‘ตั้ม’ อาจจะเป็นชื่อเล่นของใครก็ได้ แต่คงมีคนเดียวเท่านั้นที่ชื่อจริงว่า ‘วิศุทธิ์ พรนิมิตร’
ตั้มเป็นนักเขียน เจ้าของผลงานหนังสือหลายเล่ม เช่น hesheit, ควันใต้หมวก หรือประสบการณ์ส่วนตัวตอนที่ไปอยู่ญี่ปุ่นในชื่อ “ตั้มกับญี่ปุ่น” ฯลฯ แต่คุณอาจจะแปลกใจเมื่อรู้ว่าเขาเป็นนักเขียนเพราะพลิกดูผลงานของเขาแล้วล้วนแต่เป็นการ์ตูน
ตั้มเป็นนักเขียน...เขียนการ์ตูน ใครบางคนอาจจะสรุปอย่างนั้น
..........................................
ตั้มครอบครองกระดาษเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะกระดาษที่เป็นต้นฉบับทั้งลายเส้น ลงสี เล่าเรื่องผ่านภาพตัวการ์ตูนหลายเรื่องราวหลากอากัปกิริยาทั้งน่ารัก ยียวน ซาบซึ้งหรือชวนให้สงสัย
ในวัยที่ผ่านการใช้ชีวิตมาระยะหนึ่งหลังจบการศึกษาศิลปะจากศิลปากร ตั้มหาเลี้ยงชีพด้วยการเล่นดนตรีเป็นมือกลองให้กับวงดนตรีของเพื่อนๆ หลายวง เขียนการ์ตูน hesheit ลงนิตยสาร a day จนเลี้ยงตัวเองได้ กระทั่งวันหนึ่งคิดได้ว่าหนทางเดินของชีวิตควรจะทอดยาวไกลไปว่านั้น เขาเลยไปญี่ปุ่น
เวลาสามปีครึ่งที่ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตงอกงามของชีวิตและการทำงานของตั้ม ทั้งๆ ที่ตั้งใจแค่ว่าจะไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่เมืองโกเบ แต่แล้วความรักความชอบที่จะเล่าเรื่องก็ทำให้เขาดิ้นรนไปหาเช่าบาร์เล็กๆ ที่ใกล้จะเจ๊งเพื่อเปิดการแสดงแอนิเมชั่นผลงานตัวเองควบคู่ไปกับการดีดเปียโน ทั้งๆ ที่ไม่รู้ตัวโน้ต เปิดขายบัตร ชวนคนมาดูอย่างง่ายๆ มีการสกรีนเสื้อยืดและทำของที่ระลึกขาย คุ้มทุนบ้าง ขาดทุนบ้าง แต่สุดท้ายมันก็คือการได้ลงมือทำสิ่งที่ตัวเองชอบและฝัน
ตั้มเล่าว่าเลือกไม่ผิดที่ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่โกเบ เพราะเมืองนี้ยังเป็นเมืองเล็กๆ มีที่ว่างให้นั่งเล่นได้สบายอารมณ์ ผิดกับที่โตเกียวซึ่งไม่มีบรรยากาศเช่นนี้เลย จะนั่งอยู่เฉยๆ ก็รู้สึกผิด ในโกเบตั้มยังสามารถขี่จักรยานไปไหนมาไหนได้ และรู้สึกดีที่ได้อยู่กับผู้คนในแวดวงอื่นๆ ที่ไม่สนใจศิลปะหรือไม่รู้จักตัวการ์ตูนของเขาบ้าง เพราะที่เมืองไทยเขาล้วนแต่ต้องข้องแวะกับผู้คนในแวดวงศิลปะที่สวมแว่นตาสีเดียวกันตลอดเวลา
“ผมเป็นนักมองชีวิต” ตั้มว่าไว้อย่างนั้น เขาชอบใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ดูสิ่งนั้นสิ่งนี้โดยไม่ต้องคิดอะไร อยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากก็ไม่ทำ ปล่อยให้เรื่องราวเกิดขึ้นภายในหัวแล้วจึงเขียนออกมาเป็นงาน
