Skip to main content

สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่กับความโง่ มีความโง่เป็นเจ้าเรือน นับวันความโง่ยิ่งแผ่ขยายแพร่กระจายไปราวเชื้อโรค

หลายคนโง่โดยสุจริต  คนเหล่านี้น่าเห็นใจ ถูกครอบงำด้วยความไม่รู้  อคติ ความเกลียดชังทำให้ประสิทธิภาพในการคิดเสื่อมถอย สติปัญญาถูกบิดเบือนไป คนประเภทนี้โง่เพราะถูกอคติทำลายจนมืดบอด
\\/--break--\>
ผมขอยกตัวอย่างใกล้ตัว เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเกลียดชังอดีตนายก ฯ ทักษิณ  ชินวัตร เข้าไส้ เรียกได้ว่าเข้ากระดูกดำ เพื่อนคนนี้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรพันธมาร ฯบ่อยครั้ง พอเธอเล่าให้ฟัง แรก ๆ ผมก็รับฟังอย่างอดทน ยังสงวนท่าทีของตนเอง  สงบปากสงบคำไม่วิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรให้เพื่อนฟัง

เพื่อนไปไกลถึงขนาดที่บอกว่า “หากแม่
(ซึ่งอยู่ต่างจังหวัด) สนับสนุนอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร  เธอจะไม่ยอมกลับบ้านเด็ดขาด” ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ งมงายอย่างขาดสติ ไม่รู้ผิดรู้ถูก

อย่างไรก็ตาม  ผมพยายามไม่ใส่ใจ ถือเป็นรสนิยมทางการเมืองของแต่ละคน ดังนั้น เราจึงติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมา  หลีกเลี่ยงการพูดเรื่องการเมือง
(อาจเฉี่ยว ๆ ไปบ้างเพราะเธอเล่าให้ฟังถึงบรรยากาศการชุมนุมของเสื้อเหลือง) ทัศนคติของเพื่อนในเรื่องอื่น ๆ ถือว่าดีทีเดียว นิสัยใจคอก็ดีกว่าผมมาก

กระทั่ง ผมไม่รู้จะเรียกว่าเป็นจุดแตกหักได้หรือเปล่า  ความอัดอั้นเก็บกด
(ทางการเมือง) ของผมถึงคราวระเบิดตอนที่ผมป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 นอนซมเป็นสัปดาห์ ผมดูแลรักษาตนเองดี แข็งแรงตามวัย ผมคิดอย่างนั้น แต่ผมก็ยังติดเชื้อโรค ผม(พาล)โทษรัฐบาลประชาธิปัตย์ว่าเป็นต้นเหตุ ขาดการควบคุมป้องกันที่ดี ปล่อยให้เชื้อโรคแพร่กระจาย

ผมเล่าให้เพื่อนฟังว่าผมคิดอย่างไรกับรัฐบาลประชาธิปัตย์  คิดอย่างไรกับพันธมิตร  และว่าสนธิ ลิ้มทองกุล นั้นสามานย์มากเสียจนไม่รู้จะเอาอะไรเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องส่วนรวม ผมไม่ได้มุ่งไปที่สนธิ ลิ้ม คนเดียว แต่รวมถึงบุคคลอื่นที่พันธมิตรอ้างว่าเทอดทูนด้วย แน่นอนเพื่อนทนไม่ได้ แล้วก็เงียบหายไปจนถึงทุกวันนี้

คนโง่เพราะอคตินั้นยังพอให้อภัยได้ แต่คนประเภทที่หากินกับความโง่ของคนอื่นนั้นให้อภัยได้ยาก
(ลองนึกถึงนายสนธิ  ลิ้มทองกุล, นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ, หมอประเวศ วะสี, นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ฯลฯ) คนประเภทนี้ใช้ความโง่หรือความไม่รู้ของคนอื่นให้เป็นประโยชน์ เช่นที่นักการเมืองภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ได้ประโยชน์จากความไม่รู้ของคนใต้

มีคนอีกประเภทหนึ่ง  ที่อาจจะไม่โง่ แต่ยอมรับความโง่อย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้ความโง่เพ่นพ่านในบ้านในเมือง ในที่ต่าง ๆ โดยไม่ได้ต่อต้าน คือยอมอยู่กับความโง่ดีกว่าไปทำอะไรให้เปลืองตัว คนพวกนี้บางคนหวังว่าสักวันหนึ่งมันจะดีขึ้นเอง
! การยอมรับคำตัดสิน คำพิพากษาหรือคำวินิจฉัยโง่ ๆ ของหน่วยงานทางด้านยุติธรรมคือตัวอย่างของการอยู่กับความโง่

