Skip to main content

จันทร์ ปริเทวะ
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร




วัฒนธรรมพุทธแบบไทยๆ ชอบโยงศาสนาเข้าหาวิทยาศาสตร์หรือปรัชญาตะวันตก เพื่อจะได้สรุปปิดท้ายว่า "พระพุทธองค์ได้ทรงค้นพบและประกาศ [องค์ความรู้นั้น] มาแล้วถึง 2,500 กว่าปี" ก่อนหน้านักวิทยาศาสตร์เป็นไหนๆ แนวคิดจับแพะชนแกะลักษณะนี้มาจากอคติว่าสัจธรรมหรือความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ปราชญ์ท่านใดที่รวบรวม ค้นพบ และประกาศสัจธรรมย่อมประกาศอะไรที่คล้ายๆ กันหมด เพราะ "การเรียนรู้และสอนความเป็นจริงนั้น ย่อมจะตรงกันหรือละม้ายคล้ายคลึงกันในทุกหนแห่ง ทุกชาติทุกภาษาและทุกกาลเวลา" ถ้าปราชญ์ของเราคิดได้ก่อนหน้าปราชญ์ของเขา ก็เป็นความเหนือกว่าที่เราควรจะภาคภูมิใจ

นี่คือสิ่งที่สุพจน์ ด่านตระกูลพยายามทำในบทความ คอมมิวนิสต์ทำลายศาสนา? อันเป็นปฐมบทของหนังสือ พุทธศาสนากับคอมมิวนิสต์   สุพจน์แยกพุทธศาสนาและคอมมิวนิสต์ออกเป็นองค์ประกอบย่อยๆ และชี้ให้เห็นความคล้ายคลึงกัน เช่น พุทธศาสนาแยกสรรพสิ่งเป็นรูปธรรมและนามธรรม คอมมิวนิสต์ก็แยกสรรพสิ่งเป็นสสารและจิต   พุทธศาสนาสอนให้พึ่งตนเอง คอมมิวนิสต์ก็สอนให้พึ่งตนเองเหมือนกัน ฯลฯ

พุทธศาสนากับคอมมิวนิสต์ มีชื่อเดิมคือ โลกคอมมิวนิสต์ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2518 ณ ช่วงเวลาซึ่งความขัดแย้งระหว่างคอมมิวนิสต์และวัฒนธรรมไทยดำเนินไปจนเกือบถึงจุดแตกหัก   คำพูดของมาร์กซ์ "ศาสนาเป็นยาฝิ่นของประชาชน" ถูกนำไปเผยแพร่บิดเบือน   "คอมมิวนิสต์มาศาสนาหมด" กลายเป็นคำพูดติดปากคนส่วนใหญ่   จึงไม่น่าแปลกใจที่สุพจน์จะย้ำอยู่ตลอดเวลาว่า คอมมิวนิสต์เหมือนพุทธศาสนา "เพราะฉะนั้นการต่อต้านคอมมิวนิสต์ก็ไม่ผิดอะไรกับการต่อต้านพระนิพพาน"

อันที่จริงปรัชญาตะวันตกแทบทุกสาขาสามารถสาวกลับไปหาปรัชญากรีกโบราณได้ทั้งนั้น เช่นเดียวกับที่พุทธศาสนามีต้นกำเนิดมาจากปรัชญาฮินดูโบราณ   หากเชื่อว่าผู้คนใน "สังคมปฐมสหการ" (หมายถึงสังคมดั้งเดิมของมนุษย์ ในสมัยโบราณ) ไม่ว่าจะในชมพูทวีปหรือทวีปยุโรปมีความเชื่อไม่แตกต่างกันนัก จึงไม่น่าแปลกใจที่พุทธศาสนาจะมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับคอมมิวนิสต์

อย่างไรก็ดีความพยายามจับคู่ดังกล่าว มักเป็นแต่กระพี้   ธรรมชาติของสรรพวิชาอะไรก็แล้วแต่อยู่ในองค์รวม   ต่อให้แต่ละชิ้นส่วนเหมือนกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเอามาประกอบกันแล้วจะได้ของอย่างเดียวกัน   ความน่าสนใจจึงอยู่ที่ความแตกต่างมากกว่าความเหมือน   ในปรากฏการณ์อย่างเดียวกัน คอมมิวนิสต์วิเคราะห์ไว้อย่างไร พุทธศาสนาวิเคราะห์ไว้อย่างไรบ้าง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร   ดังเช่นบทความที่สองในหนังสือเล่่มนี้ คอมมิวนิสต์ทำลายชาติ ซึ่งพยายามพูดถึงความเหมือนในความต่างระหว่างสองวิชา มากกว่าแค่ความเหมือน   

