Skip to main content

มือขวาที่บวมเบ่ง ความสากกร้านที่ห่อหุ้มยิ่งทำให้มือนั้นดูเทอะทะ เจ้าของมือยังมีเค้าความสวยงาม แม้วัยล่วงเลยจนเป็นย่าคนแล้ว เธอยังต้องทำงานหนัก จนกระทั่งบาดเจ็บ

ฉันค่อยๆลูบยาหม่องสูตรเข้มข้นที่ปรุงเอง ความร้อนของน้ำมันสมุนไพรคงพอบรรเทาอาการ ที่สำคัญกว่าสิ่งใดในการเยียวยาคือให้พักงาน หยุดใช้มือนั้นทำงานสักระยะ  เธอยิ้มตอบคำแนะนำอย่างสดใส บนใบหน้ากร้านแดด บอกว่าทำไม่ได้หรอก งานมีเยอะแยะ หนี้สินอีกมากมายจะหยุดทำงานได้อย่างไร

“นี่ก็เปลี่ยนกันทำงาน ให้ตาเก้ไปรับจ้างไถไร่เพิ้น เอาเงินมาซื้อน้ำมันสูบน้ำใส่ไร่อ้อย ข้อยกะต้องมาเลี้ยงวัวแล้วกะเสียหญ้าอ้อยไปนำ” ฉันคลึงเบาๆที่นิ้วกลางอันบวมช้ำ เพื่อให้น้ำมันซึมลงใต้ผิวหนัง คำบอกเล่าเรื่อยๆอย่างเป็นธรรมดาในน้ำเสียง แต่ฉันสิ ที่เป็นฝ่ายสะท้อนใจ...จะอีกสักเท่าไหร่กันหนอ จึงจะพอ

เรื่องของน้ำ น้ำมัน และหนี้สิน ดูเหมือนจะมีสาเหตุมาจากการขาดน้ำ

เสียงขุดเจาะน้ำบาดาลที่ดังกึงๆ เงียบลงแล้ว ช่างเจาะบอกว่าเจอหินที่แข็งมาก มันเป็นหินทรายที่ใช้ลับมีด ฉะนั้น บ่อน้ำบาดาลของฉันอาจจะมีความลึกได้แค่เพียง 30 เมตร และน้ำจับที่ระดับ 21 เมตร
โอ...คุณพระช่วย ฉันไม่อยากคิดถึงปริมาณน้ำที่ยังไม่ได้ทดลองสูบขึ้นมาดูว่าจะไหลมากน้อยและสม่ำเสมอแค่ไหน

20080220 ภาพประกอบ (1)

การเจาะน้ำบาดาล ใช้เครื่องเจาะขนาดใหญ่ราคาแพง เพราะฉันสังหรณ์ใจว่าจะต้องเจอหินแข็งอยู่ข้างล่าง  ค่าใช้จ่ายที่รวมทุกอย่างเบ็ดเสร็จแล้ว จึงขยับสูงขึ้นไปถึงหกหลัก หากได้มันมาแล้ว ฉันมิต้องไปรับจ้างถากหญ้าในไร่อ้อย เอาเงินมาซื้อน้ำมันเพื่อสูบน้ำหรอกหรือนี่...................!!!

คนมือเคล็ดรายต่อไปอาจเป็นฉัน

เมื่อวานช่างสันต์ ตั้งใจจะทดลองสูบน้ำขึ้นมาดู แต่เมื่อเห็นเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กของฉันเขาถึงกับอึ้ง ยืนยันว่าใช้ไม่ได้ ฉันรึ อุตส่าห์หาข้อมูลมาอย่างดี แม้ไม่เคยเห็นกับตาว่ามันทำงานกันได้กับเครื่องสูบน้ำราคาแพง พะยี่ห้อหรู และนำเข้ามาจากอเมริกา

