Skip to main content

เราใช้สูตรซื้อทัวร์ไปตลาดบั๊กฮาในช้าวันสุดท้ายที่เราอยู่ในซาปา เป็นรถตู้ร่วมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ แล้วรอรถที่สถานีรถไฟเลาไค เพื่อเดินทางกลับฮานอย


รถแล่นเรียบเรื่อยไปตามถนน ลัดเลาะภูเขาสูงชัน บางแห่งจะมีการซ่อมสร้างเสริมถนน ผ่านหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน บางแห่งเป็นหมู่บ้านชาวม้งดอกไม้ที่ไกด์คนดีบอกเราว่าให้สังเกตุเอาจากสีสันของลายเสื้อ ฝนโปรยเม็ด ตอนที่เราออกมาจากซาปาทำให้เห็นหมอกหนาขึ้นมาตามชายป่าริมเขาข้างทาง เย็นแต่สวยงามดี


ตลาดบั๊กฮาจะต้องผ่านเมืองเลาไค เป็นเขตพรมแดนอีกแห่งของประเทศเวียดนาม ที่ติดต่อกับประเทศจีน นักท่องเที่ยวในกรุ๊ปทัวร์เที่ยวนั้นต้องแวะเปลี่ยนรถที่ออฟฟิศเอเยนซี่ที่จัดทัวร์ ผมกับยาดากระซิบกันว่า จริงๆ หาเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปตลาดบั๊กฮาท่าจะตื่นเต้นดีแต่เอาไว้ก่อนดีกว่า บางครั้ง การซื้อทัวร์ก็ราบรื่นดี ไม่ต้องผจญภัยมากนัก เหมาะแก่การไปเรื่อยๆ


รถออกจากเมืองเลาไค ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแดงที่ไหลมาจากประเทศจีน คนที่นี่จะเรียกว่า เรด รีเวอร์ สองฝั่งแม่น้ำเป็นผืนทรายอัดละเอียดและทอดยาว มีการปลูกพืชสวนครัวริมฝั่งน้ำเหมือนกับที่เคยเห็นริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน


รถตู้คันใหม่ใหญ่และดูดีกว่าคันที่ออกจากซาปา รถไต่ระดับไปตามความลดเลี้ยวของภูเขา ด้านซ้ายเป็นเหว ด้านขวาเป็นหน้าผา บางจุดจะมีหมอกลงจัด ไอละอองฝนเกาะกระจกเป็นฝ้า ผมไม่รู้ว่า นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จะคิดอะไรในช่วงขณะนั้น สำหรับผม ผมภาวนาถึง ความจัดเจนของคนขับที่นำพาชีวิตเราให้ถึงตลาดชายแดน บั๊กฮา ...


บั๊กฮา เป็นตลาดชายแดนที่คนจะจากทั่วสารทิศของเวียดนามนำสินค้ามาค้าขาย แบ่งโซนออกเป็นมุมผลไม้ มุมอาหาร มุมสินค้าพื้นเมืองและมุมน้องหมา !!


ใช่แล้ว น้องหมา คนพื้นเมืองที่นี่นิยมกินเนื้อมัน ไกด์คนดีบอกเราว่า กินได้ทุกส่วนตั้งแต่เนื้อสะโพก น่อง หาง หู หัว หรือแม้แต่หนังที่นิยมเอาไปตากแห้งแล้วคั่ว กินแกล้มสุราพื้นเมืองหรือเป็นของขบเคี้ยวสำหรับเด็ก ส่วนอื่นๆ อย่างเช่น กระดูก เอาไปป่นดองเหล้ากับสูตรยาอื่นๆ


ขึ้นดีชะมัด ไกด์คนดีเน้นคำว่า ชะมัด เอ่อ แต่ผมไม่กินนะ

อ่าว กำของเวรไม๊หละ!!!