สุพจน์จับเอาโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายอนุรักษ์นิยมว่า "คอมมิวนิสต์ทำลายชาติ" มากลับหัวกลับหาง โดยบอกว่า "พุทธศานาเองก็ทำลายชาติ"   "ชาติ" ที่คอมมิวนิสต์ทำลายเกิดขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกแบ่งแยกระหว่างเผ่าพันธุ์   จากที่มนุษย์เคยมองทุกคนเป็นพี่เป็นน้อง จู่ๆ คนที่พูดภาษาแตกต่างจากเรา ผิวพรรณคนละสีกับเรา ก็กลายเป็นคนอื่น เป็นศัตรู   ชาติยังรวมไปถึงกระบวนการแบ่งแยกภายในเผ่าพันธุ์หรือประเทศเดียวกันเอง ระหว่างผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง   ชาติคือกฏหมายเผด็จการของชนชั้นนำที่ตราขึ้นมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ตัวเอง   "คอมมิวนิสต์ทำลายชาติ" ในที่นี้จึงหมายถึงการทำลายชนชั้นและอาณาเขตระหว่างประเทศ   ส่วน "ชาติ" ที่พุทธศาสนาทำลายคือชาติภพ   "ชา-ติ = การเกิดขึ้นของกิเลสตัณหา"   พุทธศาสนาสอนให้ทำลายชาติ เพราะ "เมื่อชาติไม่มีความตายก็ย่อมไม่มี" หรือสภาพนิพพานนั่นเอง

สุพจน์ตีความอวิชชาหรือความยึดมั่นถือมั่น โดยใส่แง่มุมทางสังคม กลายเป็นการแบ่งแยกชนชั้น เผ่าพันธุ์หรือ "ชาติ"   ส่วนอวิชชาในทางจิตคือกิเลสตัณหาหรือ "ชาติ"   ศานติสุขจึงเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสังคมมีทั้งพุทธศาสนาและคอมมิวนิสต์   

ตามที่กล่าวมานี้จะเห็นได้ว่า ลำพังแค่ลัทธิคอมมิวนิสต์หรือวิทยาศาสตร์สังคม โดยตัวของมันเองแล้วจะสามารถนำความอุดมสมบูรณ์ มาสู่มวลมนุษย์ชาติได้อย่างแน่นอน...(เพราะมีมาตรการทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมหรือทางสภาพแวดล้อม) แต่จะไม่สามารถยังความสงบศานติที่แท้จริง...ให้กับมวลมนุษย์ชาติได้อย่างเป็นการถาวร...และก็เช่นกัน ลำพังแต่พุทธศาสนา หรือวิทยาศาสตร์ทางจิตโดยตัวของตัวเองแล้ว จะไม่สามารถนำความอุดมสมบูรณ์มาสู่มวลมนุษยชาติได้...(เพราะไม่มีมาตรการทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม หรือทางสภาพแวดล้อม) และถึงแม้ว่าจะสามารถนำความสงบศานติที่แท้จริงมาสู่ผู้ปฏิบัติได้ก็เป็นการเฉพาะตัวผู้ปฏิบัติเท่านั้น...และเมื่อเป็นเช่นนั้นพุทธศาสนาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของมนุษย์ชาติหรือสังคมได้อย่างถึงที่สุด

หนังสือที่ดีนั้น แม้คนอ่านจะไม่เห็นด้วยกับผู้เขียน ก็ยังสามารถถกเถียงกับตัวเอง เพื่อรังสรรค์ความคิดใหม่ๆ ขึ้นมา   พุทธศาสนากับคอมมิวนิสต์ คือหนังสือที่ว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังสือที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่ปี 2518 ให้คงความถูกต้องทางเนื้อหาจนถึงปัจจุบันก็ยากเต็มทน   บางอย่างถ้าไม่เก่าไปเสียแล้ว ถึงขั้นผิดเลยก็มี (เช่น "จิตธรรม" หรือ Ideology ที่ผู้เขียนเข้าใจว่าหมายถึง "สภาวะและการเคลื่อนไหวทางสังคมเป็นไปโดยอภิเทวดาหรือผู้วิเศษบันดาล" นั้นไม่ใช่จิตธรรมตามความเข้าใจของเฮเกลหรือมาร์กซ์แน่นอน)

