Skip to main content
ยามค่ำคืนที่เหน็บหนาวออกปานนี้ หนาวจนต้องสวมเสื้อกันหนาวหนาๆ ถึงสองชั้น หวังทนทานต่อความแหลมคมของไอหนาวที่แทรกซอนเข้ามาบาดเนื้อ เสื้อผ้าอาจปกป้องร่างกายไว้ได้บ้าง แต่บางความหนาวที่แทรกซึมเข้ามาได้กลับกระพือความร้อนรุ่มภายในให้ลุกโชน

 

ภาพถ่ายสุดท้ายของเจ้าเก๋า ในวันก่อนจะจากไปเพียงไม่กี่วัน

 

สิ้นสุดเสียทีอีกหนึ่งชีวิต ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป เพราะพิษของสารเคมีที่เข้าไปทำลายตับไตไส้พุงจนหมดสิ้น ในเวลาสี่วัน วันสุดท้ายของมันกับความรู้สึกห่วงใยของฉัน มันคงรับรู้ได้ นาทีสุดท้าย มันจึงสะท้อนลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วจึงทิ้งตัวลงบนตักฉัน แล้วจากไปนิรันดร์


เจ้าเก๋า
หมาหนุ่มน้อย วัยครบหนึ่งปีพอดีที่เกิดมา และเกือบหนึ่งปีที่มันเป็นเพื่อนคู่ทุกข์ของฉันในไร่กว้างกลางป่าแห่งนี้ ทุกที่ๆ ฉันไป ทุกครั้งที่เรียกหา เจ้าเก๋าจะไม่ยอมห่างกาย แม้อาจแวะออกนอกเส้นทาง เพื่อกระโจนไล่จับนกหนู ไปตามประสามัน แต่มันไม่เคยดื้อดึงให้รำคาญ ยกเว้นเวลาที่ฉันจะไปในหมู่บ้าน ถ้าไม่ล่ามโซ่เอาไว้ มันจะกวดตามไปติดๆ โดยที่ฉันไม่รู้ตัว เพราะมันจะแอบวิ่งไปในป่าข้างทาง ฉันมารู้ตัวอีกทีว่ามีมันตามมาเมื่อฉันถึงปลายทางเท่านั้น และนั่นคืออันตรายที่สุดที่จะเกิดกับมัน คือการโดนหมาเจ้าถิ่นรุมกัด

 

แต่เปล่าเลย เหตุการณ์แบบนั้นไม่เคยเกิดขึ้น ฉันไม่เคยปล่อยให้มันตามไปไกล มันไม่เคยได้เห็นถนนที่มีรถคันใหญ่ๆ วิ่งด้วยซ้ำไป ไม่ต้องกลัวว่ามันจะถูกรถชน แล้วตายแบบหมาข้างถนน แต่มันก็ต้องตายอย่างไม่สมควรจะตาย ถ้าเพียงแต่ฉันรู้เรื่องราวเหล่านี้มาก่อน มันอาจจะรอด

 

หลังจากข่าวการตายของเจ้าเก๋าถูกบอกเล่าออกไป ชาวไร่ละแวกนี้หลายคน ต่างบอกว่าหมาตัวเองก็โดนยาเบื่อตาย บางคนหมาตายหมดทั้งฝูง

 

ใครกันโหดร้ายถึงกับวางยาเบื่อหมา ไม่หรอก..ต่างคนต่างครุ่นคิดสงสัย ฉันเองยิ่งสงสัย

เจ้าเก๋าหายไปจากบ้านหนึ่งคืน ก่อนที่จะกลับมานอนซมไม่คิดจะกินข้าวกินปลา

 

เมื่อวานนี้...ฉันตื่นขึ้นมาพบว่า เจ้าเสือกำลังโก่งคออาเจียนในพงหญ้าที่หน้าบ้าน หางตก ท่าทางกระวนกระวาย ฉันรีบวิ่งลงบันได ใจสั่นยิ่งกว่าเห็นผี ด้วยความตกใจกลัวต่อความตายที่กำลังจู่โจมเข้ามาอีกหน เข้าไปดูใกล้ๆ ในกองอาเจียนมีแต่ฟองขาวข้นๆ จึงรีบอุ้มเจ้าหมาถึกตัวหนักอึ้งขนาดน้องๆ ลูกวัว เข้ามาที่ใต้ถุนแล้วเอาสายโซ่ล่ามคอมันไว้ไม่ให้หนีไปอาเจียนทุรนทุรายที่ไหน

