Skip to main content

 

 

28 กรกฎาคม 2557

 

เรื่อง  ขอให้ช่วยปกป้อง คุ้มครอง สิทธิมนุษยชน กรณีคนในครอบครัว ของผู้ที่ไม่ไปรายงานตัว ตามคำสั่งของ คสช. ถูกข่มขู่ คุกคาม

 

เรียน  ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย - Asian Human Rights Commision (AHRC), Human Rights Watch, Amnesty International

 

กระผม นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล อายุ 42 ปี เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย เป็นอดีตผู้ต้องขังคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่ถูกตัดสินให้ถูกจำคุก 13 ปี และถูกจองจำอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 15 วัน และได้พ้นโทษออกมา เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2556 โดยการได้รับพระราชทานอภัยโทษรายบุคคล

ภายหลังจากที่กระผมได้พ้นโทษออกมาแล้ว ก็ได้เริ่มต้นประกอบอาชีพเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้กระผมต้องถูกจองจำอีกเลย กระผมเพียงแต่เข้าไปมีส่วนร่วมบ้าง ในกิจกรรมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย บ้างเป็นครั้งคราว ตามสิทธิที่ประชาชนทุกคนบนแผ่นดินนี้พึงมี

 

ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำการยึดอำนาจการบริหาร จากรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งของประชาชน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ได้มีการเรียกบุคคลเข้าไปรายงานตัวจำนวนมาก รวมทั้งตัวกระผมด้วยเช่นกัน ด้วยคำสั่งฉบับที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2557

จากคำสั่งดังกล่าว กระผมเลือกที่จะหลบซ่อน ไม่ไปรายงานตัว เพราะคิดว่า คสช. ไม่มีความชอบธรรม และอำนาจที่พวกเขาได้มานั้น เป็นอำนาจจากปลายกระบอกปืน ไม่เป็นที่ยอมรับจากนานาอารยะประเทศ

 

แต่หลังจากที่ผมได้หลบซ่อนตัวได้ระยะหนึ่ง บิดา มารดา ที่ชราภาพ พี่น้อง รวมทั้งลูกชายของกระผม ได้ถูกคุกคาม ข่มขู่ โดยเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องปฏิบัติงานภายใต้กฎอัยการศึก ของ คสช. โดยการส่งเจ้าหน้าตำรวจ ทหาร แวะเวียนเข้าไปแทบจะทุกวัน บางวัน 2 เวลาเช้าเย็น สร้างความทุกข์ทรมาน ให้กับคนในครอบครัวกระผม โดยเฉพาะมารดาของผม ถึงขั้นเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปพบครอบครัวกระผมกล่าวว่า จะไปพบเช่นนี้ตลอดไปจนกว่ากระผมจะเข้าไปรายงานตัวกับทาง คสช.  

 

พฤติกรรมดังกล่าวนี้ เป็นการกระทำที่ผิดหลักสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน เพราะมีการใช้อำนาจกับบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องน่าละอายมาก ที่คณะผู้ยึดอำนาจ ใช้กระทำกับบุคคลที่เป็นเพียงประชาชนคนธรรมดา

 

กระผมจึงขอเรียกร้องมายังท่าน ได้โปรดช่วยเหลือ ปกป้อง คุ้มครองคนในครอบครัวของกระผม ให้ได้รับความปลอดภัยด้วย อีกทั้งขอให้ท่านช่วยผลักดัน ให้มีการหยุดการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปคุกคาม ข่มขู่ คนในครอบครัวกระผม รวมถึงครอบครัวอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของ คสช. ในทันที

 

กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร้องขอของกระผมนี้ จะได้รับการพิจาณาจากท่าน

ขอแสดงความนับถือ

 

นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล 

ประชาชนไทยที่ไม่ยอมรับอำนาจเผด็จการ      

 

 

บล็อกของ หนุ่มเรดนนท์

หนุ่มเรดนนท์
วันนี้เมื่อ 7 ปีก่อน เป็นวันที่ คสช.
หนุ่มเรดนนท์
ช่วงนี้ ได้เห็นเพื่อนๆ หลายคน ได้โพสต์เรื่องราว เกี่ยวกับ "ตูน - ธเนตร อนันตวงษ์" ผู้ต้องหารายล่าสุด ที่โดน คสช.
หนุ่มเรดนนท์
หลังจากข้ามพ้นดินแดนบ้านเกิดมาแล้ว พวกเราก็ใช้ชีวิตในแบบนักท่องเที่ยวทั่วไป เราเช่าห้องพักเล็กๆ ราคาถูก อยู่กันชั่วคราว เพื่อตั้งหลักที่จะคิดทำอะไรกันต่อ ตอนนั้น ทุกคนต่างมี
หนุ่มเรดนนท์
"ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ" ผมหันหน้ามองไปที่ประตูห้องที่ผมพักอยู่ พลางคิดในใจว่า "อะไรมันจะมาเร็วกันขนาดนั้นนะ" ผมถอนหายใจยาวๆ อีกครั้ง แล้วเดินไปตามเสียงนั้น ค่อยๆ เปิดประตูออก ด
หนุ่มเรดนนท์
 
หนุ่มเรดนนท์
“ถ้าผมรู้ว่าอากงจะจากไปเร็วอย่างนี้ ผมคงจะดูแลอากงให้ดีกว่านี้” ผมยังจำได้ไม่มีวันลืม เพราะคำพูดนี้ ผมได้พูดกับทนายอานนท์ นำภ
หนุ่มเรดนนท์
นับจากที่ผมได้เข้ามอบตัวต่อศาลอาญารัชดา เพื่อต้องการที่จะต่อสู้คดีตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2555 จนถึงตอนนี้ก็ย่างเข้าเดือนที่ 11 และผมก็ได้ขอยื่นประกันตัวเพื่อสู้คดีตามสิทธิขั้นพื้นฐานรวมแล้วก็ 6 ครั้ง และได้รับการ
หนุ่มเรดนนท์
เป็น เดือนที่ 5 แล้วสำหรับการใช้ชีวิตในเรือนจำแห่งนี้ของผม หลังจากที่ครบ 4 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์นี้นับเป็นสัปดาห์ที่สำคัญที่สุดสัปดาห์หนึ่งของการเมืองไทย โดยเฉพาะผู้ต้องขังเสื้อแดง เพราะรัฐบาลที่มีพรรคเพ
หนุ่มเรดนนท์
ผมเขียนเรื่องนี้มาตั้งแต่อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของเพื่อนในเรือนจำคนหนึ่ง ซึ่งถูกพี่ชายแท้ๆ แจ้งจับในคดีร้ายแรงคดีหนึ่ง บทความนี้ จะเกี่ยวข้องกับบทคว