Skip to main content
ทะเลแหวก ที่หาดนพรัตน์ธารา


เสียงเครื่องเรือหางยาวออกจากฝั่ง พรายฟองทะเลสีขาวละเอียดแหวกออกเป็นสายตามความเร็วของเรือ ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ขอบฟ้ากับผืนน้ำจรดกันแทบเป็นเนื้อเดียว


อาสาสมัครลงความเห็นว่า เราควรจะไปทะเลแหวก


อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวพระนาง หมู่เกาะพีพี หรือ "หาดคลองแห้ง" ตามคำเรียกเดิมของคนพื้นถิ่น ด้วยเหตุผลง่ายๆ ทางภูมิศาสตร์


ช่วงน้ำลง น้ำคลองซึ่งไหลลงมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด ทรายขาวละเอียดปนเปลือกหอยยาวเหยียดจะโผล่เหนือผืนน้ำ ทอดยาวลงทะเล ก่อนจะบรรจบกับเกาะเขาปากคลอง เข้ากันได้ดีกับทิวสนริมฝั่ง กลายเป็นภูมิทัศน์ชายหาดแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยว ไกลออกไป หมู่เกาะน้อยใหญ่มากมายเรียงราย ที่รู้จักกันดี คือ เกาะพีพีเลและเกาะพีพีดอน เกาะยูง อ่าวนาง ไร่เล หมู่เกาะห้องและหมู่เกาะปอดะ


เรือหางยาว 5 ลำ จอดรออาสาสมัครอยู่ริมฝั่ง เราแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 10 คน อัตราค่าบริการ อย่างเป็นกันเอง 1,500 บาท/ลำ การเดินทางจากฝั่งไปยังจุดทะเลแหวกใช้เวลาประมาณ 30 นาที อาสาสมัครทุกคน ดูเหมือนจะหายเหนื่อย ต่างมีสีหน้าแช่มชื่น


ลมเย็นปะทะใบหน้า หลังจากเรือออกจากท่า ทางด้านขวาของเรือ มองเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งงมหอยชักตีน ที่กล่าวกันว่า ตัวใหญ่และอร่อยที่สุดในแถบถิ่นนี้ ท้องฟ้าทางด้านซ้ายอุ้มฝน หลายคนคงภาวนาในใจว่า "อย่าเพิ่งตกเลยนะจ้ะ สาธุ" ขอลุยทะเลแหวกก่อน


เรือโคลงเคลงไปตามกระแสคลื่น นายท้ายผู้คุมเครื่องต้องบอกให้ผู้โดยสารอย่างเรานั่งอยู่กับที่ "นั่งไม่นิ่ง บังคับเรือยาก" เสียงแกตะโกนแข่งกับเครื่องเรือหางยาวในสำเนียงแบบคนใต้


จนแล้วจนรอด เราก็ทนไม่ได้ ต้องขยับแข้งขา เดินไปเดินมา ชื่นชมกับความงดงามของท้องฟ้าและผืนทะเล


พระอาทิตย์หลังเมฆกลายเป็นสีเหลืองเสียแล้ว เมื่อเรามาถึงบริเวณทะเลแหวก เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง คล้ายๆ เกาะตะปูอันโด่งดัง ในจังหวัดพังงา โดดเด่น ใกล้กันเป็นเกาะขนาดกลางอันเป็นจุดจอดให้พวกเราทยอยลงจากเรือ


เดินลงไปกลางผืนน้ำ


ผืนทรายใสสะอาด ละเอียดอัดแน่นอยู่ใต้ผืนน้ำทะเลสูงขนาดตาตุ่ม พื้นที่บริเวณนี้น้ำจะลงในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของทุกๆ วัน ชาวบ้านแถบนี้คุ้นเคยกันดีและเรียกกันว่า หมู่เกาะปอดะ เป็นสันทรายกลางน้ำที่เชื่อมต่อกับเกาะหม้อ เกาะไก่และเกาะหัวขวาน


อาสาสมัครบางคนกระโจนลงน้ำอย่างไม่ลังเล บางคนเก็กท่าถ่ายรูป ที่ฮิตกันมากที่สุด เห็นจะเป็นท่ากระโดด กระโดดกันได้กระโดดกันดี อย่างไม่กลัวเปลืองพลัง


ลมเย็นเอื่อยๆ ปะทะใบหน้า โลกทั้งโลกกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ท้องฟ้าและผืนน้ำ หาดทรายและเปลือกหอย เมฆสีขาวกระจัดกระจายเพราะสายลมแรงเปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่าง ชวนให้จินตนาการโลดแล่น เวลาหยุดนิ่ง ไกลออกจากเมืองมาไม่รู้กี่ร้อยกิโลเมตร ไม่อยากจะคิดถึง


ธรรมชาติทำให้เราได้เรียนรู้

 


ตานส้าน ตานเสี้ยน หรือ ว่านดอกดิน ใบเฟริ์นชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร



ทัศนียภาพแห่งหมู่เกาะที่บรรดานักลงทุนต่างมองด้วยตามันวาว



ปลูกแฝกด้วยสองมือสัมผัส



ท้องฟ้า เมฆกระจัดกระจาย ด้านหลังพระอาทิตย์กำลังตกดิน



เรียงแถวปลูก



ท่าจอดเรือ ณ.ทะเลแหวก



ปลูกๆ ๆ ๆ



พี่ เปลี่ยนประสพ หัวหน่วยเฉพาะกิจ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์-ธารา หมู่เกาะพีพี



ถุงผ้า รักษ์โลก



ชาวอาสา ร่มไม้ข้างทาง ณ กระบี้ เฮ้!!!

