Skip to main content

บล็อกกาซีน ประชาไท

การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์
ราศีเมษ Aries (13 เมย.-13 พค.)                ไพ่ใบแรกของคุณสัปดาห์นี้ 6 คทาค่ะ ชัยชนะที่ใกล้มาถึงค่ะ หากคุณทำงานการใดคั่งค้าง ความสำเร็จกำลังรออยู่นะคะ แต่ถ้าเริ่มต้นทำอะไรในช่วงนี้ รอนิดค่ะ ช้าๆ ได้ของงามๆ :-)ธุรกิจ การงาน    ราชาดาบ ดาบขึ้นมาเพียบๆ แบบนี้ บอกได้เลยว่าอาทิตย์นี้คุณจะเจอเรื่องหนักหน่อยค่ะ แต่มองในแง่ดีคือ จงประเมินสถานการณ์ให้ชัดให้ที่สุด แล้วจัดการสิ่งต่างๆ ด้วยความเด็ดขาด จงเข้มแข็งกับสิ่งที่ต้องเลือกหรือตัดสินใจ สิ่งต่างๆ ไม่ง่ายสำหรับคุณ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ คนอื่นก็ไม่ง่ายเหมือนกันแหละน่าสถานการณ์การเงิน  8 ดาบ ยังเป็นไพ่ใบเดิมเหมือนสัปดาห์ที่แล้วค่ะ สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก อาจเจอปัญหาที่โอบล้อมเข้ามา ดิ้นหนีได้ยากเหลือเกิน บางเรื่องคุณไม่ได้เป็นคนก่อ ก็ต้องไปชดใช้หรือแก้ปัญหา ซึ่งแล้วก็ยังแก้ไม่ได้ ไพ่ใบนี้เปิดขึ้นมาก็คงต้องอดทน รอจังหวะ และให้สถานการณ์คลี่คลายไปทีละนิดค่ะความรัก ความสัมพันธ์  ราชินีดาบ สงสัยในความสัมพันธ์จะเหนื่อยนิดนะคะ มีเรื่องต้องทำความตกลง ตัดสินใจร่วมกัน บางเรื่องต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาดด้วยนะ บางคนอาจได้พบคู่มีลักษณะของคนกร้าวและแกร่ง แต่ก็นั่นล่ะ คือเนื้อแท้ของตัวตน ดูผิวเผินเหมือนเข้ากันไม่ได้ แต่ยาวนานไป อาจจะเป็นคนที่คุณอยู่ด้วยนานที่สุด!คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 9 ถ้วยค่ะ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องรักซ้อนซ่อนเร้น สิ่งที่อำพราง ไม่เปิดเผยต่อสังคมหรือผู้คน การเก็บงำความในใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ อาจนำปัญหาที่คาดไม่ถึงมาให้คำแนะนำจากไพ่ Judgement คุณจะได้รับโอกาสใหม่ในการแก้ไขบางสิ่งที่เคยผิดพลาด (หรือทำไปแล้วไม่ชอบใจ) ในอดีตที่ผ่านมา โอกาสนี้มีความหมายต่อคุณมาก จงตระหนักถึงผลลัพธ์ที่คุณจะได้ และใช้โอกาสนั้นให้ดีที่สุดค่ะ
พันธกุมภา
