อะไรๆ ในโลกนี้มันน่าสนใจไปหมดแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีแต่ผู้คนหันไปมอง หันไปพูดถึง เก็บมาเล่ากันทั่วบ้านทั่วเมือง ช่วยผลิตซ้ำ และแม้กระทั่งสร้างคู่ตรงข้ามให้กับคนที่ไม่รู้ และ/หรือ ไม่อยากรู้
ขณะเดียวกันสิ่งที่ผมคิดว่ามันน่าสนใจมาก ๆ โคตร ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือสิ่งที่อยู่ในซอกหลืบไม่ค่อยมีคนสนใจ มันดูเหมือนการได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่อาจจะทำให้เราอัศจรรย์ใจหรือทำให้ผิดหวังก็ได้
เพียงแต่ในทุกวันนี้ไอ้สิ่งที่อยู่ในซอกหลืบจริงๆ มันหายากขึ้นทุกที ในวงการเพลงอินดี้อะไรทั้งหลายก็มีชื่อวงทั้งต่างประเทศและในประเทศผุดผาดขึ้นมาให้จำกันไม่ทัน และพอลองเจียดเวลา (อันน้อยนิด) จากการทำมาหากินมาลองฟัง ก็รู้สึกว่ามันไม่มีวง "เข้าหู" เลยสักวง จะด้วยประสบการณ์ที่ยังมีมีไม่มาก จะด้วยการมาสเตอร์ริ่งงานในภาวะที่งบน้อยด้อยทุน หรือจะอะไรก็ตามแต่ มันทำให้ผมเสียกำลังใจในการพยายามจะติดตามและให้ความสนใจงาน So-Called อินดี้ เหล่านี้เหมือนกัน คิดให้เข้าข้างตัวเองน้อยกว่านี้หน่อยอาจะจะเป็นเพราะว่างานพวกไม่ใช่รสนิยมของผมก็เป็นได้
นึกถึงตอนช่วงก่อนๆ ที่ผมมีโอกาสได้ฟังงานจากศิลปินสาวชาวอาเจนติน่าที่ทำป็อบร็อคได้ดีไม่แพ้งานเดวิด โบวี่ ยุค 70's ขณะเดียวกันผมก็คุ้ยอินเตอร์เน็ตไปพบงานของนักดนตรีโฟล์คสาวชาวอเมริกันที่ทำตัวลึกลับๆ แต่งานเธอมีเสน่ห์ และที่ผมชอบอีกอย่างคือเธอบอกว่าตัวเองขี้อาย เวลาที่ใครมาฟังเพลงของเธอต่อหน้าเธอจะรู้สึกแปลกๆ จนถึงขั้นเปรียบตัวเองว่าเป็นโอตาคุทางดนตรี เลยทีเดียว
(ผมว่าตรงนี้ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่าง ที่เธออยู่ในซอบหลืบ ไม่ใช่เพราะอยากสร้างความเด่นแบบใหม่ เพียงแต่ว่าตัวเธอเองขี้อายเองต่างหาก ตั้งคำถามเสียหน่อยว่า "งาน" ดนตรีมันจำเป็นต้องผลิตจากนักดนตรีที่ชอบ PR ตัวเองด้วยไหม?)
การมีงานดนตรีที่หลากหลายและพัฒนารูปแบบไปเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องดี และเป็นเรื่องที่ทั้งศิลปินและนักฟังเพลงทั้งหลายต้องการแน่ๆ แต่ภาวะที่ผมได้ฟังงาน so-called อินดี้บางวงแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยต่างอะไรกับงานศิลปินกระแสหลักเลย แค่มีการมาสเตอร์ริ่งที่ไม่ดีเท่า (ในแง่นี้อาจมีบางคนชอบ โดยเฉพาะงานแบบ Lo-fi หรืองานที่เน้นคุณสมบัติอย่างอื่นมากกว่าความละเอียดอ่อนในการเรียบเรียง) ชื่อเสียงที่รู้จักกันเป็นแค่ก๊กๆ หย่อมๆ (จนบางทีไอ่แบบนี้อาจกลายเป็นการแบ่งคู่ตรงข้ามอย่างใหม่ก็ได้) หรือจุดขายอื่นๆ ถ้าเป็นแบบนี้มันก็น่าตั้งคำถามว่าวงการ so called อินดี้ จะนำไปสู่ความหลากหลายได้จริงหรือไม่
(ผมไม่อยากเหมารวมอินดี้ทั้งหมด มีบางค่ายที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว แม้ผมจะมีโอกาสแค่ได้ฟังเป็นบางวง แต่รู้สึกว่ามันมีอะไรที่มากกว่าอินดี้ทั่วไป)
