Skip to main content

20080218 ภาพประกอบ (1)

บิเบ - พญาไฟนกเจ้าชายในแดนดงดิบ  
ร่ำลือกันว่าทั้งหล่อเหลา ดุดัน ร้อนแรง และมีน้ำเสียงอันไพเราะ  
ยามปีกสีเพลิงอยู่รวมปีก  
ประหนึ่งต้นพริกเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่  แทบทำให้ป่าเปลี่ยนสี
สักครั้ง บรรดานกสาวต่างหมายปองจะเห็นตัวจริงเสียงจริง ..
สายเลือดกำเนิดบิเบในป่าสนขุนห้วย  
งามปีกของมันเทียบเคียงกิ่งสนชรา  

กิ่งบิดปลายเบี้ยวหักงอ ตะปุ่มตะป่ำ  วาดซ้ายขวาขึ้นไปบนท้องฟ้า  
ยิ่งแก่กิ่งก้านยิ่งบิดงาม  ยิ่งแก่ยิ่งมีชั้นเชิงเติบโต

สีเปลือกแตกลายกร้านโลก ยืนยันมีชีวิตอยู่บนภูเขาสูง  
มองปีกเพลิงจากด้านไหน      
กลับเย็นเยือกเหมือนใบสนในหมอกฤดูหนาว
ไม่มีใครรดน้ำต้นสน   
เช่นกัน  ไม่มีใครคิดหว่านเมล็ดข้าวให้บิเบ
ไม่เคยขโมยเมล็ดจากช่อรวงข้าว
ไม่เคยแตะต้องเมล็ดข้าวเรี่ยตกผืนดินกลางทุ่งไร่
ไล่จับหนอนแมลงกินเอง
น้ำเสียงแนะนำตัวเอง ให้รู้จักอีกเสียงหนึ่งในป่าสน

"ทำไร่  ตัดต้นไม้อย่าตัดทุกต้น
เหลือไว้ให้บิเบมาพักทำรังหนึ่งกิ่ง"

20080218 ภาพประกอบ (2)

บิเบ - พญาไฟนกเจ้าชายในแดนขุนห้วยป่าสน
ปี่เขาควาย กลองหนังสัตว์ ฆ้อง เคาะไม้ดังขึ้นกลางแดดผีตากผ้าอ้อมบ่าย
กิ่งสนเป็นสีเพลิง  เสื้อผ้าเก่าบนเนื้อตัวชายเฒ่าเป็นสีเพลิง

บิเบมาถึงพร้อมกับขบวนแห่  เสียงคร่ำครวญจากเพลงโบราณ
มีดดาบ  ถุงย่าม  เสื้อกางเกงเก่าๆขาดๆ
ปลายเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสเย็นเยือกหนักแน่นเนื้อดิน
ไปให้ถึงเรือนรังเปล้าสาวปีกเขียวใบไม้แรกผลิ

เสียงในราวป่า  สะท้อนถึงกันมาหลายฤดูกาล
ความสวยงามเติบโต มีชีวิตยากลำบาก  
อีกหนึ่งพญานก สง่างาม โทนทางท่องราวไพร
บทเริ่มต้นรับรสสิ่งชำรุด  กระโจนสู่ท่วงท่าชีวิตครั้งใหม่
ย่ามใบใหม่  เสื้อผ้าตัวใหม่และรอยยิ้มเห็นอกเห็นใจ
กิ่งใบสนประสานเสียงเพลงคร่ำครวญกับสายลมเย็น
ฤดูกาลชีวิตครั้งใหม่  บนเส้นทางเก่าแก่ที่สุด
เสื้อผ้ายังไม่ผ่านห้วงเวลาตรากตรำ
ไม่ปรากฏร่องรอยฉีกขาด

บทเพลงพเนจรยังไล่ตามกังวานสู่ความคาดหวังพันเล่มเกวียน
เปล้าสาวพึงรับรู้เส้นทางเดินไกลบิเบ
ห่างไกลกัน กลับใกล้  

