Skip to main content

ข้อแนะนำถึงคสช.และรัฐบาล. คืนความปกติให้สังคมเศรษฐกิจไทยมากที่สุด ลดมาตรการใช้อำนาจผิดปกติให้เหลือต่ำสุด ความแตกต่างขัดแย้งทางความคิดเห็นและผลประโยชน์ในสังคมพหุนิยมที่มีความแตกต่างหลากหลายเป็นเรื่องปกติ

ความแตกต่างขัดแย้งทางความคิดเห็นและผลประโยชน์ในสังคมพหุนิยมที่มีความแตกต่างหลากหลายเป็นเรื่องปกติ ยิ่งในสังคมที่มีระบบเศรษฐกิจตลาดแบบทุนนิยม ก็ยิ่งปกติและกระทั่งเป็นองค์ประกอบจำเป็นที่ขาดเสียมิได้เพื่อให้เศรษฐกิจแข่งขัน-แพ้ชนะ-เหลื่อมล้ำแบบตลาดเสรีพอหาทางออกปรับตัวแก้ไขปัญหาได้ โดยมีกฎเกณฑ์ระเบียบกติกากระบวนการในกรอบกฎหมายของระบอบประชาธิปไตยให้แก้ไขกันไปตามธรรมดา

สิ่งผิดปกติคือการที่กปปส.และพรรคพวกก่อม็อบอนาธิปไตย ปิดย่านสำคัญของกรุงเทพฯและสถานที่ราชการ ทำให้รัฐและเศรษฐกิจเป็นอัมพาตหรือล้มเหลวบางส่วน เพื่อบังคับล้มระบอบการเมืองโดยพลการและผิดกฎหมายในระยะที่ผ่านมา

แต่การยึดและควบคุมอำนาจปกครองแล้วกดปราบบังคับด้วยอำนาจอัยการศึกให้ความขัดแย้งอัดอั้นเก็บไว้ไม่ปรากฏสำแดงอาการออกมาก็เป็นสิ่งไม่ปกติเช่นกัน มันขัดฝืนกับธรรมชาติปกติธรรมดาของสังคมพหุนิยมที่มีความแตกต่างหลากหลาย และขัดฝืนกับธรรมชาติปกติธรรมดาของเศรษฐกิจทุนนิยมที่มีการแข่งขัน-แพ้ชนะ-เหลื่อมล้ำ ยิ่งคงมาตรการอำนาจผิดปกตินี้ไว้นานเท่าไหร่ สังคมพหุนิยมและเศรษฐกิจทุนนิยมก็จะสำแดงอาการทำงานผิดปกติ (malfunction, dysfunction) ออกมามากขึ้นบ่อยขึ้นเพียงนั้น จนผู้คนเดือดร้อนไปทั่ว

แรงต่อต้านคสช.และรัฐบาลที่ปรากฏดกดื่นมากขึ้นในระยะหลังนี้ก็สะท้อนความจริงข้อนี้

โดยใช้อำนาจกฎอัยการศึกอุดปิดช่องทางหรือร่องรูปกติที่ใช้ระบายหาทางออกจากความขัดแย้งของสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งหลายเรื่องไม่จำต้องเกี่ยวข้องกับคสช.และรัฐบาลโดยตรง การณ์กลับกลายเป็นว่าคสช.และรัฐบาลเหมารวมเอาความขัดแย้งทั้งหมดไประดมสุมใส่ตัวเอง กลายเป็นคู่กรณีในทุก ๆ ความขัดแย้งที่ไปใช้อำนาจปิดช่องทางการแสดงออกไว้

การเหมารวบอำนาจ จึงเป็นที่มาของการเหมารวบความขัดแย้ง ทำให้กลายเป็นเป้าโจมตีรวมศูนย์ รู้สึกปวดหัว เหนื่อยหน่าย เปลืองตัว อยากรีบทำให้เสร็จ ๆ แต่ก็ไม่ละเลิกการคงอำนาจผิดปกติอันเป็นสาเหตุที่มาของอาการทั้งปวง

ผมเห็นว่าทางเลือกเฉพาะหน้าของคสช.และรัฐบาลเพื่อประคองตัว พยายามทำภารกิจที่กำหนดให้ตัวเองตามโรดแมป 1 ปีข้างหน้าให้ราบรื่นหน่อย ลำบากน้อยหน่อย ขัดแย้งน้อยหน่อย คือ

- คืนความปกติให้สังคมเศรษฐกิจไทยมากที่สุด

- ลดมาตรการใช้อำนาจผิดปกติลงให้เหลือต่ำสุด

แต่ผมเกรงว่าท่านคงไม่ทำ และอาจทำตรงข้ามกับที่แนะนำข้างต้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็น่าเป็นห่วงบ้านเมืองของเรา

 

หมายเหตุ : บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊ก 'Kasian Tejapira' วันที่ 20 พ.ย.2557

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
บทกวีไว้อาลัยการจากไปของ 'ไม้หนึ่ง ก.กุนที' ที่ถูกยิงเสียชีวิตวันนี้ "เมื่อกวีจากไปไร้กวี.."
เกษียร เตชะพีระ
ที่คุณสุเทพ ณ กปปส.คัดค้านการเลือกตั้งก่อนปฏิรูป ยืนกรานว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ก็มีนัยการเมืองสำคัญตรงนี้ คือต้องทำแท้ง “อำนาจอธิปไตย” ของปวงชนชาวไทยให้จงได้ ไม่ให้มันได้คลอดได้ผุดได้เกิดผ่านกระบวนการเลือกตั้งมาลืมตาดูโลก ทำแท้ง “อำนาจอธิปไตย” ของปวงชนชาวไทยได้สำเร็จแล้ว ก็จะได้เคลมตนเองเป็น “รัฏฐาธิปัตย์” แทนนั่นปะไร
เกษียร เตชะพีระ
พลังฮึกห้าวเหิมหาญของม็อบและขบวนการใดที่ก่อตัวขึ้นโดยกัดกร่อนบ่อนทำลายเหล่าสถาบันการเมืองของชาติให้เสื่อมทรุดถดถอยราบคาบลงไป ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ย่อมไม่สร้างสรรค์อะไรขึ้นมา มีแต่พลังทำลาย ผลได้ของการเคลื่อนไหว ไม่ยั่งยืน เมื่อฝุ่นหายตลบแล้วก็จะพบว่ามีแต่ซากปรักหักพังแห่งสถาบันการเมืองของชาติทั้งชาติ โดยไม่ได้ดอกผลการต่อสู้อะไรจริงจังยั่งยืนขึ้นมาเลย
เกษียร เตชะพีระ
ข้อสังเกตหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเพื่อสร้างและปรับปรุงระบบลอจิสติกส์ของประเทศใหม่ ผิดรัฐธรรมนูญ
เกษียร เตชะพีระ
ผมอ่านข้อเสนอที่นายกแพทยสภาและบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขแถลงล่าสุดแล้ว มีความเห็นว่ามัน "ไม่เป็นกลาง" ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้...
เกษียร เตชะพีระ
วิธีการที่ผิด ไม่สามารถนำไปสู่เป้าหมายที่ถูกต้องดีงามได้ และคนอื่นเป็นเจ้าของประเทศไทยเหมือนกันเท่ากับผมและคุณ เท่ากันเป๊ะ