Skip to main content

บล็อกกาซีน ประชาไท

Hit & Run
< กรกช  เพียงใจ>ขณะใครเปล่งเสียงสู้เพื่อกู้ชาติขณะใครร่วมพิฆาตมาดมารร้ายขณะนั้นเขายืนอยู่อย่างเดียวดายกลางผืนทราย ฝูงยุง ทุ่งพระสุเมรุไม่มีศิลปินใดร่ายบทกวีไม่มีวงดนตรีระเริงเล่นมีเพียงเหล่าคนยากที่ชัดเจนจากหลืบเร้นเหม็นสาบวิบากกรรมหรือเขาเป็นคนทุกข์ผู้โฉดเขลาหลงมัวเมาประชานิยมจนถลำหรือเขาคือผู้ยึดถือในถ้อยคำจึงชอกช้ำ ‘ประชาธิปไตย’ ช่างเปล่ากลวงหรือเขาคือฝูงคนผู้หลงผิดผู้ยึดติดเงินตราดังค่าหลวงพวกป่าเถื่อนเกลื่อนกลาดอนาจทรวงคอยทะลวงสู้ตายกับลายพรางรู้เพียง...คนว่า ฝั่งนั้นช่างมืดมิดเป็นตัวแทนความดำสนิทไร้รุ่งสางมืดมิดผิดบาปมิรู้ลางอีกฟากหนึ่งขาวสว่างอยู่กลางเมืองเมื่อตาเศร้ามีเงาเพียงขาว-ดำฟังซ้ำ ย้ำ ย้ำ ไม่กระด้างกระเดื่องขาวคือขาว ดำคือดำ จึงแค้นเคืองเพราะสันดานนักการเมืองมันอัปรีย์แล้วเขาควรทำฉันใดนักการเมืองจัญไรสร้างหวังปรี่ผิดก็ว่า อย่าไล่ออกไปตกปฐพีมิใช่สีดำสนิทเหมือนปิดตาผู้คนหวังประชาธิปไตยไร้แร้งรุมไล่กลุ่มทุนสามานย์อย่างหาญกล้าแต่ฝูงแร้งใช่ฝูงเดียวทั่วทั้งฟ้าลองมองหาฝูงเก่าเราเคยแค้นจะต้องข้ามอีกกี่ศพจึงพบว่าเส้นทางที่ผ่านมาช่างเปลืองแสนกว่าจะข้ามพ้นไปแต่ละพรมแดนกลับขาดแคลนความหวังดังวันเดิม  *ตัวเน้นหนา นำมาจากบทกวีบทเวทีพันธมิตรฯ ของ มนตรี ศรียงค์, จิระนันท์ พิตรปรีชา และเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
พันธกุมภา
มีนาถึง พันธกุมภาพี่ได้รับจดหมายที่ส่งต่อๆ กันมา (Forward mail) ฉบับด้านล่างนี้ เป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (เพราะนี่เข้าเดือนที่ 6ของปีแล้ว...)“สาส์นจากท่าน Dalai Lama ที่ได้กล่าวไว้สำหรับปี 2008 นี้ แล้ว…คุณจะได้พบกับสิ่งประหลาดมหัศจรรย์ที่คุณจะยินดีมากข้อแนะนำในการดำเนินชีวิต
เมธัส บัวชุม
กล้องถ่ายรูป นอกจากจะเป็นเครื่องมือสำหรับเก็บภาพแล้วยังสามารถเป็นอาวุธไปได้พร้อมกัน  หลายคนที่สันหลังหวะและกำลังจะหวะจึงมักกลัวกล้องเพราะมันจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ฟ้องด้วยภาพ” ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าคำบรรยายเป็นไหน ๆ และในรายที่ความผิดปรากฏชัดแล้ว กล้องก็สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ประจานด้วยภาพ” ได้อีกด้วยนักการเมืองหรือดาราหรือกระทั่งคนธรรมดาเวลาทำผิดจึงมักจะหลบกล้อง เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ให้นักศึกษาอมนกเขาแลกเกรดก็พยายามเลี่ยงหลบกล้องโดยเอาปี๊บคลุมหัว