 

มะนาวในครัวเหลืออยู่สี่ห้าลูก ฉันปาดและบีบน้ำมะนาวมือไม้สั่น ฉันจะต้องช่วยชีวิตเจ้าเสือเอาไว้ให้ได้ ต้องช่วยจนถึงที่สุด เพราะฉันไม่อาจสูญเสียมันไปได้อีกแล้ว

 

ทันทีที่น้ำมะนาวล่วงลงคอ ท่าทางมันสะดุ้งเพราะคาดไม่ถึงในรสชาด เริ่มแสดงอาการปฏิเสธยาชุดที่สอง นั่นคือไข่ดิบที่ฉันเตรียมตอกหย่อนใส่ปาก มันสะบัดๆปากพยายามดิ้นให้หลุดแต่ฉันก็ยัดเยียดลงไป

 

จากนั้นก็โทรฯหาสายใจ ที่จะต้องเข้ามาทำงานที่ไร่ของเธอเองทุกวัน ให้ช่วยเด็ดใบรางจืดที่บ้านเธอมาเผื่อฉันด้วย เพราะที่เหลือจากที่ใช้รักษาเจ้าเก๋า อาจจะไม่พอ และเพื่อความแน่ใจ ขอให้เธอซื้อยาแก้แพ้มาด้วย

 

ชั่วเวลาไม่นานสายใจมาพร้อมกับสิ่งที่ต้องการ เจ้าเสือจึงถูกมัดขาหน้าและถูกฉีกปากกรอกยาอย่างเต็มที่ ฉันปล่อยให้มันนอนพัก จนกระทั่งได้เวลากินข้าวเช้า มันยังนอนซมท่าทางเบื่อหน่อย ไม่แม้แต่จะลุกขึ้นมาดมอาหารของชอบ ฉันจึงเปลี่ยนเป็นนมข้นหวานชงน้ำอุ่นๆให้แทน มันจึงลุกขึ้นมากินอย่างเต็มใจ

 

ในที่สุด...ฉันก็ทำสำเร็จ สำหรับชีวิตเจ้าเสือเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากที่จำเป็นต้องมีมันจริงๆ


 

เรื่องความตายของหมาในไร่ ยังเป็นที่สงสัยและถกเถียงกัน

"ตาแส" บอกว่า เจ้าเก๋าไปติดพันหมาสาวของ "ยายน้อย" ที่ริมทุ่งนาโน่น มันอาจจะถูกยาเบื่อของเขาก็ได้ ฉันว่าไม่เคยเห็นมันไปไกลบ้านนานๆ ยกเว้นคืนนั้นคืนเดียวที่หายไป แต่บางทีมันก็ชอบไปนอนเงียบๆในกอหญ้าหลังบ้านทั้งคืน

 

"ยายแดง" บอกว่า ที่สระน้ำของตาแส แกล้างอุปกรณ์ฉีดยาลงในสระ น้ำยาจึงยังคงอยู่ในนั้น หมาเก๋าอาจจะไปกินน้ำเพราะมันชอบไปล่าหนูที่นั่น และ..แกยังเพิ่มข้อสงสัยอีกว่า หรือว่าตาเจน ที่มีนาทางทิศเหนือของไร่ฉัน จะเบื่อหนูที่จะมากินข้าว แล้วหมามันไปกินหนูที่โดนยาเบื่อ

 

ข้อสงสัยทั้งหมด ฉันไม่ต้องการคำตอบ เปล่าประโยชน์ ในเมื่อทุกคนยังไม่หยุดใช้สารเคมี แม้แต่ "ตาไพ" ยังบอกว่า หมามันไม่กินอะไรที่มีกลิ่นยาเคมีหรอก แค่ได้กลิ่นมันก็ถอยแล้ว

