Skip to main content
กลุ่มอาการม็อบไทย ๆ ในปัจจุบัน: Thai Mob Syndrome
Overpoliticization --> Political Fanaticism & 
Instant Political Awakening --> Lack of Political Experience and Patience
ลักษณะเด่น ๒ ประการของการเคลื่อนไหวการเมืองมวลชนฝ่ายต่าง ๆ หลายปีที่ผ่านมาคือ
 
๑) มีการปลุกระดมจิตสำนึกทางการเมืองอย่างล้นเหลือต่อเนื่องเกินขนาด overpoliticization ผ่านเวทีชุมนุม สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สิ่งพิมพ์ และโซเชียลมีเดีย จนมวลชนมีแนวโน้มสุดโต่งทางการเมืองเป็นประจำ (สุดโต่งหรือ political fanaticism = ยึดเป้าหมายเดียว ละเลยเป้าหมายอื่นหมด, และเพื่อบรรลุเป้าหมายหนึ่งเดียวโดด ๆ นั้น ไม่เลือกวิธีการที่ใช้ จะผิดกฎหมาย นอกรัฐธรรมนูญ รุนแรงอย่างไรก็ได้ เช่น เพื่อต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ทำรัฐประหารโค่นมันเลย, เพื่อความสงบ ฆ่าหมู่คนกลางถนนก็ได้)
 
๒) การตื่นตัวทางการเมืองเร่งรัดเฉียบพลันไม่ได้สัดส่วนกับประสบการณ์ทางการเมืองของมวลชนจำนวนมากที่เดิมทีไม่สนใจการเมืองมาก่อน ทำให้ง่ายที่จะสู้เร็วสู้แรงสู้แหลก หวังเห็นผล INSTANT เฉียบพลัน ขาดความอดทนที่จะต่อสู้อย่างยืดเยื้อ ค่อย ๆ ชิงใจด้วยการเมืองวัฒนธรรมและการต่อสู้ทางความคิดเหตุผลข้อเท็จจริง ค่อนข้างเร่าร้อนห้านาที เหมือนประกายไฟไหม้ลามทุ่ง จึงตั้งความหวังไว้สูงเกินจริงและฝากความหวังไว้กับผู้นำในลักษณะปาฏิหาริย์ (ช่วยนำให้เราชนะทีเถอะ ม้วนเดียวจบ สงครามครั้งสุดท้าย ไม่รอแล้ว ฯลฯ)
 
ผมเกรงว่าเรากำลังเห็น replay ของกลุ่มอาการเหล่านี้อีกในปัจจุบัน

 

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
ด้วยความระลึกถึงจาก "พวกดอกเตอร์สมองบวมบนหอคอยงาช้างทั้งหลาย" ต้องสู้กับทักษิณด้วยระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ทำลายระบอบประชาธิปไตย ต้องเอาชนะทักษิณด้วยการชนะใจเสียงข้างมาก ไม่ใช่ต่อต้านเสียงข้างมาก
เกษียร เตชะพีระ
คำปราศรัยของคุณสุเทพ ณ กปปส.บ่ายวันนี้ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ  คือคำประกาศของขบวนการการเมืองแบบสู้รบของเสียงข้างน้อยที่ปฏิเสธความเสมอภาคทางการเมืองและการปกครองโดยเสียงข้างมาก
เกษียร เตชะพีระ
ว่าด้วย "ระบอบทักษิณ" ในสถานการณ์ปฏิวัติโค่นล้ม "ระบอบทักษิณ" ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.)
เกษียร เตชะพีระ
ด้วยเงื่อนไขเวลา สถานที่ แกนนำและประเด็นชนวนที่ต่างออกไปบ้าง ม็อบเทพเทือกปัจจุบันกับม็อบพันธมิตรฯเมื่อปี 2549 + 2551 ละม้ายเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียวทั้งในแง่....
เกษียร เตชะพีระ
 "เสียงข้างน้อย" ที่ศาลรัฐธรรมนูญพูดถึงว่าต้องปกป้องไว้จากอำนาจเสียงข้างมากนั้น ไม่ใช่เสียงข้างน้อยธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย แต่คืออภิสิทธิ์ชนส่วนน้อยในระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบที่ได้อำนาจอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นและเหนือเสียงข้างมากมาจากการรัฐประหารและรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยอำนาจรัฐประหารนั้น
เกษียร เตชะพีระ
กลุ่มอาการม็อบไทย ๆ ในปัจจุบัน: Thai Mob SyndromeOverpoliticization --> Political Fanaticism & Instant Political Awakening --> Lack of Political Experience and Patience
เกษียร เตชะพีระ
บทความ “A Sea of Dissent: nonviolent waves in China” ของ Michael Caster นักวิจัยและเคลื่อนไหวอิสระผู้เน้นศึกษาเรื่องความขัดแย้งและสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในเอเชีย ได้ประมวลข้อมูลและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวมวลชนระยะใกล้ในจีนไว้อย่างน่าสนใจ ผมขอนำมาเล่าต่อบางส่วนดังนี้
เกษียร เตชะพีระ
สิ่งที่พึงปรารถนาไม่ใช่ "ให้คนเราเหมือนกันหมด จะได้เท่ากัน" (เอาเข้าจริง ถึงเหมือนกันก็ไม่เท่ากันได้) แต่คือ "แตกต่างแต่เท่ากัน" (เพราะมันคนละเรื่อง) หรือ "แตกต่างกันได้โดยไม่ต้องกลัว" ต่างหาก (Different but equal or To be different without fear.)
เกษียร เตชะพีระ
บทสัมภาษณ์ ควินติน สกินเนอร์ นักวิชาการด้านประวัติความคิดการเมืองชาวอังกฤษสำคัญที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบันต่อประเด็นเกี่ยวกับงานค้นคว้าประวัติความคิดเรื่องเสรีภาพและ เสรีนิยมของตะวันตกตลอดชีวิตของเขาโดยภาพรวม แนวคิดมหาชนรัฐ, มาเคียเวลลี, ฮ๊อบส์, การปฏิรูปศาสนา, เชคสเปียร์, มิลตัน, คาร์ล มาร์กซ จนถึงเอ็ดเวิร์ด สโนว์เด็น เป็นต้น
เกษียร เตชะพีระ
 ว่าด้วย "เจ็ดไม่พูด"(ชีปู้เจียง) แคมเปนอุดมการณ์ล่าสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน คุณค่าสากล, เสรีภาพการพูดและพิมพ์โฆษณา, สิทธิพลเมือง, ประชาสังคม, ความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน, กระฎุมพีข้าราชการ และความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