มีนาถึง พันธกุมภาจุดหมายปลายทาง การเดินทางธรรมของเธอครั้งนี้อยู่ที่วัดป่าสุคะโต ที่...ซึ่งฉันไม่เคยไป หากหลายคนอยากไป ก็คงไม่ได้คิดถึงเรื่องการเดินทาง หากมักนึกถึงปลายทาง และในที่สุด...แม้รู้ว่าเธออาจจะเดินทางถึงวัดป่าสุคะโตแน่นอน เธอก็น่าจะเรียนรู้ระหว่างทางดังที่เธอเล่าให้เราฟังฉันเคยพูดถึงเรื่องความกลัวระหว่างการเดินทาง “ในความกลัว” มาก่อนแล้ว ด้านหนึ่งฉันนึกเสมอว่า คนธรรมดาทั่วไปอย่างฉัน ร่ำเรียนมาด้วยวิธีคิดแบบมีเป้าหมาย โดยไม่สนใจระหว่างทาง หรือกระบวนการเรียนรู้ก่อนที่จะถึงเป้าหมาย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว “ระหว่างทาง” เป็นสิ่งสำคัญมาก อาจจะมากกว่าเป้าหมายด้วยซ้ำไปจากนักเรียนมัธยมสู่การเรียนมหาวิทยาลัย เป้าหมายอาจจะอยู่ที่การเรียนจบ การรับปริญญา ปริญญาบัตร หรือการได้เกียรตินิยม ความหมายของการเรียน มันอยู่ที่ปริญญาหรือการเรียนได้ที่หนึ่งเท่านั้นหรือ สำหรับใครหลายคนขอเพียงแค่เรียนจบ ขอเพียงแค่สอบได้ เหล่านี้ล้วนเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ บางคนขอจบแบบมีเกียรตินิยมควบคู่มาด้วย นี่เองที่เป็นเป้าหมาย สิ่งนี้หรือคือคุณค่าของการศึกษา
นาโก๊ะลี
จอมยุทธผู้หนึ่งกล่าวกับขุนศึกผู้ท้อแท้ทอดอาลัยต่อการศึกและการฆ่าฟันในสมรภูมิที่ยังไม่สิ้นศึกว่า      “ท่านสามารถเลือกได้ว่าท่านจะใช้กระบี่เพื่อปกป้องหรือเพื่อทำลาย”  ด้วยคำพูดนี้ ขุนศึกก็กลับสู่สมรภูมิอีกครั้ง ชายหนุ่มปกาเกอะญอเล่าเรื่องการเรียนดาบว่า  เมื่อเริ่มเรียน ทุกคนเข้าไปอยู่ร่วมกันในป่า ผู้เรียนทุกคนต้องร่วมพิธีกรรมบางอย่าง นั่นก็คือการเรียนรู้กันและกัน สืบค้นความเมตตาในใจ เปิดเผยตัวตนของตัวเองต่ออาจารย์และเพื่อน ปลดเปลือยตัวเอง เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรียนวิถีดาบ ในกระบวนการเรียนรู้นั้นห้ามคนนอกเข้าไปเพื่อให้ผู้เรียนทุกคนได้ไว้วางใจกันและกัน  บางคนเมื่อเข้าไป ด้วยพกความแค้นบางอย่าง และหวังว่าความรู้เชิงดาบจะทำให้เขาสามารถต่อสู้  แต่เมื่อเวลาผ่านไป จวบจนการเรียนจบลง พวกเขาพบว่า ทุกคนกลายเป็นคนใจเย็น และเปี่ยมไปด้วยความสุขุม และเมตตา  อาจารย์ของจอมยุทธเมื่อแรกสอนวิชากระบี่ กล่าวกับศิษย์ว่า ความหมายของกระบี่คือความรัก  ความเมตตา นัยหนึ่งของการฝึกกระบี่ก็คือการเจริญเมตตาภาวนา และที่สุดของวิชากระบี่ คือการทำให้กระบี่กับตัวเราเป็นสิ่งเดียวกัน  กระบี่หาใช่สิ่งของภายนอก แต่มันคือแขนที่ยาวขึ้นของเราจอมยุทธหนุ่มกล่าวว่า  เมื่อเขาฝึกยุทธ เขาพบว่า มันคือการฝึกฝนขัดเกลาภายใน พร้อมกับการส่งเสริมดูแลสุขภาพร่างกาย  นั่นเองเขาพบว่า