รถมอเตอร์ไซค์บรรทุกน้องหมาเอาไว้ในกรงหวายสานซ้อนอยู่หลังกระบะมอเตอร์ไซค์ขับแซงหน้ารถตู้ของเราไปต่อหน้าต่อตา ขณะที่รถกำลังไต่ระดับและไปจุดโค้งหักศอกริมหน้าผาจุดหนึ่งเห็นทหารเวียดยืนหลบฝนอยู่ในป้อม ฝนตกไม่หนักมากนัก ถนนจึงค่อนข้างลื่น ชาวบ้านบางคนในเสื้อคลุมขับมอเตอร์ไซค์แซงหน้ารถตู้ที่ค่อนข้างแล่นอืดๆ ตามสภาพน้ำหนักบรรทุก


บางครั้งน้องหมาเหล่านี้นำเข้าจากชายแดนไทยต่อสะหวันเขต ลาวบาว มาไกลึงตลาดบั๊กฮา นับว่าเป็นธุรกิจที่มีเงินสะพัด ไกด์แลบลิ้นทะเล้นๆ หลังแนะนำลูกทัวร์เป็นความรู้


วงการนี้ น้องหมาคงไม่ ฮา ไม่ออก

...


เรามาถึงตลาดบั๊กฮา อย่างปลอดภัย H a H a


เกือบเที่ยง นักท่องเที่ยวจะมีเวลาอยู่ในตลาด เก็บซับบรรยากาศและช็อปปิ้งคนละ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ก่อนจะออกเดินทางไปจุดอื่นๆ เช่น สวนชา หมู่บ้านม้งดอกไม้ จุดชายแดนเลาไค-คุนหมิง ประเทศจีน ทั้งหมดนี้เป็นโปรแกรมทัวร์


ความสนใจของผมอยู่ที่ม้งดอกไม้ในตลาดบั๊กฮา

ตลาดบั๊กฮา เป็นเหมือนตลาดนัดขายของขนาดใหญ่ พิจารณาดูจากสายตา สามารถพัฒนาให้เหมือนกับตลาดนัดจตุจักรของบ้านเราได้เป็นอย่างดี จุดเด่น คือ สินค้าพื้นเมืองและลา


ใช่แล้ว คนส่วนใหญ่ที่นี่ยังใช้ลาต่างของมาขาย


สีสันของบั๊กฮา คือ สีสันของม้งดอกไม้ บริเวณแถบนี้มีม้งดอกไม้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นำสินค้าพื้นเมือง เช่น ผ้าลายทอมือมีหลายขนาด เป็นที่รัดผม เข็มขัด หรือเป็นผืนให้ผู้ซื้อนำไปแปรรูปเป็นอย่างอื่น เครื่องเงินก็เป็นจุดสนใจ สัตว์จำพวกหมูขายกันเป็นตัวๆ


ณ มุมหนึ่ง เด็กชายคนหนึ่งกำลังจูงน้องหมาสีดำสนิท ไปไหน เอ่อ คงจะทราบนะครับ!! แต่คล้ายกับว่ามันจะรู้ชะตากรรมตัวเอง มันแข็งขืน เด็กชายต้องใช้แรงลากเพื่อให้มันเดินตาม ไหนเลยแรงหมาหรือจะสู้แรงเด็ก สุดท้าย มันถูกลากหายลับไปจากสายตา


คงไม่ต้องคิดถึงชะตากรรมของมันครับ..