 

พูดง่ายมาก แกไม่เคยสงสัยเลยหรือว่า ทำไมยาที่แกพ่นเป็นฟุ้งฝอยจึงไม่มีกลิ่นเหม็นฉุน ให้แกต้องรู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องปิดปากปิดจมูก ฉันเคยเดินผ่านแปลงแตงโมที่ถูกฉีดยาในตอนหัวค่ำ แค่เพียงเวลาสายๆ ของอีกวัน ฉันยังรู้สึกเหมือนวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม เข่าอ่อนเหมือนจะทรุด จนสงสัยว่าเกิดโรคอะไรฉับพลัน ทั้งที่ฉันเชื่อมั่นว่าฉันยังแข็งแรงดีอยู่

 

เมื่อปีที่แล้ว "ยายหนู" ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของไร่ฉัน พบหมาจิ้งจอกแม่ลูก นอนตายอยู่ในแปลงแตงโมของแก เพราะมันมากินแตงหลังจากที่เจ้าของฉีดยาไปใหม่ๆ

 

ขนาดหมาจิ้งจอกที่มีสัญชาตญาณในการระแวดระวังอย่างสูง ยังเพลี้ยงพล้ำต่อสารเคมี แล้วหมาบ้านอย่างเจ้าเก๋าจะเอาตัวรอดได้อย่างไร

 

วันนี้ ฉันจึงต้องล่ามเจ้าเสือเอาไว้ ไม่ยอมให้มันไปไกลหูไกลตา ซึ่งมันอาจจะไม่เต็มใจนัก แต่เพื่อรักษาชีวิต...ฉันไม่มีทางเลือกอื่นอีกเลย

