Skip to main content
 

จันทร์ ในบ่อ

 

20th Century Boys หรือเด็กในศตวรรษที่ 20 เป็นภาพยนตร์ที่นำเรื่องราวจากการ์ตูนชื่อเดียวกันมาสร้าง (การ์ตูนชื่อไทยว่า แกงค์นี้มีป่วน) เป็นผลงานเรื่องเด่นจากค่าย Shogakukan แต่งโดย Naoki Urasawa คนเดียวกับผู้เขียน Monster (คนปีศาจ)

 

20th Century Boys ยังคว้ารางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมครั้งที่ 48 จาก Shogakukan  รางวัลชนะเลิศในงาน Media Art ครั้งที่ 6 ของทบวงวัฒนธรรมญี่ปุ่น และรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยม ครั้งที่ 25 จาก Kodansha คอการ์ตูนเองคงรู้ดีถึงความยอดเยี่ยม ส่วนฉบับภาพยนตร์ดูแล้วก็คิดว่าว่าไม่เสียรสชาติครับ

 

ด้วยข้อจำกัดของหนังด้านเวลาเมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อหา แม้ 20th Century Boys ฉบับภาพยนตร์จะไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดได้เท่าต้นฉบับที่เป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาที่ซับซ้อนสูง แต่การเรียบเรียงและดำเนินเรื่องที่ระบุช่วงเวลาชัดเจนทำให้เข้าใจเรื่องราวได้ง่าย แม้แต่คนที่ยังไม่เคยอ่านฉบับการ์ตูนมาก่อนก็ตามก็เข้าใจได้ไม่ยาก ทีมงานยังตั้งใจที่จะคงอรรถรสแบบการ์ตูนไว้ด้วยคาแรกเตอร์ของตัวละคร เนื้อหาที่ควรจะเครียดจึงดูสนุกน่าติดตาม

 

20th Century Boys เป็นเรื่องราวที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องขึ้นมาได้ มันเริ่มต้นในราวปีโชวะที่ 40 ด้วยการที่ เกนจิ' กับเพื่อนๆ มีความฝันถึงศตวรรษที่ 21 ด้วยจินตนาการแบบเด็กๆ ว่า ในอนาคตจะมีองค์กรก่อการร้ายมาทำลายล้างโลก และพวกเขาสัญญากันว่าจะเป็นฮีโร่ผู้ปกป้องความยุติธรรมและจะทำลายแผนการร้ายนั้น

แล้วเรื่องราวไร้สาระเหล่านี้ก็ถูกบันทึกขึ้นในฐานลับของเด็กๆ ที่สร้างขึ้นกลางทุ่งหญ้า พวกเกนจิเรียกมันว่า บันทึกคำทำนาย' และฝังมันไว้

 

จนกระทั่งปี 1997 เมื่อพวกเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ จินตนาการและความฝันถูกทิ้งไว้ระหว่างทางของโลกความจริง เกนจิวัยเด็กผู้ชื่นชอบดนตรีร็อคและฝันไว้ว่าจะใช้มันเปลี่ยนแปลงโลกกลายเป็นผู้จัดการร้าน ‘King Mart' ธรรมดาคนหนึ่งและเลิกเล่นดนตรีเพื่อทำงานที่มั่นคงกว่าเพื่อหาเงินดูแลแม่กับ คันนะ' ลูกสาวของพี่สาวที่หายตัวไปทิ้งไว้ให้เลี้ยง ส่วนเพื่อนๆ ก็เป็นพนักงานออฟฟิศบ้าง เปิดร้านกิฟท์ช็อปบ้าง เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยบ้าง หรือบางคนก็ขาดการติดต่อกันไป

 

ในขณะที่ชีวิตกำลังดำเนินไปแบบธรรมดาๆ เกนจิและเพื่อนๆ กลับเริ่มพบว่ามีปรากฏการณ์ประหลาดๆ รอบตัวที่กำลังดำเนินไปตาม บันทึกคำนาย' ในวัยเด็กที่พวกเขาเกือบลืมกันไปแล้ว

 