อาจเรียกได้ว่าแนวทางที่ตั้มเดินทางออกไปค้นหาที่ทางของตัวเองท่ามกลางสมรภูมิแห่งแอนิเมชั่นและตัวการ์ตูนของโลกในแดนซากุระนั้นประสบผลสำเร็จด้วยการที่เขาไม่เดินตามใครและพยายามเสนอผลงานออกไปในแบบที่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด คนญี่ปุ่นหลายๆ คนชื่นชอบงานของตั้ม หลายๆ ครั้งต่อมาเวลาที่เขาเปิดการแสดงก็มีแฟนๆ จากเมืองฮอกไกโดทางเหนือนั่งรถมาซื้อตั๋วเข้าชมถึงในโตเกียว มีนิตยสารหลายเล่มมากที่สัมภาษณ์ตั้มตีพิมพ์ในญี่ปุ่น และตั้มยังมีผลงานตีพิมพ์เป็นภาษาญี่ปุ่นหลายชิ้น
“ภาษาญี่ปุ่นผมยังไม่เก่ง แต่เราก็ใช้แค่เราจะสื่อสารได้ ใช้คำง่ายๆ เขียนแบบง่ายๆ ให้พอรู้เรื่อง เช่น ไปไหน กินข้าว...คนญี่ปุ่นเขาชอบงานผม เพราะว่ามันทำให้เขาคิดถึงอดีตที่เปลี่ยนไปหมดแล้ว ทุกวันนี้การ์ตูนของญี่ปุ่นจะสวยงาม เนี้ยบมาก มีการดีไซน์จัด แต่งานของผมเป็นอารมณ์ง่ายๆ เล่าเรื่องซื่อๆ ตรงๆ แบบการ์ตูนยุค ’80” ตั้มบอกอย่างนี้
เมื่อกลับเมืองไทยมาได้สองปี ได้ทำอะไรสบายๆ และปลอดโปร่งกว่าตอนที่อยู่ญี่ปุ่นซึ่งงานเริ่มจะถาโถมจนคิดแทบไม่ทัน ตั้มเล่าว่าพอกลับมาเมืองไทยสิ่งที่ทำบ่อยที่สุดคือเข้าโรงหนัง ดูหนังเยอะมาก ชดเชยกับตอนที่ไปอยู่ญี่ปุ่นไม่มีโรงหนังดีๆ ราคาถูกอย่างในเมืองไทยให้ดู พอถึงเวลาทำงานก็เขียนงานที่ผ่านการกลั่นกรองคัดเลือกมากขึ้นส่งกลับไปที่ญี่ปุ่น
ทุกวันนี้ตั้มก็ยังเขียน เขียนถึงสิ่งที่เขาคิดอยู่ในหัว ซึ่งเขาบอกว่าจะไปกำหนดกะเกณฑ์ให้มันออกมาก็ไม่ได้ “เวลาที่คิดออก ถ้าคิดได้มันจะได้ของมันเอง จะออกมาเป็นฉากๆ เป็นซีนๆ จนจบเลย แต่ส่วนมากผมจะคิดได้เป็นประโยคมากกว่า แล้วผมก็ค่อยเล่าประโยคนั้นด้วยภาพ ผมเองเป็นคนที่อ่านอะไรยาวๆ ไม่เป็น ชอบอ่านงานพวกเซนที่เป็นประโยคสั้นๆ มากกว่า”
..........................................
วันหนึ่ง เมื่อตั้มและเพื่อนๆ ในสำนักพิมพ์ไต้ฝุ่นเปิดดูกรุกระดาษที่ตั้มครอบครองเอาไว้แล้วเห็นว่ามีผลงานต้นฉบับของตั้มอยู่มากมาย ก็เลยช่วยกันคัดเลือกและนำมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการต้นฉบับของตั้ม – วิศุทธิ์ พรนิมิตร ในชื่อง่ายๆ ตรงไปตรงมาเหมือนลีลาในการ์ตูนของเขาว่า “กระดาษ”
วันนี้ที่ People Space ในย่านเก่าแก่กลางเกาะรัตนโกสินทร์ที่ยังมีความงามและความว่างอย่างแพร่งภูธรก็ถูกจับจองให้เป็นพื้นที่ของตั้มในการแสดงนิทรรศการและกิจกรรมอื่นๆ เช่น การฉายแอนิเมชั่นประกอบการแสดงเปียโนให้กับคนที่สนใจและแฟนๆ หนังสือตั้มได้ชมอย่างเป็นกันเองแบบใกล้ชิด ไม่ต้องตีตั๋วไปดูถึงญี่ปุ่น
เมื่อได้ไปดูการแสดงแอนิเมชั่นและเห็นผลงานของเขาที่ใส่กรอบแขวนหรือติดปะไว้บนผนังของห้องแสดงงานเล็กๆ แห่งนี้ เรารับรู้ได้ว่าตั้มเป็นนักเขียน ...แต่การ์ตูนคือถ้อยคำและไวยากรณ์ของเขา
..........................................
“กระดาษ”
นิทรรศการต้นฉบับงานของวิศุทธิ์ พรนิมิตร
29 มีนาคมถึง 3 พฤษภาคม 2551
People Space 116 แพร่งภูธร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
โทร. 081- 549- 002 http://people-space.blogspot.com