Skip to main content

ผมกลายร่างเป็นแมลงวันไปจริงๆ ขณะทะเล่อทะล่าอยู่กลางเมืองปาย ตอมทุกอย่างที่ขวางหน้า ดมกลิ่นได้ดม มองดูได้มอง กินได้กิน ดื่มได้ดื่ม อาหารตาอาหารใจมากสำรับวางเรียงราย ความพยายามของแมลงตัวน้อยๆบินไปเกาะอยู่ข้างโปสการ์ด ท่ามกลางผู้คนรุมล้อมตอมปาย

กลิ่นเมืองปายโชยมาตั้งแต่ลงต่ำจากไหล่เขา สู่ที่ราบต่ำกว่า พอข้ามน้ำปายก็พบกับกองคาราวานรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ฝูงคนใส่เสื้อสีเหมือนลูกกวาด รวมตัวเป็นกลุ่มๆอยู่สองฟากถนน ต่างใจจดใจจ่อกับการชมทิวทัศน์ผืนนา แม่น้ำ พร้อมถ่ายรูปกันด้วยอารมณ์เบิกบานยิ้มแย้มกันถ้วนหน้า

เหมือนตกลงไปอยู่ในดินแดนความฝัน

 

  


เวลา 16.00 น. เมืองปายเพิ่งตื่นนอน ถนนทุกสายเต็มไปด้วยคนเดิน ผมกับเพื่อนเดินทาง 5 ชีวิต อยู่ในอาการเหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืน โค้งคดทำให้เราเมา เด็กหนุ่มขายโปสการ์ดยืนต้อนรับคนเดินผ่านไปมาไม่ขาดสาย


ผมยังเมาอากาศซึมเซา ลมเย็นๆ จนย่ำค่ำ

ผมไม่ได้ผ่านเมืองปาย 1 ปีกว่า เป็นหนึ่งปีกว่าที่ทำให้ปายมีราคาแพงขึ้น อาคารร้านค้าเพิ่มขึ้นละลานตา ล้วนแล้วแต่แสดงกริยาอาการปรารถนากวักมือเรียกให้คนเดินเข้าไปหาทั้งสิ้น


ผมมีเพื่อนนักดนตรี นักเขียน นักวาดรูป นักใช้ชีวิต นักเดินป่า นักปั่นจักรยาน นักสร้างที่พัก เพื่อนชนเผ่า ฯลฯ ปักหลักปักฐานอยู่เมืองนี้ สั้นบ้างยาวบ้าง


เพื่อนบางคนเพิ่งย้ายออกไป หลังบททดสอบความฝันเกิดด้านชาเอาดื้อๆ ไม่รู้จะไปอย่างไร ทิ้งร่องรอยเศษชิ้นส่วนประกอบความฝัน ราวกับรังดักแด้ทิ้งร้างไว้ดูต่างหน้า


ไม่นานก็มีคนมายืนยันสร้างฝันต่อ ความฝันครั้งใหม่มีราคาแพง เริ่มต้นด้วยต้นทุนเสี่ยงโชค แต่ใครบ้างลงทุนโดยไม่มีความเสี่ยงปักวางเป็นเสาหิน เพื่อนบางคนที่เพิ่งย้ายเข้ามา มาดูลู่ทางลู่วิ่ง และถูกผลักไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอย่างรวดเร็ว ก็มีคำอธิบายไว้ล่วงหน้า ว่าทดลองมาใช้ชีวิตอยู่เมืองนี้สักระยะ สั้นยาวแค่ไหนนั้นเป็นเรื่องวันข้างหน้า


ต่างมองหาย่านทำเลทองต่อฝัน มองเห็นหนทางการเช่าบ้าน เช่าที่ดิน หรือแม้กระทั่งลงทุนซื้อที่ดิน ด้วยความหวังจะอยู่ไปนานๆ


ปาย ในความหมายส่วนที่เกิน ส่วนยื่นเกินออกไป เหมือนกำหมัดทิ้งลงข้างตัว พื้นที่สุดปลายแขนเป็นติ่งยื่นนั่นต่างหาก คราคร่ำเต็มไปด้วยนักเดินทางจากทุกสารทิศ ทั้งหัวดำหัวแดงหัวบลอนหัวขาว เดินกันขวักไขว่อยู่ตามถนนตรอกซอกซอย จนดูราวกับเมืองเนรมิตในหุบลึกที่มีนำปายไหลผ่าน นับวันหมู่บ้านยิ่งลีบเล็กลง


เป็นเส้นทางคนหนุ่มคนสาวอพยพเข้าไปหาโดยแท้ แน่นอนพวกเขามีความฝัน มีเครื่องมือท่องแดนฝัน มีแรงขับมาจากบทเรียนสำเร็จหรือพลั้งพลาดอันหลากหลาย นำมาเสนอแบวางอยู่ด้วยกัน


รัตน์ แคนโต้ เด็กหนุ่มผู้หลงไหลในงานภาพถ่าย โปสการ์ด รักการเขียนแคนโต้ - บทกวี 3 บรรทัด เปิดร้านขายโปสการ์ดร้านเล็กๆข้างถนนย่านกลางเมือง