นั่นคือ มีองค์กรทำลายล้างโลกเกิดขึ้นจริงๆ โดยเริ่มต้นด้วยการปล่อยโรคระบาดไปตามเมืองต่างๆ จากซานฟรานซิสโก ไปลอนดอน จนกระทั่งมีการวางระเบิดสนามบินในประเทศญี่ปุ่น ทุกอย่างดำเนินไปตามคำทำนายพร้อมๆ กับการปรากฏตัวของลัทธิแปลกๆ ที่มีชื่อว่า เพื่อน' ซึ่งใช้รูปดวงตากลางมือที่มีนิ้วชี้ขึ้นฟ้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์องค์กร

 

แต่คงไม่น่าแปลกอะไรหากสัญลักษณ์นั้นไม่ใช่สัญลักษณ์ที่รู้กันเฉพาะในกลุ่มเกนจิตอนเด็กๆ นั่นเองจึงนำมาซึ่งความสงสัยในเบื้องหลังของลัทธิ เพื่อน' ว่าอาจเป็นใครคนหนึ่งในเพื่อนสมัยวัยเด็กของเกนจิ

ความสนุกของและความน่าสนใจอย่างมากของ  20th Century Boys ก็คือความลึกลับขององค์กรที่ชื่อว่า เพื่อน' กับการต้องลุ้นไปกับพวกเกนจิว่าจะสามารถคืนความปกติของโลกมนุษย์มาจากองค์กรลับนี้ได้หรือไม่ ซึ่งบทความนี้จะขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ เพื่อน' เป็นกรณีพิเศษ เพราะไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าบางทีจินตนาการก็อาจกลายเป็นจริงได้ในโลกใบนี้ที่เราอยู่

 

องค์กร เพื่อน' เติบโตมาจากการเป็นลัทธิแปลกๆ ลัทธิหนึ่งในสายตาของคนทั่วๆ ไปอย่างเกนจิ แต่เป็นการนำการเล่นของเด็กที่ไม่ยอมจบมาทำให้กลายเป็นเรื่องจริงและคร่าชีวิตผู้คนได้อย่างน่าสะพึงกลัว  

 

ตัวตนของ เพื่อน' มีการคิดอย่างเป็นระบบ มีเป้าหมายในการก้าวไปสู่อำนาจสูงสุดของโลก เพื่อน'มีจิตวิทยามวลชนที่สูงมากนำมาซึ่งความเชื่อถือ เขาลอยได้เหมือนมีพลังจิต มีเรื่องราวทำให้ผู้คนติดตาม ตอบคำถามที่คนสงสัยได้อย่างชาญฉลาด ใช้ความกลัวร่วมกันของสังคมและความอ่อนแอในจิตใจมนุษย์เป็นเครื่องมือในการชักจูงและนำไปสู่การควบคุมถึงระดับจิตใจ จากนั้นก็แปรความรู้สึกที่มีต่อบุคคลไปเป็นรูปธรรมของเหตุผล และนำไปสู่การกวาดล้างคนที่เห็นแตกต่างอย่างมีเหตุผลเช่นกัน

 

เพื่อน' เริ่มต้นหาแนวร่วมด้วยการปลุกระดมความเชื่อที่เชื่อในตัวบุคคลโดยไม่ตั้งคำถาม จากลัทธิเล็กๆ ก็เริ่มเปิดเผยมากขึ้นและขยายความคิดแบบแทรกซึมทางจิตวิญญาณผ่านกระบวนการต่างๆ แม้แต่ดนตรีที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นก็ถูกนำมาใช้ปลุกระดมเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียว จนทำให้การฟังดนตรีถูกสวมด้วย รูปแบบ' ที่แม้แต่การโบกมือหรือร้องรับส่งก็เป็นแบบเดียวกันไปหมด

 

สมาชิกในองค์กรเพื่อนยังแทรกซึมไปตามหน่วยงานต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ในกรมตำรวจ ใช้เส้นสายภายในและก่อตั้งหน่วยงานกำจัดผู้ที่จะเปิดโปงแผนการของเพื่อน ส่วนผู้ที่คลั่งไคล้มากๆ จะถูกใช้เป็นเครื่องมือลอบสังหารฝ่ายตรงข้ามเพื่อทำให้ไม่อาจสาวถึงผู้บงการได้ 

 