หรือนักการเมืองบางรายลงทุนพรางตัวเพื่อไม่ให้กล้องจับภาพได้ขณะที่เข้าพบป๋าเป็นการส่วนตัว นี่ยังไม่รวมถึงดาราที่ต้องปะทะกับพวกปาปาราซซี่อยู่บ่อย ๆ ในเรื่องกล้อง  บางรายถึงขนาดชูนิ้วกลางให้กล้องหรือแย่งเอาฟิล์มมาทำลาย ดังนั้น ในบางสถานการณ์อานุภาพของกล้องจึงร้ายแรงไม่แพ้อาวุธอื่น
การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์
ของขวัญวันเกิด สำหรับ “คุณโจ” และทุกท่านที่เกิดในเดือนมิถุนายน อยู่ในช่วงราศีเมถุนค่ะจุดเด่นของชาวราศีเมถุนเรื่องความแปรปรวนค่ะ (ฮา) การมี 2 บุคลิกอยู่ในตัว หรือมีความขัดแย้งในตัวเองสูงมากอย่างแรก คุณเป็นคนฉลาดสุดๆ มีรอยหยักในสมองที่ลึกเอ๊า ลึกเอา ไม่ว่าจะทำ จะเรียน หรือไม่เรียน ไม่ทำอะไรสักอย่าง คุณก็เป็นคนน่าทึ่งในสายตาคนอื่นอยู่ดี อีกอย่างคือคุณเป็นคนมีพรสวรรค์ในการใช้ภาษาค่ะ จะเป็นวัจนะภาษา หรืออวัจนะภาษา จะด่าหรือชม ไฟแลบ เอ๊ย! คุณก็ทำได้ยอดเยี่ยมครือๆ กันแต่สำหรับความขัดแย้งอย่างที่บอกไปนั้น ก็คือในจิตใจคุณเอง อาจจะเพราะเป็นคนฉลาดมากๆ ก็ได้ จึงยากที่ใครจะเดาใจคุณออก แม้แต่ตัวคุณเอง (อ้ะ ยังไงกันคุณนี่!) พยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวไม่ได้ฉันใด ก็พยากรณ์ความรู้สึกนึกคิดคุณได้ยากฉันนั้นบางครั้ง หน้าตาและท่าทีของคุณดูราวจะอ่านง่ายเหมือนตัวหนังสือที่เด็กเขียน แต่เอาเข้าจริงๆ มันอาจจะโย้เย้จนมึน ไม่รู้ว่าคุณกำลังต้องการหรือคิดอะไร ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ หากคน 10 คน จะบอกว่าคุณไม่เหมือนที่แต่ละคนเจอเลยสักกะคน!คนนึงว่าคุณน่ารัก ฉลาด แต่ก็ไร้เดียงสา อีกคนว่าคุณนะเหรอ โหย ร้ายสุดๆ แม่มด (พ่อมด) ละไม่ว่า อีกคนว่าคุณเนี่ยเซ็กซี่ๆ ทันสมัย อีกคนบอก โห คร่ำครึจะตายไป ฯลฯ ดูเอาเถิด แต่ละคนเห็นคุณเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับท่าทีที่คุณหันให้เขาเห็น แต่ที่แน่ๆ คุณนั้นอ่านใจทุกคนที่อยู่ต่อหน้าคุณถูกหมด (แต่อาจจะทำหน้าซื่อตาใส ฉันไม่รู้นะ ฉันไม่รู้นะ)จุดเด่นสุดท้าย คุณเป็นคนมีความเป็นเด็กในตัวสูงมาก บางคนติดข้องอยู่กับวัยเยาว์ ทั้งเรื่องร้ายหรือดี คุณมีแนวโน้มชอบความสนุกสนาน บันเทิง แต่สมาธิสั้น ปักใจอะไรได้ไม่นานที่เป็นตัวคุณสุดๆ อีกอย่างคือ ตีสีหน้าเก่ง พูดอย่างใจอย่าง ปากเงียบใจพูด ปากพูดใจเงียบ ประมาณนั้นค่ะ นั่นย่อมหมายถึงคุณสามารถทำให้คนอื่นเอ็นดูหรือเกลียดชังคุณก็ได้ตามใจต้องการ!!