20080218 ภาพประกอบ (3)

"บิเบ เอะ ดิ๊ หมื่อ โอ่ ดิ๊
บิเบ เหม่ ยู หมื่อ ลอ ผิ
มีนกนางไฟ ก็ยังมีแสงตะวัน
นกนางไฟบินไป
แสงตะวันก็ดับ"

บิเบ - พญาไฟนกเจ้าชายแดนดิบขุนห้วยป่าสน
ราตรีหน้าหนาวเจ็บเนื้อยาวนาน
กองไฟฟืนสุมฟืนข้ามคืนสู่แสงแดดเช้าวันใหม่
กลิ่นชาป่าหอมโชยมากับกลิ่นยางสน
กลิ่นควันฟืนยังจับอยู่ตามเสื้อผ้า  
โลกเบื้องหน้าพิศวงไม่ต่างจากเส้นทางที่พรากจากมา ..
        

บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
ห้องครัวซ้อมดนตรี ถึงเพลงบันนังสตา บ้านเช่าบ้านไม้เป็นบ้านชาวนาในหมู่บ้านแม่เหียะ ชานเมืองเชียงใหม่   ห้องครัวคือห้องทำงาน  ห้องนอนบางเวลา  ห้องซ้อมดนตรี   ห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก 
ชนกลุ่มน้อย
ประชาชน  สัตว์เลี้ยงของแวมไพร์
ชนกลุ่มน้อย
สองทุ่ม   อังคารที่ 16 มีนาคม  2553   นักดนตรีในเชียงใหม่  และคนในแวดวงหนังสือ ศิลปะ  นัดรวมตัวกันที่ร้านสุดสะแนน  ร่วมรำลึกถึงการจากไปของ ”จ่าเพียร”(พ.ต.อ สมเพียร เอกสมญา) วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด  ด้วยสายสัมพันธ์กับไวล์ดซี๊ด (ชุมพล  เอกสมญา) ลูกชายจ่าเพียรที่ผ่านมาเล่นดนตรีในเชียงใหม่อยู่เสมอๆ   เยียวยาจิตใจเมล็ดเถื่อนจากบันนังสตา  ร่วมรำลึก ...   
ชนกลุ่มน้อย
ขอต่อยาวสาวความยืดถึงน้ามาดบางมุมดูหน้าดุ เวลาเดินเหมือนนุ่นลอยอีกหน่อย อย่างที่บอกไว้ บุรุษไร้นาม(และหนาม)ตามใจคนนี้ อย่าให้นั่งหน้าทับหน้าหนังกลองแล้วกัน ความจืดของหน้าจะถูกขับออกมาอย่างเผ็ดร้อน ไม่เรียบเฉยปล่อยวางอีกแล้ว บางด้านดูดุเทียบได้ใบหน้าเสือจ้องขบ กลับเกลี่ยเสียใหม่ เป็นเสียงทะลวงไส้พุงเร้าใจผิดหน้าผิดหูผิดตาไปทันที
ชนกลุ่มน้อย
  “เลสาปหน้าร้อนเปื่อยหมดแล้ว” ประโยคนี้ถ้าเขียนใหม่ตามภาษาบรรพบุรุษของใต้สวรรค์ ต้องบอกว่า เลสาปหน้าร้อนเปื่อยแผล็ดๆ เหตุที่เปื่อยเห็นด้วยตา ถ้าพูดผ่านปากของบ่าวทอง ต้องเริ่มต้นว่า“ที่จริง”เช่นเคย “ที่จริงมันไม่เปื่อยหร็อก ที่มันเปื่อยเพราะเลกลายเป็นโคลน เปื่อยแผล็ดๆไปทั้งเล” …
ชนกลุ่มน้อย