อันที่จริง 2518 หรือ 1975 ก็เริ่มเข้าสู่ยุคคอมมิวนิสต์ตอนปลายแล้ว   ค่อนข้างแน่ชัดว่าสังคมอุดมคติแบบมาร์กซิสจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน มิหนำซ้ำความโหดร้ายของระบบเผด็จการสตาลิน เหมา อูลบริช หรือผู้นำคอมมิวนิสต์คนอื่นๆ ก็เริ่มแพร่หลายในโลกตะวันตก   น่ากังขาว่าคนไทยในสมัยนั้นรับรู้เรื่องราวเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน (แม้แต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเองก็เหมือนไม่ค่อยอ้างเหตุการณ์เหล่านี้ไปคัดง้างกับฝ่ายซ้าย) พุทธศาสนากับคอมมิวนิสต์ แตะประเด็นเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพไว้เล็กน้อย โดยบอกว่า "จำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีอยู่ในชั่วระยะหนึ่ง"   ตามตรรกะของผู้เขียน ระบบเผด็จการเกิดขึ้นมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชนชั้นนำ   ในเมื่อคอมมิวนิสต์ทำลายชนชั้นไปหมดแล้ว ถึงจะมีผู้นำเผด็จการ แต่ก็เป็น "เผด็จการในนามของคนส่วนใหญ่ต่อคนส่วนน้อย"   

สุพจน์เรียกระบบเผด็จการดังกล่าวว่า "ธรรมาธิปไตย" หรือการปกครองแบบเผด็จการโดยผู้มีคุณธรรม   ถึงหนังสือเล่มนี้จะเป็นของฝ่ายซ้าย แต่น่าขบคิด (และน่าขบขัน) ว่านี่เองใช่หรือเปล่าระบบที่กลุ่มเอียงขวาในเมืองไทยร้องแรกแหกกระเชอจะเอาหนักเอาหนาในตอนนี้ 


หมายเหตุ:ผู้อ่านที่สนใจในการติดตามความกิจกรรมเคลื่อนไหวของกลุ่ม"พุทธศาสน์ของราษฎร"สามารถติดตามได้ที่ แฟนเพจ"พุทธศาสน์ของราษฎร"ได้อีกช่องทางหนึ่ง

 

 

บล็อกของ กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร

กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
 
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
หากชนชั้นกลางที่มีการศึกษาดีเหล่านั้นจะตอบให้อาจารย์สมศักดิ์หายขำ ก็ต้องตอบให้ “ตรงประเด็น” คือ ต้องไปโต้แย้งว่าหลักญาณวิทยาที่อาจารย์สมศักดิ์ใช้ถามผิดอย่างไร และข้อเรียกร้องเสรีภาพในการวิจารณ์ตรวจสอบบนหลักการสากลของสังคมประชาธิปไตยผิดอย่างไร 
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
ชาญณรงค์ บุญหนุน  กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร ภาพประกอบจาก http://www.horajan.com/konhangkom.html
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
David Loy เขียน วิจักขณ์ พานิช กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร แปล
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
 
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
ชาญณรงค์  บุญหนุน  กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
"คอมมิวนิสต์ทำลายชาติ" ในที่นี้จึงหมายถึงการทำลายชนชั้นและอาณาเขตระหว่างประเทศ   ส่วน "ชาติ" ที่พุทธศาสนาทำลายคือชาติภพ   "ชา-ติ = การเกิดขึ้นของกิเลสตัณหา"   พุทธศาสนาสอนให้ทำลายชาติ เพราะ "เมื่อชาติไม่มีความตายก็ย่อมไม่มี" หรือสภาพนิพพานนั่นเอง
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
วิจักขณ์ พานิช กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
กลุ่มพุทธศาสน์ของราษฎร
สุรพศ ทวีศักดิ์