แสงดาว ศรัทธามั่น
*1  เรียวนิ้ว บรรเลง เพลง บลูส์ กีร์ต้า     เรียวปาก พริ้ม ฮาร์โมนิการ์ขับขาน*2  กลอง บองโก้ บรรเลง เพลงรัก ฉ่ำชื่นบาน     โอบกอดโลก สุข สราญย์เบิกบาน ชีวี     สาก มือ นิ้ว ด้าน  ด้าน เหนี่ยว ไกปืน      ผงาดยืน สาดกระสุนใส่ ในทุกที่ *3  ระเบิดบาป กระสุนบ้า ณ เพลานี้      ถล่มโลก ให้ป่นปี้ ด้วย ไ ฟ ส ง ค ร า ม*4   เธอ “ผิวปากเป็นบทเพลงแห่งความคิดถึง”      เพราะรักจึงจิตวิญญาณ – หัวใจ มิอาจห้าม      เพลงสะล้อซอซึง – ขลุ่ย-แคน-ไวโอลิน... พริ้มพริ้วตาม      โอ้... เพลงรองเง็ง  เพลงนิยามแห่งรัก ... จึงโบกบิน      ปัง  ปัง  ปั้ง  วิดบูมบ์  ถล่มไป      จรวด  ปืน  นิวเคลียร์  ห่ากระสุนไซร์ มิสุดสิ้น      สงคราม  อวิชชาบนโลก  บนแผ่นดิน      ชาติ – ชีวิน  โอ.. เธอ รู้ไหม?  มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวสิ่งสมมุติ!      มาเถิดผองพี่น้อง   เราโอบกอด ด้วย ใจ รัก      โลก ประจักษ์ ชีวิต    ชีวี งามผ่องผุด      แนบแน่นชีวาไร้เร่งรุด      พร้อง บทเพลง เริง ระ บำ      แห่งยุคสมัยงดงามแล้ว!      โอ... เพื่อนเอ๋ย                   จิตวิญญาณ เรา ยัง ปรารถนา      คืน เดือนเพ็ญ ดวง ดารา       พริ้ง พราว พร่าง แพร้ว      ลบ ทิ้ง เถิด ลบ เพลง รบ       ออกไป  โลก วาวแวว      กล่อม กอด เพลง รัก            งด งาม แล้ว ตราบนิรันดร์ด้วยรักอันงดงาม + พลังใจแสงดาว  ศรัทธามั่นปลายฤดูหนาว  21  กุมภาพันธ์ 2551บ้าน – ร้าน สุดสะแนน (แสนสนุกสุดเสน่ห์) .. วจีกวีของอ้าย “เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์”      *1  “น้าเปี๊ยก – บลูส์”  นักดนตรียุคส์ซิกซ์ตี้แห่งร้านสุดสะแนน*2  “อรุณรุ่ง  สัตย์สวี... ฮวด สุดสะแนน” กวี  นักเขียน*3  ภาษากวีของอ้าย “เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์” กวีซีไรต์*4  ขอโทษจำนามปากกาเธอมิได้  เธอเป็นกวี นักเขียนแห่งดินแดนด้ามขวานด่านใต้, ทะเลอันดามัน
ก.ศ.
