าน หมูและไก่ตระเตรียมรอการเชือดเพื่อเลี้ยงแขกเหรื่อในวันรุ่งขึ้น
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แสงดาว ศรัทธามั่น
*@ "บงเนื้อก็เนื้อเต้นพิศสะเส้นสรีรัวทั่วร่างและทั้งตัวก็ระริกระริวไหว ฯลฯ" มองตาก็เห็นตาผองประชาผู้ยากไร้หมดสิ้นความเป็นไทด้วยมารร้ายกดขี่คน นานเนิ่นนักนานแล้วพี่น้องแก้วทุกแห่งหนก่อเกิดแสนทุกข์ทนการกดขี่คงนิรันดร์
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เราจะแก้ปัญหาความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ทางการเมืองในปัจจุบัน และวิกฤติการณ์ในโลกได้อย่างไร มีอะไรที่ปัจเจกบุคคลจะสามารถทำได้ เพื่อหยุดยั้งสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น สงคราม เป็นการแสดงออกที่มีขอบข่ายกว้างขวาง และทำให้สูญเสียเลือดเนื้อของชีวิตประจำวันของเราใช่หรือไม่ สงครามเป็นเพียงการแสดงออกภายนอกของสภาพภายใน เป็นส่วนขยายของการกระทำของเราในชีวิตประจำวัน สงครามมีขอบเขตกว้างขวางกว่า นองเลือดกว่าและสร้างความพินาศได้มากกว่า แต่มันก็เป็นผลรวมของกิจกรรมแต่ละอย่างของเรา
ที่ว่างและเวลา
หญ้าป่า “อยากจะบอกว่ามันเป็นอาชีพ มันเป็นงานของเรา คือหมายความว่าถ้ามีบ้านดีๆ ก็ขาดแม่บ้านไม่ได้นะ มันก็สำคัญและจำเป็น แล้วเราก็ไม่ได้มองตัวเองว่าเราด้อย...อยากจะบอกว่างานแม่บ้านมันก็เป็นงานสุจริต งานที่ดี ไม่ใช่งานต่ำต้อย...”   เมื่อพูดอาชีพแม่บ้าน หลายคนอาจมองผ่านข้ามไป ว่าเป็นงานที่ต่ำต้อย บางคนอาจมองว่าเป็นสิ่งไร้ค่า เป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แต่กระนั้น คนทั่วไปก็อดที่จะเรียกใช้ ‘บริการ’ จากคนเหล่านี้ไม่ได้ และแน่นอนว่า หากเรามองเข้าไปในชีวิตจิตใจของพวกเธอ เราจะรู้ได้ว่า เบื้องหลังของความสำเร็จในสาขาอาชีพต่างๆ นั้น อาชีพแม่บ้านได้มีความสำคัญ เป็นตัวหนุนเสริม เป็นฟันเฟืองอีกตัวหนึ่งของสังคมที่เราไม่อาจมองข้ามไปได้ แหละนั่น ทำให้ผมมีโอกาสไปสัมผัสเรียนรู้เบื้องหลังชีวิตของแม่บ้านคนหนึ่ง...
สวนหนังสือ
นายยืนยง    ชื่อหนังสือ : นิทานประเทศ ผู้เขียน : กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 กันยายน 2549 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์นาคร   ผลงานของนักเขียนไทยในแนวของเมจิกคัลเรียลลิสม์ หรือสัจนิยมมหัศจรรย์ หรือสัจนิยมมายา ที่ได้กล่าวถึงเมื่อตอนที่แล้ว ซึ่งจะนำมาเขียนถึงต่อไป เป็นการยกตัวอย่างให้เห็นถึงข้อเปรียบเทียบระหว่างงานที่แท้กับงานเสแสร้ง เผื่อว่าจะถึงคราวจำเป็นจะต้องเลือกที่รักมักที่ชัง แม้นรู้ดีว่าข้อเขียนนี้เป็นเพียงรสนิยมส่วนบุคคล แต่ฉันคิดว่าบางทีรสนิยมก็น่าจะได้รับคำอธิบายด้วยหลักการได้เช่นเดียวกัน เหมือนจะเป็นการออกตัวตามมารยาทเท่านั้น การเสแสร้งใด ๆ ฉันคิดว่าผู้อ่านเท่านั้นจะตัดสินได้

แท็กล่าสุด

แท็กยอดนิยม