ย้อนกลับมา...ย้อนกลับมาพูดถึงสิ่งที่ผมบอกไว้แต่แรกว่ามันน่าสนใจและเป้นที่จับตา อย่างเรื่องของศิลปินรางวัลแกรมมี่อวอร์ดในปีนี้ที่ดูจะชวนช็อคลุงๆ ป้าๆ บางคนเหมือนกัน เพราะ ผู้ที่ได้รางวัลคือ Amy Winehouse สาวแสบที่มักจะมีข่าวเรื่องเหล้ายาบ่อยๆ สมชัวร์เนมไวน์เฮาส์ของเธอเสียจริงๆ
คุณ Amy Winehouse ผู้นี้ ได้รับรางวัลเลิกเหล้าดีเด่น อ๊ะ! ไม่ใช่ ได้กวาดรางวัลแกรมมี่อวอร์ดมาถึงห้ารางวัล คือบันทึกเสียงดีเด่น, เพลงดีเด่น, เสียงร้องหญิงดีเด่นในการแสดง จากเพลง Rehab (ที่แปลว่า "เลิกเหล้า") อัลบั้ม Pop Vocal ยอดเยี่ยมจากอัลบั้ม Back to Black และ และตัวเธอเองก็ได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่
สารภาพตามตรงแล้วผมไม่ได้ค่อยฟังแนว R&B สักเท่าไหร่ แต่เท่าที่ได้ฟัง Amy Winehouse แล้ว ผมขอประเมินแบบคนที่ไม่ค่อยฟัง R&B ว่า เสียงเธอดีใช้ได้ทีเดียว แต่สิ่งที่เธอหนีไม่พ้นเมื่อเธอเป็นทั้งศิลปินและคนในวงการบันเทิง สื่อบันเทิงจึงมักเอาเธอมาเล่นบ่อยๆ จนถึงบัดนี้ไม่ว่าจะเรื่องพฤติกรรมเฮ้วๆ ส่วนตัว (ถ้าเธอเป็นร็อคสตาร์ไอ่พฤติกรรมเฮ้วๆ นี้อาจจะถูกเอาไปบูชา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะบูชากันไปทำป๊ะอะไร) หรือเรื่องที่ว่าเธอติดเหล้าติดยาจนต้องเข้ารับการบำบัด
ซึ่งทางต้นสังกัดก็ฉลาดเฉลียวพอจะ หาเพลงที่เหมือนใช้เรื่องของตัวเธอเองมาเล่า อย่างในเพลงมาเป็นหมัดเด็ด ซึ่งก็คือเพลง Rehab ที่ไม่วายแอบขายภาพหญิงแสบของเธอผู้กำลังจะปฏิเสธการไปรับการบำบัด (แต่ในชีวิตจริงเธอดันได้ไปในที่สุด) ด้วยข้ออ้างที่...พอฟังขึ้นอยู่เหมือนกัน
They tried to make me go to rehab but I said no, no, no
Yes I been blind but when I come back you'll know, know know
I ain't got the time
And if my daddy thinks I'm fine
You tried to make me go to rehab but I won't go, go, go
- Rehab
มีครั้งหนึ่งที่ปาปาราสซี่ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม! ด้วยการไปถ่ายรูปเธอตอนเดินเท้าเปล่าออกมาจากบ้านตอนเช้าและใส่เพียงบรากับกางเกงยีนส์เท่านั้น (ไม่เห็นน่าตะลึงตรงไหน ลองเธอไม่ใส่บราด้วยสิค่อยว่ากัน) ซึ่งก็มีประชดปาปาราสซี่พวกนี้ไว้ใน MV เพลง You know I'm no good เรียบร้อย
ดูเหมือนเธอเป็นหญิงแสบใช่ไหม แน่นอน! เป็นหญิงแสบที่ทางต้นสังกัดปั้นให้เป็น ถือว่าต้นสังกัดทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม! ไม่แพ้ปาปาราสซี่เลยแม้แต่น้อย แถมยังเอามาขายภาพลักษณ์แบบหญิงแสบได้อีกต่างหาก กำไรทั้งนั้น ปาปาราสซี่เห็น MV นี้แล้วจะโกรธน่ะเหรอ พวกนี้คงรู้สึกว่าพวกตนทำหน้าที่ได้ลุล่วงแล้วต่างหาก
พูดถึงเรื่องสิลปินขี้ยาแล้ว คงหลบจะไม่พูดถึง Pete Doherty ไปได้ ปัจจุบัน Pete อยู่กับวงที่ชื่อ Babyshambles จากเดิมที่อยู่กับวง The Libertine ซึ่งเป็นวงแนว Britpop เช่นเดียวกัน Pete ถูกเพื่อนๆ ในวงขับออกมาเพราะความขี้ยาของเขานี่แหละ