การไม่เลือกวิธีใช้ของ เพื่อน' ทำให้สามารถแทรกซึมเข้าไปได้ในระบบการเมืองของญี่ปุ่น เมื่อเกิดการก่อวินาศกรรมที่สนามบินแห่งหนึ่งทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางจิตใจต่อคนญี่ปุ่น ขณะนั้น เพื่อน'ได้ตั้งพรรคยูมินขึ้นมาเป็นทั้งตัวเลือกทางการเมืองและที่พึ่งทางจิตวิญญาณ ภายในไม่กี่ปีก็สามารถชนะการเลือกตั้งในญี่ปุ่น

 

จนในที่สุด เพื่อน' ก็ดำเนินมาถึงแผนการสุดท้ายที่จะปูทางไปสู่อำนาจสูงสุด นั่นคือการสร้างสถานการณ์ นองเลือด' ด้วยวิธีการแพร่ไวรัสที่ทำให้เลือดออกจากตัวอย่างน่าสยดสยองและตายในเฉียบพลัน

 

20th Century Boys  ภาคแรกจบลงด้วยสถานการณ์ไวรัสระบาดล้างโลกในวันสิ้นปี 2000 การหายตัวไปของเกนจิและคันนะที่โตเป็นสาว

 

แต่สิ่งที่ 20th Century Boys ยังไม่จบลงก็คือการเป็นกระจกสะท้อนภาพความจริงที่กำลังเตือนสติเราว่า คนที่เราเชื่อ กลุ่มองค์กรที่เราเชื่อ หรือแม้แต่ศาสนาที่เราเชื่อ มันอาจไม่ได้ใสสะอาดบริสุทธิ์อย่างที่เห็นและอาจมีเบื้องหลังที่เปื้อนเลือดอย่างที่คาดไม่ถึง และความเชื่ออย่างขาดสติคุ้มคลั่งก็อาจสร้างความหายนะได้อย่างสุดจะบรรยาย

 

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่เลวร้าย 20th Century Boys ได้สร้างเกนจิและเพื่อนๆ ขึ้นมาเป็นภาพตัวแทนของกลุ่มคนที่แสวงหาความจริงอย่างท้าทาย แม้ว่าในที่สุดสังคมที่ถูกการชี้นำของ เพื่อน' จะทำให้เกนจิกลายเป็นผู้ก่อการร้ายอย่างเป็น ขบวนการ' เป็น ขบวนการเกนจิ' ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นองเลือดครั้งใหญ่ในวันสิ้นปี 2000  แต่การต่อสู้เพื่อบอกความจริงแม้จะสวนทางกับความเชื่อกระแสหลักก็คือภาพสะท้อนทางจิตวิญญาณแห่งเสรีของปัจเจกชน ซึ่งความเป็นเสรีชนของเกนจิได้สื่อออกมาผ่านเพลงร็อค นักดนตรีเปิดหมวก และกลิ่นอายของฮิปปี้ในยุคทศวรรษที่ 60 -70  

 

มาถึงตรงนี้ หากใครที่ยังไม่อยากรู้ตอนต่อไปโปรดอย่าอ่านต่อ เพราะจากตรงนี้จะขอเฉลยตอนต่อไปตามต้นฉบับการ์ตูน

 

โลกหลังปี 2000 ‘เพื่อน' กลายเป็นประธานาธิบดีโลก เพราะเขาสามารถนำวัคซีนมารักษาไวรัสประหลาดในเหตุการณ์นองเลือดได้ รวมถึงได้ช่วยเหลือ โป๊ป' ให้รอดชีวิต และอ้างถึงถึงพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ที่ลงมาโปรด ในเวลาต่อมา เพื่อน' ได้กลายเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งทางการเมืองและจิตวิญญาณ โลกในศตวรรษที่ 21 คือโลกที่ เพื่อน' เป็นผู้ชี้นำทั้งทิศทางการปกครองและความถูกต้องทั้งมวล อีกทั้งยังได้สร้างภาพ ขบวนการเกนจิ' ขึ้นมาเป็นปีศาจแห่งความน่ากลัวจนทำให้สังคมถูกครอบงำให้ขาด เพื่อน' ไม่ได้ หนังสือ ดนตรี วิถีชีวิตและวัฒนธรรมถูกควบคุมโดยรัฐบาลเพื่อน และความคิดที่แตกต่างหรือการตั้งคำถามต่อ เพื่อน' คือภัยคุกคามที่ต้องถูกจัดการ