คำวินิจฉัยของ
"..." คดีสลายชุมนุม 7 ตุลา มีความน่าสนใจและอาจไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่วินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และ ผบตร. มีความผิดในการสลายฝูงชนที่มีลักษณะเหมือนกลุ่มก่อการร้าย มีระเบิด มีอาวุธ มีความบ้าคลั่ง

ในกรณีของอดีตนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปปช
. วินัจฉัยว่า  “เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า เหตุการณ์ในตอนเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2551 มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมจนขาขาด ดังนั้นนายกฯจึงควรยับยั้งไม่ให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เช่นนั้นอีก แต่นายสมชายก็หาได้สั่งการไม่ กลับปล่อยให้เจ้าหน้าที่กระทำซ้ำอีกในช่วงบ่ายและค่ำ”

กรณีของผบตร
. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ทางปปช. ได้วินิจฉัยว่า “คณะกรรมการ ป... พิจารณาจากการโยนและยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมจนทำให้มีความเสียหายในตอนเช้า และกระทำซ้ำในตอนบ่าย พล...พัชรวาทมีอำนาจบังคับบัญชาใน ตร.และแต่งตั้งให้ พล...สุชาติเป็นผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์ แม้แผนกรกฎ 48 พล...พัชรวาทจะมิได้ลงนามแต่ก็จัดทำในนาม ผบ.ตร. ฉะนั้นเมื่อทราบว่าในการผลักดันผู้ชุมนุมมีเหตุรุนแรง ผบ.ตร.ย่อมมีอำนาจสั่งการให้หยุดยั้งการกระทำที่เป็นอันตรายต่อประชาชนได้ การกล่าวอ้างว่าไม่เคยได้รับรายงานหรือขออนุมัติในการใช้กำลังสลายการชุมนุม ไม่มีเหตุผลให้พ้นความผิดได้ เพราะ ผบ.ตร.เป็นผู้ได้รับมอบหมายนโยบายให้เปิดเส้นทางการเข้ารัฐสภาจากนายกฯและรองนายกฯโดยตรง จึงเป็นหน้าที่ต้องติดตามการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติงานในนาม ตร.แต่ พล...พัชรวาทกลับเพิกเฉย ไม่สั่งการให้หยุดยั้งการกระทำ หรือยอมกระทำที่เป็นการเสี่ยงให้ประชาชนได้รับอันตรายเพื่อสนองนโยบายของฝ่ายการเมือง การอ้างว่าไม่สามารถขัดขืนได้นั้น เป็นการไม่รับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง ที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก แม้ พล...พัชรวาทจะพยายามขอให้เปลี่ยนสถานที่หรือเลื่อนการประชุม แต่ก็ไม่สามารถหักล้างผลการกระทำที่ตำรวจภายใต้การบังคับบัญชาได้กระทำลงไปไม่ได้คณะกรรมการ ป...จึงเห็นด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 ว่า พล...พัชรวาทได้กระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตาม พ...ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 79 (5) (6) และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (มติชนรายวัน, 8 กันยายน พ.. 2552, ปีที่ 32 . 11504)

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01p0102080952&sectionid=0101&selday=2009-09-08

คำวินิจฉัยของปปช
. เป็นอย่างนี้ได้เพราะสังคมยอมให้มันเป็นไปได้ บ่งบอกให้รู้ถึงความอ่อนด้อยวุฒิภาวะ  บ่งบอกให้รู้ว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่ด้อยพัฒนาอยู่มาก (จงจำไว้เสมอว่าสังคมนี้เป็นสังคมด้อยพัฒนา) เป็นตัวอย่างที่ดีอีกตัวอย่างหนึ่งที่บอกให้รู้ว่า “สังคมไทยนั้นเป็นสังคมที่อยู่กับความโง่อย่างแท้จริง”


 

 