แน่นอนว่านอกจากตัว Pete เองแล้ว ตัวสื่อบันเทิงเก็บเรื่องราวที่พีทเกี่ยวข้องกับยาได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องราวนัดกันมา ไม่ว่าเขาจะเดินหน้าเหี่ยวซูบนัยตาลึกโหลออกไปหาอะไรมาสูด จะเมาไปต่อยตีกับใคร หรือแม้กระทั่งเจอตำรวจจับก็กลายเป็นข่าวได้เสียทุกครั้ง (ไม่ต้องห่วง พีทเคยเข้ามาใช้บริการวัดถ้ำกระบอกของไทยแล้วครั้งหนึ่ง)
ที่ไม่น่าให้อภัยคือสื่อที่เรียกตัวเองว่าเป็น "ทางเลือก" อย่าง NME ดันเอาตานี่มาเชิดชู ถึงขึ้นให้รางวัลฮีโร่แห่งปีมาแล้ว ใครที่รู้ไต๋อาจจะจับได้ว่า NME ไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่เพราะนอกจากจะต่อต้านดนตรีกระแสหลักที่ทำมาขายแบบที่ตัวเองก็ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่ากันแล้ว (ก็ "ขาย" เหมือนกันอยู่ดี) ยังทำตัวเป็นคุณพ่อช่างปั้น เชิดชูศิลปินบางวงอย่างออกนอกหน้าจนแทบจะทำสกู๊ปเกี่ยวกับอาหารเช้าหรือกางเกงในลายโปรดของวงนั้นได้เลยทีเดียว
ผมไม่ได้จะบอกว่าคนติดเหล้าติดยาเป็นคนไม่ดีหรืออะไร และไม่คิดจะใช้คำอธิบายเก่าเก็บว่าเด็กๆ จะเลียนแบบเอา เพียงแต่การเอาเรื่องที่ดูเหมือน "แหกคอก" มาเป็นจุดดึงดูดอย่างหนึ่งมันก็เหมือนเป็นแค่ขบถแบบปาหี่ ไม่ว่าการกระทำแหกคอกนั้นจะเป็นสิ่งที่มาจากตัวศิลปินเองหรือเป็นแค่การสร้างภาพก็ตาม
อาจจะชวนให้ความหมั่นไส้นิดๆ เวลาสื่อมักจะเอาเรื่องความขี้ยาของศิลปินมาเล่น ซึ่งบางทีมันก็ถูกทำให้มองว่าเป็นเรื่องแหกขนบ แต่ที่สุดแล้ว มันก็เป็นแค่สิ่งที่ทำให้คนที่ตามข่าวรู้สึกบันเทิงไปกับการมีเป้าหมายใหม่ๆ ให้เอาไปด่าหรือเอาไปบูชาเท่านั้นเอง (ซึ่งถ้าทัศนะมันหลากกว่าการแค่ด่าเช็ดหรือเทิดทูนบูชามันคงจะดีกว่านี้) พูดให้ตรงกว่านี้ก็คือเรื่องพวกนี้มันไม่ได้ดูเก๋าโจ๋อะไรเพราะมันไม่ได้ต่างกับข่าวดาราตบกันแบบที่พวกคุณชอบด่าเลย
ไม่นับว่าเนื้อหาของอีกหลาย ๆ เพลงในอัลบั้ม Back to Black ของ Winehouse นี้ออกแนวปกป้องตัวเอง และมีท่าทีสะบัดหน้าแบบฉันไม่แคร์ ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้เป็นการลุกขึ้นมาท้าทายอะไรอย่างจริงจัง ความเป็นสาวแสบมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ออริจินัลเท่าไหร่แล้ว ดูจะเป็นการผลิตซ้ำจนพาลจะทำให้สาวไม่แสบดูกลายเป็นคนเฉิ่มเชยไปอีกต่างหาก ทั้ง ๆ ที่สาวเฉิ่มเชยพวกนั้นอาจจะมีอะไรลึก ๆ ที่เป็นขบถแบบไม่ต้องโชว์ออฟออกมาก็ได้
มาถึงตรงเสียงร้องมีเสน่ห์และดนตรีสนุก ๆ ของเธอ น่าจะเป็นอะไรที่ควรให้ค่ามากกว่าไหม ให้ตายสิ ! ผมนึกถึงสาวโฟล์คอเมริกันที่บอกว่าตัวเองเป็นโอตาคุทางดนตรีขึ้นมาตงิด ๆ ผมไม่รู้หรอกนะว่าเธอเล่นยาหรือไม่ หรือไปกระทืบปาปาราสซี่คนไหนมาบ้าง แต่ผมว่า...
...ความ "ขี้อาย" ของเธอนี่แหละขบถสุด ๆ