24_07_01

ทางเข้าตลาด นักท่องเที่ยวจะเริ่มจากจุดนี้


24_07_02
ม้งดอกไม้ เห็นได้ทั่วไปที่นี่



24_07_03
ดูแกดุดุ นะครับ



24_07_04
สภาพความวุ่นวายของตลาด



24_07_05
สีสันของม้งดอกไม้



24_07_06
ดูท่าที่นี่สตรีจะเป็นใหญ่



24_07_07

24_07_08
ชะตากรรมน้องหมา



24_07_09
ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง



24_07_10
ลายังเป็นพาหนะจำเป็นยิ่งในพื้นที่แถบนี้



บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ปลูกป่า สร้างร่มเงาโคลนสีแดงเหนียวหนึบค่อยๆ ซึมผ่านถุงมือไหมพรมสีขาว ท่อนไม้แหลมเหลาปลาย ถูกกระทุ้งลงดินแข็ง แล้วคว้านเป็นหลุมกว้างขนาดพอจะใส่กล้าไม้ฉีกถุงเพาะกล้าเบาๆ สองมือค่อยๆ โอบประคองดินดำห่อหุ้มต้นอ่อนลงในหลุมที่ถูกคว้านและตีกลบเบาๆ ให้ดินแน่นนำถุงเพาะกล้าครอบบนแนวไม้ที่ปักเอาไว้ ใบเล็กๆ สีเขียวบนลำต้นบอบบางตั้งฉากเป็นแนวดิ่งเป็นอันเสร็จขั้นตอนสำหรับการปลูกกล้า พร้อมกับหัวใจของแต่ละคนที่หวังว่ากล้าเล็กๆ จะเติบโตเป็นป่า ให้ร่มเงาแก่ผืนดินและโลก...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
“นาย ... !! เขียนงานให้เรายัง” ผมถามดาด้าตัวละครเก่าของผม “อีกนิดนึงพี่” “เฮ้ย เอาวันนี้นะ” (จันทร์) ม่ายงั้น ‘เจ้’ ทวง “เอ๋า พี่ไม่ได้กำหนดเวลานี่” “เออ รีบเลย” เวลาผ่านไป ไม่นานเลย ..... “ดาด้า นายแน่มาก” “ไร” “อ่านแล้วขนลุกเลยว่ะ” “ไปห้องน้ำเลยไป” !!! @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
“พี่ ไปแค้มป์แม่หละกันไม๊” ดาด้าตัวละครเก่าของผมเอ่ยถาม ระหว่างที่เรานั่งรถไปจังหวัดกระบี่ “ตาก อะนะ” ผมทำตาลุก มันเป็นสถานที่หนึ่งที่ฝันว่าจะไปถ่ายรูป “วันไหน” “เนี่ย กลับจากนี่แหละ” มหาดไทยอนุญาตให้ออฟฟิศของดาด้า เข้าไปถ่ายทำเรื่องกลุ่มมุสลิมในแค้มป์ ผมนั่งนับนิ้ว เอ มันตรงกับวันอะไรหว่า !! “เออ นายเขียนแคนโต้แล้วถ่ายรูปมาลงคอลัมน์เรานะ” เสียดายครับ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แคกตัสบางชนิดมีหนามหนุ่ม ฟู และดอกบนหัว สวยงามแต่ดูน่ากลัว ผีเสื้อเป็นราชินีแห่งแมลงที่น่าเก็บภาพเสมอ ผู้ย่อยสลาย เห็ดราบางชนิด มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์เป็นอย่างยิ่ง เอ่อ ผมจำไม่ได้ว่าเป็นดอกอะไร ครับ!! แมลงปอ ราชันย์แห่งแมลงที่น่าเก็บภาพเหมือนกัน ต่างตัวต่างลีลา ใบไม้ธรรมดา จะดูน่าสนใจเมื่อมีแสงเงาตกกระทบ โฟกัสที่ดอกไม้ เขาว่า "ผีเสื้อขยับปีก โลกถึงกับสั่นสะเทือน" สวัสดีครับ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณนั้นทั้งบริเวณเป็นเกาะ สายน้ำไหลเรียบเรื่อยเซาะแก่งหินและรากไม้ใหญ่ริมตลิ่งเป็นเงาเว้าๆแหว่งๆ คือ การออกแบบอย่างลงตัวของธรรมชาติ สายฝนพรำตั้งแต่เริ่มเที่ยง อุโบสถหลังขนาดกะทัดรัดจึงกลายเป็นที่หลบฝนของชาวบ้าน หลายคนอุ้มลูกนั่งยองๆ อยู่ใต้ชายคา เด็กๆ กับเพื่อนบางคนหลบเข้าใต้ถุนอุโบสถขีดเขียนพื้นดินทรายเล่นฆ่าเวลา ชนกะเหรี่ยงโปจากหลายหมู่บ้านมาร่วมทำบุญปีใหม่ที่อุโบสถกลางน้ำ หมู่บ้านคลิตี้ล่าง หมู่บ้านของมนุษย์ตะกั่ว .. ปีใหม่แบบไทยๆ แต่ละปี อุโบสถกลางน้ำจะกลายเป็นที่ชุมนุมของคนในหมู่บ้าน ด้วยแรงเชื่อถือศรัทธา ชนกะเหรี่ยงโปจะเดินแห่ร้องรำทำเพลงกันมาเพื่อสรงน้ำพระสงฆ์ เมื่อถึงเวลา…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ไม่แน่ใจหรอกว่าเคยไปแม่ฮ่องสอนมากี่ครั้งกันแน่ รู้แต่เพียงว่า เพราะความที่มันไกลเสียจนมีคนร่ำลือถึงได้พยายามดั้นด้นไปให้ถึง ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง (ก็ยังอ๊วกเหมือนเดิม อิ อิ) ... “หากผมมีโอกาสได้แต่งงานนะ ผมจะแต่งที่แม่ฮ่องสอน” “เออ คุณไม่ต้องส่งการ์ดเชิญมาให้ผมนะ ไกลชิบ” “เฮ้ย มันมีเครื่องฯ .. บินถึง ..” “เออ ผม เมาเครื่อง” ...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ราวห้าโมงเย็น “จุดเทียนหรือเปล่าคับทั่น” ผมโทรหาเพื่อนคนหนึ่งอย่างกระวนกระวาย “จุดดิคับ เริ่มหกโมงฯ แล้วมาตอนนี้ทำไม” มันว่าเข้าให้นั่น เป็นอันว่า คงต้องรออีกสักพัก กว่ากลุ่มของพวกเขาจะเดินทางมาถึง ผมเริ่มเดินสำรวจรอบๆ บริเวณศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมแห่งชาติแห่งแรกของเมืองไทย จริงๆ มันมีศูนย์ศิลปะอื่นๆ อยู่บ้างในต่างจังหวัดแต่มันคงดูไม่หรูหราใหญ่โตอลังการเท่าศูนย์นี้ ความใหญ่โตของมันทำให้ผมงกๆ เงิ่นๆ เดินเข้าไปในศูนย์เพื่อฆ่าเวลา เจ้าหน้าที่เกร่เข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้ม “ให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงตรวจกระเป๋า นิดนึงนะครับ” เขาบอกกับผมอย่างสุภาพ ซิปกระเป๋ากล้องถูกเปิด พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แดดเปรี้ยงผ่าลงตรงหัวพอดี ขณะที่ช่างภาพนับ 10 คน ดุ่ยๆ เข้าไปในอาคารเรียนแห่งนั้น โถงอาคารเอนกประสงค์โล่งๆ เหมาะจะเป็นสนามบาสฯ มากกว่าห้องเรียนถูกจัดแบ่งเป็น 2 ตอน ด้วยตู้ไม้ผุๆ ทางด้านหน้าเป็นชั้นเด็กโตและทางด้านหลังเป็นชั้นเด็กเล็กที่ไม่ควรจะเกิน 10 ขวบ โรงเรียนวัดสุทธารามหรือโรงเรียนวัดกำพร้า เป็นหนึ่งในหลายๆ โรงเรียนในจังหวัดสมุทรสาครที่รับเด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติมาเรียนหนังสือ วิชาที่สอน เน้นพูด อ่านและเขียนภาษาไทย ,เมื่อเค้าต้องอยู่ร่วมกับเราอย่างไม่อาจจะปฏิเสธ กล่าวกันทีเล่นทีจริงว่า หากหญิงสาวชาวพม่าไม่ทาแป้งทานาคาและชายหนุ่มชาวพม่านุ่งกางเกงยีนส์ไปเคาน์ ดาวน์ ที่ เซ็นทรัล…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