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
ผมใส่เครื่องหมายไปยาลน้อยหลังคำว่า “ม็อบพันธมิตร ฯ” ด้วยละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าผู้อ่านแต่ละคนสามารถที่จะเลือกใส่คำต่อท้ายคำว่า “พันธมิตร” ลงไปได้ตามที่เห็นสมควร เพราะรู้สึกกระดากละอายเกินกว่าที่จะเรียกกลุ่มนี้ด้วยชื่อเต็ม ๆ ที่ต่อท้ายด้วยคำว่า “ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ครั้งแล้ว ครั้งเล่าที่คนกลุ่มนี้แสดงให้เห็นถึงลักษณะที่ตรงกันข้ามกับคำว่า “ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” คือมีแต่ความใจแคบ เอาแต่ใจตนเอง ขาดความอดทนอดกลั้นทางการเมือง ความอดทนอดกลั้นทางการเมืองที่เป็นคุณลักษณะสำคัญของการอยู่ร่วมกัน (เพราะจะได้ไม่ต้องฆ่ากัน) นอกจากขาดความอดทนอดกลั้นแล้วกลุ่มพันธมิตร ฯ…
เมธัส บัวชุม
บทความที่แล้ว ผมเสนอว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่ม “พันธมิตรประชาชนเพื่ออะไรก็ตามแต่” ไม่สามารถเรียกว่าด้วยคำหรูๆ เกินจริงอย่าง “อารยะขัดขืน” ได้ หากแต่ควรเรียกว่า “อารยะข่มขืน” น่าจะเหมาะกว่า และผมได้แปลคำว่า “อารยะข่มขืน” ว่าหมายถึงการ “ข่มขืนที่เนียนๆ” อันหมายถึงการละเมิดขืนใจทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคมที่ดูเหมือนจะถูกกฎหมายและดูเหมือนจะมีอารยะ แต่ที่แท้แล้ว เลวร้ายไม่น้อยกว่าการใช้กำลังบังคับตรงๆ เพราะเป็นการใช้กลอุบายเล่ห์เหลี่ยมหรือกลวิธีที่แนบเนียนแยบคายในการเข้าไปมีสิทธิเหนือร่างกายและจิตใจของผู้อื่น ส่วนในระดับของสังคมการเมืองนั้น…
เมธัส บัวชุม
เพื่อให้เห็นภาพและเกิดความชัดเจน เป็นความเหมาะสมที่เราจะเทียบเคียงการทำรัฐประหารซึ่งทุกครั้งจะถูกอ้างในนามของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสามอย่าง (เขาพระวิหาร การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ปฏิญญาฟินแลนด์) เข้ากับการข่มขืน เพราะมันมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกันมาก ๆ ใช้เพียงสามัญสำนึกเราก็รู้ว่าการทำรัฐประหารและการข่มขืนคือการละเมิดเพิกถอนในสิทธิทุกด้านและทุก ๆ หลักการของความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในร่างกาย จิตใจและสติปัญญาตลอดจนพฤติกรรมการแสดงออก สิ่งที่คนถูกข่มขืนได้สูญเสียไปคือคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ อันเป็นแก่นสาระของการมีชีวิตอยู่…
เมธัส บัวชุม
กล้องถ่ายรูป นอกจากจะเป็นเครื่องมือสำหรับเก็บภาพแล้วยังสามารถเป็นอาวุธไปได้พร้อมกัน  หลายคนที่สันหลังหวะและกำลังจะหวะจึงมักกลัวกล้องเพราะมันจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ฟ้องด้วยภาพ” ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าคำบรรยายเป็นไหน ๆ และในรายที่ความผิดปรากฏชัดแล้ว กล้องก็สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ประจานด้วยภาพ” ได้อีกด้วยนักการเมืองหรือดาราหรือกระทั่งคนธรรมดาเวลาทำผิดจึงมักจะหลบกล้อง เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ให้นักศึกษาอมนกเขาแลกเกรดก็พยายามเลี่ยงหลบกล้องโดยเอาปี๊บคลุมหัว หรือนักการเมืองบางรายลงทุนพรางตัวเพื่อไม่ให้กล้องจับภาพได้ขณะที่เข้าพบป๋าเป็นการส่วนตัว…
