บิเบ - พญาไฟนกเจ้าชายในแดนดงดิบ
ร่ำลือกันว่าทั้งหล่อเหลา ดุดัน ร้อนแรง และมีน้ำเสียงอันไพเราะ
ยามปีกสีเพลิงอยู่รวมปีก
ประหนึ่งต้นพริกเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ แทบทำให้ป่าเปลี่ยนสี
สักครั้ง บรรดานกสาวต่างหมายปองจะเห็นตัวจริงเสียงจริง ..
สายเลือดกำเนิดบิเบในป่าสนขุนห้วย
งามปีกของมันเทียบเคียงกิ่งสนชรา
กิ่งบิดปลายเบี้ยวหักงอ ตะปุ่มตะป่ำ วาดซ้ายขวาขึ้นไปบนท้องฟ้า
ยิ่งแก่กิ่งก้านยิ่งบิดงาม ยิ่งแก่ยิ่งมีชั้นเชิงเติบโต
สีเปลือกแตกลายกร้านโลก ยืนยันมีชีวิตอยู่บนภูเขาสูง
มองปีกเพลิงจากด้านไหน
กลับเย็นเยือกเหมือนใบสนในหมอกฤดูหนาว
ไม่มีใครรดน้ำต้นสน
เช่นกัน ไม่มีใครคิดหว่านเมล็ดข้าวให้บิเบ
ไม่เคยขโมยเมล็ดจากช่อรวงข้าว
ไม่เคยแตะต้องเมล็ดข้าวเรี่ยตกผืนดินกลางทุ่งไร่
ไล่จับหนอนแมลงกินเอง
น้ำเสียงแนะนำตัวเอง ให้รู้จักอีกเสียงหนึ่งในป่าสน
"ทำไร่ ตัดต้นไม้อย่าตัดทุกต้น
เหลือไว้ให้บิเบมาพักทำรังหนึ่งกิ่ง"
บิเบ - พญาไฟนกเจ้าชายในแดนขุนห้วยป่าสน
ปี่เขาควาย กลองหนังสัตว์ ฆ้อง เคาะไม้ดังขึ้นกลางแดดผีตากผ้าอ้อมบ่าย
กิ่งสนเป็นสีเพลิง เสื้อผ้าเก่าบนเนื้อตัวชายเฒ่าเป็นสีเพลิง
บิเบมาถึงพร้อมกับขบวนแห่ เสียงคร่ำครวญจากเพลงโบราณ
มีดดาบ ถุงย่าม เสื้อกางเกงเก่าๆขาดๆ
ปลายเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสเย็นเยือกหนักแน่นเนื้อดิน
ไปให้ถึงเรือนรังเปล้าสาวปีกเขียวใบไม้แรกผลิ
เสียงในราวป่า สะท้อนถึงกันมาหลายฤดูกาล
ความสวยงามเติบโต มีชีวิตยากลำบาก
อีกหนึ่งพญานก สง่างาม โทนทางท่องราวไพร
บทเริ่มต้นรับรสสิ่งชำรุด กระโจนสู่ท่วงท่าชีวิตครั้งใหม่
ย่ามใบใหม่ เสื้อผ้าตัวใหม่และรอยยิ้มเห็นอกเห็นใจ
กิ่งใบสนประสานเสียงเพลงคร่ำครวญกับสายลมเย็น
ฤดูกาลชีวิตครั้งใหม่ บนเส้นทางเก่าแก่ที่สุด
เสื้อผ้ายังไม่ผ่านห้วงเวลาตรากตรำ
ไม่ปรากฏร่องรอยฉีกขาด
บทเพลงพเนจรยังไล่ตามกังวานสู่ความคาดหวังพันเล่มเกวียน
เปล้าสาวพึงรับรู้เส้นทางเดินไกลบิเบ
ห่างไกลกัน กลับใกล้
"บิเบ เอะ ดิ๊ หมื่อ โอ่ ดิ๊
บิเบ เหม่ ยู หมื่อ ลอ ผิ
มีนกนางไฟ ก็ยังมีแสงตะวัน
นกนางไฟบินไป
แสงตะวันก็ดับ"
บิเบ - พญาไฟนกเจ้าชายแดนดิบขุนห้วยป่าสน
ราตรีหน้าหนาวเจ็บเนื้อยาวนาน
กองไฟฟืนสุมฟืนข้ามคืนสู่แสงแดดเช้าวันใหม่
กลิ่นชาป่าหอมโชยมากับกลิ่นยางสน
กลิ่นควันฟืนยังจับอยู่ตามเสื้อผ้า
โลกเบื้องหน้าพิศวงไม่ต่างจากเส้นทางที่พรากจากมา ..