“ปากน้ำระนองเลยพี่” เลิศ หนุ่มน้อยหุ่นทรงกระบอกแนะนำ “เหรอ ไกลมะ” ผมถาม “ไม่เท่าไร รับรองสวย พี่” ปากน้ำระนอง ห่างจากตัวเมืองราวขับรถ 10 นาที บนถนนเลียบเนินจะมองเห็นตัวเมืองระนองกลางขุนเขาโอบล้อมอย่างชัดเจนระนองเป็นเมืองชายแดนพม่าฝั่งทะเลอันดามัน ร้อนและชื้น จนได้ชื่อว่า เมืองฝน 8 แดด 4 (อันที่จริง เมืองชายฝั่งทะเลภาคใต้ก็ฝน 8 แดด 4 กันแทบทั้งนั้น) ฝนตกชุก ทั้งหนักและพรำๆ ในช่วงที่ผมอยู่ที่นั่น ระนองติดกับประเทศพม่าบริเวณเมืองทวายโดยมีเกาะสองกั้นเป็นพรมแดนธรรมชาติและชายฝั่งที่ทอดยาวจรด จ.พังงา เดินทางไม่ยากเพราะมีบริษัททัวร์บริษัทเดียวที่ให้บริการ 2 รอบ คือ เช้าและบ่าย
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ความน่าสนใจของท้องฟ้าก่อนพายุจะมาหรือสตอม เซอจ ที่ คุณดินยา ได้เขียนเป็นข้อมูลเอาไว้ เร้าให้ผมเกิดแรงบันดาลใจที่จะบันทึกภาพ ท้องฟ้าก่อนพายุจะมา ภาพเหล่านี้ถ่ายระหว่างวันที่ 25-30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่หลายฝ่ายกังวลเรื่องคลื่นพายุซัดฝั่ง บริเวณอ่าวไทยเมืองแม่กลอง ... ... จู่ๆ ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับมืดครึ้ม กลุ่มเมฆก่อตัวอย่างฉับพลันกลืนแสงอาทิตย์ มองดูแล้วพูดไม่ถูกว่ามีความรู้สึกอย่างไร สีสันของเมฆเขียวครามแต้มอากาศสีเทา ฝนตั้งเค้าในที่ไกลๆ ท้องฟ้า ...ท่าจะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
จบแล้วครับ .. เล่นง่ายแบบนี้เชียวเร๊อะ!! Ha Ha ... มีคำกล่าวง่ายๆ ว่า ทุกครั้งในการเดินทาง จงยิ้ม พึ่งพาสมองและสองเท้าแล้วค้นหา ...คุณจะพบว่า โรงแรมราคาดีแต่สะอาด รอคุณอยู่สุดซอย ...เสมอ เราบินออกจากฮานอยด้วยสายการบินโลว์คอส แอร์ เครื่องบินดีเลย์นิดหน่อย อย่างไม่ดัดจริต ผมคิดถึงส้มตำหอยดอง ปูปลาร้า ปากซอย
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ฮานอยเป็นหัวเมืองใหญ่ทางภาคเหนือของเวียดนาม สถานที่ที่มีอัตราการเติบโตของจีดีพีไม่เป็นรองเมืองอื่นๆ (ยกเว้นตอนนี้เวียดนามเจอภาวะเงินเฟ้อ) กับความรุ่งเรืองแห่งอดีตอดีตแห่งภูมิภาคหนึ่งของจีนที่ได้ชื่อว่า อันนัมประกอบไปด้วย การจราจรอันคับคั่ง(จริงๆ ก็คับคั่งทุกเมืองใหญ่แหละ)ย่านโอลด์ ทาวน์ ทะเลสาบคืนดาบ บาร์เกย์และดนตรีแนวแทรนส์เราเจอฟั้งกี้ มั้งกี้ ณ หัวมุมถนนย่านใจกลางเมือง หลังจากที่เดินตามหามาตั้งแต่หัวค่ำ ในอาคารพาณิชย์ 1 คูหา ไกด์คนเก่งจากเกาะกั๊ตบาแนะนำให้เรามาย่านนี้ เหตุผลหนึ่งเพราะเป็นย่านบาร์เกย์ที่คนในเพศที่ 3 สามารถจะแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่…