  สวรรค์ปักษ์ใต้มีสะตอกับลูกเนียงรวมอยู่ด้วย หรอยที่สุดต้องเหนาะ(จิ้ม)กับน้ำชุบ(น้ำพริก-ต้องกะปิเท่านั้น) หรือกินกับแกงคั่ว คั่วกะทิหรือแกงคั่วเผ็ดไม่กะทิ เผ็ดร้อนไม่แพ้ขาดเหลือกันนัก ไม่มีใครบอกว่าพริกพัทลุงหรือพริกนครศรีธรรมราช เผ็ดแรงร้อนกว่ากัน...
ชนกลุ่มน้อย
นักดนตรีกลุ่มนี้ขับเคลื่อนด้วยความรัญจวนจากฤดูความว่างของชีวิต ออกไปเล่นดนตรีบรรเลงชีวิตร่วมกัน หรือจะพูดอีกที การมาถึงของพวกเขาใต้สวรรค์ ไม่ต่างจากฝูงปลาดุกหนีน้ำแถกเหงือกมาหากันในช่วงหน้าแล้ง หนวดยั้วคลุกนัวกันมาบนโคลนเปียกๆ เหนียวเหนอะไปยังถิ่นที่คาดว่าจะมีน้ำ สีผิวฝูงปลาดุกเลื่อมมันน่าเกรงขาม
ชนกลุ่มน้อย
คำ  สุวิชานนท์ รัตนภิมล และคำของอา' รงค์ ทำนอง  สุวิชานนท์  รัตนภิมล
ชนกลุ่มน้อย
ลมบาดหิน ของอา… “ผู้ชายคนนั้นกับผู้หญิงของเขาตัดสินใจแรมคืนในกระโจม(เต็นท์) เขาพบว่าการเสียบก้านปลั๊กตัวผู้ลงในรูปลั๊กตัวเมียเพื่อต้มน้ำกับกาไฟฟ้านั้นเป็นความสะดวกสบายของคนในทาวน์เฮาส์ที่กรุงเทพฯ และอย่างน่าอิจฉา แต่การมองหาก้อนหินนำมาวางเป็นก้อนเส้า กิ่งไม้ง่ามปักกับดินแล้วพาดราวแขวนหม้อและริ้วชิ้นวัวฝานหมักเกลือ ก่อกองไฟและต้มกาแฟ นี้เป็นบางแบบของชีวิตซึ่งผู้ชายควรเรียนรู้...”
ชนกลุ่มน้อย
พอออกมาจากห้องฝึกเรียนไวโอลินกลางเมืองเชียงใหม่  ผมบอกเจ้า 9 ขวบว่าไปเยี่ยมคุณลุงหน่อยนะ   เจ้าเก้าขวบถามทันทีที่ไหน  ผมตอบกลับวัดเจดีย์หลวง  ไปทำอะไรเหรอ เขาสงสัย  อยากไปเยี่ยม พ่อไม่ได้เข้าไปนานแล้ว
ชนกลุ่มน้อย
  ในห้องทำงาน โต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ไม้ไม่เหมือนวันก่อน หนังสือเล่มใหม่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนเล่มมาวาง ชั้นหนังสือเรียงตามกัน โน้ตสั้นๆ เขียนถึงเวลานัดหมาย เวลาส่งงาน หมายเลขโทรศัพท์ ม้านั่งไม้ไว้นอนเอกเขนก โคมไฟ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ดีด โต๊ะกลม กีตาร์ กล้องถ่ายรูป รูปภาพบนผนัง ...
ชนกลุ่มน้อย
  ในชีวิต ณ ปัจจุบัน ผมไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาข้องเกี่ยวกับเครื่องดนตรีชื่อ ไวโอลิน และยิ่งไม่เคยนึกว่าวันหนึ่ง จะมีไวโอลินมานอนอยู่ในห้อง ตั้งวางอยู่ข้างตัว รวมถึงได้ยินมันส่งเสียงทุกวันตอนย่ำค่ำ