 

สังคมของโลก ภายใต้การนำของ เพื่อน' ใน 20th Century Boys จึงอาจเป็นคำเตือนจากโลกในจินตนาการมาสู่โลกของความจริง และเป็นความจริงที่น่าสนใจอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์มันช่างคล้ายกับในสังคมไทยที่อาจมีการนองเลือดครั้งใหญ่ที่ถูกวางไว้ในอีกไม่กี่วันนี้

 

การนองเลือดในสังคมไทยคงจะไม่ได้มาจากไวรัสล้างโลกแน่ๆ แต่ก็เดินไปตามกระบวนการปูทางสู่อำนาจคำถามสำคัญมากๆที่สังคมไทยอาจต้องยิ่งคิดให้หนักก็คือ สังคมไทยมีคนแบบ เพื่อน' ที่กำลังทำอะไรชี้นำมวลชนแบบแปลกๆอยู่หรือไม่

 

เพราะใน 20th Century Boys คนแบบ เพื่อน' กว่าจะยึดครองโลกสำเร็จ มีคนตายราว 3,000 ล้านคน ส่วนสถานการณ์ในสังคมไทยตอนนี้แม้มีคนเสียชีวิตไปบ้างแล้ว แต่สถานการณ์คงยังอยู่ในช่วงของภาคแรก คือช่วงของการรณรงค์ ช่วงของการสร้างสถานการณ์และช่วงของการใช้ความกลัวเข้าครอบงำเพื่อชี้นำ

 

ดังนั้น จึงอยากให้ดูหนังหรืออ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้วคิดอีกครั้งก่อนไปชุมนุมไม่ว่ากับฝ่ายใดก็ตามว่า เหตุการณ์นองเลือด' บางทีอาจเปื้อนอยู่บนมือ  เพื่อน' ของคุณก็เป็นได้  

 