ผมมองหาที่อยู่ร้านเดิมของวารุตน์ นักดนตรีแจ๊สเคยเปิดร้านเล็กๆเล่นดนตรี ตกแต่งร้านภายในไว้ชวนนั่งดื่มกินชากาแฟ เขาเป็นนักดนตรีที่อยากเล่นตามใจตัวเอง เขานับระยะได้นานหลายปี ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเกาะแห่งหนึ่งในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี


สันโดษ ชื่อจริงตามบัตรประชาชน เขาเคลื่อนไหวไปมากลมกลืนกับใบหน้าที่รักความสงบสมชื่อ เขาสร้างที่พักในนามของเกสเฮ้าส์ไฮ่ลุงต๋าคำ ไว้เป็นที่พักมีทางเดินในสวนป่าติดทุ่งนา มีเพื่อนชาวฝรั่ง ญี่ปุ่น เกาหลี ต่างบินมาพักค้างแรมด้วย


ท่ามกลางบรรยากาศพักผ่อนค้างแรมกับความเงียบ


แดง คาวบอย เขาหลงเสน่ห์เมืองปาย ทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางดนตรี ศิลปะ หันหลังให้เกาะกลางทะเลอันดามัน นำเสนอภาพลักษณ์วิถีชีวิตคนพื้นถิ่น คุณค่าความหมายที่ดำรงอยู่ผ่านกิจกรรมเคลื่อนไหวตลอดทั้งปี


หนุ่ม ผ่านมาเปิดหมวกด้วยเสียงขลุ่ย เขาใช้ชีวิตแบบติดดินคลุกฝุ่น กินอาหารมังสวิรัติ ปรากฏตัวครั้งใด เสียงขลุ่ยจะบอกความรู้สึกของเขา


เพื่อนชนเผ่าคนหนึ่ง กำลังขมักเขม้นกับงานสร้างเกสต์เฮ้าส์ไว้หลายหลัง เขาเปิดประตูบ้าน ออกไปนอกรั้วบ้าน ออกไปต้อนรับคนต่างชาติต่างภาษา พร้อมนำเสนอเส้นทางค้างแรมตามป่าเขา จากต้นทุนชีวิตทั้งมวลที่เขามีอยู่ คงเรียกแขกให้มาพักไม่น้อย


ผมทะเล่อทะล่าพรวดพราดเข้าไปหาปายคราวนี้ อย่างคนไม่มีกาลเทศะ ผ่านไปดูการใช้ชีวิตของคนอื่น ที่ดั้นด้นมาอธิบายความหมายของศิลปะการใช้ชีวิต ศิลปะการดูแลตัวเอง ด้วยยึดหัวหาดเมืองปายไว้ แลกกับต้นทุนชีวิตที่สั่งสมมาทั้งชีวิต...

 


ผมเห็นการมาถึง การอยู่ การจากไป บนความคาดหวังเหนือแผ่นดินส่วนที่เกินออกไป ต่างคนต่างเกินมาจากดินแดนอื่น ต่างคนต่างทะเล่อทะล่าเข้าไปหาปาย ผมก็เช่นกัน มองหาสักมุมหนึ่ง ทอดตามองสงบคำสงบใจได้นานๆ อยู่กับส่วนที่เกินของตัวเอง เป็นส่วนที่เกินอยู่ในปาย

 

 

 

บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
ห้องครัวซ้อมดนตรี ถึงเพลงบันนังสตา บ้านเช่าบ้านไม้เป็นบ้านชาวนาในหมู่บ้านแม่เหียะ ชานเมืองเชียงใหม่   ห้องครัวคือห้องทำงาน  ห้องนอนบางเวลา  ห้องซ้อมดนตรี   ห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก 
ชนกลุ่มน้อย
ประชาชน  สัตว์เลี้ยงของแวมไพร์
ชนกลุ่มน้อย
สองทุ่ม   อังคารที่ 16 มีนาคม  2553   นักดนตรีในเชียงใหม่  และคนในแวดวงหนังสือ ศิลปะ  นัดรวมตัวกันที่ร้านสุดสะแนน  ร่วมรำลึกถึงการจากไปของ ”จ่าเพียร”(พ.ต.อ สมเพียร เอกสมญา) วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด  ด้วยสายสัมพันธ์กับไวล์ดซี๊ด (ชุมพล  เอกสมญา) ลูกชายจ่าเพียรที่ผ่านมาเล่นดนตรีในเชียงใหม่อยู่เสมอๆ   เยียวยาจิตใจเมล็ดเถื่อนจากบันนังสตา  ร่วมรำลึก ...   
ชนกลุ่มน้อย
ขอต่อยาวสาวความยืดถึงน้ามาดบางมุมดูหน้าดุ เวลาเดินเหมือนนุ่นลอยอีกหน่อย อย่างที่บอกไว้ บุรุษไร้นาม(และหนาม)ตามใจคนนี้ อย่าให้นั่งหน้าทับหน้าหนังกลองแล้วกัน ความจืดของหน้าจะถูกขับออกมาอย่างเผ็ดร้อน ไม่เรียบเฉยปล่อยวางอีกแล้ว บางด้านดูดุเทียบได้ใบหน้าเสือจ้องขบ กลับเกลี่ยเสียใหม่ เป็นเสียงทะลวงไส้พุงเร้าใจผิดหน้าผิดหูผิดตาไปทันที
ชนกลุ่มน้อย
  “เลสาปหน้าร้อนเปื่อยหมดแล้ว” ประโยคนี้ถ้าเขียนใหม่ตามภาษาบรรพบุรุษของใต้สวรรค์ ต้องบอกว่า เลสาปหน้าร้อนเปื่อยแผล็ดๆ เหตุที่เปื่อยเห็นด้วยตา ถ้าพูดผ่านปากของบ่าวทอง ต้องเริ่มต้นว่า“ที่จริง”เช่นเคย “ที่จริงมันไม่เปื่อยหร็อก ที่มันเปื่อยเพราะเลกลายเป็นโคลน เปื่อยแผล็ดๆไปทั้งเล” …
ชนกลุ่มน้อย
  สวรรค์ปักษ์ใต้มีสะตอกับลูกเนียงรวมอยู่ด้วย หรอยที่สุดต้องเหนาะ(จิ้ม)กับน้ำชุบ(น้ำพริก-ต้องกะปิเท่านั้น) หรือกินกับแกงคั่ว คั่วกะทิหรือแกงคั่วเผ็ดไม่กะทิ เผ็ดร้อนไม่แพ้ขาดเหลือกันนัก ไม่มีใครบอกว่าพริกพัทลุงหรือพริกนครศรีธรรมราช เผ็ดแรงร้อนกว่ากัน...
ชนกลุ่มน้อย
นักดนตรีกลุ่มนี้ขับเคลื่อนด้วยความรัญจวนจากฤดูความว่างของชีวิต ออกไปเล่นดนตรีบรรเลงชีวิตร่วมกัน หรือจะพูดอีกที การมาถึงของพวกเขาใต้สวรรค์ ไม่ต่างจากฝูงปลาดุกหนีน้ำแถกเหงือกมาหากันในช่วงหน้าแล้ง หนวดยั้วคลุกนัวกันมาบนโคลนเปียกๆ เหนียวเหนอะไปยังถิ่นที่คาดว่าจะมีน้ำ สีผิวฝูงปลาดุกเลื่อมมันน่าเกรงขาม
ชนกลุ่มน้อย
คำ  สุวิชานนท์ รัตนภิมล และคำของอา' รงค์ ทำนอง  สุวิชานนท์  รัตนภิมล
ชนกลุ่มน้อย
ลมบาดหิน ของอา… “ผู้ชายคนนั้นกับผู้หญิงของเขาตัดสินใจแรมคืนในกระโจม(เต็นท์) เขาพบว่าการเสียบก้านปลั๊กตัวผู้ลงในรูปลั๊กตัวเมียเพื่อต้มน้ำกับกาไฟฟ้านั้นเป็นความสะดวกสบายของคนในทาวน์เฮาส์ที่กรุงเทพฯ และอย่างน่าอิจฉา แต่การมองหาก้อนหินนำมาวางเป็นก้อนเส้า กิ่งไม้ง่ามปักกับดินแล้วพาดราวแขวนหม้อและริ้วชิ้นวัวฝานหมักเกลือ ก่อกองไฟและต้มกาแฟ นี้เป็นบางแบบของชีวิตซึ่งผู้ชายควรเรียนรู้...”
ชนกลุ่มน้อย
พอออกมาจากห้องฝึกเรียนไวโอลินกลางเมืองเชียงใหม่  ผมบอกเจ้า 9 ขวบว่าไปเยี่ยมคุณลุงหน่อยนะ   เจ้าเก้าขวบถามทันทีที่ไหน  ผมตอบกลับวัดเจดีย์หลวง  ไปทำอะไรเหรอ เขาสงสัย  อยากไปเยี่ยม พ่อไม่ได้เข้าไปนานแล้ว
ชนกลุ่มน้อย
  ในห้องทำงาน โต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ไม้ไม่เหมือนวันก่อน หนังสือเล่มใหม่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนเล่มมาวาง ชั้นหนังสือเรียงตามกัน โน้ตสั้นๆ เขียนถึงเวลานัดหมาย เวลาส่งงาน หมายเลขโทรศัพท์ ม้านั่งไม้ไว้นอนเอกเขนก โคมไฟ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ดีด โต๊ะกลม กีตาร์ กล้องถ่ายรูป รูปภาพบนผนัง ...
ชนกลุ่มน้อย
  ในชีวิต ณ ปัจจุบัน ผมไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาข้องเกี่ยวกับเครื่องดนตรีชื่อ ไวโอลิน และยิ่งไม่เคยนึกว่าวันหนึ่ง จะมีไวโอลินมานอนอยู่ในห้อง ตั้งวางอยู่ข้างตัว รวมถึงได้ยินมันส่งเสียงทุกวันตอนย่ำค่ำ