กระท่อมของลุงชวนเสพติด ผมนั่งๆเดินๆนอนๆในแบบของมนุษย์ถ้ำ กระท่อมปีกไม้อีกหลังหนึ่งอยู่ใกล้ลำเหมือง ลำเหมืองที่ไหลมีชีวิตผ่านดงกล้วย เลาะกอไผ่ หายเข้าไปในสวนผลไม้ ความเงียบของกระท่อมน่าหลงใหลเหลือเกิน
ส่วนประกอบของกระท่อม เป็นปีกไม้ อิฐ หิน กรวด ทราย ในสัดส่วนของสายตามองเห็นความกลมกลืนกับรูปทรงพุ่มใบต้นไม้ หินเปลือย ไม้เปลือย มองไปทางไหนกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวไปหมด
กระท่อมแต่ละหลังถูกออกแบบไม่ให้เหมือนกัน
เหมือนต้นไม้แต่ละพันธุ์ปลูกลงไปบนความพึงพอใจส่วนตัว ส่วนแบ่งของหัวใจว่างวันต่อวัน
เดินชมกระท่อมไปบนทางที่ทอดตัวไปใต้ใบไม้ เงาไม้มีมากพอไล่แสงแดดออกไปได้
เป็นช่วงเวลาเดินชมความสำเร็จของคนอื่นจริงๆ
ผมไม่เห็นเบื้องหลังการดิ้นรนต่อสู้ ไม่เห็นการบุกเบิกถากถางพงรก ไม่เห็นความล้มลุกคลุกคลาน ไม่เห็นความพลาดหวัง อีกทั้งไม่ได้สัมผัสหน้าทีท้อแท้ และไม่เห็นแม้กระทั่งห้วงอารมณ์เฝ้ามองกิ่งไม้ผลแตกกิ่งขยายไกลออกไปทุกปี
ทุกอย่างจัดวางสำเร็จอยู่ตรงหน้าแล้ว
เบื้องหลังที่วางอยู่ให้เห็นนั้น สัมผัสได้ด้วยใจ
เดินผ่านถ้วยทองกำลังออกดอก พุดก็ออกดอก พลับพลึงแตกใบเขียวเป็นดงริมขอบสนามหญ้า ล้อมรอบด้วยหมู่ไม้ผล เงาะ มะม่วง ลิ้นจี่ ลำไย ฯลฯ มืดทึบไปทุกทาง
ลุงไปเอาแรงมาจากไหน?!..
ปรารถนาของคนมากมาย อยากออกไปใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ทำสวน ทำนา ทำไร่ ไปหาความลับบนผืนดิน
ลุงขยับตัวนับวันเวลาข้างหน้าเร็วก่อนใคร สวนทางกับชีวิตอื่น ออกเดินตอบโจทย์ความพึงพอใจที่อยู่ภายใน
นับส่วนที่เหลือของชีวิตเป็นสิ่งทั้งหมดที่ผ่านเข้าไป
ไม่มีใครรู้ความลับหลังแววตานั้น กระทั่งรูปทรงจินตนาการถูกเปิดเผยต่อโลกเป็นครั้งแรก
เพียงแค่นับวงปีนั่งล้อเกวียนมาประคับประคองผืนดินให้เป็นไปตามใจใฝ่ฝัน เฝ้าถนอมอยู่ตามลำพัง
ผืนดินไกลลึก ลึกเพียงใด นับความลึกของใจปรารถนากระเพื่อมแรง
เริ่มต้นนับหัวใจใยหินตั้งแต่บัดนั้น