< นพพร ชูเกียรติศิริชัย >
หากพูดถึงประเทศจีน คุณนึกถึงอะไร? กังฟู, ก๋วยเตี๋ยว, หมีแพนด้า,มังกร, ลูกท้อ,ซาลาเปา, ปรัชญาลัทธิเต๋า และภูเขาสูงหน้าตาแปลกๆ
หากสิ่งเหล่านี้คือคำตอบของคุณ นั่นก็หมายความว่า คุณพร้อมแล้วที่จะไปสัมผัสกับภาพยนตร์ ‘KUNG FU PANDA’ หรือในชื่อภาษาไทยว่า ‘กังฟูแพนด้า จอมยุทธพลิกล็อค ช็อคยุทธภพ’
ผมไม่แน่ใจว่าหมีแพนด้าถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของ ‘มิตรภาพ’ ระหว่างประเทศจีน กับประเทศอื่นๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ บทบาทความเป็น ‘ทูตสันติภาพ’ ของหมีแพนด้า ในบัดนี้ได้ถูกนำเสนอผ่านจอภาพยนตร์ฮอลีวู้ดไปเป็นที่เรียบร้อย
KUNG FU PANDA นำเสนอเรื่องราวของ ‘โพ’ หมีแพนด้าลูกชายเจ้าของร้านบะหมี่ผู้ใฝ่ฝันที่จะเป็นสุดยอดปรมาจารย์กังฟู ทั้งๆ ที่ในสายตาของคนอื่นๆ เขาเป็นเพียงหมีแพนด้าตัวอ้วนๆ ผู้ปราศจากวิทยายุทธ แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกส่งให้ ‘โพ’ กลายเป็นนักรบมังกร (Dragon Warrior) ตามคำพยากรณ์โบราณ โดยมีภาระกิจสำคัญคือการปกป้องหุบเขาสันติภาพและชาวบ้าน จาก ‘ไต้หลุง’ เสือดาวหิมะจอมโฉดซึ่งปรารถนาจะแย่งชิงคัมภีร์มังกรเพื่อครอบครองความยิ่งใหญ่
ขณะที่ ‘ชิฟู’ ปรมาจารย์กังฟู ผู้เป็นอาจารย์ของเจ้าตำนานทั้งห้า (บุคลาธิษฐานของตำนานกังฟูวัดเส้นหลิน คือ หมัดพยัคฆ์, หมัดวานร, หมัดงู, หมัดตั๊กแตน และหมัดนกกระเรียน) คือ ‘ไทเกรส’ (นางพยัคฆ์),เครน (กระเรียนทอง), มังกี้ (เจ้าวานร),ไวเปอร์ (อสรพิษไฟ) และแมนทิส (ตั๊กแตนจอมต่อย)กลับไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถสั่งสอนให้เจ้าหมีแพนด้าผู้ปราศจากวรยุทธ ให้กลายเป็นจอมยุทธในตำนานได้อย่างไร
แต่แล้วความศรัทธาก็ทำให้ ‘ชิฟู’ ค้นพบกับพรสวรรค์ที่แฝงอยู่ในตัวของ ‘โพ’ และนั่นทำให้เขารับรู้ว่าหลักสูตรการสอน (วิทยายุทธ) แบบที่เขาคุ้นชินนั้นไม่เหมาะกับ ‘โพ’ และเป็นหน้าที่ของอาจารย์อย่างเขาที่จะต้องหาวิธีการสอนศิษย์ผู้นี้ให้เป็นสุดยอดจอมยุทธ์ให้ได้
จากหลักสูตรพิเศษของ ‘ชิฟู’ ทำให้ ‘โพ’ แข็งแกร่งเพียงพอที่จะเป็นผู้ครอบครองความลับในคัมภีร์มังกร แต่สุดท้ายทั้ง ‘ชิฟู’ ‘โพ’ รวมไปถึงเหล่าเจ้าตำนานทั้ง 5 ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อพวกเขาได้รับรู้ว่า “ไม่มีสิ่งใดอยู่ในคัมภีร์” และนั่นก็ทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจหลบหนีออกจากหุบเขาสันติภาพก่อนที่ ‘ไต้หลุง’ จะมาถึง
แต่ในขณะที่ ‘โพ’ กำลังอพยพผู้คนออกจากหมู่บ้าน ‘มิสเตอร์พิง’ เจ้าของร้านบะหมี่ผู้เป็นพ่อของ ‘โพ’ กับเป็นผู้ที่ทำให้ ‘โพ’ ค้นพบกับความลับของคัมภีร์ และนั่นคือที่มาของตำนานจอมยุทธแพนด้า
แล้ว ( เรา) ผมจะได้อะไรจาก KUNG FU PANDA?