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ความโกลาหลเริ่มต้น ,07.00 น. ,เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งเตรียมงานของพวกเขาพร้อมกับการอารักขาของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ,ฟายซาบัด แบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 2 ฝั่ง มีแม่น้ำค็อกช่าคั่นระหว่างเมือง ,ฝั่งหนึ่งเป็นเขตเมืองเก่า อีกฝั่งเป็นเขตเมืองใหม่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ยาดาถูกส่งไปอำเภอบันดักชาน จังหวัดฟายซาบัด ,เมืองทางตอนเหนือติดกับทาจิกิสถาน ปากีสถานและมณฑลซินเจียง ประเทศจีน ที่ตั้งของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอูยกูที่เพิ่งเป็นข่าวดังไปทั่วโลกถึงปมขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติกับชาวฮั่น
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ทิวเขาเหยียดยาวระหว่างนั่งเครื่องบิน เป็นอีกหนึ่งโฉมหน้าของประเทศแห่งนี้ ภูเขาสีน้ำตาล ท้องทุ่งสีเขียว ข้าว ผลไม้และความสมบูรณ์ของสายน้ำ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
08.00 น. ของวันเสาร์ ที่ 15 สิงหาคม 2552 เสียงระเบิดดังสนั่นใจกลางเมืองคาบูล์ ไกลออกไป 3 กิโลเมตร กระจกโรงแรมแคปิตอล อินน์ เขย่าประหนึ่งว่าจะแตกร้าวเสียตรงนั้น ทีมสังเกตุการณ์การเลือกตั้ง คนหนึ่ง หมอบกับพื้นห้องน้ำ อีกส่วนหนึ่งวิ่งขึ้นดาดฟ้าโรงแรม มองเห็น ควันไฟบริเวณสำนักงานใหญ่กองกำลังนานาชาติ นาโต้ ประจำอาฟกานิสถาน พวยพุ่งสู่ท้องฟ้า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เดือนที่ผ่านมา สำนักข่าว BBC เสนอข่าวเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นหน้าสำนักงานใหญ่กองกำลังนาโต้ภายในกรุงคาบูล ขณะกลุ่มตาลีบัน ออกแถลงการณ์จะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศและออกมายอมรับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุ ก่อนจะยืนยันว่า กองกำลังตะวันตกต้องถอนตัว
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เด็กชายหม่อง ทองดี อายุ 12 ปี นั่งพับกระดาษอยู่บนโต๊ะ เขารอผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ "วันนี้พับไปกี่แผ่นคะ" นักข่าวคนสวยถาม "หลายแผ่นคับ" เด็กชายแหงนหน้ามองขณะที่มือยังพับกระดาษ "เซ็นชื่อให้ด้วยนะ" นักข่าวคนเดิมยิ้ม เด็กชายหยิบปากกาขึ้นมาเขียนชื่อตัวเองลงบนปลายปีเครื่องบินกระดาษ ดูเหมือนเด็กชายหม่องจะไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่กำลังจะทำอะไรเขา ...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แมงมุมสีเหลือง --เหมือนมีดวงตาอยู่ที่ก้น ,จุดเล็กๆ สีดำสองจุดเด่นชัด คล้ายกับจ้องหน้าผมอยู่ตลอดเวลา ---มันกำลังกินแมลงปอขนาดหนึ่งนิ้ว บนใยสีเงินที่ถักอยู่ระหว่างกิ่งไม้แห้งๆ 2 กิ่ง อย่างเมามัน 
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ท้องฟ้าเพิ่งตื่นนอน ,ผมหยิบถุงน้ำปลาออกมาจากกระเป๋า รูดเอายางรัดปากถุงออกอย่างระมัดระวัง ถึงแม้จะเป็นน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกแต่ให้มันทำหน้าที่น้ำปลาพริกคลุกข้าวสวยร้อน ๆ จะดูเหมาะสมกว่า ,ผีเสื้อกินเค็ม มันชอบ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้าวันสุดท้าย ในดาก้า อีกวันที่อากาศแจ่มใส บนถนนสายหนึ่ง ใจกลางเมือง นักศึกษากลุ่มเล็กๆ จากมหาวิทยาลัยดาก้ากำลังทำงานของพวกเขา ชายหนุ่มหญิงสาวกลุ่มใหญ่กำลังมุงดูวงดนตรีพื้นบ้านริมถนนสายหลัก
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ยิ่งเข้าใกล้วันเลือกตั้งดูเหมือนเมืองจะวุ่นวายชนิดที่ไม่เคยวุ่นวาย บนถนน จากดาก้าไปจิตตะกอง ตัวเมืองจิตตะกอง ไม่เว้นแม้แต่ในเมืองเล็กๆ อย่างคากราชาริที่ใช้ขบวนรถจิ๊ปออกมาชุมนุมหาเสียงสนับสนุน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้าตรู่ หมอกยังไม่ทันจาง เพื่อนผมแซะตัวเองออกจากเตียงนอนเพื่อลงสัมภาษณ์ชาวบ้าน ประเด็นที่ต้องการ คือ ,รัฐบาลเตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชนของตัวเองแค่ไหน ...