บล็อกของ เงาศิลป์

เงาศิลป์
ตอนที่ 3 กว่าจะรู้ว่าเป็นมะเร็ง "แม่ ป่านเบื่อกินยาจังเลย"ลูกบ่นเบาๆ ขณะที่หยิบยาออกมากินตามปกติทุกวันอย่างมีวินัย เป็นเวลาสามปีกว่าแล้ว ที่ลูกต้องเข้าออกโรงพยาบาลแล้วได้ยามากินระงับอาการปวดท้อง โดยที่ไม่มีใครเฉลียวใจเรื่องอื่น
เงาศิลป์
ก้อนเมฆหนาสีเทาทึมทึบ ขยับเคลื่อนช้าๆมาจากทิศตะวันตก จากโค้งฟ้าไกลๆค่อยๆเคลื่อนผ่านศรีษะฉันไปอย่างไม่เร่งร้อน คล้ายลังเลว่าจะแวะพักสักครู่ดีหรือไม่ คงไม่อาจรีรอได้ จึงบ่ายคล้อยต่อไปยังทิศตรงข้าม ทิ้งไอฉ่ำระเรี่ยพื้นพอให้คนรอคอยใจหายเล่น ชีวิตบางชีวิตก็เช่นกัน ..............
เงาศิลป์
    กองฟอนถูกตระเตรียมอย่างรวดเร็วภายในเช้าวันรุ่งขึ้น พิธีศพเป็นไปอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางญาติมิตรที่รักใคร่ผูกพัน ตกบ่าย ณ ลานหินริมหน้าผา เปลวเพลิงลุกโชน ลามเลียกองไม้และร่างกายผ่ายผอมนั้นให้หม่นไหม้กลายเป็นผงธุลี พร้อมๆกับน้ำตาที่หยาดลงบนร่องแก้มของใครหลายคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น
เงาศิลป์
ใครที่เคยสูญเสียสิ่งรัก คงจะรู้จักอาการปวดแสบปวดร้อนคล้ายถูกมือยักษ์ควักใจหัวใจออกมาบี้เล่น อย่างไม่ปราณีปราศรัยได้ดียิ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการเหล่านั้นค่อยๆจางหายสวนทางกับสติปัญญาที่เพิ่มมากขึ้น เราเรียกสิ่งนี้ว่าประสบการณ์ชีวิต แน่ล่ะ ทุกคนจะต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงลิบลิ่ว อย่างไม่เต็มใจ เสมอมา   ความทุกข์ จากความพลัดพรากในสิ่งที่รัก จึงเสียดแทงหัวใจเป็นที่สุด
เงาศิลป์
วันจากไปนิรันดร์ของใครบางคน ทำให้ใครหลายคนมาเจอกัน วันเช่นนั้น มักจะมีม่านแห่งความเศร้าคลี่คลุมไปทั่ว บางคนที่ตั้งสติได้ อาจย้อนถามใจตัวเองว่า ถ้าวันหนึ่งฉันจะต้องเป็นผู้ไปบ้าง อะไรจะเกิดขึ้น  อะไรจะเกิดขึ้น หมายถึงอะไรเล่าหมายถึงความเศร้าโศกเสียใจของใครบ้างหรือเปล่าหรือหมายถึง ความชื่นชมยินดีในวิถีแห่งการตาย พร้อมคำว่า....สาธุ
เงาศิลป์
ทุกอณูเนื้อบนผืนโลก เราล้วนต่างเหยียบย่ำซ้ำรอย น่าแปลก ที่ไม่มีใครจำได้ว่าได้ย่ำมาแล้วกี่ครั้งกี่หน ฉันหมายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นซ้ำซากในปัจจุบันชาติ หรืออาจลากพาย้อนกลับไปหลายอสงไขยชาติ มีบ้างไหมที่พบว่าบางพื้นถิ่นเรารู้สึกคุ้นชินเหมือนเคยอยู่ มีบ้างไหม กับบางคนที่รู้สึกคุ้นเคยเหมือนได้ชิดใกล้กันมาก่อน ถ้าไม่แข็งขืนปฏิเสธการมีอยู่ของความทรงจำซ้ำซาก ที่ไม่เคยชัดเจนแต่ทิ้งเค้าลางเอาไว้อย่างแนบเนียน ฉันว่าใครหลายคนที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมฉัน และทิ้งคำจำนรรเอาไว้บ้างนั้น เราล้วนเคยเป็นพี่น้องกัน ไม่เช่นนั้นหนทางโคจรจะวกวนให้มาเจอกันได้อย่างไร
เงาศิลป์
เสียงเห่าโฮ่งๆ ดังกังวานมาจากในป่า เป็นเสียงที่ดุกร้าวบอกเหตุบางอย่างว่าเร่งด่วน เจ้าหลาม...แม่หมา เจ้าเสือ...พี่หมารีบหันหลังกระโจนพรวดไปทางเสียงนั้น เจ้าตัวเล็กอีกสามตัววิ่งตามกันไปเป็นพรวน ฉันชะเง้อตามดู เห็นเจ้าด๊อกกี้กำลังตั้งหน้าตั้งตาเห่าบางอย่างราวกับจะเปิดฉากต่อสู้ และเมื่อทุกตัวไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าตัวดีกลับวิ่งมาทางฉัน ในปากมีอะไรคาบอยู่ ฉันจึงเรียกให้หยุด มันทำตามแต่โดยดี พลางคายสิ่งนั้นลงบนพื้นดิน