ข้อมูลที่เรียนรู้มาว่าเครื่องสูบน้ำแบบนี้ ขนาด 1 แรงม้า (1 HP) ใช้กับไฟฟ้า ได้ 750 วัตต์ เครื่องปั่นไฟฉันทำงานเต็มที่ได้ 800 วัตต์  แต่ช่างสันต์ยังส่ายหน้า ยืนยันว่าไม่มีใครเขาใช้กัน ต้องใช้เครื่องคูโบต้าและไดนาโมปั่นไฟ ราคารวมแล้วไม่ต่ำกว่าสามหมื่นบาท ฉันใจหายวาบ ไม่มีคำว่าเป็นไปได้เลยหรือนี่ ก็ฉันเห็นข้างกล่องเขียนว่าใช้ไฟฟ้าขนาด 0.75 KW สรุปว่าหลักวิชาการของฉันกับประสบการณ์ของเขาไปด้วยกันไม่ได้ ใครกันแน่ที่ไม่รู้จริง
แต่ฉันก็ไม่มีทางพิสูจน์ เพราะว่าคุณสมบัติของปั๊มชนิดนี้คือ ถ้ากำลังไฟฟ้าไม่พอมันจะเผาไหม้ตัวเองทันที  โอ..พระเจ้า  ฉันจะขาดใจตาย

20080220 ภาพประกอบ (2)

วันแรกที่เจาะบาดาล เพื่อนบ้านย่านป่าดงนั่งรถอีแต๊กมาดูปานว่ามาดูหนังกลางแปลง พอเจาะวันที่สอง พวกเขาก็หายไป จนกระทั่งวันที่สี่มีน้ำพุ่งขึ้นมาตามแรงลมเป่า พวกเขาก็กลับมาช่วยลุ้นกันอีก  วันนี้วันที่หก ที่เครื่องเจาะทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง เพราะอุปกรณ์การเจาะมีปัญหา  ส่วนฉันยิ่งมีปัญหา เพราะว่าวันทำบุญครบรอบวันตายของพ่อกระชั้นเข้ามาทุกที ฉันเผลอว้าวุ่นใจ มารู้สึกตัวอีกทีก็แทบหมดเรี่ยวแรง

อาการอยากควบคุมโลกให้ได้ดั่งใจ จึงถูกสั่งสอนจากความไม่แน่นอน ให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนในใจ  ยิ่งวันเดินทางกลับบ้านใกล้เข้ามาทุกที หากงานเจาะน้ำบาดาลยังไม่เสร็จ ฉันจะทำอย่างไร ในเมื่องานทำบุญครบรอบปีที่สี่ ที่พ่อเสียชีวิตก็สำคัญต่อฉันเช่นกัน

ความสุขที่เคยล้นปรี่ออกมาแข่งกับสายน้ำที่พุ่งเป็นฟองฝอยในวันที่เจอตาน้ำแรก เริ่มลดลงพร้อมกับสายน้ำที่ลดระดับลงเรื่อยๆ ทั้งที่ยังไม่ได้สูบขึ้นมาชื่นชมแม้แต่หยดเดียว