มีความปรารถนาใหม่และงดงามก่อเกิดขึ้นช้าๆ ในใจ  นั่นก็คือความปรารถนาที่จะช่วยเหลือผู้คน  บัดนั้นเขาพบว่า ในศิลปะการต่อสู้ทั้งหลายนั้น หากมันเป็นไปในทางที่ดีงามแล้วไซร้ ศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดก็คือการเจริญเมตตาภาวนานั่นเอง“ท่านสามารถเลือกได้ ว่าท่านจะใช้กระบี่เพื่อปกป้องหรือเพื่อทำลาย”รูปแบบของอาวุธ รูปแบบของกระบี่ของวันนี้อาจเปลี่ยนไป  เมื่อทอดตามองออกไปในมือของผู้คนทั้งหลายต่างก็ถืออาวุธอยู่ในมือ เช่นนั้นหรือเปล่า...มั้ง....  ในมือของบางคนคือ ปากกา ถ้อยคำ  ในมือของบางคนคือดนตรี ในมือของบางคนคือกองกระดาษที่เรียกว่ากฎหมาย ในมือของบางคนคือเงิน  หรือในมือของบางคนมันคือนามธรรมที่จับต้องไม่ได้  เราอาจเรียกสิ่งเหล่านั้นว่า อำนาจ  หรืออาจคือตำแหน่งหน้าที่ การงาน ชาติตระกูล หรืออะไรต่อมิอะไร..... ในมือของผู้คน หรือกระทั่ง ปืน แต่ทั้งหมดนั้นมันขึ้นอยู่กับว่าท่านจะใช้อาวุธที่อยู่ในมือ เพื่อปกป้องหรือเพื่อทำลาย
ภู เชียงดาว
เหมือนว่าอดีตกำลังกวักมือเรียกหาเหมือนว่าปัจจุบันกำลังคลี่เผยความลับอยู่เบื้องหน้าฉันรู้สึกตื่นเต้น อยากก้าวย่างไปบนทางสายนั้น ถนนความหวังและความใฝ่ฝันภูเขาลูกนั้นที่ฉันคุ้นเคย แม่น้ำสายนั้นที่ฉันฝันถึงป่าไม้ผืนนั้นยังตรึงไว้ในดวงตากับสายลมเริงร่า กลางทุ่งหญ้าสีทอง แหละนั่นตะวันเจิดจ้า กับท้องฟ้าสีฟ้าเบิกบานสดใสเพราะโลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่เพราะโลกใบนี้ยังไม่โหดร้ายเกินไปนักฉันจึงออกเดินทาง ไกลแสนไกลไปตามหาความฝันอันกว้างใหญ่ไปค้นหาความหวังใหม่ไม่รู้จบเพราะโลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่เพราะโลกใบนี้ยังไม่โหดร้ายเกินไปนักฉันจึงศรัทธา คิดและฝัน...ฉันจึงออกเดินทาง....ชายคนหนึ่งเดินทางเพื่อบอกเล่าถึงความงดงามคือความหมายของชีวิต ผ่านบทกวีในห้วงคำนึงขบถโรมานซ์ ในทุกที่ที่มีความเคลื่อนไหวของคนทุกข์คนยากอยู่อย่างลำบากในสังคมชนชั้น เยี่ยงที่เป็นมานับผ่านถึงเวลา 5 ปี พ.ศ.2545 ถึง พ.ศ.นี้ ชายคนเดียวกัน ได้เก็บบันทึกเหตุการณ์ สะสมเรื่องราวในยามห้วงคำนึง ไว้ด้วยภาพที่ผ่านการกดชัตเตอร์นับครั้งไม่ถ้วน มิเพียงเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงาม หากยังย่อขยายความเคลื่อนไหวของผู้คนในสังคมขณะหนึ่ง ผ่านกล้องถ่ายรูปพกพา ไว้ในเนื้อที่ฟิล์ม มากกว่า 50 ม้วน แล้วล้างอัด