ฉันชอบภาพเตาอั้งโล่สองตัวนี้มาก ประสาคนช่างจินตนาการ ฉันเห็นมันเป็นเพื่อนชีวิตคู่หนึ่งที่อยู่กันมานานยาวอาจเป็นชายกับหญิง หญิงกับหญิง หรือชายกับชาย นั่นไม่ใช่ประเด็นแต่เป็นการผ่านร้อน ผ่านไฟ ผ่านหนาวด้วยในบางฤดู ดีไม่ดีคงผ่านฝน ผ่านมือคนหลายมืออยู่นี่เป็นเตาที่ใช้ได้ทั้งไม้ฟืนและถ่านตอนเด็กๆ ที่บ้านเราก็เคยใช้เตาแบบนี้ ทุกเช้า แม่จะเริ่มต้นใช้มันด้วยการนึ่งข้าว แกงผัก ปิ้งเนื้อ ในช่องเล็กๆ ที่เป็นจุดกักขี้เถ้า บางวันก็จะมีห่อใบตองยัดเข้าไปเราใส่อะไรได้ตั้งเยอะแน่ะ ในห่อใบตอง แหนมหมูทำเอง, ปลาร้าทำเอง, พริกกับหอมกระเทียม, มะเขือเทศลูกเล็กๆ ฯลฯ อาหารจากช่องขี้เถ้านี้มักจะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เวลาใช้ไม้เขี่ยออกมาก็จะเสี่ยงมากด้วยกับความร้อนที่อมระอุแต่นั่นล่ะ ความสนุกและสีสันของวัยเยาว์ปัจจุบันนี้ ชีวิตฉันห่างไกลจากเตาแบบนี้มาก เป็นความไม่สะดวกหลายๆ ประการหากจะกลับไปใช้สิ่งของบางอย่าง แม้จะชอบมันมากก็ตาม (อย่างไร้เหตุผล)ฉันบอกเพื่อนว่า นอกจากจะเป็นคนแก่ (ชอบรำลึกอดีตไง) มากๆ แล้ว ฉันยังเป็นคนติดข้องกับความทรงจำ ความรัก ความคิดถึง ความผูกพันแม้ทั้งหมดนั้น จะดูเป็นเรื่อง...เด็กๆ...ก็เถอะ.
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ข้าคือความลวงคือสิ่งที่โกหกมดเท็จข้าเป็นความลวงของสิ่งใดสิ่งนั้นย่อมถูกเข้าใจผิดและถูกมองไปเป็นอื่นถ้าใครสักคนหนึ่ง...ได้รู้จักตัวข้าด้วยตัวของเขาเองอย่างแท้จริงเขาย่อมไม่ปรารถนาจะได้รู้จักความลวงใดๆในโลกนี้อีกเลยข้าคือความอัปลักษณ์คือสิ่งที่น่าเกลียดข้าเป็นความอัปลักษณ์ของสิ่งใดสิ่งนั้นย่อมแลดูต่ำต้อยด้อยค่าถ้าใครสักคนหนึ่ง...ได้รู้จักตัวข้าด้วยตัวของเขาเองอย่างแท้จริงเขาย่อมไม่ปรารถนาจะได้พบปะความอัปลักษณ์ใดๆในโลกนี้อีกข้าคือความเลวคือการกระทำที่ไม่ถูกต้องข้าเป็นความเลวของสิ่งใดย่อมมีการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมของสิ่งนั้นข้าจึงมีแต่ความขัดแย้ง เบียดเบียน และทำลายในทุกสิ่งถ้าใครสักคนหนึ่ง...ได้รู้จักตัวข้าด้วยตัวของเขาเองอย่างแท้จริงเขาย่อมไม่ปรารถนาจะเข้าไปกรายใกล้ความเลวใดๆในโลกนี้อีก
แพร จารุ
 “ไม่นานคนก็ตายกันหมดโลกแน่ ๆ”หญิงสาววัยเพิ่งผ่านเลขสามพูดขึ้นก่อนล้มตัวลงนอน “พี่เชื่อไหม ไม่นานผู้คนจะตายหมดโลก” เธอพูดอีกครั้ง “อะไรทำให้เธอคิดเช่นนั้น” ฉันถามออกไปด้วยความขลาดกลัว มานอนกลางป่ากลางเขาแล้วพูดถึง เรื่องความตาย  ไม่อยากจะฟังคำตอบจากเธอ รีบเตรียมถุงนอน พร้อมที่จะล้มตัวลงนอนใกล้ ๆ เธอ คืนนี้เราเลือกที่จะไม่นอนในบ้านสบาย ๆ แต่เลือกที่จะมานอนกันในป่าเปลี่ยนบรรยากาศ   เธออธิบายต่อว่า เมื่อกลางวันได้ยินข่าวแผ่นดินไหวที่เชียงราย 3.5 ริกเตอร์  เมื่อแผ่นดินไหวที่เชียงรายได้ ก็ไหวที่เชียงใหม่ได้ หรือที่อื่น ๆ ได้ และมันคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “อือ...