บล็อกของ เงาศิลป์

เงาศิลป์
ฉันสังเกตดูรอบๆ บ้านหลังน้อยของลุงลี แทบไม่มีพืชผักที่พอจะเก็บกินได้ สงสัยอยู่ครามครันว่า ทำไมไม่ปลูก ในเมื่อแกเป็นคนเก่าแก่และเป็นคนเดียวที่อยู่ในป่านี้มานานถึง 20 กว่าปี ตอนที่ฉันได้หน่อกล้วยหอมพันธุ์ดีมาจากหนองคาย แกก็ยังอุตส่าห์เอาปุ๋ยขี้ควายมาให้ตั้งสามกระสอบ แถมยังสอนวิธีปลูกให้อีกด้วย เมื่อเห็นฉันลงมือขุดหลุมห่างๆ เพราะคิดว่าในอนาคตมันต้องแตกหน่อมาชนกันเอง แกกลับบอกว่าให้ชิดๆกันหน่อยจะดีกว่า เป็นแรงดึงดูดให้กล้วยโตเร็วขึ้น ฉันก็เอาตามนั้น ก้นหลุมกว้างลึกรองด้วยปุ๋ยมูลสัตว์สลับหญ้าแห้ง ดูเป็นวิชาการมากๆ ตามคำแนะนำของแกถามแกว่าจะเอาไปปลูกเองสักต้นไหม…
เงาศิลป์
ฟืนท่อนใหญ่ถูกซุนเพิ่มเข้าไปอีกท่อน มันเป็นไม้ส้มเสี้ยวที่ถูกโค่นล้มลงเพราะขวางทางรถยนต์คันใหญ่ คนตัดบอกว่าไม้ชนิดนี้ยากที่จะแปรรูปเพราะเนื้อไม้บิดเป็นเกลียว ฉันจึงขอให้เขาตัดเป็นท่อนสั้นๆ เพื่อจะใช้ประโยชน์ตามแต่จะคิดได้ แต่พอลมหนาวทายทักแข็งขันมากขึ้น ฉันต้องตัดใจตัวเองจนเลือดซิบ ขณะที่ก้มลงลากมันมาใส่ไฟอย่างยากเย็น เพราะทั้งหนักและเสียดาย และรู้สึกผิดต่อตัวเองหมาน้อยสองตัวต้องการความอบอุ่นตลอดคืน ฉันเองก็ต้องการ แม้จะมีผ้าห่มแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะกันหนาวได้ การใช้ฟืนดุ้นเล็กๆ คือภาระที่ต้องลุกขึ้นมาใส่ไฟเกือบตลอดเวลา ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือไว้ทำงานในไร่ยามกลางวันอีกเป็นแน่…
เงาศิลป์
สวัสดีค่ะ ขาดหายไปนานสำหรับเรื่องของชะตากรรมคนขาหัก ขอสารภาพว่าที่ทิ้งช่วงห่างหายไปนานขนาดนี้ เพราะว่าขาดความเชื่อมั่นที่จะเขียน (อย่างรุนแรง) เนื่องจากรู้สึกว่าท่านผู้อ่านประชาไท ค่อนข้างมีภูมิปัญญาสูง แต่คนเขียนปัญญาต่ำ ครุ่นคิดอยู่นานว่าจะจบเรื่องนี้อย่างไรดี ในท่ามกลางสภาพปัญหาการดิ้นรนรักษาตนเองและบางครั้งได้รับการดูแลอย่างไม่คาดคิด ค่ะ...ตอนนี้ขอสรุปรวบรัดเล่าให้ฟังว่า เกิดอะไรขึ้นในที่สุด.....หลายครั้งที่ได้พบและเรียนรู้เรื่องการดูแลสุขภาพจากผู้รู้ แต่ครั้งที่เป็นประสบการณ์ตรงที่สุดก็คือ การฝังเข็มจากพี่อ้อย (กัลยา ใหญ่ประสาน) รุ่นพี่ที่เคารพรัก เจ้าของร้านอาหารสุขภาพโขง-สาละวิน…
เงาศิลป์
วันเวลาที่ผ่านไป ฉันค่อยๆ คลายความกังวล แม้ว่าความรู้สึกเจ็บปวดจะมาอยู่เป็นเพื่อนเกือบตลอดเวลา แต่วิชาเกลือจิ้มเกลือ เจ็บแก้เจ็บ ยังใช้ได้เสมอ (โปรดใช้วิจารณญาณในการนำไปทดลอง)และแล้วเหมือนกรรมบันดาล (อีกแล้ว) วันหนึ่ง ฉันได้เรียนรู้ว่า คนเราได้ใช้ศักยภาพของตัวเองเพียงแค่ 60 – 70 % เท่านั้น ส่วนที่เหลือยังไม่เคยรู้จักมัน และปล่อยให้มายาคติบางอย่างครอบงำ โดยเฉพาะคำว่า “อย่าทำ” .... “ไม่ควรทำ”.....หรือ “ไม่เหมาะสมที่จะทำ” และอะไรอีกหลายความคิดที่ปิดกั้นโอกาสของตัวเองกลางเดือนตุลาคมของปีหนึ่ง ฉันเร่ร่อนลงเรือไปที่หาดไร่เล ตอนนั้นแทบว่าไม่มีคนไทยรู้จักหาดไร่เล นอกจากฮิปปี้และนักปีนผา (…