บล็อกของ Cinemania

Cinemania
นพพร ชูเกียรติศิริชัย   “การที่ใครจะเป็น ‘modern’ (ทันสมัย) เขาคนนั้นก็จะต้องคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และพร้อมทุกเมื่อที่จะละทิ้งและตัดขาดจากของเก่าที่ดำรงอยู่ (tradition) และที่สำคัญ คือ พร้อมทุกเมื่อที่จะละทิ้งและตัดขาดจากตัวตนของตัวเองที่ดำรงอยู่ ถ้าตัวตนเป็น modern ก็ต้องพร้อมที่จะละทิ้งความเป็น modern ด้วยเหตุผลของความเป็น modern เอง”  “ในการจะเป็น modern มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเป็น postmodern หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าใครจะเป็น modern เขา หรือเธอคนนั้นก็จะต้องเป็น postmodern มิฉะนั้นแล้ว เขาก็ไม่สามารถเป็น modern ได้” (Jean-Francois…
Cinemania
นพพร ชูเกียรติศิริชัย   ผมชอบคำว่า ‘เพื่อนบ้าน' (Neighbor) เนื่องจากผมเล็งเห็นว่า คำว่า ‘เพื่อนบ้าน' นั้นดูจะมีความหมายในการมอง ‘มนุษย์' ที่อยู่รอบๆ ตัวของผู้พูด ผู้เขียน ผู้ใช้ คำๆ นี้ในแง่ดี (Positive Thinking) ส่วนคำว่า ‘จ๊ะเอ๋' นั้น ผมจำได้ว่าเป็นคำที่ผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน (รวมทั้งตัวผม) มักจะใช้เล่นกับเด็กๆ ด้วยการเอามือ ผ้า หรือสิ่งของอื่นๆ ที่หาได้สะดวก ปิดหน้าปิดตาของตัวผู้ใหญ่เอง (หรือใช้ปิดตาเด็ก) หลังจากนั้นจึงเปิดหน้าออกพร้อมรอยยิ้มแล้วกล่าวคำว่า ‘จ๊ะเอ๋' ซึ่งเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะชอบและมักจะมอบรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะเป็นการแสดงความพึงพอใจต่อการละเล่นชนิดนี้…
Cinemania
  นพพร ชูเกียรติศิริชัย    บางครั้งผมก็รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะต้องหอบสัมภาระมากมายเข้าไปในโรงภาพยนตร์ปัจจุบันผมแอบสงสัยว่าเหตุใดความสุขในการชมภาพยนตร์แบบเมื่อครั้งยังเป็นเด็กจึงสูญหายไป จนเมื่อมีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่อง ‘สะบายดีหลวงพระบาง'จึงทำให้ผมรับรู้ว่าแท้จริงแล้วความสุขในวัยเด็กของผมไม่ได้หายไปไหน แต่หนังสือ ตำรา คำวิพากษ์วิจารณ์ ที่ผมแบกเอาไว้ในสมองต่างหากที่บดบังความสุขแบบที่เราคุ้นเคย 
Cinemania
นพพร ชูเกียรติศิริชัย ถ้าหาก E เท่ากับ EMOTION (อารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง และ อื่นๆ), M เท่ากับ MAN (มนุษย์ไม่ว่าหญิง ชาย และอื่นๆ) และ C เท่ากับ CLOCK (ซึ่งหมายถึงระยะเวลา) จากสมการ E=mc2คุณคิดว่า ‘จำนวนของบุคคล' ที่เหมาะสมกับ ‘ความรัก' จะเท่ากับเท่าไหร่? รัก/สาม/เศร้า ตามสมการ รัก/สอง/สุข และเวลาแค่ไหนถึงจะพอสำหรับ ‘รัก' ‘รัก/สาม/เศร้า' เป็นเรื่องราวของเพื่อนรักสามคน ที่ ‘แอบรัก' กัน ในฐานะที่มากกว่าเพื่อน ‘น้ำ' แอบรัก ‘พายุ' ‘พายุ' แอบรัก ‘ฟ้า' โดยที่ตัวฟ้าเองก็ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าพายุแอบรักตนเอง (และก็ไม่เคยรับรู้เช่นกันว่าเพื่อนรักของตนอย่าง ‘น้ำ' ก็แอบรักเพื่อนรักอย่าง ‘พายุ'…
Cinemania
  < นพพร ชูเกียรติศิริชัย >     หากพูดถึงประเทศจีน คุณนึกถึงอะไร? กังฟู, ก๋วยเตี๋ยว, หมีแพนด้า,มังกร, ลูกท้อ,ซาลาเปา, ปรัชญาลัทธิเต๋า และภูเขาสูงหน้าตาแปลกๆ   หากสิ่งเหล่านี้คือคำตอบของคุณ นั่นก็หมายความว่า คุณพร้อมแล้วที่จะไปสัมผัสกับภาพยนตร์ ‘KUNG FU PANDA’ หรือในชื่อภาษาไทยว่า ‘กังฟูแพนด้า จอมยุทธพลิกล็อค ช็อคยุทธภพ’   ผมไม่แน่ใจว่าหมีแพนด้าถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของ ‘มิตรภาพ’ ระหว่างประเทศจีน กับประเทศอื่นๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ บทบาทความเป็น ‘ทูตสันติภาพ’ ของหมีแพนด้า ในบัดนี้ได้ถูกนำเสนอผ่านจอภาพยนตร์ฮอลีวู้ดไปเป็นที่เรียบร้อย 