ก็น่าจะจริง สมัยเมื่อพี่ยังเด็ก รู้แต่ว่าแผ่นไหวจะเกิดที่ญี่ปุ่น ครูยังบอกว่าเราเป็นประเทศที่โชคดีไม่มีแผ่นดินไหว สองวันก่อนได้รับภาพคนจำนวนมากมายนอนตายเกลื่อนที่พม่า พวกเขาประสบกับไซโคลนนาร์กิส มองเผิน ๆ เหมือนตุ๊กตาพองน้ำ ส่วนใหญ่จะคว่ำหน้า มันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องเหนือจริง แต่ยิ่งเพ่งมองยิ่งรู้ว่าเป็นเรื่องจริง  มันเศร้าลึกและหดหู่ สงสารเพื่อนมนุษย์ พี่รู้สึกว่าภาพนั่นติดตายาวนาน จนถึงตอนนี้”ว่าแล้วฉันก็ลุกขึ้นสวดมนต์ ผิด ๆ ถูก ๆ แบบคนที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่คืนนี้รู้สึกอยากสวดมนต์เหลือเกิน ดูชีวิตว่างเปล่าและวังเวงในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก แล้วยังแผ่นดินไหวที่ประเทศจีน ผู้คนมากมายล้มตาย และน้ำกำลังจะท่วม ต้องเปลี่ยนทิศทางไหลของน้ำ เพื่อนคนหนึ่งไปติดอยู่ที่นั่น เล่าเสียงสั่นมาตามสายว่า ในขณะที่แผ่นดินไหว เธอรู้อย่างเดียวว่าต้องวิ่ง วิ่ง และวิ่ง แต่ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปไหน และคิดว่า ไม่นานแผ่นดินจะแยกออกจากกัน  ตึกสูงจะถล่ม  ผู้คนลงมาจากตึกสูงมานอนข้างถนน  มนุษย์ช่างเล็กกระจ้อยและลีบติดดิน  ถึงที่สุดแล้วคนเราต้องการแค่ความปลอดภัยในชีวิต
มูน
๑.เรากำลังจะไปไหนฉันถามตัวเองในวันหนึ่ง ขณะยืนเคว้งคว้างกลางคลื่นคนที่เดินสวนกันไปมาหนาแน่นเพื่อเข้าออกและสับเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าที่สถานีสยาม สงสัยว่าถ้าจะต่อรถอีกขบวนหนึ่ง ควรจะลงบันไดไปชั้นล่าง หรือขึ้นบันไดต่อไปชั้นบน งุนงงสับสนกับความรีบเร่งที่อยู่รอบๆ ตัวหนีความพลุกพล่านมาเกาะพักอยูริมระเบียง มองฝ่าหมอกควันสีเทาจางไปไกลๆ เห็นแต่ตึกสูงแน่นขนัด เบื้องล่างคือขบวนรถยาวเหยียด สารพัดเสียงอื้ออึงเต็มสองหูนาทีนั้น ฉันรู้สึกว่าราวเหล็กที่จับอยู่เป็นระเบียงไม้ของบ้านไต้ถุนสูง มองไกลออกไปเห็นทิวเขาทอดยาว และไหลเอื่อยช้าเบื้องล่าง คือแม่น้ำที่ไหลผ่านบ้านเกิดของฉันไม่ว่าเมื่อไร ฉันก็ไม่สามารถปรับจังหวะอันเชื่องช้าของตนเองให้เข้ากับจังหวะรีบเร่งของเมืองใหญ่ได้เลย
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเมื่อมีการชุมนุมของพี่ๆ ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ และ กลุ่มต้านพันธมิตรฯ คือ “อีกแล้วเหรอ”  ซึ่งเป็นความรู้สึกที่กลัวว่าเหตุการณ์จะนำพาไปสู่เหตุการณ์ “รัฐประหาร” เหมือนเมื่อครั้งปี 2549 อีกหนที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ถูกมองว่า เป็น “เงื่อนไข” สำคัญที่ทำให้เกิดการรัฐประหารในครั้งล่าสุด