ชีวิตเกิดมาหนนี้ สิ่งที่ต้องการสูงสุดคืออะไร? คำถามนี้ ถามแล้ว ถามอีก ใจคอยถามอยู่ตลอดเวลาว่าต้องการอะไร ปรารถนาสิ่งใด ทำไมยังไม่มุ่งไปทางนั้นให้เต็มที่ ไยจึงกลัวที่จะเลือก ที่จะตัดสินใจ แม้ว่ารู้และเห็นว่าความน่ากลัว สังเวช อนาถใจของการเวียนว่ายนี้มีมากน้อยเพียงใด แต่เหตุใด ใจจึงไม่เคยหลุดออกจากสมมุติมากมายที่เกาะกุมเราไว้
วันนั้น, เป็นวันที่เห็นความทุกข์ชัดเจน สภาวะการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงค่ำ ตอนนั้น กายและใจบีบคั้นมาก ใจนี้จากที่พบว่ามีทุกข์ มีสุข กลับมองเห็นแต่ความทุกข์เกิดขึ้น ไม่ว่าหายใจเข้า หายใจออก ความรู้สึกทุกข์ใจจากชีวิต ไม่ว่าจะเป็นของตนเอง ของครอบครัว ของคนรัก เพื่อน ญาติ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ก็วนเวียนไปไม่รู้จักจบสิ้น
ใจที่ ตกอยู่ในจิตอันตั้งมั่น ดิ่งลงไปดึงรั้งเอาทุกข์ก้อนหนึ่งให้โผล่ขึ้นมาปรากฏให้เห็น ก้อนธาตุที่อัดแน่น จุกหนัก ใจมองเวทนาที่เกิดขึ้น จิตเกิดความอยากให้มันหายไป เมื่อรู้สึกตัวก็ตัดความอยากทิ้งลงไป กลายสภาพยังความหนักอีกครั้ง แล้วจิตก็เกิดความรู้สึกไม่ยินดีขึ้นมาอีกหน ทำให้อยากลุกขึ้นไปทำอย่างอื่นเพื่อให้อาการนี้หายไป ใจเกิดความอยากอีกหน รอบนี้มองเห็นความอยากผุดขึ้นมา แล้วใจเห็นมันทุกข์ อยากจะไปให้พ้น ให้ได้
มอง เห็นมันทุกข์กายในก้อนธาตุนี้ ใจนึกขึ้นว่าจะเกิดอะไรก็เกิดไป จะตายก็ตายลงตรงนี้ไปเลย ไม่เอาแล้วกายนี้ ใจเห็นความเป็นกลาง วางในก้อนทุกข์เวทนา ใจก็คลายความอยากลง เบาบางลงๆ ความตึงแน่นหลุดออกมาทีละเปราะ ๆ กลับมาอยู่กับความเบาบาง โปร่ง โล่ง สว่างอีกหน
พิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว หดหู่ใจยิ่งนัก เห็นภพชาติขาดสะบั้น ใจที่หลงยินดีในสมมุติ ในหน้าที่การงาน ในตำแหน่ง ในบทบาททางสังคมมากมาย สิ่งเหล่านี้ หาใช่ความจริงอันสูงสุดที่ปรารถนาจะไปถึง กลับมาอยู่กับความจริงตรงหน้า ที่กายและใจรู้สึกขึ้นมา ฉุกคิดพิจารณาเห็นสัจธรรมนี้แล้ว ยิ่งทำให้อยากจะไปให้พ้นจากวงเวียนเหล่านี้อย่างแท้จริง
ผมมองเห็น สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ด้วยใจที่เป็นกลาง และก็ได้เกิดใจสลดสังเวชตามมา ไม่รู้ว่า ชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป และยามนี้ ควรจะทำยังไงดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ ชีวิตที่อยู่ในโลกสมมุติและโลกแห่งความจริงมีเส้นบางๆ บางอย่างกั้นไว้ ไม่รู้จะวางตัวเองอยู่ตรงจุดไกน จะอยู่บนโลกใบนี้อย่างไร สภาวะต่างๆ ที่ได้พบเจอบอกอะไรกับตัวเอง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ย่อมมีเกิดจากเหตุแห่งการภาวนา และเมื่อเกิดผลเช่นนี้แล้วย่อมต้องน้อมใจมองอย่างลึกซึ้ง
มองให้เห็น ด้วยใจที่ “รู้” ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ในกายและใจ ณ ปัจจุบันขณะ
ขอเพียงมุ่งทำความเพียร ให้สม่ำเสมออยู่ต่อเนื่อง แล้วใจจะพาไปที่ไหนนั้น เป็นสิ่งที่ต้องปล่อยให้เป็นไปตามวิถีแห่งเหตุปัจจัย...