Skip to main content
29_8_01


ถ้าน่องมนุษย์ตั้งท้องได้ คนทุกคนจะเป็นพี่น้องกัน”


ถึงเวลาหยิบปลาแห้ง กุ้งแห้ง กะปิ สะตอใส่กล่องลังเสียที ช่วงเวลาตากอากาศบ้านเกิดหมดลงอีกครั้ง ผมได้ย้อนกลับไปบนเส้นทางเก่าๆที่เคยไป สถานที่ที่ข้องเกี่ยวกับวัยเด็ก คนที่ผูกพันใจ รวมไปถึงพืชพันธุ์ต้นไม้ที่อยู่ในใจ กลับไปสู่ต้นสายปลายเหตุของตัวเอง และเดินทางต่อไป


อย่างที่บอกแต่ต้น ผมพกหนังสือไปหลายเล่ม แต่ไม่ได้อ่านครบทุกเล่ม อย่างเล่ม แผ่นดินอื่น รวมเรื่องสั้นของ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ผมเปิดอ่านผ่านๆอีกรอบ แต่ผมก็มีโอกาสไปเดิน บนถนนโคลีเซียม เรื่องสั้นเรื่องหนึ่งของเขา วันเวลาได้กลืนกินฉากเก่าๆไปแทบหมดสิ้น


ถนนโคลีเซี่ยม ในตัวเมืองพัทลุง ณ วันนี้ แม่มดได้เปลี่ยนหน้า แม่มดยุคใหม่ร่ายมนต์แสงสีบรรเจิด แต่น่าแปลกที่เปลือกชีวิตยังวนๆอยู่ในเรื่องเดิมๆ การต่อสู้ดิ้นรนเรื่องเดิมๆ ความลึกลับในอานุภาพอันทรงพลังของความเปลี่ยนแปลง ก็ยังว่ายวนอยู่บนถนนสายนี้


จะดูซาลงบ้าง ก็เป็นบรรยากาศทึมๆเทาๆอย่างกับบ่ายมัวซัวของเมฆฝน...

29_8_02 


ผมตั้งใจไว้อีกอย่าง จะไปตามหาเพื่อนอย่าง อนาฝี ดลเลาะหมานห์กับอมีนะห์ เพื่อนร่วมชั้นเรียนในประถมกับมัธยม แต่ก็พลาด เพื่อนที่มีชีวิตอยู่บนพื้นที่พิเศษ ใครๆในหมู่บ้าน ต่างก็รู้ว่าชาวมุสลิมตั้งชุมชนอยู่ในบริเวณที่เรียกกันว่า ไร่แขก แต่เป็นไร่แขกของความสงบสุข


บังหมานใช้จักรยานตระเวณรับซื้อขี้ยาง ยางเส้น ด้วยตาชั่งที่ไล่น้ำหนักไปบนคานเหล็ก เขามาถึงหน้าบ้านเวลาบ่ายโมงทุกวัน กระสอบตั้งบนท้ายรถเหมือนกระเป๋าของบุรุษไปรษณีย์


หากใครในหมู่บ้านท้องแก่เต็มที ก็ต้องฝากท้องไว้กับหมอตำแยที่ชื่อ หมะลีห์ ในไร่แขกเช่นกัน


เลี้ยงน้ำชาเกิดขึ้นบ่อย ใครจำเป็นเรื่องการเงินเร่งด่วน เช่นโดนเรื่องถึงคุกตะราง ไม่อาจหยิบฉวยเงินจากที่ใดได้ ก็ต้องเลี้ยงน้ำชา น่าจะเป็นการช่วยเหลืองานเดียวที่คนในไร่แขกต้องออกมากินน้ำชาร่วมกับคนพุทธในหมู่บ้าน


อนาฝีกับดลเลาะห์หมานอยู่ในนั้น ในไร่แขก ผมไปบ้านเขาครั้งเดียวเท่านั้น บ้านไม้เก่าๆ หน้าบ้านเต็มไปด้วยผ้าขาวสีหมองๆตากอยู่เต็มราว เขาปีนเอาลูกมะพร้าวอ่อนลงมาให้กิน แล้วก็ได้ยินแต่เพลงสวดตอนใกล้รุ่ง มันดังกังวานปกคลุมอาณาบริเวณสวนยางอันเงียบสงบ


ผมรู้สึกเพลงสวดมีพลังมาก แม้จะไม่รู้ความหมายของมันก็ตาม


อนาฝีคนเงียบเรียบร้อย เรียนเก่งเป็นที่ 1 ของห้องทุกชั้นประถม เขาครองคะแนน ครองใจครูทุกคน ขณะดลเลอะห์หมาน กลับมีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนศิลปิน


อีกคนคืออมีนะห์ ใบหน้ารูปไข่ เส้นผมดำขลับ เธอสวยงามมาก เธอนั่งผ่องอยู่กลางห้อง เธอพูดเนียน ขี้เกรงใจ เสื้อผ้ารีดเรียบสะอาดสะอ้านทุกวัน


ความทรงจำถึงเพื่อนมุสลิม เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ น่าจดจำ

ผมขึ้นมาอยู่เชียงใหม่ ผมมาพบบทกวีพื้นบ้านของชาวปกาเกอะญอบทหนึ่ง

ถ้าน่องมนุษย์ตั้งท้องได้ คนทุกคนก็เป็นพี่น้องกัน”

ผมชอบในแก่นความรู้สึกของบทกวีบทนี้มาก


ขณะนั่งรอเวลารถไฟออกจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ ทหารตำรวจมีอาวุธครบมือกระจายอยู่ทั่วสถานี บรรยากาศเหมือนอยู่ในสงครามย่อยๆ เดินไปซอกมุมไหนดูน่าหวาดระแวง ต่างคนต่างกลายเป็นเป้าให้กันและกัน



ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือเรื่องระเบิด ซึ่งไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะปรากฏตัวมาจากทิศไหน การตรวจตราคนเข้าออกเป็นไปอย่างเข้มงวด รูปร่างหน้าตาประกอบการแต่งเนื้อแต่งตัวผิดแผกแตกต่าง จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ เหมือนว่าเสียงปะทุพร้อมจะดังขึ้นมาจากจุดไหนก็ได้ ไม่เว้นแม้แต่กล่องลังปลาแห้ง


เพราะน่องมนุษย์ตั้งท้องไม่ได้ คนทุกคนเลยไม่ได้เป็นพี่น้องกัน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็อาจจะโดนลูกหลง โดนทำร้ายได้เหมือนกัน เป็นความเศร้าอันน่าพะอืดพะอม


รถไฟกำลังเทียบชานชาลาตอนบ่าย 5 โมงเย็น รถด่วนโกลก-กรุงเทพเสียเวลา เป็นเช่นนี้มานาน ราวกับว่ารถไฟแล่นช้าลง รถไฟต้องวิ่งด้วยความเร็วระวังตัว ความเร็วของการป้องกันตัวเอง ทหารมีอาวุธครบมือลงจากโบกี้ก่อนผู้โดยสาร


29_8_04


เหมือนผมเพิ่งกลับมาจากพื้นที่ตากอากาศ แล้วจู่ๆประตูบานของวันพรุ่งนี้ ก็เปิดไปสู่ความจริงชีวิต พื้นที่ของสงคราม ต่อสู้แย่งชิง ซึ่งการรบยังติดพันยืดเยื้อยาวนาน ราวกับว่า ผมกำลังเดินทางลึกเข้าไปยังสนามรบ ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะได้ย้อนกลับไปตากอากาศอีกครั้ง


บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
ห้องครัวซ้อมดนตรี ถึงเพลงบันนังสตา บ้านเช่าบ้านไม้เป็นบ้านชาวนาในหมู่บ้านแม่เหียะ ชานเมืองเชียงใหม่   ห้องครัวคือห้องทำงาน  ห้องนอนบางเวลา  ห้องซ้อมดนตรี   ห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก 
ชนกลุ่มน้อย
ประชาชน  สัตว์เลี้ยงของแวมไพร์
ชนกลุ่มน้อย
สองทุ่ม   อังคารที่ 16 มีนาคม  2553   นักดนตรีในเชียงใหม่  และคนในแวดวงหนังสือ ศิลปะ  นัดรวมตัวกันที่ร้านสุดสะแนน  ร่วมรำลึกถึงการจากไปของ ”จ่าเพียร”(พ.ต.อ สมเพียร เอกสมญา) วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด  ด้วยสายสัมพันธ์กับไวล์ดซี๊ด (ชุมพล  เอกสมญา) ลูกชายจ่าเพียรที่ผ่านมาเล่นดนตรีในเชียงใหม่อยู่เสมอๆ   เยียวยาจิตใจเมล็ดเถื่อนจากบันนังสตา  ร่วมรำลึก ...   
ชนกลุ่มน้อย
ขอต่อยาวสาวความยืดถึงน้ามาดบางมุมดูหน้าดุ เวลาเดินเหมือนนุ่นลอยอีกหน่อย อย่างที่บอกไว้ บุรุษไร้นาม(และหนาม)ตามใจคนนี้ อย่าให้นั่งหน้าทับหน้าหนังกลองแล้วกัน ความจืดของหน้าจะถูกขับออกมาอย่างเผ็ดร้อน ไม่เรียบเฉยปล่อยวางอีกแล้ว บางด้านดูดุเทียบได้ใบหน้าเสือจ้องขบ กลับเกลี่ยเสียใหม่ เป็นเสียงทะลวงไส้พุงเร้าใจผิดหน้าผิดหูผิดตาไปทันที
ชนกลุ่มน้อย
  “เลสาปหน้าร้อนเปื่อยหมดแล้ว” ประโยคนี้ถ้าเขียนใหม่ตามภาษาบรรพบุรุษของใต้สวรรค์ ต้องบอกว่า เลสาปหน้าร้อนเปื่อยแผล็ดๆ เหตุที่เปื่อยเห็นด้วยตา ถ้าพูดผ่านปากของบ่าวทอง ต้องเริ่มต้นว่า“ที่จริง”เช่นเคย “ที่จริงมันไม่เปื่อยหร็อก ที่มันเปื่อยเพราะเลกลายเป็นโคลน เปื่อยแผล็ดๆไปทั้งเล” …
ชนกลุ่มน้อย
  สวรรค์ปักษ์ใต้มีสะตอกับลูกเนียงรวมอยู่ด้วย หรอยที่สุดต้องเหนาะ(จิ้ม)กับน้ำชุบ(น้ำพริก-ต้องกะปิเท่านั้น) หรือกินกับแกงคั่ว คั่วกะทิหรือแกงคั่วเผ็ดไม่กะทิ เผ็ดร้อนไม่แพ้ขาดเหลือกันนัก ไม่มีใครบอกว่าพริกพัทลุงหรือพริกนครศรีธรรมราช เผ็ดแรงร้อนกว่ากัน...
ชนกลุ่มน้อย
นักดนตรีกลุ่มนี้ขับเคลื่อนด้วยความรัญจวนจากฤดูความว่างของชีวิต ออกไปเล่นดนตรีบรรเลงชีวิตร่วมกัน หรือจะพูดอีกที การมาถึงของพวกเขาใต้สวรรค์ ไม่ต่างจากฝูงปลาดุกหนีน้ำแถกเหงือกมาหากันในช่วงหน้าแล้ง หนวดยั้วคลุกนัวกันมาบนโคลนเปียกๆ เหนียวเหนอะไปยังถิ่นที่คาดว่าจะมีน้ำ สีผิวฝูงปลาดุกเลื่อมมันน่าเกรงขาม
ชนกลุ่มน้อย
คำ  สุวิชานนท์ รัตนภิมล และคำของอา' รงค์ ทำนอง  สุวิชานนท์  รัตนภิมล
ชนกลุ่มน้อย
ลมบาดหิน ของอา… “ผู้ชายคนนั้นกับผู้หญิงของเขาตัดสินใจแรมคืนในกระโจม(เต็นท์) เขาพบว่าการเสียบก้านปลั๊กตัวผู้ลงในรูปลั๊กตัวเมียเพื่อต้มน้ำกับกาไฟฟ้านั้นเป็นความสะดวกสบายของคนในทาวน์เฮาส์ที่กรุงเทพฯ และอย่างน่าอิจฉา แต่การมองหาก้อนหินนำมาวางเป็นก้อนเส้า กิ่งไม้ง่ามปักกับดินแล้วพาดราวแขวนหม้อและริ้วชิ้นวัวฝานหมักเกลือ ก่อกองไฟและต้มกาแฟ นี้เป็นบางแบบของชีวิตซึ่งผู้ชายควรเรียนรู้...”
ชนกลุ่มน้อย
พอออกมาจากห้องฝึกเรียนไวโอลินกลางเมืองเชียงใหม่  ผมบอกเจ้า 9 ขวบว่าไปเยี่ยมคุณลุงหน่อยนะ   เจ้าเก้าขวบถามทันทีที่ไหน  ผมตอบกลับวัดเจดีย์หลวง  ไปทำอะไรเหรอ เขาสงสัย  อยากไปเยี่ยม พ่อไม่ได้เข้าไปนานแล้ว
ชนกลุ่มน้อย
  ในห้องทำงาน โต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ไม้ไม่เหมือนวันก่อน หนังสือเล่มใหม่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนเล่มมาวาง ชั้นหนังสือเรียงตามกัน โน้ตสั้นๆ เขียนถึงเวลานัดหมาย เวลาส่งงาน หมายเลขโทรศัพท์ ม้านั่งไม้ไว้นอนเอกเขนก โคมไฟ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ดีด โต๊ะกลม กีตาร์ กล้องถ่ายรูป รูปภาพบนผนัง ...
ชนกลุ่มน้อย
  ในชีวิต ณ ปัจจุบัน ผมไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาข้องเกี่ยวกับเครื่องดนตรีชื่อ ไวโอลิน และยิ่งไม่เคยนึกว่าวันหนึ่ง จะมีไวโอลินมานอนอยู่ในห้อง ตั้งวางอยู่ข้างตัว รวมถึงได้ยินมันส่งเสียงทุกวันตอนย่ำค่ำ