คัดสรรเนื้อหา จนเหลือเพียง 50 ภาพ นำเสนอโดย ‘แสงดาว ศรัทธามั่น’ กวีล้านนาอิสระขอเชิญชมผลงาน ‘ภาพถ่ายแสงดาว ศรัทธามั่น’วันเสาร์ ที่ 22 มีนาคม 2551 เวลา 18.00 นาที เป็นต้นไปณ ร้านสุดสะแนน ถนนห้วยแก้ว อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่กำหนดการสังสรรค์มิตรสหาย17.00 น. เชิญเข้าชมภาพถ่ายและสั่งจองภาพ18.30 น. คำต่อคำ-ก่อนกดซัตเตอร์ /อ.ประมวณ เพ็งจันทร์ ร่วมสนทนา ดำเนินรายการโดย พี่อ้อย ชุมชนคนรักษ์ป่า และน้องแอน ละครชุมชน19.00 น. ฟรีคอนเสิร์ตกวี-ดนตรี และบทเพลงแสงดาว อาทิ บุศ Family, โจ้ รังสรรค์ ราศีดิบ,สุวิชานนท์ รัตนพิมล,ชิ สุวิชาญ,ตุ๊ก บราสเซอรี่,สุดสะแนน ฯลฯจัดโดย กลุ่มนักเขียนเชียงใหม่ (ภาคีกวี นักเขียน ศิลปิน ภาคเหนือ) ร่วมกับ ร้านสุดสะแนน ร้านหนังสือร้านเล่า ร้านลูกช้างนานามีเดียเซ็นเตอร์ และชมรมวรรณศิลป์ มช. และอีกหลายความเคลื่อนไหวหมายเหตุใครมีภาพถ่ายอ้ายแสงดาว พกติดตัวมาโชว์ในงานได้นะครับสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.089-8505025    
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
 ‘FREE TIBETAN’08.30 น. - 19 มีนาคม 2551อากาศหน้าสถานทูตจีน ริมถนนรัชดาร้อนสุดขีด พนักงานกทม.บนรถบรรทุกน้ำสีเขียวปล่อยน้ำออกจากสายพลาสติกกลมเทาพุ่งกระจายฟูฝอยเพื่อทำความสะอาดฟุตบาธตามปกติเวลาทำงาน ไล่เรื่อยมาจากแยกพระรามเก้า-อสมท.-ฟอร์จูน ทาวน์-แยกศักดิ์เสนา ก่อนจะหยุดกึกที่หน้าสถานฑูตจีนเพราะเห็นกลุ่มคน กลุ่มใหญ่ชูป้ายกระดาษ กางผืนธงชาติรูปร่างแปลกตา อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน“ประท้วงนี่หว่า” อย่างเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกับเวลาทำงาน เขาขับรถผ่านไปไม่หันมามอง...ตำรวจนำกำลังมากั้นแผงเหล็กหน้าสถานฑูตตั้งแต่เช้าแล้ว แดดสายเริ่มทวีความร้อนสุดขีดขึ้นทุกขณะ ช่างภาพและนักข่าวทำหน้าที่ของตนเองอย่างขมักเขม้น กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า เครือข่ายเสรีทิเบต ชูแผ่นป้ายและร้องตะโกนให้รัฐบาลจีนคืนอิสระภาพให้แก่ชาวทิเบต ให้รัฐบาลไทยบอยคอตการเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิด เอ๊ย...โอลิมปิก พร้อมกับแสดงออกในทางการเมืองระหว่างประเทศว่า ‘จะเข้าข้างใคร’จีน ! หรือ ทิเบต !นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช จะเข้าข้างใคร ?