เมธัส บัวชุม
"ขี้กะโหล่ย" เป็นศัพท์วัยรุ่นทั่วไป สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้ มักจะมีความหมายเชิงลบ ทำนองว่าไม่เข้าท่า ไม่ได้เรื่อง นิสัยไม่ดี พฤติกรรมแย่ เป็นที่รังเกียจ ไม่ควรเข้าใกล้ อย่าไปคบหา ชอบเอาเปรียบ เห็นแก่ได้ ฯลฯ ตัวอย่างเช่น "ไอ้ลองมันขี้กะโหล่ย หน้าพระใจมาร กูไม่อยากสุงสิงกับมันหรอก" หรือ "ไอ้ลิ้มขี้กะโหล่ยโดนตำรวจจับไปเมื่อวานฐานปากดี"  หรือ "ม็อบพันธมารขี้กะโหล่ย หลอกขายเสื้อยามเผาแผ่นดิน" ฯลฯ
เมธัส บัวชุม
ปฏิวัติ 14 ตุลา 2516 ประชาชนรวมตัวกันเพื่อขับไล่รัฐบาลเผด็จการทหาร ดึงอำนาจจากมือของเหล่าขุนนางข้าราชการมาเป็นของประชาชน ซึ่งในขณะนั้นบรรดาขุนนางข้าราชการแห่งระบอบอมาตยาธิปไตยครอบครองเป็นใหญ่ในเวทีการเมืองของสภาผู้แทนราษฎรอยู่  แต่ปัจจุบันกลับตาลปัตร เมื่อประชาชนร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลประชาธิปไตยต่อสู้กับซากเดนแห่งระบอบอมาตยาธิปไตย ซึ่งกลายเป็นกลุ่มพลังนอกเวทีรัฐสภา เป็นกลุ่มเผด็จการนอกรัฐธรรมนูญที่ต้องการบ่อนเซาะทำลายความเข้มแข็งของระบอบรัฐสภาการขยับตัวเคลื่อนไหวของ “ระบอบเก่า” เพื่อหวนกลับมามีบทบาทในเวทีการเมือง ทำให้ประชาชนเกิดกระแสตื่นตัวต่อต้าน…
เมธัส บัวชุม
อาการตบะแตกกับนักข่าว/คอลัมนิสต์ ของนายก ฯ สมัคร  สุนทรเวช เป็นเรื่องที่เข้าใจได้และไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นเต้นตกใจแต่อย่างใด  แต่บรรดานักข่าวและผู้อยู่ในแวดวงออกอาการตระหนกตกใจราวกับสาวแรกรุ่นที่กำลังจะโดนข่มขืนเป็นครั้งแรก โดยไม่ตระหนักเลยว่า ที่ผ่านมานักข่าว/คอลัมนิสต์ กระทำการข่มขืนคนอื่นอยู่ตลอดเวลา หรือในทางกลับกันก็ถูกอำนาจที่เหนือกว่าข่มขืนหลายครั้ง การคุกคามข่มขืนสื่อมวลชนในยุคเผด็จการทหารครองเมือง เทียบไม่ได้แม้แต่นิดเดียวกับปัจจุบัน สื่อบางแขนงชิงข่มขืนตัวเองเสียก่อนที่จะถูกเผด็จการทหารที่นำโดยพลเอกสนธิ  บุณยรัตนกลิน จัดการข่มขืน (เราควรย้ำถึงชื่อของพลเอกสนธิ …
เมธัส บัวชุม
เครือผู้จัดการมีสื่ออยู่ในมือหลากหลายครบครัน ทั้งเคเบิลทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุและเวบไซต์ อันทำให้การโฆษณาชวนเชื่อที่เหลวไหลของพวกเขาเป็นไปอย่างครอบคลุมกว้างขวาง เกิดประสิทธิภาพไม่น้อยพวกเขา (เครือผู้จัดการ) สถาปนาตัวเองตามแต่ใจต้องการโดยที่ไม่ต้องรอให้ใครมาเลือกตั้งหรือแต่งตั้งด้วยบทบาทหลากหลายเหลือเชื่อคือเป็นตั้งแต่ “ยาม” ไปจนถึง “ผู้จัดการ”“ยาม” และ “ผู้จัดการ” นั้นอยู่กันคนละชนชั้นหรือพูดด้วยภาษาแบบหมอประเวศ วะสี ก็คืออยู่กันคนละ “ภาคส่วน” แต่บทบาทหน้าที่ทั้งหมดนี้พุ่งไปที่จุดประสงค์เดียวกันสำหรับ “ยาม” ภาพลักษณ์ที่ตายตัวคือเป็นคนระดับล่างของสังคม เป็นผู้ใช้แรงงานหรือใช้กำลัง…
เมธัส บัวชุม