Cinemania
   ปิติ-ชูใจท่ามกลาง ‘หนังซัมเมอร์' ที่ดาหน้ากันมาถมจนเต็มพื้นที่ในโรงภาพยนตร์ช่วงฤดูร้อน ทางเลือกของคนดูหนังใน ‘โรงหนังชั้นนำใกล้บ้านคุณ' ก็ยังไม่ได้หลากหลายอะไรนัก เพราะแนวทางหลักๆ ของหนังซัมเมอร์ที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็มีแค่ แอ๊กชั่น, ตลก, สยองขวัญ และอนิเมชั่น กรณีที่อยากดูหนังนอกกระแส ก็ต้อง ‘เข้าเมือง' กันอย่างเดียว เพราะที่ทางของหนังเหล่านี้ยังกระจุกตัวอยู่ที่สยามหรือไม่ก็สุขุมวิทแค่นั้น (ซึ่งมันก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ในยุคที่หนังถูกจำกัดความหมายให้เป็นแค่เครื่องมือผ่อนคลายและสร้างความบันเทิง) แต่อย่างน้อยที่สุด หน้าร้อนปีนี้ยังมีหนังไทยน่าสนใจอยู่ 2 เรื่อง ที่พอจะแหวกกระแสเดิมๆ…
Cinemania
   ::: ข้อความหลังเส้นประของข้อเขียนชิ้นนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์ ::: โดย...ณภัค เสรีรักษ์ภาพยนตร์พูดภาษาอังกฤษเรื่องแรกของผู้กำกับชื่อดัง ‘หว่องการ์ไว' (Wong Kar Wai) ที่เพิ่งเข้าฉายให้ผู้ชมในดินแดนประเทศไทยได้ชมกันตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่เพิ่งจะผ่านมา (2008) ที่มีชื่อว่า My Blueberry Nights นั้น อาจมีประเด็นต่างๆ นานาให้สามารถสร้างบทสนทนากันได้มากมายและยาวนาน แต่สำหรับในที่นี้นั้น ผมอยากจะ ‘หยิบเลือก' เพียงบางประเด็นมา ‘อ่าน' หรืออีกนัยหนึ่ง ‘สนทนา' เกี่ยวกับ ‘ตัวละคร' ในภาพยนตร์ดังกล่าว ภายใต้ความคิดเกี่ยวกับเรื่อง ‘ความทรงจำ' ซึ่งสะท้อนร่วมกับความคิดเกี่ยวกับ ‘…
Cinemania
Between the FramesE-mail: betweentheframes@gmail.com:::Spoil::: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาที่สำคัญของภาพยนตร์ :::Spoil::: "All those gathered here will know that it is not by sword or spear that the LORD saves; for the battle is the LORD's, and He will give all of you into our hands."                                                   …
Cinemania
 :::Spoil::: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาที่สำคัญของภาพยนตร์ :::Spoil::: เวลา 2 ชั่วโมงกว่า (158 นาที) ในหนัง There will be blood - ผลงานเรื่องที่ 5 ของผู้กำกับ Paul Thomas Anderson คือเรื่องราวในด้านที่มืดดำของมนุษย์ เต็มไปด้วยความโลภ ความอ่อนแอ สันดานดิบ และแน่นอน...มันรวมไปถึง ‘การสร้างศรัทธา' ด้วยวิธีการอันน่าขนลุกด้วย...เราได้รู้จัก ‘เดเนียล เพลนวิว' (Daniel Day-Lewis) นักเสี่ยงโชคที่ตั้งใจทำเหมืองเงิน แต่บังเอิญได้ที่ดินซึ่งมีน้ำมันดิบนอนสงบนิ่งอยู่ใต้พื้นมาแทน โลกของเดเนียลไม่มีคำว่า ‘สุดแท้แต่โชคชะตา' หรือ ‘ศรัทธา' ไม่มีแม้กระทั่งคำว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า'…
Cinemania
ซาเสียวเอี้ยการไล่ตีแมลงสาบบนฝาบ้าน อาจเป็นเกมสนุกสนานอย่างหนึ่ง และเพียงสายลมเย็นจากพัดลมมือสองที่เป่าไล่ความร้อนในค่ำคืนอบอ้าวอาจเป็นถึง ‘รางวัลชีวิต' ของสองพ่อลูกผู้ยากจน...ผู้อาศัยอยู่ในโลกแห่งความแร้นแค้นทั้งหมดที่่ว่ามา-อาจฟังไม่ต่างจากสงครามชีวิตสุดรันทด (บัดซบ!) แต่เมื่อเรื่องราวเหล่านี้ถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองของ ‘โจวซิงฉือ' ไอ้สิ่งที่ควรจะเศร้า...กลับทำให้เราหัวเราะออกมาได้000ถึงแม้ว่าหน้าหนังของ CJ7 จะถูกโฆษณาว่าเป็นแนว Sci-fi แต่ ‘ใจความสำคัญ' ที่อยู่ในนั้น ไม่ใช่ ‘ความลี้ลับ' ของจักรวาลอันกว้างใหญ่ หรือถ้าจะพูดให้ชัดๆ ก็ต้องบอกว่า นี่คือหนังครอบครัวแนว Comedy-Drama ที่ให้ ‘…