แสงดาว ศรัทธามั่น
สารคดี : เคยคิดบ้างไหมว่า ตัวเองเป็นคนเสียสละ ?ว นิ ดา : (นิ่งคิดครู่หนึ่ง) ...เรื่องนี้ไม่ค่อยคิดเท่าไร ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่เรื่องว่าใครคนใดคนหนึ่งต้องเสียสละ คนอื่นเขาก็เสียสละ คนที่ทำงานกับเราเสียสละทุกคน จริงๆแล้ว ชาวบ้านเป็นผู้เสียสละ เขาถูกขับไล่ ถูกเวณคืนเพื่อสร้างเขื่อน ไม่อย่างนั้นเราก็ไมมีน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้ เรามีโอกาสมากกว่า เราก็ช่วยเขา มีแรงพอจะช่วยเขาได้ เราก็ช่วย ดิฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียสละไม่ได้คิดว่าเป็นนักบุญ หรือ แม่พระ และก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นหญิงเหล็ก คนอื่นเขาเหล็กกว่าดิฉันเยอะดิ ฉั น เ ป็ น ค น ธ ร ร ม ดา  เ พี ย ง แ ต่ ดิ ฉั น เ ป็ น ค นไ ม่ย อ ม แ พ้ ไ ม่ ย อ ม จำ น น ง่า ยๆ  เ ท่า นั้ น "** ตอนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ในนิตยสารสารคดี
กิตติพันธ์ กันจินะ
ใครจะไปรู้ว่าเทคโนโลยีบางอย่างจะทำให้เราไม่พลาดการสื่อสารที่สำคัญได้จริงๆ เรื่องเกิดเมื่อวันหนึ่ง, ขณะที่ผมกำลังออนไลน์โปรแกรมแชทยอดนิยมนั้น พี่ต้าร์ (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แห่งกลุ่ม Y-ACT) ก็ได้เข้าโปรแกรมออนไลน์ MSN จากในค่ายแห่งหนึ่ง ณ สวนแสนปาล์ม นครปฐม ซึ่งเป็นการอบรมนักศึกษาอาชีวศึกษากว่า 30 สถาบัน  “อยากดูป่ะ” พี่ต้าร์ถามและได้เปิดโปรแกรมวิดีโอออนไลน์ขึ้นมาผมตอบว่าอยาก – สักพัก ภาพเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ พี่ๆ ได้ปรากฏออกมา และมีภาพของเพื่อนๆ เยาวชนที่เข้าร่วมค่ายกำลังทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานผมถามพี่ต้าร์ว่ามาทำอะไรกัน?พี่ต้าร์ บอกว่า “วันนี้น้องอาชีวะกว่า สามสิบสถาบัน จากกลุ่มโรงเรียน จตุจักร ชัยสมรภูมิ ธนบุรี และสวนหลวง ร.9 ได้มาจัดกิจกรรมโครงการ คาราวานความดี อาชีวศึกษาพัฒนาสังคม ซึ่งจะอบรมกันสามวันเลยนะ จากวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 มีนาคม เลยแหละคุณเต้า”  
ที่ว่างและเวลา
สัมภาษณ์-เรียบเรียง : บัณฑิต เอื้อวัฒนานุกูลรศ.ดร.กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมณ์ เคยเป็นอาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความเชี่ยวชาญภาษาทิเบต ทำวิจัยเรื่องทิเบตมานานนับ 10 ปี เคยเดินกราบอัษฎางคประดิษฐ์ (เดิน 3 ก้าว ก้มกราบ 1 ครั้ง) บนเส้นทางของนักแสวงบุญอันเก่าแก่ทุรกันดาร ณ เขาไกรลาสเป็นระยะทางกว่า 80 กม. ปัจจุบันเป็นประธานมูลนิธิพันดารา (Thousand Stars) ซึ่งเป็นองค์กรสร้างการแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องพุทธศาสนาแบบวัชรยานในสังคมไทย และยังคงเดินทางไปทิเบตอยู่เสมอมิว เยินเต็น บวชเรียนใต้ร่มกาสาวพัตร์ของพุทธศาสนาวัชรยานในบ้านเกิดที่ทิเบตมานาน 27 ปี เป็นผู้ติดตาม อ.กฤษดาวรรณ ในการเดินเท้าแสวงบุญบนเขาไกรลาส ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิพันดาราอาจารย์กฤษดาวรรณมิวเยินเต็ม