เหตุการณ์ทางการเมืองช่วงก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพื่อล้มรัฐบาลประชาธิปไตยกระทั่งถึงยุคเผด็จการคมช. ครองเมืองซึ่งได้สร้างเครื่องมือต่างๆ (รวมทั้งรัดทำมะนวยฉบับหัวคูน) เพื่อสืบทอดอำนาจและทำการถอนรากถอนโคนรากฐานอุดมการณ์ประชาธิปไตยนั้น มีอะไรที่น่าสนใจมากมายจนผมคิดว่าน่าจะมีนักเขียนมือดีสักคนนำเอาเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ บวกกับจินตนาการบรรเจิดมาผูกร้อยเข้าเป็นนวนิยายชั้นเยี่ยมได้สักหลายเรื่อง การเมืองช่วงก่อนและหลังรัฐประหารนั้น “เป็นนิยายยิ่งกว่านิยาย” เสียอีก ไม่ว่าจะเป็นการกลับตาลปัตรกลายเป็น “ฮีโร่” อย่างช่วยไม่ได้ ของอดีตนายกฯ ทักษิณ  ชินวัตร ความพ่ายแพ้ยกแรกของเผด็จการทหาร…
เมธัส บัวชุม
-1-ปกติแล้ว ผมจะไม่หยิบนิตยสาร “เนชั่นสุดสัปดาห์” ขึ้นมาเปิดดูเพราะไม่คิดว่ามีคอลัมน์อะไรที่ดึงดูดใจเพียงพอ นอกจากก่อนหน้านี้ที่พลิกเปิดไปดู “เรื่องสั้น” เพื่อตรวจดูว่าเรื่องสั้นของตัวเองได้รับการพิจารณาหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมหมดปัญญาและพลังที่จะเขียนเรื่องสั้นแล้ว  ดังนั้นเวลาหยุดดูที่แผงหนังสือผมเพียงแต่กวาดสายตาดูนิตยสารรายสัปดาห์ยี่ห้อนี้เพียงผ่าน ๆ เท่านั้นแต่ “เนชั่นสุดสัปดาห์” ล่าสุดที่หน้าปกเป็นรูป “ธีรยุทธ  บุญมี” นักคิดวิธีสร้างข่าวให้ตนเองนั้นสะกดให้ต้องหยิบขึ้นมาเปิดดู ที่น่าสนใจไม่ใช่รูป “ธีรยุทธ  บุญมี” แต่เป็น “คำ” ที่พาดผ่านหน้าปกซึ่งเขียนว่า “ตุลาตอแหล ?” พาดหัว…
เมธัส บัวชุม
-1-การได้รับรู้ข้อมูลจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ตลอดจนเข้าไปข้องเกี่ยวกับวงการตำรวจ-ยาบ้าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับผม ไม่คิดฝันว่าชีวิตที่หมกมุ่นอยู่แต่กับหนังสือและการคิดประเด็นทางนามธรรมอะไรไปเรื่อยเปื่อยจะได้พบพานประสบการณ์ชีวิตอีกด้านหนึ่ง ที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้น ผมก็เช่นเดียวกับหลาย ๆ คนที่มองเรื่องยาเสพติดด้วยสายตาวิตกกังวล แลเห็นมันเป็นปิศาจที่นำความเลวร้ายเดือดร้อนมาสู่ชีวิต เป็นเหมือนมะเร็งที่คอยบั่นทอนสภาพร่างกายและจิตใจของคนที่ตกเป็นเหยื่อ (มันชวนให้นึกถึงนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลทักษิณเสียจริง ๆ!) ต่างไปจากเมื่อก่อนที่มองเรื่องนี้อีกแบบหนึ่ง…
เมธัส บัวชุม
  หนุ่มคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าวันดีคืนดีเขาก็ต้องตื่นขึ้นมาตอนประมาณตีสาม เพราะเพื่อนของหลานมาเคาะประตูเรียก"มีอะไร" เขาถาม"งานเข้า!" เพื่อนของหลานบอก ก่อนที่จะขยายความว่าหลานของเขาถูกจับยาบ้า ตอนนี้อยู่ที่สถานีตำรวจแล้วเขารีบไปที่สถานีตำรวจทันที อกสั่นขวัญแขวนเพราะเป็นห่วงหลาน พบหลานนั่งก้มหน้า น้ำตาคลอ และถูกใส่กุญแจมือ"ไม่ทัน!" หลานบอกทันทีที่เจอหน้า เขาไม่แน่ใจว่าคำว่า "ไม่ทัน" ของหลานนั้นหมายถึงอะไร มันอาจหมายถึงว่า "หนีตำรวจไม่ทัน" หรืออาจหมายถึงว่า "ทิ้งยาบ้าที่ติดตัวอยู่ไม่ทัน" เขาถามหลานสองสามคำและถามตำรวจอีกสองสามคำ ได้ความว่าหลานมียาบ้าติดตัวอยู่ 20 เม็ด พร้อมกับเงิน 4 พันกว่าบาท…