เงาศิลป์
การขึ้นภูกระดึงอย่างไร้ความพร้อม กลับทำให้ฉันได้สิ่งดีๆมากมายคุณนิมิตร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว ได้เขียนจดหมายน้อยอย่างไม่เป็นทางการ ให้ฉันถือไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่บนภู ที่เป็นเพื่อนกัน ในจดหมายเขียนว่า “ช่วยดูแลคนที่ถือจดหมายฉบับนี้ด้วย ตามสมควร” ที่อาคารลงทะเบียนบนภู ฉันยื่นจดหมายให้กับเจ้าหน้าที่ คะเนจากหน้าตา เขาคนนั้นคงมีอายุพอๆกับฉัน เมื่ออ่านจบเขามองหน้าฉันอย่างเฉยเมย บอกว่าบ้านพักเต็มหมดแล้ว เหลือแต่เต๊นท์  ฉันบอกว่าฉันตั้งใจจะพักเต๊นท์อยู่แล้ว“มากันกี่คน” น้ำเสียงห้วนๆ  ไม่รู้ทำไม“คุณเห็นกี่คนล่ะคะ คุณเห็นแค่ไหนก็แค่นั้นล่ะค่ะ” ฉันตอบกึ่งยียวน…
เงาศิลป์
เช้าวันนี้….ใบไม้สีเหลืองเกลื่อนพื้น ดูสวยงาม แต่ไม่นานมันจะถูกเรียกว่า “ขยะ” ด้วยเรียวไม้กวาดก้านมะพร้าว ค่อยๆลากให้มันมากองรวมกัน ทีละนิดรอยทรายเป็นเส้นลดเลี้ยวตามแนวกวาด ลีลาคล้ายบทกวีร้อยบท ที่มีเนื้อหาเดียว คือความสงบทุกเช้า ฉันจะอยู่กับมัน ทั้งไม้กวาด พื้นทรายและใบไม้ร่วงสายตาจับอยู่ที่พื้น..แต่ด้วยหางตา เห็นบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่บนถนนหน้าบ้าน  จากที่ยืนอยู่ ระยะทางราวร้อยก้าว เงาร่างเดินโยกเยก บดบังด้วยแนวพุ่มไม้เตี้ยๆ จึงมุ่งมองอย่างตั้งใจ เห็นใครบางคนเคลื่อนไหวอย่างช้าๆจึงเดินออกไปดูร่างล่ำสันค่อยๆ เคลื่อนไปอย่างลำบาก เขาใช้ไม้ยาวๆ ค้ำถ่อ ประคองร่างกายให้ขาตวัดสลับกันไป …
เงาศิลป์
“ฉันจะต้องไม่พิการ”ฉันคำรามหนักแน่นอยู่ในใจ ในคืนวันหนึ่ง เมื่อนอนอยู่ในท่าทีเอาขาขวาพาดไว้บนกำแพง เพื่อดัดขาไล่ความเมื่อยล้า จากงานหนักจากวันนั้น อะไรก็ตามที่ทำให้เข่าของฉันเจ็บน้อยลง ฉันจะทำทันที เริ่มจากการค้นหาวิธีแก้ไข ควบคู่ไปกับการยอมรับความเจ็บปวดของขาข้างขวาว่าเป็นคู่แท้ของชีวิตปีแรก ฉันเดินกะเผลกแบบคนขาเป๋ เพราะขาขวาสั้นกว่าขาซ้าย และยังไม่มีพละกำลัง เวลาเดินจึงเห็นว่าตัวเอียงมาก เป็นที่เวทนาตัวเองยามคนจ้องมอง ทำให้ฉันเข้าใจหัวอกคนพิการมากขึ้นแต่แล้ววันหนึ่ง เหมือนพระมาโปรด ฉันกลับมากรุงเทพฯ แล้วไปเยี่ยมเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัย ขณะนั่งอยู่ริมสนามฟุตบอล มองคนอื่นๆเล่นกิฬา อย่างเสียดาย…