Skip to main content

..ในสังคมสาธารณ์ที่ความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถูกบ่อนทำลายลงจากความรู้สมัยใหม่ทางวิทยาศาสตร์ทุกวี่วัน พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์กลับเพิ่มพูนขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ และในทางกลับกัน พื้นที่เหล่านั้นก็กลับสาธารณ์หรือเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ลงทุกทีเหมือนกัน..

 

Kasian Tejapira(10/11/55)

อาจารย์ Sawatree Suksri ตั้งคำถามบ่น ๆ เบื่อ ๆ ไว้ในสเตตัสว่า:

"ทำไมประเทศนี้ต้องคอยสร้าง "พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์" ชนิดที่วิจารณ์ไม่ได้ ล้อเล่นไม่ได้ มีอารมณ์ขันด้วยไม่ได้ ให้.....เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ?"

ผมทดลองตอบว่า:

มันเป็นแบบวิธีเก่าจากอดีตที่ถูกหยิบข้ามภพมาเป็นเครื่องมือจัดการกับสภาพความแตกต่างหลากหลายและขัดแย้งกันของชีวิตสังคมสมัยใหม่และสะท้อนการเปลี่ยนผ่านที่ไม่เสร็จสมบูรณ์จากราชอาณาจักรแต่เดิมมาสู่รัฐชาติสมัยใหม่ของมวลชน

แต่การสวมครอบองค์รวมเอกภาพจากอดีตในจินตนาการ ลงบนพื้นที่สังคมเศรษฐกิจวัฒนธรรมสมัยใหม่ซึ่งมีการแตกแยกเป็นเสี่ยง ความแปลกหน้าไม่รู้จัก แปลกแยกต่างตรรกะดำเนินชีวิตเป็นสรณะและปกติธรรมดานั้น มันไม่ฟิต ไม่ลงตัว ผลก็คือเกิดการไม่ยอมรับ อิดเอื้อน ที่บางแบบวิถีชีวิต บางวัฒนธรรม บางสถานะสังคมและชนชั้นเศรษฐกิจได้รับการยกให้สูงขึ้นและกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือส่วนอื่น

ดังนั้น ส่วนอื่นที่เหลือต่างก็พยายามยกตัวขึ้นสู่สถานะศักดิ์สิทธิ์เดียวกันนั้นบ้างด้วยแบบวิธีต่าง ๆ กัน เช่น ยืมพลังถ่ายทอดพลัง, ตั้งตนเป็นเทพเจ้าเข้าทรง ฯลฯ

ผลก็คือในสังคมสาธารณ์ที่ความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถูกบ่อนทำลายลงจากความรู้สมัยใหม่ทางวิทยาศาสตร์ทุกวี่วัน พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์กลับเพิ่มพูนขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ และในทางกลับกัน พื้นที่เหล่านั้นก็กลับสาธารณ์หรือเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ลงทุกทีเหมือนกัน นี่นับเป็นภาวะที่ยากจะประคับประคองให้ยั่งยืนต่อไปได้โดยไม่กร่อนกลวงเหลือแต่รูปแบบเปล่า ๆ ไม่มีฉันทมติจริงรองรับข้างใน มีแต่ต้องใช้อำนาจบังคับค้ำจุนไว้มากขึ้นทุกที

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
ด้วยความระลึกถึงจาก "พวกดอกเตอร์สมองบวมบนหอคอยงาช้างทั้งหลาย" ต้องสู้กับทักษิณด้วยระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ทำลายระบอบประชาธิปไตย ต้องเอาชนะทักษิณด้วยการชนะใจเสียงข้างมาก ไม่ใช่ต่อต้านเสียงข้างมาก
เกษียร เตชะพีระ
คำปราศรัยของคุณสุเทพ ณ กปปส.บ่ายวันนี้ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ  คือคำประกาศของขบวนการการเมืองแบบสู้รบของเสียงข้างน้อยที่ปฏิเสธความเสมอภาคทางการเมืองและการปกครองโดยเสียงข้างมาก
เกษียร เตชะพีระ
ว่าด้วย "ระบอบทักษิณ" ในสถานการณ์ปฏิวัติโค่นล้ม "ระบอบทักษิณ" ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.)
เกษียร เตชะพีระ
ด้วยเงื่อนไขเวลา สถานที่ แกนนำและประเด็นชนวนที่ต่างออกไปบ้าง ม็อบเทพเทือกปัจจุบันกับม็อบพันธมิตรฯเมื่อปี 2549 + 2551 ละม้ายเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียวทั้งในแง่....
เกษียร เตชะพีระ
 "เสียงข้างน้อย" ที่ศาลรัฐธรรมนูญพูดถึงว่าต้องปกป้องไว้จากอำนาจเสียงข้างมากนั้น ไม่ใช่เสียงข้างน้อยธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย แต่คืออภิสิทธิ์ชนส่วนน้อยในระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบที่ได้อำนาจอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นและเหนือเสียงข้างมากมาจากการรัฐประหารและรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยอำนาจรัฐประหารนั้น
เกษียร เตชะพีระ
กลุ่มอาการม็อบไทย ๆ ในปัจจุบัน: Thai Mob SyndromeOverpoliticization --> Political Fanaticism & Instant Political Awakening --> Lack of Political Experience and Patience
เกษียร เตชะพีระ
บทความ “A Sea of Dissent: nonviolent waves in China” ของ Michael Caster นักวิจัยและเคลื่อนไหวอิสระผู้เน้นศึกษาเรื่องความขัดแย้งและสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในเอเชีย ได้ประมวลข้อมูลและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวมวลชนระยะใกล้ในจีนไว้อย่างน่าสนใจ ผมขอนำมาเล่าต่อบางส่วนดังนี้
เกษียร เตชะพีระ
สิ่งที่พึงปรารถนาไม่ใช่ "ให้คนเราเหมือนกันหมด จะได้เท่ากัน" (เอาเข้าจริง ถึงเหมือนกันก็ไม่เท่ากันได้) แต่คือ "แตกต่างแต่เท่ากัน" (เพราะมันคนละเรื่อง) หรือ "แตกต่างกันได้โดยไม่ต้องกลัว" ต่างหาก (Different but equal or To be different without fear.)
เกษียร เตชะพีระ
บทสัมภาษณ์ ควินติน สกินเนอร์ นักวิชาการด้านประวัติความคิดการเมืองชาวอังกฤษสำคัญที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบันต่อประเด็นเกี่ยวกับงานค้นคว้าประวัติความคิดเรื่องเสรีภาพและ เสรีนิยมของตะวันตกตลอดชีวิตของเขาโดยภาพรวม แนวคิดมหาชนรัฐ, มาเคียเวลลี, ฮ๊อบส์, การปฏิรูปศาสนา, เชคสเปียร์, มิลตัน, คาร์ล มาร์กซ จนถึงเอ็ดเวิร์ด สโนว์เด็น เป็นต้น
เกษียร เตชะพีระ
 ว่าด้วย "เจ็ดไม่พูด"(ชีปู้เจียง) แคมเปนอุดมการณ์ล่าสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน คุณค่าสากล, เสรีภาพการพูดและพิมพ์โฆษณา, สิทธิพลเมือง, ประชาสังคม, ความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน, กระฎุมพีข้าราชการ และความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