แถมยังไม่ค่อยมีบทบาทมากนักในการต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้งเลยแม้แต่นิด ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่คนอื่นๆ ทั่วไป เขาจะมองว่ากลุ่มพันธมิตร เอาดี เห็นงาม กับการทำให้เกิดเหตุการณ์เยี่ยงนั้นสำหรับนักประชาธิปไตยอีกฝากแล้ว ท่านเหล่านั้นคงรับไม่ได้กับที่มาและการดำรงซึ่งอำนาจของคณะรัฐบาลรัฐประหาร เพราะไม่มีทั้งความชอบธรรม และหลักการตามครรลองประชาธิปไตย ทำให้หลายๆ คนไม่ยอมรับ “รัฐธรรมนูญ” ฉบับปัจจุบัน เพราะถือว่าที่มาไม่ถูกต้อง เสมือนเป็นดั่งไข่ของเผด็จการที่มอบไว้กับสังคม (คนกลุ่มนี้ อาจมีทั้งที่รักและไม่รักคุณทักษิณอยู่ด้วย)ที่ว่ามาแบบนี้ ผมไม่ได้อยู่ในกลุ่ม “สองไม่เอา” นะครับ, คือ ผมไม่รู้ว่า “จะเอาอะไร” มากกว่า หรือ หากพูดให้ตรงๆ ก็คือใครจะทำอะไร จะชุมนุม จะแก้ ไม่แก้ อย่างไร มันก็ไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อนมากมายเพราะผมคิดว่า ไม่จำเป็นต้องออกมาชุมนุมคัดค้านหรือสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมไม่จำเป็นต้องแสดงท่าที แถลงการณ์ต่อกลุ่มที่ชุมนุมทั้งหลาย เรื่องเหล่านี้ “ถูกขีดบรรทัด” ว่าเป็นเรื่องของ “ผู้ใหญ่” ไม่ใช่เรื่องของ “เด็ก” เพราะเด็กๆ จะไปรู้อะไรล่ะ
ชาน่า
นานแล้วที่ไม่ได้เม้าท์เรื่องราวภัยรายวัน หลังจากที่คอลัมน์เตือนภัยที่มีคนเข้าอ่านเกือบหมื่น เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเกือบปีเชียวฮ่ะ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวเกย์หลายคนร้องเรียก เม้าท์แตกกัน วันนี้จึงขอหยิบหลากหลายเรื่องราวมาเม้าท์เล่าสู่กันฟังนะฮะ บางเรื่องราวฟังไว้ไม่เสียหลาย บางราย “มีอย่างนี้ด้วยหรือ” คุณขา ยุคข้าวยาก หมากแพง เศรษฐกิจทรุด การเมืองแทรก ความมั่นคงถดถอย น่าเห็นใจชาวไทยกันถ้วนหน้าที่ต้องรับสภาพปัญหาเยี่ยงนี้ชาน่าขอแยกเป็นเรื่อง ๆ ตามหัวข้อที่เพื่อน ๆ เม้าท์ให้ทราบละกันฮ่า 
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เราจับรถไฟเช้าจากสถานีรถไฟเว้ (ก่าเว้) ไปยังเมืองดานังเพื่อโดยสารรถไปยังเมืองโฮยอานอีกต่อ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้เพราะสามารถเดินทางจากเว้ตรงไปโฮยอานได้โดยรถทัวร์ เพียงแต่ว่า ข้อมูลจากโลนลี่ พลาเน็ต บอกเอาไว้ว่าเส้นทางรถไฟสายเว้-ดานัง เป็นเส้นทางที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเราจึงตัดสินใจลองของ!ยามเช้า คนเริ่มพลุกพล่าน ผมกับยาดาเรียกแต็กซี่(ตามสำนวนคนเวียด)ไปก่าเว้ก่าเว้ เป็นอาคารรูปทรงโคโลเนี่ยล ทาด้วยสีส้ม-เหลือง ผู้คนคึกคัก อุ้มลูกจูงหลานเดินทางไปทำธุระพบปะญาติมิตร นักท่องเที่ยวบางคนจับกลุ่มยืนสูบบุหรี่อยู่มุมหนึ่ง

แท็กล่าสุด

แท็กยอดนิยม