วิจักขณ์ พานิช
เรจินัลด์ เรย์ เขียน วิจักขณ์ พานิช ถักทอและร้อยเรียงเชอเกียม ตรุงปะ เคยกล่าวไว้ว่า “หากคุณสามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางทางจิตวิญญาณได้ คุณก็ควรจะทำเสีย” การฝึกฝนทางจิตวิญญาณที่เข้มข้นจะนำพาคุณไปยังสถานที่ที่ซึ่งอัตตาของคุณถูกสั่นคลอนและถอนรากอย่างถึงที่สุด ราวกับกำลังถูกท้าทายด้วยเพลิงไฟแห่งการตื่นรู้ ดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณได้ย่างก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกตน เรากำลังพูดถึงคุณค่าทางจิตวิญญาณที่แท้ หาใช่ความเป็นศาสนาที่ฉาบฉวยหรือการโหยหาความสุขสงบด้วยการภาวนาวันละนิดวันละหน่อย เรากำลังพูดถึงการอุทิศตนบนธรรมแห่งการตื่นรู้ในทุกลมหายใจเข้าออก
ชาน่า
การท่องเที่ยวไทยถือเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศชาติมานานแสนนาน แม้บางช่วงเศรษฐกิจจะทรุด การเมืองจะแทรก ปัญหาหลากหลายจะเสริมทำให้ไม่ราบเรียบมากนักในบางช่วงปีที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้น “ประเทศไทย” ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งมังคุด ละมุดลำใย แห่กระหน่ำมาเที่ยวกันอย่างเห็นได้ชัด หากจะมองถึงกลุ่มเป้าหมายชาวรักร่วมเพศ เกย์ กะเทย เลสเบี้ยน ถือว่ามาเที่ยวบ้านเมืองนี้ ดีนักแล เพราะทางเจ้าของประเทศ สยามเมืองยิ้ม กระหยิ่มต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเปิดกว้าง โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนร่วมกัน สรรค์สร้างปูทางให้นักท่องเที่ยวผู้แสวงความสุขบนสวรรค์ ณ แผ่นดินสยาม ปีละมากมาย
วาดวลี
หลายปีก่อน หญิงสาวรูปร่างบางตาคมคนหนึ่ง ซึ่งเป็นรุ่นน้อง เอ่ยกับฉันว่าการหอบสัมภาระเพื่อย้ายจาก “บ้านเช่า” ไป “บ้านใหม่” ที่เธอเป็นเจ้าของนั้น ต้องเก็บไปให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระของคนมาทีหลัง “อะไรเอาไปได้ก็เอาไป ยกเว้นก็แต่ต้นไม้ มันโตจนเกินกว่าที่จะขุดขึ้นมา”ฉันไม่มีโอกาสไปเยี่ยมเธอเลยในหลายปีมานี้ แต่พอจะรับรู้ได้ว่า คนรักต้นไม้แบบเธอนั้นเพียรพยายามปลูกสารพัดต้นไม้เท่าที่ผืนดินจะอำนวย นอกจากต้นโมก ดอกแก้ว หรือพลูด่างแล้วเธอยังมีพืชสวนครัว เช่น ตะไคร้ พริก โหระพา เพื่อเอาไว้ทำกับข้าว แต่ฉันเดาเอาว่าเธอคงปลูกทั้งต้นมะม่วง จำปี กระทั่งฝรั่งหรือขนุน ด้วยหัวอกคนพเนจรต้องเช่าบ้านอยู่เหมือนกัน เราได้คุยเรื่องนี้กันบ่อยครั้ง สุดท้ายเธอก็ให้คำตอบว่า“เขาว่าเราบ้านะ มาปลูกต้นไม้ให้เขา กล้าก็ซื้อมา แล้วเอาไปด้วยไม่ได้”“ถือว่ายกเป็นสมบัติของผืนดินไปละกัน”
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
น้องชายน้องชายที่รักของข้าจงฟังคำของข้าและจำใส่ใจเอาไว้ให้ดีอาวุธที่น่ากลัวที่สุดของมนุษย์ คือ ภาษาของมนุษย์ไม่ว่าเจ้าจะเกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีภาษาที่ดีหรือว่าเลวจงจำใส่ใจเอาไว้ให้ดีภาษาที่เจ้ามีอยู่และกำลังใช้สื่อสารมันสามารถที่จะเป็นได้ทั้งข้าทาสผู้รับใช้และเป็นนายของตัวเจ้า

แท็กล่าสุด

แท็กยอดนิยม