- บรรพบุรุษของเราไม่อาจกำหนดให้เราเป็นอะไร
หากใครที่มีโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วคงจะทราบว่า ‘มิสเตอร์พิง’ เจ้าของร้านบะหมี่ ผู้เป็นพ่อของ ‘โพ’ นั่นไม่ใช่หมีแพนด้า แต่ ‘มิสเตอร์พิง’ คือ ‘เป็ด’ นั่นหมายความว่าองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องของ ‘พันธุกรรม’ หรือ ‘DNA’ ไม่อาจจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณคือใคร? หรือคุณควรเป็นอย่างไร? (อย่างน้อยก็ในภาพยนตร์เรื่องนี้)
ขณะเดียวกันการที่บรรพบุรุษของ ‘โพ’ หลายชั่วอายุคน เป็นเจ้าของร้านบะหมี่ ก็ไม่ได้หมายว่า ‘โพ’ ควรที่จะเป็นเจ้าของร้านบะหมี่เช่นเดียวกับบรรพบุรุษ และก็เช่นเดียวกับ ‘ประเทศจีน’ ในปัจจุบันที่สามารถพิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า ความเป็นมาของบรรพบุรุษไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าพวกเขาคือใคร และควรทำอะไร? หากแต่พวกเขาสามารถที่จะกำหนดชะตาชีวิตภายใต้ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมได้เอง
- ไม่มีแบบเรียน หรือโครงสร้างที่สมบูรณ์ตายตัว
การที่ปรมาจารย์กังฟูอย่าง ‘ชิฟู’ มั่วหมกหมุ่นอยู่กับองค์ความรู้และวิธีการสอนแบบที่ตนเองคุ้นชิน ทำให้เขาไม่เคยเชื่อมั่น ในตัวลูกศิษย์อย่าง ‘โพ’ และกลายเป็นภาพลวงที่ทำให้เขาละเลย ‘ความแตกต่าง’ ของบุคคล แต่สุดท้ายเมื่อเขาได้ค้นพบกับ ‘ความแตกต่าง’ ของ ‘โพ’ เขาก็รับรู้ว่า ‘การยึดมั่นอยู่กับวิธีการสอน’ ของเขาต่างหากที่เป็นอุปสรรคในการนำพาลูกศิษย์ไปสู่ความเป็นสุดยอดจอมยุทธ
ขณะเดียวกัน ‘ความลับสุดยอด’ของคัมภีร์มังกร (ซึ่งเปรียบเสมือนองค์ความรู้แบทฤษฎีของตะวันตก) ที่เหล่าจอมยุทธ (นักวิชาการ,นักทฤษฎี) เชื่อว่าหากใครได้รับรู้ถึงความลับนั้นก็จะบรรลุสู่ความเป็นสุดยอดจอมยุทธ (ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ‘ไม่มีความลับใด’ อยู่ในคัมภีร์มังกร ที่จะนำผู้คนไปสู่ความเป็นสุดยอด) ก็กลายเป็นเพียงสิ่งล่อหลอกให้ผู้คนจำนวนหนึ่งมุ่งมั่นที่จะแย่งชิงคัมภีร์มังกรเพื่อครอบครองความเป็นใหญ่ (คล้ายๆ กับการแย่งชิงกันเข้าสู่มหาวิทยาลัยเพื่อจะขึ้นไปเหยียบอยู่บนจุดสูงสุดของสังคม)
ขณะที่ชาวตะวันตกอาจจะกำลังพยายามวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้ ‘จีน’ ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ภายใต้เศรษฐกิจแบบทุนนิยม แต่สำหรับภาพยนตร์อนิเมชั่นอย่าง KUNG FU PANDA กำลังบอกว่า ‘ความลับในคัมภีร์มังกร’ ก็คือ ‘การเป็นในสิ่งที่จีนเป็น’ นั่นเอง
หากไม่มีใครบอกว่า ภาพยนตร์อนิเมชั่นจากค่ายดรีมเวิร์คส์ (DREAMWORKS) เรื่องนี้ เป็นฝีมือการผลิตจากทีมงาน (ซึ่งส่วนใหญ่เป็น) ชาวตะวันตก ผมคงเผลอคิดไปว่านี่คือหนังโฆษณาที่ทางการจีนกำลังใช้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสกับ ‘จีน’ ในฐานะเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติแน่ๆ เลย