เงาศิลป์
ค่ำคืนหนึ่ง... เม็ดฝนทิ้งรอยให้แกะรอยเช้าตรู่ ยังไม่ทันเงยหน้าดูท้องฟ้า ฉันรีบก้มหน้าดูพื้นดิน เห็นรูพรุนเล็กๆ ที่ฟ้าทิ้งรอยไว้ให้อย่างมีเงื่อนงำ ไฉนไม่ยอมทำลายซากของฝุ่นผงให้หมดสิ้น ทำแบบนี้ทำไมกัน ไม่รู้หรือว่าฉันปวดร้าวหัวใจ ฝนเอ๋ย จนสาย อาการกระหายใคร่จะให้หยาดฝนริน ยังไม่ยอมจางหายไปจากใจ เทียวเดินเข้าเดินออกใต้ถุนบ้านเงยหน้าดูท้องฟ้า พลางนึกถึงอดีตที่เคยถูกทักถาม ยามที่ทำงานเร่ร่อนตามหมู่บ้าน บ้านแล้วบ้านเล่า ซอกซอนไปเรื่อยๆ ยุคสมัยที่อีสานยังรุ่มรวยไปด้วยถนนสายฝุ่นสีทองแดง คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านย่านป่าลึก มักจะเอ่ยปากถามเป็นคำแรกว่า "ที่บ้านฝนตกบ่หล่า" ตอนนั้นตอบไปเรื่อยๆ…
เงาศิลป์
ไอชื้นของลมฝนที่โชยผ่านผิวมาจากที่ไกลแสนไกล ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือนั่น มันคงเดินทางมาไกลมาก ไกลจนมองไม่เห็นแม้แต่เค้ารางของม่านฝนที่จะมาถึง แต่เพียงแค่นี้ก็ช่วยขับไล่ความร้อนอ้าวให้หนีห่าง พร้อมมอบความหวังใหม่ให้แก่ชีวิต ทั้งคนทั้งสัตว์ทั้งต้นไม้ให้เริงรำได้อีกครั้ง ดูนั่นสิ..สีน้ำตาลจากราวป่ารอบๆ ไร่ เริ่มระบายสีเขียวอ่อนลงไปแทน อีกไม่นานดอกไม้สีเหลือง สีขาว กลิ่นกรุ่นก็จะผลิแย้มกำจายกลิ่นไปทั่วป่า
เงาศิลป์
ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่คละเคล้าก่อตัวกันเป็นโลกและชีวิต มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ อย่างปกติ..... ลมหนาวพัดกรรโชกไร้ทิศทาง พัดพาเอาควันไฟจากกองฟืนใต้ถุนกระท่อมเล็ดลอดผ่านช่องว่างแผ่นกระดานปูพื้นทำให้รู้สึกแสบตาแสบจมูกอยู่เป็นระยะ
เงาศิลป์
ฉันมีเรื่องราวจะแลกเปลี่ยน ลองฟังดูนะ ตาเก้กับการลงทุน “คนอย่างผม ถ้าทำอะไรก็ต้องทุ่มหมดตัว” ตาเก้พูดเสียงต่ำ สีหน้ายิ้มเหยียดหน่อยๆ บ่งถึงความสาสมใจในชีวิต ขณะย่ำเดินไปบนพื้นดินทรายที่เพิ่งถูกผานไถพลิกพรวนให้กอหญ้าคว่ำหน้าลง แกกำลังจะลงทุนอีกรอบบนผืนดินนี้ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ของโรงงานน้ำตาลฟันธงแล้วว่า “ดินเสื่อมสภาพหมดแล้ว”
เงาศิลป์
๑. ยามพลบค่ำ อาณาจักรบ้านไร่อาบแสงจันทร์ผ่องนวล ลมหนาวพัดเคล้าคลอพอให้เหน็บหนาว สลับไออุ่นจากไฟฟืนที่กรุ่นกำจายจนรู้สึกได้ถึงความต่างระหว่างอุ่นกับหนาว ที่ห่มพัน คืนแสงจันทร์จ้าจนแทบมองเห็นใบหน้าคนที่เดินอยู่ไกลๆ กับถนนสายฝุ่นที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นับสิบสาย ด้วยรอยเท้าคนและล้ออีแต๊ก แต่ละเส้นทางล้วนตั้งต้นมาจากหมู่บ้านรอบนอก พาดผ่านทุ่งนาที่กลายเป็นดินแข็งกระด้างปกคลุมเพียงตอซังข้าวที่รอเวลาถูกเผาทิ้ง ถนนทุกสายมุ่งสู่ป่าชุมชนผืนใหญ่นี้อีกครั้ง หลังจากสายน้ำหลากล้นปิดกั้นการสัญจรในหลายเดือนที่ผ่านมา ฤดูแล้งของพื้นที่แห่งนี้ จึงเป็นฤดูกาลที่คึกคักพลุ่งพล่านไปด้วยกลิ่นอายของการเข่นฆ่า